ระหว่างทางกลับ เซียวิจูเปิดดูของในตะกร้าเป็ครั้งคราว
ในตอนท้ายถงเต๋อกล่าวกับนางว่าหากนางปักได้ดี ต่อไปสามารถร่วมงานกับฮวาหม่านยีแบบระยะยาวได้ นั่นหมายความว่า นางเองก็หาเงินได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ
ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนได้ห้าอิแปะห้าผืนเป็ยี่สิบห้าอิแปะ หากหนึ่งเดือนปักได้สามสิบผืน ก็เป็เงินหนึ่งร้อยห้าสิบอิแปะ
เป็เงินจำนวนไม่น้อยเลย!
เซียวิจูยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้นกลับบ้านอย่างรวดเร็ว กลับถึงบ้านก็ปิดประตูปักผ้าเช็ดหน้า
นางตื่นเต้นจนลืมเวลา ถึงเวลาที่นางมองเห็นไม่ชัดท้องฟ้าภายนอกก็มืดแล้ว นางรีบจุดไฟ เพิ่งจุดไฟเสร็จ ประตูด้านนอกก็ถูกผลักเปิดจนเกิดเสียง
เซียวิจูไม่ต้องมองด้วยซ้ำก็รู้ว่ามารดาของตนกลับมาแล้ว
ท่านป้าสี่รออยู่ในท้องนาตลอด่บ่ายก็ยังไม่เห็นเซียวิจู เมื่อเห็นว่าคนอื่นที่มากันหลายคน ต่างก็เก็บผักได้หลายตะกร้านางเก็บได้แค่หนึ่งตะกร้า จึงโมโหเดือดดาล
เข้าบ้านก็รีบไปหาเซียวิจู
เมื่อเห็นว่าเซียวิจูกำลังปักผ้าเช็ดหน้าเพลิงโทสะของนางก็ไม่มีที่ระบายอีก
บุตรสาวของตนเองก็กำลังยุ่งอยู่ท่านป้าสี่ทอดถอนใจ ได้แต่ไปห้องครัวด้วยความจนใจ เพื่อไปทำอาหารเย็น
เซียวิจูไม่ได้สนใจนางทำงานในมือต่อ
นางคิดจะปักผ้าเช็ดหน้าห้าผืนให้เสร็จก่อนสามวันรีบนำไปส่ง แล้วจึงปักเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง จะหาเงินได้มากขึ้น
เซียวิจูก็อยากหาเงินหากนางหาเงินได้มาก นางคิดอยากทำอะไรก็สามารถทำได้!
เสื้อที่อาเซวียนสวมใส่เก่าถึงเพียงนั้นนางจะหาเงินให้มากหน่อย ตัดเสื้อใหม่ให้อาเซวียน ยังมีอายวี่อีก ต้องตัดเสื้อใหม่ให้เขาด้วยเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ซักจนสีซีดแล้ว รอให้เขากลับมา เสื้อผ้าของปีก่อนต้องทั้งตัวเล็กและขาดแล้วเป็แน่นางทำเสร็จเมื่อไร เขาก็จะได้สวมใส่เสื้อที่นางตัดเย็บเองกับมือ
นางจะทำให้อายวี่ได้รู้ว่าบนโลกใบนี้ มีเพียงนางที่รักเขาที่สุด!
นางจิ้งจอกเซี่ยยวี่หลัวนั่นไสหัวไปให้พ้นเสีย!
นางไม่เชื่อ ว่านางจะเทียบกับเซี่ยยวี่หลัวที่ทำอะไรไม่เป็ไม่ได้!
