สุดท้ายแวมไพร์ผู้สูงศักดิ์ก็ไม่ได้หาอะไรกินรองท้องดั่งที่หวังนอกจากน้ำเปล่าเท่านั้น คงต้องรอใครสักคนตื่นมาทำให้กินเสียแล้วล่ะ สายตาคมยังจับจ้องเอกสารต่อไป ขนนกยังคงพลิ้วไหวตลอดเวลา น้ำหมึกค่อยๆ ลดลงตามจำนวนงานที่เริ่มหมดลงตามลำดับ องค์รัชทายาทบิดตัวไปมาสองสามครั้งก่อนจะหลับตาลงเพราะความเหนื่อยล้า
แกร๊ก!
"อรุณสวัสดิ์ขอรับ ท่านไวท์" เสียงผ้าม่านถูกเปิดออกเผยให้เห็นแสงตะวันกำลังลับขอบฟ้า ถ้วยชาถูกวางลงพร้อมใบชาใส่น้ำร้อนในอุณหภูมิที่พอเหมาะทิ้งไว้ประมาณนึงแล้วเทใส่ถ้วยสำหรับรับประทานยามตื่นนอน
"อรุณสวัสดิ์ คัสซัส" ร่างสูงโปร่งยืนให้อีกคนดึงผ้าห่มออกแล้วบิดี้เีไปมาก่อนจะจิบชาที่เริ่มจะชินกับวัฒนธรรมดื่มชาทุกเช้าของที่นี่เสียแล้วสิ
"วันนี้เฟลิกซ์ไม่มาเหรอ หรือเปลี่ยนหน้าที่กันแล้ว"
"ท่านเฟลิกซ์จัดการเื่เดินทางของท่านไวท์ขอรับ ให้ข้ามาทำหน้าที่ของข้าส่วนนี้ดีกว่า" เนื่องจากหน้าที่ของคัสซัสต้องมาดูแลเื่ส่วนตัวมากกว่าเฟลิกซ์ที่มีหน้าที่จัดการงานส่วนรวมทั้งหมดมากกว่า เริ่มมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าแต่ก่อนและให้ความสำคัญเื่ความปลอดภัย
"วันนี้เข้าครัวเร็วมากเลยคีเซิน มีเื่อะไรหรือเปล่า" ไวท์ถามทันทีที่เข้ามาในครัวเพราะตนเองชอบทำขนมเลยคิดเมนูที่จะทำให้รัชทายาทกินเป็ของว่างระหว่างรออาหารหลัก
ร่างสูงโปร่งเปิดประตูเข้าห้องทำงานเข้ามาด้วยความเป็ห่วงเนื่องจากเคาะเรียกหลายครั้งแล้วไม่มีการตอบรับ แล้วได้ข่าวว่าเมล์เดินทางออกไปนอกวังเพื่อติดต่องานด่วนของรัชทายาท กลายเป็เหลือทหารองค์รักษ์ และคนสนิทของเขาเท่านั้น คนอื่นไปธุระกันหมด บรรยากาศในวังเงียบไปถนัดตา มือขาวพยายามปลุกคนอายุมากกว่าให้มากินข้าวแต่เมื่อจะไม่ได้ผล
"พี่คีย์ครับ ตื่นได้แล้วครับ" ไร้เสียงตอบรับจากอีกฝ่าย ทำให้ไวท์เข้าไปใกล้มากขึ้นกว่าเดิมก็ยังไม่มีที่ท่าว่าอีกคนจะขยับตัวเลยแม้แต่น้อยจนกระทั่ง.....
หมับ!
