สองวันถัดจากนั้นในหุบเขาชั้นที่หก...
นึกไม่ถึงว่าข้าอยู่ที่นี่มาถึงสองวันแล้วแต่กลับไม่มีใครมารบกวนและกลายเป็ข้าที่ออกไปสำรวจและเก็บของต่างๆ โดยรอบกว่ายี่สิบลี้จนละเอียดหมดแล้วแสงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องลงมาบนยอดไม้และของต่างๆ ที่ข้าได้ไปหามา
ซึ่งมีโสมโลหิตอายุสองร้อยยี่สิบปีหนึ่งแท่งหนังของหมีหมอกที่สมบูรณ์แบบหนึ่งแผ่นและงาโลกันตร์สองต้นทั้งหมดนี้ถือว่าอยู่ในระดับดีที่ข้าเจอในสองวันนี้ส่วนอย่างอื่นก็เป็พวกหญ้าสมุนไพรระดับธรรมดาๆ ที่ข้าไม่ได้สนใจนักซึ่งการอยู่ในหุบเขาหลิงหยุนชั้นที่หกและเจอของพวกนี้ถือว่าไม่เลวอยู่เหมือนกันหลังจากที่เห็นว่าหนังของหมีหมอกแห้งดีแล้วก็ม้วนเก็บไว้ในตะกร้า
วันนี้ข้าจะต้องเปลี่ยนที่พักบ้างเพราะบริเวณโดยรอบกว่าสิบลี้ถูกข้าสำรวจและเก็บของดีๆมาหมดแล้ว หรือต่อให้มีหญ้าิญญาดีๆ เกิดขึ้นมาก็คงต้องรออีกหลายวันกว่าจะโตหรืองอกขึ้นมาใหม่
...
ของในตะกร้าไม้ไผ่เยอะจนส่งเสียงเหมือนพร้อมจะพังทุกเมื่อและถ้าพังขึ้นมาจริงๆ ข้าก็คงจะต้องลงมือสานมันขึ้นมาใหม่ แต่ข้ากลัวที่ไหนกันล่ะ? เื่แบบนี้ไม่เกินความสามารถของข้าแน่นอนเพราะการทำได้ทุกอย่างถึงจะเหมาะสมกับการเป็ผู้ฝึกฝนิญญายุคใหม่
ถึงแม้ยามรุ่งเช้าในป่าใหญ่จะเงียบสงบแต่เวลานี้ก็แฝงไปด้วยภยันตรายเช่นเดียวกัน เพราะเป็เวลาที่สัตว์ต่างๆเริ่มตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลเพื่อหาอาหารโดยข้างทางมีกระต่ายป่าหลายตัวที่ะโหย็องแหย็งๆ เพื่อมากินน้ำค้างบนใบหญ้าซึ่งพวกมันถือเป็หนึ่งในวัฏจักรชั้นต่ำที่เป็อาหารของสัตว์ิญญาตัวอื่นๆ อีกทีเพราะถ้าไม่มีกระต่ายป่าพวกนี้สัตว์ิญญาก็จะกินกันเองและหุบเขาหลิงหยุนแห่งนี้จะไม่ใช่สถานที่สำหรับเก็บของมีค่าอีกต่อไป
หลังจากเดินหน้าไปเรื่อยๆ กว่ายี่สิบลี้ก็รู้สึกถึงอันตรายที่เข้ามาใกล้ตาทิพย์ที่มองออกไปรับรู้ได้ถึงสัตว์บางอย่างกำลังเดินผ่านป่าไม้ตรงหน้าเข้ามา
วูบ!
