"มึง ไปหาอะไรหวาน ๆ กินให้หายเครียดกันดีกว่า" มนธวิทย์เสนอขึ้น พลางยืดเส้นยืดสายขณะเดินออกจากห้องเรียน
"มึงเครียดเื่อะไรวะ กระเทย?" วรวลัญช์หันมาถามอย่างกวนประสาท แถมยังยักคิ้วหยัน ๆ ใส่อีกด้วย
มนธวิทย์เหลือบตาขวาง ก่อนจะยกมือขึ้นสูงเป็เชิงเตือน "เดี๋ยวกูตบปาก เรียกใหม่"
"โอเค ๆ" พิมรดารีบรับลูก ก่อนจะเปลี่ยนสรรพนามให้อย่างว่องไว "มึงเครียดอะไรคะ อิมัมมี่~"
มนธวิทย์เบะปาก "กูเบื่อพวกชะนีปากดีอย่างพวกมึงนั่นแหละ พูดไม่รู้เื่..."
เขาสะบัดมือใส่แบบี้เีต่อล้อต่อเถียง "ตกลงจะไปไหมเนี่ย?"
"ปายยยยย!"
เสียงตอบรับพร้อมเพรียงดังขึ้น วรวลัญช์กับพิมรดาก็รีบเดินเข้ามาขนาบข้าง คล้องแขนมนธวิทย์แน่น พร้อมหันมาจิกตาใส่กันอย่างรู้ทันว่าหมอนี่น่ะ ชอบทำเป็เล่นตัวไปงั้นแหละ สุดท้ายก็ไปด้วยกันทุกที
"ก็แค่นั้น ว่าแต่มึงสองคนจะกินอะไร?" มนธวิทย์ถาม พลางเหล่มองทั้งสองอย่างระอา ๆ
"ไอติม!" วรวลัญช์ว่าเสียงดังฟังชัด
"เค้ก!" พิมรดาก็สวนขึ้นพร้อมกันราวกับตั้งใจ
แขนที่คล้องมนธวิทย์ไว้หลุดพรึบ ทั้งสองสาวหันมาจ้องหน้ากันตาเขม็ง ประหนึ่งจะเปิดศึกกลางห้าง
มนธวิทย์กลอกตา ก่อนจะยกมือห้ามศึก "พอค่ะ ชะนีการละคร... เื่กินไม่ยาก เดี๋ยวนี้ที่ไหนก็มีทั้งไอติมทั้งเค้ก กูว่าไปห้าง XX ดีกว่า กินก็ได้ เดินส่องผู้ชายก็ได้ ช็อปนิด ๆ หน่อย ๆ ครบจบในที่เดียว"
"เอ่อ... ความคิดดี" วรวลัญช์พยักหน้าเห็นด้วย
"ก็กูฉลาด" มนธวิทย์ยักไหล่ด้วยความภาคภูมิใจ
แต่ยังไม่ทันได้ลอยสูง พิมรดาก็สวนขึ้นเสียงดัง "มึงอย่ามโนอิมี่ คนฉลาดเขาไม่คะแนนเส้นยาแดงผ่าแปดแบบมึงค่ะ!"