คีย์จับอีกคนให้ลงมานอนบนโซฟาด้วยกันแล้วกอดทั้งหลับตาแบบนั้นแต่มือขาวก็ยังทุบไม่หยุดเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายแกล้งหลับอย่างแน่นอน ไม่งั้นจะลากเขาลงมาด้วยยังไงกันล่ะ ทำไมถึงได้เ้าเล่ห์แบบนี้
"ผมรู้ว่าพี่คีย์ตื่นแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะครับ" ไวท์พยายามเรียกแล้วออกแรงทุบอีกคนไปด้วยมีเพียงเสียงหัวเราะหึในลำคอแล้วไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับมาอีก เสียงลมหายใจสม่ำเสมอขององค์รัชทายาทบ่งบอกให้คนอายุน้อยกว่ารู้ว่าหลับไปเสียแล้ว ทำให้ผล็อยหลับตามกันไปในที่สุด เฟลิกซ์กำลังจะเดินตามมาปลุกว่าทำไมเ้านายทั้งสองหายไปนานแต่พอเข้ามาในห้องก็เห็นว่าพากันหลับจึงเดินไปหยิบผ้าห่มมาคลุมให้ทั้งคู่แล้วออกไปทำงานอย่างอื่นต่อ
"ท่านเฟลิกซ์ ทำไมไม่ปลุกนายท่านทั้งสองมารับประทานอาหารล่ะขอรับ" คัสซัสถามด้วยความสงสัยเพราะมีเฟลิกซ์เดินออกมาแค่คนเดียว หมายความว่ายังไงกันแน่
"ทั้งสองท่านหลับอยู่ รอให้ตื่นแล้วค่อยมาอุ่นให้กินอีกรอบแทนแล้วกัน พวกเราไปทำงานอย่างอื่นกันดีกว่า"
"ขอรับ"
เมล์เดินทางมาถึงวิหารศักดิ์สิทธิที่อาศัยของเหล่าผู้มีเวทย์มนตร์แปลกประหลาดรวมอยู่ด้วยกันทั้งหมด เขานำจดหมายที่เขียนถึงริค ไวท์ มาส่งที่แห่งนี้เพื่อให้ตรวจสอบรายชื่อว่ามีการถูกอัญเชิญมายังสถานที่แห่งนี้ใช่หรือไม่ หลังจากรอคอยอยู่หลายชั่วโมงก็สามารถเข้าพบกับบุคคลที่ได้รับตำแหน่งให้อยู่ดูแลวิหารศักดิ์สิทธิก็ยอมให้เข้าพบ
"ไม่ทราบว่าท่านลอร์ดโฟลช์ เมล์ มีธุระอะไร"
"ข้า้าให้ท่านตรวจสอบรายชื่อเมื่อร้อยปีและร้อยปีให้หลัง ว่าการปรากฎตัวของสองตาหลานมีใครเป็คนเรียกมาหรือไม่"
"พวกเราจะตรวจสอบให้ รอสักสองสามชั่วโมง"ออ
เหล่านักเวทย์ที่มีความสามารถชั้นสูงต่างรวมตัวกันเพื่อตรวจสอบเื่ทั้งหมดอย่างละเอียด พลังของแต่ละคนออกมาจากร่างแล้วหลอมตัวเป็หนึ่งเดียวกันในการค้นหาความจริงเมื่อร้อยปีก่อน การใช้เวทย์โบราณจำเป็ต้องอาศัยนักเวทย์จากวิหารศักดิ์สิทธิและมีอายุมานานกว่าพันปีเท่านั้น เพราะมันเกี่ยวข้องกับ่เวลา หากไม่ชำนาญมากพออาจจะได้รับความเสียหายทางร่างกายและอายุขัยของผู้ใช้งานได้
"ขออภัยที่ให้รอนานเกินกว่าที่คาดเอาไว้ เชิญมารับฟังความจริงได้เลย" มันไม่ได้นานธรรมดาเรียกว่ารอครึ่งวันมากกว่าสองสามชั่วโมง เมล์เดินตามคนที่มาเชิญเขาออกไปอีกห้องหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็ที่รับฟังคำตอบดังกล่าว
"ข้าจะขอสรุปว่าการที่บุคคลทั้งสองเดินทางมาที่นี่นั้นมีใครบางคนเรียกมาแต่ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ว่าใคร และการจะตามตัวนั้นยากมาก แต่ว่าการปรากฎตัวของทั้งสองท่านจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทุกรอบอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่สามารถหาได้ตาม่เวลาที่ขาดไปถึงร้อยปี"
"ขอบใจมากที่พวกเ้าพยายามหาคำตอบมาให้แก่ข้า"
ณ พระราชวังของรัชทายาท
"ไวท์จะต้องทำสมาธิมากกว่านี้ เ้าจะได้ฝึกการใช้พลังให้มั่นคงมากขึ้น" นี่เป็ครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้กับการฝึกสอนใช้พลังของคนอายุน้อยกว่าแต่เหมือนจะไม่ได้ดีขึ้นเลย ทั้งที่ใช้เวลามากกว่าครึ่งวันแล้ว มีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่า
"แต่ว่าข้ายังทำไม่ได้" มีบางอย่างที่แปลกไป เวลาพยายามจะทำเหมือนว่าไม่สามารถทำได้
ตุ้บ!