ข้ารีบพาร่างของตัวเองหายวับเข้าไปในพุ่มไม้เตี้ยและโขดหินอย่างรวดเร็วซึ่งด้านข้างเป็ป่าไผ่สูงประมาณครึ่งตัวคน และโขดหินยังมีงูพิษกำลังเลื้อยอยู่แถวนั้นด้วย
ร่างสีทองของเสือตัวหนึ่งเดินออกมาจากป่าด้านหน้าพร้อมกับพลังที่แข็งแกร่งส่วนหัวของมันมีเขางอกออกมาซึ่งบ่งบอกว่าเป็าาของเสือข้าได้เห็นถึงกับตะลึงด้วยความดีใจเพราะนึกไม่ถึงว่าวันนี้จะมีอะไรดีๆ เดินมาหาถึงที่ซึ่งมันก็คือสัตว์ิญญาระดับห้าอย่างเสือันั่นเอง!ชื่อของมันโด่งดังไปทั่วแดนเนื่องจากราคาเนื้อของมันที่ขายอยู่พอๆ กับราคาทองถือได้ว่าเป็ยาบำรุงลมปราณชั้นดีที่ราคาสูงกว่าปลาหลีฮื้อหลงหลิงเพราะสรรพคุณที่ดีกว่านั่นเอง!
ในตอนแรกที่พี่เสวียนยินซื้อเนื้อของมันมาให้ข้าเพียงแค่กิโลครึ่งก็เสียเงินไปกว่าสามแสนเหรียญหลงหลิงแสดงให้เห็นว่าจำนวนของเสือัตัวนี้หายากขึ้นทุกวันแม้จะเข้ามาในหุบเขาก็จะเจอสัตว์ิญญาแต่เ้าเสือัตัวนี้กลับต่างออกไปเพราะคนที่ได้เจอกับมันต้องมีดวงและโชคชะตาเท่านั้น
ดูเหมือนว่าเวลาของข้าจะมาถึงแล้วล่ะ!
โครกกก!
มันส่งเสียงออกมาเล็กน้อยพร้อมกับใบหูที่ตั้งชันขนทั่วตัวของมันเริ่มพองโตและดวงตาสีเทาคู่นั้นกำลังจับจ้องมายังพุ่มไม้ที่ข้าซ่อนตัวอยู่แม**งเอ๊ย! นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะรู้ว่าข้าอยู่ตรงนี้ถึงแม้ว่าข้าจะสกัดกั้นพลังิญญาในร่างกาย แต่กลิ่นอายของมนุษย์ก็ยังคงอยู่ซึ่งประสาทการรับกลิ่นของเสือัใช่ว่าจะเหมือนกับสัตว์ตัวอื่นๆเพราะต่อให้กลิ่นอายของมนุษย์อยู่ไกลออกไปกว่าร้อยลี้มันก็ยังสามารถรับกลิ่นได้ดีเหมือนเดิม นับประสาอะไรกับข้าที่อยู่ห่างจากมันแค่สองเมตร
พริบตาเดียวก็เข้าสู่ขั้นที่แปดในพลังของวิชาลมหายใจัตามด้วยพลังของวาตะพิฆาตขั้นวาตะเมฆินทร์ที่ไหลรวมเข้าไปอยู่ในกระบี่ดูเหมือนว่าเ้าเสือัตัวนี้จะเป็ตัวกระตุ้นชั้นดีที่จะทำให้ข้าบรรลุเคล็ดวิชาาขั้นที่ห้าซึ่งยืดเยื้อมากว่าสองวันได้สักที!
แต่ใครจะรู้ว่าถึงแม้จะต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างข้า เ้าเสือัตัวนี้ก็ยังมีท่าทีใจเย็นไม่รีบร้อนต่างจากเสือตัวอื่นที่รีบพุ่งเข้ามาหาความตายมันกะพริบตาอยู่หลายครั้งอย่างใจเย็นแล้วค่อยๆ เดินเข้ามาซึ่งข้ากับมันเอาแต่ยืนจ้องตากันกว่าสามสิบวินาทีก่อนที่มันจะยกขาหน้าขึ้นมาพร้อมกับเผยพลังไฟออกมาดูเหมือนว่ามันจะจู่โจมแล้วล่ะ!
มันยกตัวขึ้นสูงและกระโจนเข้ามาใกล้ด้วยพลังของกรงเล็บที่ร้อนระอุ
โครก!!
ไอร้อนแผ่แสงจ้าจนข้าไม่สามารถลืมตาได้กระบี่คมจันทราในมือส่งพลังของวาตะพิฆาตออกมาเพื่อสกัดกั้นพลังของเสือัตัวนี้ทันทีแต่ดูเหมือนว่าการโจมตีครั้งนี้มันจะตั้งใจทำเพื่อหยั่งเชิงพลังก่อนที่จะลงมือสังหารข้าอย่างจริงจัง!
