“ท่านปู่หัวหน้าตระกูล ท่านมาด้วยกันเถิดเ้าค่ะ ข้าว่าจะหารือเื่ซื้อที่ดินกับท่านอยู่พอดีเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนวางแผนจะซื้อที่ดินในหมู่บ้านสกุลซย่าเอาไว้ปลูกดอกไม้กับสมุนไพร จะได้พาชาวบ้านร่ำรวยไปด้วยกัน
“เซวียนเซวียน พวกเ้าเอาเงินมากมายเช่นนี้มาจากที่ใด?” ซย่าชุนอวิ๋นคิดว่าเงินที่จิ่นเซวียนได้มานั้น ได้มาโดยมิชอบ นางจึงถามด้วยความกังวล
“ท่านอาเล็ก ท่านวางใจ เงินของพวกเรามีที่มาชัดเจนเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนตัดสินใจบอกทุกคนเกี่ยวกับเื่ขุดโสม ทุกคนใยิ่งนัก
“เซวียนเซวียนเอ๋ย ในเมื่อเ้ามีเงินก็ซื้อที่นาอุดมสมบูรณ์ไม่กี่หมู่ก่อนเถิด” ซย่าเม่าหลินมิอยากให้จิ่นเซวียนซื้อที่นาดอน นาดอนมิค่อยมีค่า ทำผลผลิตมิได้
“ท่านปู่เม่า ข้าปรึกษากับสามีแล้ว และตัดสินใจจะซื้อนาดอนเอาไว้ปลูกดอกไม้ พวกเรากำลังจะเปิดร้านชาด มิอาจซื้อสินค้าจากต่างถิ่นได้ตลอดเ้าค่ะ”
จิ่นเซวียนเปลี่ยนคำเรียกขานซย่าเม่าหลิน จากท่านปู่เล็กเป็ท่านปู่เม่าแทน เพื่อให้แตกต่างจากท่านปู่คุนของนาง
ซย่าเม่าหลินดีใจยิ่งนัก ที่เก็บหลานสาวคนโตมาแบบมิเสียเปล่า
“พวกเราปลูกดอกไม้กันมิเป็ เช่นนี้จะมิเข้าเนื้อหรือ” ซย่าชุนอวิ๋นมิเห็นด้วยที่จิ่นเซวียนจะปลูกดอกไม้
“ท่านอาเล็ก หากพวกเราปลูกมิเป็ ก็สามารถจ้างผู้อื่นมาปลูกแทนได้เ้าค่ะ” สิ้นเสียงของจิ่นเซวียน ซย่าหลี่เจิ้งก็ยิ้มและกล่าวว่า “เซวียนเซวียนเอ๋ย เ้ามิได้จะซื้อที่ดินหรือ?ใต้เท้านายอำเภออยู่ที่นี่ เ้าถามเขาได้”
“เซวียนเซวียน เ้าวางแผนจะซื้อที่ดินในหมู่บ้านสกุลซย่าจำนวนกี่หมู่หรือ?” นายอำเภอสวี่ถาม
“เรียนท่านปู่น้อย ข้าวางแผนจะซื้อนาดอนหลายร้อยหมู่ ส่วนหนึ่งใช้ปลูกดอกไม้ อีกส่วนใช้ปลูกสมุนไพรเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนบอกความคิดของนางกับนายอำเภอสวี่ นายอำเภอสวี่ดีใจยิ่งนัก เขาอยากใช้โอกาสนี้ช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านสกุลซย่า
“เซวียนเซวียน หากเ้า้าปลูกดอกไม้ เ้าสามารถพิจารณาคนในหมู่บ้านสกุลซย่าก่อนได้หรือไม่ ให้พวกเขาทำงานให้เ้า เช่นนี้พวกเขาจะได้มิต้องออกไปทำงานต่างถิ่น”
“มิคิดปิดบังท่านปู่น้อย ข้าก็คิดเช่นนี้ หมู่บ้านของพวกเรามีแรงงานเหลือใช้มากมาย หากใช้ได้อย่างเหมาะสม ชีวิตความเป็อยู่ของพวกเขาย่อมดีขึ้นเรื่อยๆ เ้าค่ะ”
“หมู่บ้านของพวกเรามิเคยปลูกดอกไม้มาก่อน ข้ากลัวว่าเมื่อพวกเขาปลูกแล้วดอกไม้จะตาย” ซย่าหลี่เจิ้งกล่าวถึงปัญหาตามสภาพความเป็จริง
“ปลูกมิเป็ ก็ฝึกฝนได้เ้าค่ะ” จิ่นเซวียนกลับมิกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ นางตั้งใจจะซื้อสัญญาทาสที่ปลูกต้นไม้ดอกไม้เป็มาหลายคน ให้พวกเขาช่วยชี้แนะชาวบ้าน
ทันใดนั้นความคิดดีๆ ที่สามารถช่วยชาวสวนดอกไม้รายย่อมจำนวนมากก็ผุดขึ้นมาในหัวของนายอำเภอสวี่
“เซวียนเซวียน เ้า้าดอกไม้หลายชนิด หากชาวสวนดอกไม้ที่อยู่กระจัดกระจายกัน เต็มใจขายดอกไม้ให้เ้า เ้าจะเอาหรือไม่?”