"หยุดทำการสอนท่านไวท์เดี๋ยวนี้พะยะค่ะ รัชทายาท" เมล์รีบวิ่งลงมาห้ามทันทีหลังจากบินลงมาถึงพื้นพระราชวังในเขตปกครองของรัชทายาท จู่ๆ สอนเลยแบบนั้นมันไม่ได้อย่างแน่นอน
"ทำไมถึงห้ามข้าล่ะ ต้องรีบสอนไม่ใช่เหรอ" คีย์ที่ยังหงุดหงิดกับเื่เมื่อกี้ถึงกับอารมณ์เสียทันทีที่คนรับใช้คนสนิทมาห้ามปรามกันแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย มันเหมือนกับว่าเขากำลังทำเื่ที่ผิดอยู่เลย
"เพราะการจะได้เรียนนั้นจะต้องเปิดการใช้พลังที่ถูกทุกวิธีก่อนพะยะค่ะ ท่านไวท์ไม่ได้สืบเชื้อสายการเรียนรู้ได้เองเหมือนท่านที่มีสายเืบริสุทธิ์ ไม่มีใครสามารถทำได้ง่ายๆ แบบท่าน กรุณาหยุดสอนอาจทำให้คุณชายริค ไวท์ เครียดจนอาจจะได้รับาเ็จากภายในด้วยพะยะค่ะ" เมล์เริ่มขึ้นเสียงและอธิบายอย่างจริงจัง ไม่มีที่ท่าว่าจะยอมแพ้ผู้เป็นายของตน
"ทุกคนพาคุณชายริค ไวท์ ไปพักผ่อนเลย ใครที่ไม่เกี่ยวข้องกลับไปทำงานของตัวเองซะ ข้าจะคุยกับองค์รัชทายาทเอง"
"ขอรับ ท่านเมล์"
ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองทันทีที่ลอร์ดเมล์สั่งการโดยไม่ได้สนใจคำพูดของรัชทายาทที่ยังคงยืนกรานจะทำตามคำสั่งเดิมให้ได้เช่นเดิม จนเมฆเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณ ฟ้าเริ่มจะผ่าลงมาที่พระราชวังจากอารมณ์ที่พุ่งพล่านของบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในขณะนี้ เมล์ใช้พลังโต้กลับเช่นกันและเขาเองก็มีอาวุธที่ใช้สำหรับห้ามปรามผู้เป็นายติดตัวไว้เสมอตอนที่สาบานว่าจะรับใช้จะมีของหนึ่งอย่างสำหรับห้ามปรามผู้เป็นายของตนเวลาทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่ยอมฟังผู้รับใช้ร่วมสาบาน
"รัชทายาทเป็อะไรมากหรือเปล่าเมล์ เ้าทำให้เขาสลบไปแบบนี้" ไวท์รีบวิ่งมาหาด้วยความเร็วอย่างเป็ห่วง
"ไม่เป็ไรหรอกพะยะค่ะ ทุกคน! พา องค์รัชทายาทไปพักผ่อน"
เหล่าทหารองค์รักษ์รีบมาช่วยกันพยุงร่างที่สลบของรัชทายาทไปยังห้องพักโดยมีไวท์ตามมาไม่ห่าง ทุกคนคิดว่าเมื่อกี้จะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้พระราชวังต้องพังไปบางส่วนแล้ว แต่จู่ๆ ดันมีอาวุธบางอย่างของลอร์ดมาขวางการกระทำดังกล่าวเอาไว้เสียก่อน เพราะฉะนั้นเื่ข่าวลือการห้ามปรามราชวงศ์ด้วยของศักดิ์สิทธิเป็เื่จริง