นึกไม่ถึงว่ากาลเวลาเปลี่ยนไปเ้าสัตว์ิญญาพวกนี้จะฉลาดขึ้นไปด้วยมิน่าล่ะถึงได้มีคนมากมายเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่หุบเขาหลิงหยุนแห่งนี้ซึ่งกองทหารที่คอยดูแลรักษามีการจดบันทึกไว้ว่ามีจำนวนคนที่ออกมาจากหุบเขาน้อยกว่าจำนวนคนที่เข้าไปั้แ่หลักสิบจนถึงหลักร้อยและนั่นก็หมายความว่าคนที่เหลือได้สูญหายและตายอยู่ที่นี่หมดแล้ว
มันคำรามขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับปล่อยพลังออกมาโดยการใช้ขาหน้าทั้งสองข้างตวัดไขว้กันเป็กากบาทส่วนข้าก็ใช้พลังของเอกากัลป์เบิกขุนเขาที่มีพลังมากกว่าทำให้พลังกรงเล็บของมันปลิวหายไปด้านหลัง
โครก!
มันส่งเสียงคำรามด้วยความเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้งเพราะถึงแม้ว่ามันจะฉลาดแต่สัญชาตญาณการเป็สัตว์ยังมีขีดจำกัดอยู่ดีและเมื่อข้าได้ทำลายความอดทนอดกลั้นของมันไปความดุร้ายตามสัญชาตญาณของมันก็จะแสดงออกมาทันที
และก็เป็ไปตามคาดเมื่อมันเริ่มขยับเท้าหลังตะกุยพื้นดินเป็รอยยาวดวงตาสีเทากลายเป็สีแดงด้วยความเดือดดาลพลังิญญาของมันก็แผ่ซ่านออกมาอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่ามันหมดความอดทนและพร้อมจะต่อสู้เพื่อให้รู้ผลแพ้ชนะกับข้าแล้ว!
ฟู่!
มันะโเข้ามาด้วยพละกำลังมหาศาลหากข้าต้านทานไว้ไม่ไหวคงต้องถูกมันตะปบที่ไหล่ทั้งสองข้างและกินเข้าเนื้อจนตายเหมือนคนอื่นๆที่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งอย่างแน่นอน
แต่ข้าก็คือข้า และข้าก็มีพลังของเพลงขาเมฆาหมอกที่คนอื่นไม่มี!
ข้าขยับเท้าเล็กน้อยเพื่อหลบหลีกการโจมตีของมันแต่นึกไม่ถึงว่าความฉลาดที่มีอยู่ในตัวของมันจะทำให้รู้จักเปลี่ยนแปลงการโจมตีโดยการหันตัวแล้วตวัดหางที่มีไฟลุกท่วมเข้ามา
ปั้ก!
เพราะมันตวัดหางมาเร็วเกินไปจนไม่ทันได้ตั้งตัวจึงทำให้ถูกฟาดเข้าอย่างจังที่หัวไหล่ความรู้สึกเจ็บแสบแล่นเข้ามาทันที ก่อนร่างของข้าจะปลิวไปไกลกว่าสามเมตรและถ้าไม่ได้ฐานพลังของศิลาพันัข้าก็คงจะล้มพับไปแล้วเป็แน่แต่ถึงอย่างไรการโจมตีถึงหนึ่งพันชั่งของมันก็ยังทำให้ข้ารู้สึกดีใจอยู่เล็กน้อย เพราะถึงแม้จะรู้สึกเจ็บแต่กลับไม่มีแผลเลยสักนิด
นั่นหมายความว่าหญ้าิญญาเพลิงซึ่งเป็หญ้าสมุนไพรระดับหนึ่งที่เมื่อผ่านการหลอมรวมของร่างกายข้าแล้วมันก็จะเข้าไปเสริมความแข็งแกร่งภายในยิ่งขึ้น ไม่อย่างนั้นการโจมตีเมื่อครู่ก็คงจะทำให้ไหล่ของข้าแตกละเอียดหรือใช้งานไม่ได้อีกแล้วแน่นอน
พลังที่รุนแรงถูกส่งมาอีกเป็ครั้งที่สามหลังจากที่ใช้หางตวัดข้าจนปลิวมันกระโจนเข้ามาพร้อมกับอ้าปากกว้างหมายจะขย้ำหัวของข้าให้ขาด
กลิ่นเืที่คละคลุ้งทำให้รู้ว่าเ้าเสือตัวนี้เพิ่งจะกินเนื้อเมื่อไม่นานมานี้แน่นอนทั้งที่กินมาแล้วยังอยากจะกินข้าลงไปอีกเ้าเสือตัวนี้มันช่างละโมบโลภมากเสียจริง!