“ขอเพียงดอกไม้ที่พวกเขาปลูกมีสภาพดี ข้าเอาแน่นอนเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเข้าใจความหมายของนายอำเภอสวี่ แต่นางเป็นักธุรกิจ มิอาจรับซื้อดอกไม้เหี่ยวๆ ได้
“นี่เป็สิ่งจำเป็ ขอเพียงเ้ายินดีรับซื้อดอกไม้จากพวกเขาในราคายุติธรรม ข้าจะช่วยเ้ารวบรวมพวกเขามาให้ พวกเขาจะได้ช่วยถ่ายทอดฝีมือให้ชาวบ้านด้วย” นายอำเภอสวี่เองก็มิอยากให้จิ่นเซวียนขาดทุนเช่นกัน เขาดีใจมากที่จิ่นเซวียนยอมช่วยชาวสวนดอกไม้รายย่อย และเมื่อเขาออกหน้าเชื่อมสัมพันธ์เช่นนี้ ทุกคนก็จะได้ผลประโยชน์กันถ้วนหน้า
“ท่านปู่น้อย ข้ากับเซวียนเซวียนมิเพียง้าซื้อที่ดินในหมู่บ้านสกุลซย่า พวกเราวางแผนจะซื้อที่ดินในหมู่บ้านสกุลโจวด้วยขอรับ พวกเราอยากพาเหล่าเพื่อนบ้านร่ำรวยไปด้วยกัน หวังว่าท่านปู่น้อยจะสนับสนุนพวกเราขอรับ” ซ่งจื่อเฉินเรียกนายอำเภอสวี่ว่าท่านปู่น้อยตามจิ่นเซวียน นายอำเภอสวี่ค่อนข้างดีใจ เขาคาดหวังเสมอว่าพ่อค้าจะช่วยให้ราษฎรร่ำรวย แต่น่าเสียดายที่พ่อค้าพวกนั้นมิยินดีฟังข้อตกลงของเขา
“ตราบใดที่พวกเ้าทำการค้าถูกกฎหมาย ข้าจะสนับสนุนพวกเ้าแน่นอน”
“ขอบคุณท่านปู่น้อยขอรับ”
“พวกเราไปทานข้าวที่บ้านข้าก่อนเถิด ทานเสร็จแล้วค่อยหารือเื่ปลูกดอกไม้กันต่อ” ซย่าชุนอวิ๋นเดินนำทางทุกคนไปที่บ้านของนางด้วยรอยยิ้ม คนที่ไปนั้นนอกจากจิ่นเซวียน ซ่งจื่อเฉินกับซ่งเฉวียนแล้ว ยังมีครอบครัวของสวี่ติ้งหรง รวมถึงนายอำเภอสวี่ บ่าวรับใช้ของเขาและซย่าหลี่เจิ้ง
เพราะคนค่อนข้างมาก จึงจัดโต๊ะอาหารกินข้าว
“หูเหยียนซูเอ๋ย รสมือเ้าดีเสียจริง บุรุษดีๆ เช่นนี้หายากยิ่งนัก” ระหว่างทานข้าว สวี่ติ้งหรงพูดชมหูเหยียนซูตลอด เขาโดนนางชมจนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“ท่านอาสะใภ้เล็ก บุรุษผู้นี้มิค่อยโดนชม ท่านอย่าไปชมเขาเลยเ้าค่ะ” ซย่าชุนอวิ๋นที่นั่งอยู่ถัดจากจิ่นเซวียน กำลังคีบผักให้หานเอ๋อร์น้อย
“มิเอา ข้ามิเอา” หานเอ๋อร์น้อยเบะปาก ทุบตะเกียบลงบนโต๊ะ ท่าทางอารมณ์เสีย ทุกคนเห็นนางมิอยากอาหารเลยรู้สึกสงสารนางยิ่งนัก
“เด็กคนนี้ใกลัว ข้าว่านางคงมิอยากอาหารแล้ว”
“ชุนอวิ๋น พวกเราหาคนมาเรียกิญญาให้นางเถิด” สวี่ติ้งหรงกล่าวด้วยความเชื่อทางไสยศาสตร์
“ท่านอาสะใภ้เล็ก แม่หมออู่มิอยู่บ้าน รอให้นางกลับมา พวกเราค่อยคุยกันเถิดเ้าค่ะ” ขอเพียงมันดีต่อลูกสาว ซย่าชุนอวิ๋นยอมทำทุกอย่าง การเรียกิญญาที่เล่าลือกันในหมู่บ้าน นางเองก็ค่อนข้างเชื่อเช่นกัน
“ท่านอาเล็ก หานเอ๋อร์น้อยมีปมกับแม่เฒ่าแล้ว จากนี้พยายามอย่าให้หานเอ๋อร์น้อยไปเจอกับนางนะเ้าคะ” จิ่นเซวียนลูบหัวหานเอ๋อร์น้อยอย่างปวดใจ
“พี่สาว ท่านกิน” หานเอ๋อร์น้อยหยิบลูกชิ้นเนื้อในชามป้อนจิ่นเซวียน จิ่นเซวียนมิคิดว่ามันสกปรกจึงอ้าปากกินลงไป