"เอ๊ะ อินี่!" มนธวิทย์ชี้นิ้วใส่ "เค้าเรียกฉลาดในการใช้ชีวิตโว้ย"
"เรอะ?" พิมรดาขมวดคิ้วเหมือนไม่เชื่อ
"เออออออ" มนธวิทย์ลากเสียงยาว ก่อนทำหน้ากวนตีนเต็มสูบ
วรวลัญช์หัวเราะแทรก "โอ๊ย เพื่อนกูฉลาดสุดอะไรสุด ไปค่ะ ไปหาอะไรกินกัน"
ระหว่างเดินไปเรื่อย ๆ ก็หันมาชี้ไปที่วรวลัญช์และมนธวิทย์ละคน ก่อนจะพิมรดาก็พูดขึ้น "แต่มึง และมึง เราไปหาอะไรคาว ๆ กินก่อนดีไหม กูอยากกินส้มตำ"
"สำนึกรักบ้านเกิดเหรอ อิพิมพ์" วรวลัญช์หันไปแซวพิมรดาแทน เพราะเห็นว่าพิมรดานั้นหน้าเปล่งประกายทันทีที่ได้ยินคำว่าส้มตำ
"กูกำลังจะเป็เมน เลยอยากกินอะไรแซ่บ ๆ เว้ามาละส้มปากเลย (พูดแล้วน้ำลายสอ) " พิมรดาบ่นพลางยกมือปาดมุมปากอย่างโอเวอร์
มนธวิทย์รีบเสริม "เออ กูก็อยาก กูสงสัยว่ากำลังจะเป็เมนเหมือนกัน!"
"มึงไม่มีมดลูก!!!!"
เสียงตวาดของสองสาวประสานกันจนคนเดินผ่านต้องหันมอง
มนธวิทย์ยืนเหวอ ก่อนจะทำตาเหมือนนางร้ายในละครไทย จิกตาเหวี่ยงใส่สองสาว
"ยอมกูบ้างก็ได้ไหมมม"
"อะไรก็ได้ แต่เื่มีเมน มึงไม่มีสิทธิ์!" วรวลัญช์เน้นเสียงกวนตีนขั้นสุด
"เอ่อ... แถวบ้านกูเอิ้นว่า มันบ่แม่นแนว (มันไม่ใช่เื่!) " พิมรดาเสริมพลางหัวเราะคิก
"แนวของกูนี่แหละว้อย!" มนธวิทย์โวยกลับไปไม่ยอมแพ้
วรวลัญช์โบกมือ ตัดบท "มึงลองมีมดลูกดูนะอิมี่ แล้วมึงจะรู้เองว่าความทรมานวันนั้นของเดือนมันเป็ยังไง... ไปค่ะ หิวแล้ว หยุดเวิ่นเว้อได้แล้ว!"
ไม่รอให้เพื่อนเถียงต่อ วรวลัญช์ก็รวบแขนสองเพื่อนรักลากเดินตรงดิ่งไปยังที่หมาย... ทิ้งเสียงหัวเราะหยอกล้อดังไล่หลังไปตลอดทาง
เข้ามาในห้าง ทั้งสามคนก็ตรงดิ่งหาร้านอาหารอีสานที่ตกลงกันไว้ั้แ่ในรถ สั่งกันไม่ยั้งเหมือนอดอยากมาจากไหน ทั้งตำ ทั้งยำ ทั้งปิ้งย่าง วางเต็มโต๊ะจนคนเสิร์ฟยังแอบเหลือบมองด้วยสายตาเอ็นดู
หลังจากจัดเต็มจนพุงกางและพูดแทบไม่ออก ทั้งสามก็เดินย่อยกันเรื่อยเปื่อยตามทางเดินในห้าง ก่อนเสียงหวาน ๆ ของมนธวิทย์จะดังขึ้น
“มึง ๆ ดูนั่น กลุ่มพี่เมฆนิ!”
มนธวิทย์เบิกตากว้าง ตีแขนเพื่อนแล้วพยักหน้าไปทางโต๊ะหนึ่งในร้านอาหารที่เพิ่งเดินผ่าน กลุ่มหนุ่มหล่อระดับตำนานที่เคยเจอตอนเที่ยงนั่นเอง
“ไหนวะ ไหนอีมี่” พิมรดารีบเกาะไหล่เพื่อน หรี่ตาสอดส่องตามทิศที่มนธวิทย์ชี้
“นั่นไง ตรงนั้นอีพิม”
พิมรดาเหลือบมองแล้วหัวเราะเบา ๆ “เรดาร์หาผู้นี่มึงคือที่สุดในรุ่นอ่ะมีมี่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้