"ข้าจะไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัว ไม่ทราบว่าคุณชายไวท์จะเช็ดให้หรือจะให้ข้าเป็คนทำขอรับ" เมล์ถามพลางรอคำตอบ
"ผมจะทำเองครับ รบกวนหน่อย"
ไม่เคยคิดว่าการเรียนในชั่วโมงกับเฟลิกซ์ในตอนนั้นจะเป็เื่จริงในวันนี้ พิธีการทำแบบนั้นและการใช้ปรามเ้านายชนชั้นสูงนั้นคือพิธีศักดิ์สิทธิจริงๆ
"ข้าจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดการส่วนที่เหลือเอง ขอเชิญคุณชายไวท์ ไปรอห้องอาหารก่อนขอรับ" เมล์บอกพลางผายมือเชิญออกจากห้อง
แกร๊ก!
"เป็ธรรมเนียมปกติสำหรับการปรนนิบัติผู้เป็นายขอรับท่านไวท์ อย่าทำหน้าน้อยใจไปเลย" เฟลิกซ์บอกพลางพามาในสวนดอกไม้
ยังคงความสวยงามและสะอาดตาเหมือนเคย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่นี่มีคนคอยดูแลเอาใจใส่และให้ความสำคัญไปทุกส่วนที่อยู่ในพระราชวังอันเป็เขตส่วนปกครองขององค์รัชทายาท
"ไม่ต้องรีบที่จะเรียนรู้...แต่ค่อยๆ เรียนรู้ไปขอรับ อายุขัยของท่านมากพอๆ กับองค์รัชทายาท" คำปลอบใจที่ไม่ได้อ่อนโยนมากนักออกมาจากปากของคนรับใช้คนสนิทที่ตอนนี้ยอมรับเ้านายผู้นี้อย่างแท้จริง
"ได้ จะอยู่เพื่อเรียนรู้ไปนานๆ "
หลายชั่วโมงผ่านไปร่างสูงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย พยายามเรียบเรียงเื่ราวว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และก็มีคนเข้ามาอธิบายให้คลายความสงสัยขึ้นมาทันที
"ทำไมข้ามาอยู่ที่ห้องนอนได้ ตอนนั้นข้ากำลังจะสู้กับเ้า"
"ข้าใช้อาวุธที่เคยทำในพิธีศักดิ์สิทธิ์มาปรามพระองค์เอง การกระทำเช่นนั้นมิบังควรที่องค์รัชทายาทจะทำพะยะค่ะ" เมล์บอกพลางหยิบอาวุธดังกล่าวออกมาวางข้างเตียงให้เห็นว่าเป็ลักษณะเช่นไร แล้วเก็บใส่เสื้อผ้าของตนเอง
"ได้เวลาอาหารแล้วพะยะค่ะ เชิญที่ห้องอาหาร"
"คุณชายริค ไวท์ กำลังรอพระองค์อยู่"
อ่านตอนต่อเนื่องโปรดคลิก
ตอน Fourty-four time
link: https://www.readawrite.com/c/0af909b9dc182ad04995fa7eddc7bc3a