ทว่าก่อนจะเข้าสู่ขั้นเทวิญญาไม่ว่าจะเป็เื่ความเร็วหรือปฏิกิริยาตอบสนองของข้าก็พัฒนาขึ้นมากกว่าเดิมตั้งนานแล้วทำให้การเคลื่อนไหวของเสือัไม่เร็วมากนักจนข้าจับทิศไม่ได้ข้ารวมพลังจนร่างกายหนักแน่นก่อนจะะโหนีกว่าครึ่งเมตรมือซ้ายค้ำตัวเองไว้กับพื้นแล้วถีบเข้าที่ขาหน้าของมันอย่างจัง
เพลงขาเมฆาหมอก สองขาทลายบัว!
ตั้ง! ตั้ง!
เ้าเสือตัวนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บเช่นเดียวกับอาการชาของข้าในตอนนี้ ให้ตายเถอะ!นึกไม่ถึงว่าเนื้อหนังของมันจะแข็งทนทานได้ถึงขนาดนี้!
โฮ่งงง!
มันอ้าปากกว้างแล้วหันมาทางข้าด้วยน้ำลายที่ไหลลงมาตามเขี้ยวในปากเปลวไฟอันร้อนระอุของมันพุ่งออกมาจากปากด้วยพลังพยัคฆาเพลิงบรรลัย!
ข้ารีบตบพลังลงพื้นเพื่อให้ตัวเองกลิ้งออกไปพร้อมกับเริ่มใช้พลังการดูดกลืนของพร์รับเอาเปลวไฟร้อนนั้นเข้าสู่ร่างกายซึ่งเข้าไปทดแทนและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายได้ไม่น้อย
เกราะรบเสี้ยวจันทราของข้าถูกไฟร้อนจนแดงไปทั้งผืน ส่วนหัวใจของข้าก็เต้นช้าลงอย่างมากหากถูกพลังไฟของมันเข้าไปตรงๆ ข้าคงจะไม่รอดแน่!
เสียงการหายใจแรงๆของมันเกิดขึ้นอีกครั้งก่อนมันจะอ้าปากกว้างเพื่อหลอมรวมพลังไฟขึ้นมาอีกรอบแล้วพ่นพลังนั้นมาทางข้าถึงแม้มันจะส่งพลังที่รุนแรงออกมาแต่คงจะลืมไปว่าความเร็วของมันช้าขนาดนั้นจะพ่นมาถูกตัวข้าได้อย่างไร!
จังหวะนี้ข้าจึงะโขึ้นสูงแล้วใช้เท้าทั้งสองข้างพุ่งเข้าถีบหลังคอของมันอย่างรวดเร็ว
แครก!
เสียงที่ดังขึ้นบ่งบอกว่ากระดูกคอของมันถูกพลังขาของข้าถีบลงไปจนแตกร้าวเมื่อเห็นแบบนั้นจึงเรียกกระบี่คมจันทราออกมาแล้วแทงลงไปด้วยพลังของเพลงกระบี่วายุสังหารอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ฉึบ!
พลังและปลายดาบที่แหลมคมแทงเข้าไปลึกจนคอทะลุอย่างคาดไม่ถึงเืของมันไหลออกมาพร้อมกับพลังิญญาและลมหายใจที่ค่อยๆ หมดไปก่อนจะล้มตัวตายลงกับพื้นส่วนข้าก็นั่งอยู่บนหลังของมันด้วยพลังิญญาที่ค่อนข้างจะแตกกระจัดกระจายถึงแม้การต่อสู้ครั้งนี้จะกินเวลาไม่มากแต่ก็ดำเนินไปอย่างดุเดือดและรุนแรงดูเหมือนว่าการสังหารเสือัหนึ่งตัวไม่ใช่เื่ง่ายขนาดข้าอยู่ในขั้นเทวิญญายังฝืนตัวเองอยู่ไม่น้อย
หลังจากนั้นข้าก็รู้สึกดีอกดีใจจนออกนอกหน้า!
ข้าะโลงมาแล้วเตะมันจนพลิกกระบี่คมจันทราในมือกรีดลงไปที่หน้าอกก่อนจะควักเอาหัวใจออกมาในเมื่อเนื้อของมันเป็เครื่องบำรุงร่างกายอย่างดีแสดงว่าหัวใจของมันก็จะต้องให้ประโยชน์ที่มากกว่าแน่นอนส่วนเือันเข้มข้นของมันซึ่งสามารถบำรุงลมปราณของผู้ฝึกฝนิญญาและทำให้การบำเพ็ญเห็นผลเร็วกว่าเดิมถือเป็เื่ที่รู้กันดีอยู่แล้ว
คมกระบี่กรีดลงบนกล้ามเนื้อหัวใจจนเืที่เข้มข้นไหลออกมาข้ารีบเอาปากรับไว้อย่างรวดเร็วหลังจากนั้นถึงจะยัดหัวใจของมันเข้าไปในปากแล้วเคี้ยวอีกสามสี่ทีก่อนจะกลืนลงไปเพียงชั่วพริบตาเดียวก็รู้สึกอุ่นวาบที่หน้าท้องและเริ่มร้อนขึ้นจนเหมือนเปลวไฟแล้วแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายเมื่อคิดได้ว่านี่เป็โอกาสดีซึ่งจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ ข้าจึงเริ่มฝึกฝนทันที
หลังจากเคลื่อนพลังไปได้เจ็ดแปดรอบก็รับรู้ได้ว่าพลังของเคล็ดวิชาากำลังจะบรรลุอีกขั้นแล้ว!
พลังิญญาเพิ่มขึ้นจนไหลล้นออกมานอกร่างกายแล้วรวมตัวกันเป็กลุ่มก้อนและผสานเข้าด้วยกันจนเกิดเป็ลมพายุที่ยิ่งใหญ่ซึ่งทำให้ข้ารู้สึกว่าตัวเองเป็ผู้ควบคุมการเป็การตายของฟ้าดินทั้งปวง!
“ไป!”
ข้าว่าแล้วซัดฝ่ามือตรงไปยังป่าทึบเบื้องหน้า
ตูม!
พลังลมสีแดงเพลิงพุ่งออกไปตามทิศของฝ่ามือก่อนจะเข้ากระทบกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปกว่าสิบเมตรจนแตกกระจายกลายเป็เศษเยื่ออ่อนๆและยังรุนแรงจนทำให้พื้นดินข้างใต้เกิดเป็รอยลึกยาวไปตามการเคลื่อนไหวกว่าครึ่งเมตรพลังขั้นสมบูรณ์ของวาตะพิฆาตช่างน่าเกรงขามเสียจริง!
และนี่คือพลังของ ‘สลาตันพิโรธ’ ที่หายไปหลายรุ่นเพราะคนของตระกูลปู้ฝึกฝนไม่ถึงขั้น แต่กลับทำให้ข้าได้เห็นถึงพลังอันน่าเกรงขามที่แข็งแกร่งของมันด้วยเหตุนี้เมื่อตอนเป็เด็กท่านพ่อถึงบอกว่าตระกูลปู้ของเราเคยเป็ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ทุกฝีก้าวของการเคลื่อนไหวจะต้องะเืไปทั่วทั้งแผ่นดิน กระทั่งวันนี้สิ่งที่ท่านพ่อเคยพูดไว้ไม่ได้เป็เพียงนิทานหลอกเด็ก!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้