วันรุ่งขึ้นฟ้าเพิ่งสาง เซี่ยยวี่หลัวก็ลุกขึ้นแล้วยังไม่ทันล้างหน้าบ้วนปากก็รีบต้มโจ๊กก่อน ขณะที่นางตักข้าวสาร ก็เพิ่มข้าวอีกจำนวนหนึ่งปกติต้มไข่ไก่เพียงสามฟอง วันนี้ก็เพิ่มอีกหนึ่งฟอง ต้มไปสี่ฟอง หลังจากต้มด้วยไฟแรงจนสุกจึงอุ่นด้วยไฟอ่อนไว้
เวลานี้ในบ้านไม่ขาดแคลนเงินเซี่ยยวี่หลัวไม่คิดจะประหยัดด้านอาหารการกินของที่บ้าน
เด็กสองคนอยู่ในวัยกำลังโตนางจะเลี้ยงดูเด็กสองคนให้ทั้งขาวทั้งอ้วน
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งนั้นนางไม่ต้องดูแลเลยพวกเขาตื่นแต่เช้าพร้อมกับเซี่ยยวี่หลัว ทั้งสองคนล้างหน้าบ้วนปากแล้วจึงไปให้อาหารกระต่าย
หลังจากทำงานเ่าั้เสร็จจึงไปห้องครัวโจ๊กต้มเสร็จแล้ว เซี่ยยวี่หลัวก็ล้างหน้าแปรงฟันแล้ว ล้างกระทะด้านในเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวใส่น้ำมันผัดผักตี้เอ่อใส่ไข่ด้วยไฟแรง ใส่ผักตี้เอ่อลงไปหนึ่งจินกว่า ตอกไข่ลงไปสองฟอง ก่อนจะตักไปวางบนโต๊ะเซี่ยยวี่หลัวตักแบ่งออกมาหนึ่งจานใหญ่ จากนั้นนางและเด็กสองคนจึงกินโจ๊กข้นชามโตคนละชามกับไข่ไก่หนึ่งฟองและผักตี้เอ่อผัดไข่ที่หอมกรุ่น กินอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อกินอิ่มแล้ว เซี่ยยวี่หลัวหยิบไข่ไก่ที่ต้มเสร็จแล้วจากนั้นจึงนำชามใหญ่ตักโจ๊ก ยังมีผักตี้เอ่อที่นางตักแบ่งไว้เมื่อครู่ หิ้วผักตี้เอ่อที่เก็บมาได้เมื่อวานใส่กุญแจประตูห้องเสร็จ จึงมุ่งหน้าไปบ้านท่านปู่เซียวท่ามกลางแสงแดดในรุ่งอรุณ
ท่านปู่เซียวอายุมากแล้วนอนไม่ค่อยหลับ ฟ้าเพิ่งสว่างก็ตื่นแล้ว เพิ่งล้างหน้าบ้วนปากเสร็จ ก็มีเสียงะโเรียกของเซียวจื่อเซวียนดังจากด้านนอก
ท่านปู่เซียวเปิดประตูเซียวจื่อเซวียนยกอาหารมาหนึ่งจาน กล่าวอย่างอ่อนหวาน “ท่านปู่เซียว ท่านกินอาหารเช้าหรือยังขอรับ? ”
คู่ชีวิตของท่านปู่เซียวจากโลกนี้ไปเมื่อหลายปีที่แล้วเขามีเซียวเหลียงเป็บุตรชายเพียงคนเดียว บุตรชายอยู่ในตัวเมือง ปกติท่านปู่เซียวจะกินข้าวก็ทำอาหารเองเวลาเช้าก็จะกินอาหารที่เหลือจากเมื่อคืน อุ่นหน่อยก็สามารถกินได้หนึ่งมื้อ
ในห้องครัวมีอาหารที่เหลือจากเมื่อคืนท่านปู่เซียวกล่าว “ปู่ยังไม่ได้กิน จะไปทำเดี๋ยวนี้ พวกเ้ากินหรือยัง หากยังไม่ได้กิน...”
“ท่านปู่ พวกเรากินแล้วเ้าค่ะ”เซียวจื่อเมิ่งยื่นส่งไข่ไก่ร้อนในมือตัวเองให้ท่านปู่เซียว พร้อมกล่าวเสียงหวาน “พี่สะใภ้ใหญ่ต้มไข่ไก่ให้ท่านหนึ่งฟองเ้าค่ะ”
เซียวจื่อเซวียนวางจานในมือลงบนโต๊ะ“ยังมีผักตี้เอ่อผัดไข่อีกหนึ่งจานขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ผัดเสร็จแล้วก็ตักแบ่งส่วนของท่านไว้พวกเราไม่ได้แตะเลยขอรับ! ”
เซี่ยยวี่หลัววางชามใหญ่ในมือลงบนโต๊ะ“ท่านปู่เซียว ่เช้าพวกเรากินโจ๊ก กินไข่ และผักตี้เอ่อผัดไข่อีกหนึ่งจาน คิดว่ายังเช้ามากท่านน่าจะยังไม่ได้ทาน จึงทำเผื่อมาชุดหนึ่ง”
ไม่ใช่ของที่กินเหลือ แต่ทำเผื่อเขาหนึ่งชุดโดยเฉพาะ
ท่านปู่เซียวยิ้มพร้อมนั่งลงกิน
โจ๊กถูกเคี่ยวจนข้นมากไข่ไก่นี่ก็ไม่รู้ว่าต้มอย่างไร ไข่ขาวมีสีเทาอ่อนๆ ด้วย ไม่เหมือนกับไข่ที่ต้มตามแบบปกติแต่กลับหอมอร่อยกว่าไข่ที่กินตามปกติมากนัก
การค้าของเซียวเหลียงถือว่าไม่เลวปกติอาหารการกินของท่านปู่เซียวจึงไม่แย่
ครั้งแรกที่เซียวจื่อเซวียนกินไข่เช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจมากไข่ขาวที่ปกติเป็สีขาวสะอาด เหตุใดถึงเปลี่ยนสีได้ เมื่อเห็นท่านปู่เซียวรู้สึกประหลาดใจเหมือนกันจึงกล่าว “ไข่นี่ต้มในโจ๊กขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ขัดล้างเปลือกไข่จนสะอาด แล้วจึงใส่ลงไปในหม้อต้มพร้อมกับโจ๊กไข่ที่ต้มออกมาจึงเป็สีนี้ พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าไข่นี่ต้มด้วยน้ำข้าว จะมีคุณค่าทางอาหารมากขึ้นขอรับ”
ท่านปู่เซียวหรี่ตา กินไข่หนึ่งคำสลับกับโจ๊กหนึ่งคำเงียบๆ
โจ๊กร้อนๆ เข้าไปในกระเพาะร่างกายอบอุ่นขึ้นทันที
เซียวจื่อเมิ่งชี้ไปที่ผักกล่าวเสียงใส “ท่านปู่ ท่านลองชิมนี่ดู สิ่งนี้อร่อยมากเ้าค่ะ”
ท่านปู่เซียวคีบผักตี้เอ่อผัดไข่มาหนึ่งคำ“นี่… เป็ของที่พี่สะใภ้ใหญ่ของเ้าทำงั้นหรือ? ”
น้ำเสียงแฝงเร้นด้วยความสงสัยราวกับไม่เชื่อว่าเซี่ยยวี่หลัวจะเป็คนทำอาหารเหล่านี้
ผักตี้เอ่อเดิมทีก็นุ่มอยู่แล้วไข่ไก่ก็นุ่ม ท่านปู่เซียวอายุมากแล้ว ฟันไม่ค่อยดี ผักนี้เมื่อเคี้ยวในปาก เพียงเคี้ยวเบาๆก็ละลาย ที่สำคัญคือรสชาติอาหาร อร่อยกว่าที่เซียวเหลียงพาเขาไปกินในร้านอาหารเสียอีก!
เซี่ยยวี่หลัวกำลังง่วนอยู่กับเื่ที่อีกชั่วครู่จะรับซื้อผักตี้เอ่อไม่ได้สนใจทางนี้
เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส“เ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่เป็คนผัด! ”
อาหารการกินในระยะนี้ของนางดีเสียยิ่งกว่ากระไรแก้มขึ้นสีแดงเืฝาด แววตาเป็ประกายแวววาว
“มีน้ำมีนวลแล้ว! ” ท่านปู่เซียวยิ้มพร้อมกล่าวดวงตาขุ่นมัวฉายประกายรักใคร่เอ็นดู
“พี่สะใภ้ใหญ่ทำอาหารอร่อยให้พวกเรากินทุกวันเ้าค่ะมีข้าวกับไข่กินทุกวัน พี่สะใภ้ใหญ่ยังทำปลาให้พวกเรากินด้วย ได้ดื่มน้ำแกงปลาทุกวัน ทั้งยังกินเนื้อหมูพี่สะใภ้ใหญ่เคยห่อเกี๊ยวให้พวกเรากินด้วยเ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวอย่างได้ใจสาธยายโอ้อวดอาหารที่เซี่ยยวี่หลัวเคยทำให้นางกินออกมาทั้งหมด
ท่านปู่เซียวหรี่ตา หันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัวที่กำลังทำงานกับเซียวจื่อเซวียนอยู่คนยังคงเป็คนเดิม แต่อุปนิสัย...
ท่านปู่เซียวยิ้มด้วยความเอ็นดูก้มหน้ากินโจ๊ก ผักตี้เอ่อผัดไข่และไข่ต้มตรงหน้าจนเกลี้ยง
ภรรยาเซียวยวี่ เหมือนว่าจะกลายเป็คนดีแล้วจริงๆ