“หานเอ๋อร์น้อย พี่สาวกินแล้ว เ้าต้องกินด้วยนะ” จิ่นเซวียนป้อนกับข้าวให้หานเอ๋อร์น้อยด้วยตนเอง หานเอ๋อร์น้อยจึงยอมกิน
หลังมื้ออาหาร จิ่นเซวียนกับซ่งจื่อเฉินปรึกษาเื่ธุรกิจกับทุกคนอยู่ตรงลานบ้าน
“ท่านอา จากนี้ท่านอย่าไปเดินคุ้มกันเลย มาทำธุรกิจกับข้าดีกว่าเ้าค่ะ”
“เซวียนเซวียนเอ๋ย เ้าควรเรียกข้าว่าท่านพ่อน้อย” ซย่าหลี่เจ๋อยิ้มตาหยี เขาแก้คำเรียกขานของจิ่นเซวียน เขาเป็พ่อเลี้ยงของนางแล้ว ความรู้สึกดีที่ได้เป็พ่อนั้นมิเลวเลย เขาจึงอยากให้นางเรียกเขาว่าท่านพ่อ
“ข้าเรียกท่านว่าท่านอาดีกว่า ข้ากลัวว่าหากข้าเรียกท่านว่าท่านพ่อน้อย ท่านจะหาภรรยามิได้แล้วข้าจะกลายเป็คนบาปเ้าค่ะ”
“ผู้ที่ชอบข้าจริงมิสนใจเื่พรรค์นี้หรอก” ซย่าหลี่เจ๋อมิคิดจะแต่งงาน เขารู้สึกว่าเขายังเล่นสนุกมิพอ!
“เซวียนเซวียน โน้มน้าวพ่อน้อยของเ้าหน่อย ให้เขารีบหาแม่มาให้เ้าเสียที” สวี่ติ้งหรงหวังว่าลูกชายจะตอบรับคำขอของนาง และยอมไปดูตัวอย่างว่าง่าย
“ลูกสาวเอ๋ย เ้ารีบโน้มน้าวท่านย่า ให้นางเลิกคิดจะหาคู่ให้ข้าเสียที หากข้าหาแม่บุญธรรมที่เหมือนเกาเจินเจินมาให้เ้า เช่นนั้นคงอนาถน่าดู”
จิ่นเซวียนได้บุรุษที่โตกว่านางมิกี่ปีมาเป็พ่อ รู้สึกมักง่ายยิ่งนัก
“เ้ามันลูกมิเอาไหน ข้าจะทำร้ายเ้าหรือ?” สวี่ติ้งหรงมองลูกชายอย่างหมดคำจะพูด “เ้าเอาจิ่นเซวียนเป็ข้ออ้างให้น้อยหน่อย วันพรุ่งนี้เ้าต้องไปดูตัว”
“ท่านย่า แตงที่ฝืนเด็ดจากต้น ย่อมมิหวาน[1] ค่อยๆ หาเถิดเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเข้าใจความรู้สึกของซย่าหลี่เจ๋อดี ถ้าเป็นางก็มิอยากไปดูตัวเช่นกัน
“ยังเป็ลูกสาวที่รักข้า” ซย่าหลี่เจ๋อหยิบลูกพลับเจียงอันจากจานผลไม้ส่งให้จิ่นเซวียนสองสามชิ้น นางจึงแบ่งให้ซ่งจื่อเฉินชิ้นหนึ่ง
“ภรรยา ท่านพ่อน้อยของเ้ารักเ้าจริงๆ ข้ารู้สึกอิจฉาเขานิดหน่อย” ซ่งจื่อเฉินมิค่อยชอบให้เพศตรงข้ามทำดีกับจิ่นเซวียนเท่าใดนัก ต่อให้จิ่นเซวียนจะมิมีบ้านเดิม เขาก็ยังมองนางเป็สิ่งล้ำค่าเช่นเดิม
“แน่นอน เขาคือคนที่รักข้าที่สุด หากท่านกล้ารังแกข้า เขาต้องมิปล่อยท่านไปแน่” แม้จิ่นเซวียนกับซย่าหลี่เจ๋อจะอยู่คนละรุ่นกัน แต่พวกเขากลับเข้ากันกันได้ดียิ่งเวลานี้จิ่นเซวียนเป็ลูกสาวในนามของซย่าหลี่เจ๋ออีก ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจึงก้าวไปอีกขึ้น
“เซวียนเซวียน พวกเ้าจะจ้างคนมาปลูกดอกไม้วันละเท่าใด?” ซย่าหลี่เจิ้งค่อนข้างห่วงผลประโยชน์ในสถานการณ์จริง จิ่นเซวียนยังมิทันจะซื้อที่ เขาก็เริ่มคำนวณค่าตอบแทนแล้ว
เชิงอรรถ
[1] แตงที่ฝืนเด็ดจากต้น ย่อมไม่หวาน หมายถึง การทำอะไรที่ฝืน มักจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก