บทที่ 10 พายุที่พัดหวนคืน
หลายวันต่อมา กิจการยาขี้ผึ้งของสกุลหลี่ดำเนินไปอย่างราบรื่นและมั่นคง เฉินอิงตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอของเถ้าแก่ซุนอย่างนอบน้อมแต่มั่นคง นางให้เหตุผลว่า้าสร้างรากฐานของตนเองก่อน แม้เถ้าแก่ซุนจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยิ่งชื่นชมในความมีวิสัยทัศน์ของสตรีผู้นี้ และยังคงยืนยันที่จะรับซื้อยาของนางไปวางขายที่หอโอสถในฐานะ "สินค้าแนะนำ" ซึ่งเป็การช่วยเหลือทางอ้อมที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง
รายได้ที่สม่ำเสมอทำให้ความเป็อยู่ของครอบครัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เด็กๆ มีเสื้อผ้าใหม่ที่พอดีตัว แม้จะเป็เพียงผ้าเนื้อหยาบ แต่ก็สะอาดสะอ้านและสมบูรณ์ โอ่งข้าวเริ่มมีข้าวสารบรรจุอยู่เกินครึ่ง อาการของหลงอี้ก็ดีวันดีคืน ทุกเย็นในกระท่อมซอมซ่อจะมีไออุ่นจากอาหารและเสียงหัวเราะดังออกมา... เป็ภาพความสุขที่เรียบง่ายแต่ล้ำค่า
แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการผลิตยาล็อตใหม่สำหรับส่งให้หอโอสถ พายุก็หวนคืนสู่บ้านที่กำลังจะสงบสุข...
ประตูบ้านถูกกระแทกเปิดออกอย่างแรง!
ร่างสูงโปร่งในอาภรณ์สีสดแต่มีร่องรอยมอมแมมเล็กน้อยก้าวเข้ามาในบ้าน กลิ่นสุราจางๆ ลอยคละคลุ้งมาพร้อมกับกลิ่นอายของความเกียจคร้านและเอาแต่ใจ ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยทำให้เหยาเหนียงเ้าของร่างเดิมหลงใหล บัดนี้ในสายตาของเฉินอิงกลับดูน่ารังเกียจสิ้นดี
หลี่ิ... สามีที่ไม่เอาไหนของนางกลับมาแล้ว
"พวกเ้าทำอะไรกันอยู่! เสียงดังน่ารำคาญ!" เขาตวาดขึ้น ทำลายบรรยากาศแห่งความสุขลงในพริบตา
เด็กๆ สะดุ้งสุดตัวและพากันวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังเฉินอิงและท่านย่าหลี่โดยอัตโนมัติ ความกลัวฉายชัดในดวงตาของพวกเขา
หลี่ิขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่เห็นปฏิกิริยาเช่นนั้น แต่แล้วสายตาของเขาก็พลันจับจ้องไปยังร่างของบุรุษแปลกหน้าที่นอนพักอยู่บนเตียงในมุมหนึ่งของบ้าน ซึ่งเป็เตียงของเขา!
"นั่นมันใคร!" ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างอันตราย "เหยาเหนียง! นี่เ้ากล้าคบชู้สู่ชายในบ้านของข้าอย่างนั้นรึ!"
คำกล่าวหาที่รุนแรงและไร้ซึ่งมูลความจริง ทำให้ใบหน้าของท่านย่าหลี่ซีดเผือด ส่วนเฉินอิงนั้นเย็นเยียบไปทั้งร่าง แต่นางยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงเป็กำแพงป้องกันให้เด็กๆ
"หุบปากของเ้าเสีย หลี่ิ!" เฉินอิงตวาดกลับด้วยเสียงที่เ็ากว่า "อย่าใช้ความคิดสกปรกของเ้ามาตัดสินผู้อื่น"
"เ้ากล้าขึ้นเสียงกับข้ารึ!" หลี่ิโกรธจนหน้าแดงก่ำ เขาปรี่เข้าไปหมายจะทำร้ายนาง แต่ท่านย่าหลี่รีบเข้ามาขวางไว้เสียก่อน
"ิเอ๋อร์! หยุดเดี๋ยวนี้!" ผู้เป็แม่ตวาดเสียงสั่น "เ้าจะบ้าไปแล้วหรือ! นั่นคือผู้มีพระคุณของเรานะ!"
หลี่ิชะงักไป "ผู้มีพระคุณอะไรกัน! ก็แค่ไอ้คนพิการที่มานอนในบ้านข้า!"
ท่านย่าหลี่รีบอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ทั้งเื่ที่เฉินอิงช่วยชีวิตหลงอี้ไว้จนมีคนรู้จักและนางมีชื่อเสียงขึ้นมา เื่ที่นางใช้ความสามารถทางการแพทย์สร้างยาขี้ผึ้งขึ้นมาขายจนมีชื่อเสียงและรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัว
"ตอนนี้เหนียงเอ๋อร์ คือเสาหลักของบ้านเรานะลูก นางหาเงินมาให้พวกเรามีข้าวกิน มีเสื้อผ้าใส่ ชื่อเสียงของนางก็คือหน้าตาของสกุลหลี่เรา!" ท่านย่าพยายามพูดให้ลูกชายสำนึก
หลี่ิเมื่อได้ยินว่าภรรยาของตนหาเงินได้ ดวงตาของเขาก็พลันเป็ประกายด้วยความโลภ "หาเงินได้รึ? ดี! ในเมื่อหาเงินได้ก็เอามาให้ข้า! ข้าจะเอาไปใช้จ่าย!"
เขาแบมือออกไปตรงหน้าเฉินอิงอย่างไม่ละอาย
เฉินอิงมองเขาด้วยสายตาสมเพชระคนเ็ป นางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ราวกับพยายามระงับความเดือดดาลที่ปะทุขึ้นในอก
"เงินทุกเหรียญทุกอีแปะที่ข้าหามา คือค่าข้าว ค่ายา และค่าเล่าเรียนของลูก ๆ ในอนาคต! ไม่ใช่เงินให้เ้าเอาไปถลุงในบ่อนพนันและโรงสุรา!" น้ำเสียงของนางเริ่มแข็งกระด้างขึ้นทีละน้อย
"นี่เ้า...!" หลี่ิโกรธจนตัวสั่น ไม่สามารถควบคุมนางได้ดังใจอีกต่อไป ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโมโห สายตาเหลือบไปเห็นหลงอี้ที่มองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกหยามหน้า "ข้าไม่สน! ข้าไม่ให้คนนอกมาอยู่ในบ้านข้า! ไสหัวมันออกไปเดี๋ยวนี้! หรือเ้าอยากให้ข้าฟันคอมันด้วยตัวเอง!"
คำพูดของหลี่ิเหมือนคมมีดกรีดลงกลางใจของเฉินอิง ความอดทนของนางขาดสะบั้นลงในพริบตา แววตาที่เคยเ็าบัดนี้กลับลุกโชนด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธแค้น
เฉินอิงเสียงกร้าว ดุจดาบที่ฟาดฟัน "คนที่ควรไปคือเ้าต่างหาก หลี่ิ! บ้านหลังนี้อยู่ได้เพราะแรงของข้าและท่านแม่ ไม่ใช่เพราะเ้าที่วัน ๆ เอาแต่เที่ยวเตร่ไม่รับผิดชอบ! เ้าเคยคิดบ้างไหมว่าลูก ๆ ต้องอดอยากเพราะความไม่เอาไหนของเ้า! เ้าเคยสำนึกไหมว่าท่านแม่ต้องแบกรับภาระหนักแค่ไหน! เ้ามันไอ้คนเห็นแก่ตัว! สวะ! ขยะสังคม! ดีแต่ผลาญสมบัติ ดีแต่ก่อหนี้! เ้าเคยเป็พ่อคนบ้างไหม! เคยเป็สามีที่ดีบ้างไหม!"
เฉินอิงก้าวเข้าไปประชิดหลี่ิ ดวงตาจ้องมองเขาเขม็ง ราวกับจะเจาะทะลุเข้าไปในจิตใจอันมืดบอดของเขา
"เ้ามันไร้ค่า! ไร้ความสามารถ! ไม่เคยมีดีอะไรเลยสักอย่าง! ข้าเสียดายเวลาที่ต้องหายใจร่วมชายคากับคนอย่างเ้า! เ้ามันน่ารังเกียจจนข้าไม่อยากจะมองหน้า! คนอย่างเ้ามีชีวิตอยู่ไปก็รังแต่จะถ่วงความเจริญของผู้อื่น! ไสหัวออกไปจากชีวิตข้าและลูกเสียที! อย่าให้ข้าต้องทนเห็นหน้าเ้าอีกเลย!" เสียงสุดท้ายของนางขาดหายไปในลำคอด้วยความเ็ปและผิดหวังถึงขีดสุด
หลี่ิผงะถอยหลังด้วยความใ ใบหน้าซีดเผือดราวกับถูกตบด้วยฝ่ามือที่มองไม่เห็น เขานิ่งอึ้งไปกับถ้อยคำรุนแรงที่ออกมาจากปากของภรรยาที่เคยอ่อนน้อม เขาไม่เคยเห็นนางเป็เช่นนี้มาก่อน ราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกต้อนจนมุมพร้อมจะขย้ำทุกสิ่งที่ขวางหน้า
การโต้เถียงที่รุนแรงจบลงเมื่อหลี่ิตระหนักได้ว่า เขาไม่มีอำนาจใด ๆ ในบ้านหลังนี้อีกต่อไป สายตาของลูก ๆ ที่มองมาอย่างหวาดกลัวระคนรังเกียจ สายตาของมารดาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง และสายตาของภรรยาที่แข็งกร้าวและไม่ยอมอ่อนข้อให้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็คนนอก
"ดี! ดีมาก!" เขากระแทกเสียงอย่างหัวเสีย "ในเมื่อบ้านนี้ไม่้าข้าแล้ว พวกเ้าก็อยู่กันไปตามสบายเถอะ!" เขาหันหลังกลับหมายจะเดินออกไป แต่ก็ยังไม่วายฉวยเอาถุงเงินเล็ก ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะติดมือไปด้วยอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งหนีออกจากบ้านไป ท่ามกลางเสียงร้องห้ามของท่านย่าหลี่
พายุได้พัดจากไปแล้ว แต่ก็ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ในใจของทุกคน ท่านย่าหลี่ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อย่างเงียบ ๆ กับความไม่เอาไหนของบุตรชาย หลี่เฟิงหลงและหลี่อิงฮวากอดเฉินอิงไว้แน่น ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
ส่วนหลงจี้เขาสะดุ้งตื่นจากการนอนหลับพักผ่อน เมื่อได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครม และได้แต่นอนดูผัวเมียโต้เถียงกัน โดยไม่รู้จะทำอย่างไร
เฉินอิงกอดเด็กทั้งสองแนบอกแน่น มือเรียวลูบผมของพวกเขาอย่างแ่เบา ดวงตาของนางแข็งกร้าวยามมองตามร่างของหลี่ิที่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมาแม้แต่น้อย
เสียงสะอื้นแ่เบาดังขึ้นจากอกของเด็กชายคนโต
“ท่านแม่… ท่านพ่อเขาไม่รักพวกเราแล้วใช่ไหมขอรับ… เขาถึงได้จากไปแบบนั้น…”
เฉินอิงชะงักเล็กน้อย ใจของนางเจ็บราวถูกมีดกรีด แต่กลับไม่แสดงความอ่อนแอให้ลูกเห็น นางก้มลงสบตาลูกชายตรง ๆ ใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาออกจากแก้มเล็ก ๆ
“ไม่หรอกลูก… ท่านพ่อของเ้าแค่… ยังไม่รู้ว่าจะรักอย่างไรต่างหาก”
เด็กหญิงคนเล็กเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา เสียงแ่สั่น
“แล้ว…พวกเราทำอะไรผิดหรือเปล่าเ้าคะ ท่านพ่อถึงไม่อยากอยู่กับเรา…”
เฉินอิงกอดลูกแน่นขึ้นอีก ริมฝีปากเม้มแน่นก่อนจะพูดอย่างมั่นคง
“พวกเ้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ลูกของแม่วิเศษที่สุดในโลก… ความไม่เอาไหนของเขา ไม่ใช่เพราะพวกเ้าไม่ดี แต่เพราะเขาไม่กล้าพอจะเป็พ่อที่ดี… ความกลัวทำให้คนบางคนเลือกที่จะหนีมากกว่าสู้”
นางเว้นจังหวะ สูดลมหายใจลึกอย่างระงับความปวดใจ แล้วเอ่ยต่อด้วยเสียงที่อ่อนโยนแต่เด็ดขาด
“จำไว้นะลูก… โลกนี้อาจไม่ยุติธรรมเสมอไป คนดีอาจต้องเจ็บ คนไม่ดีอาจลอยนวล… แต่สิ่งที่เราควบคุมได้คือสิ่งที่เราจะเลือกเป็ เ้าอย่าให้ความผิดของคนอื่น มาตัดสินคุณค่าของตัวเอง”
เด็กชายพยักหน้าเบา ๆ ทั้งน้ำตาทั้งๆที่ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร เด็กหญิงก็ซุกตัวลงในอ้อมอกของนางแน่นกว่าเดิม
เฉินอิงเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของนางมุ่งมั่นดั่งเปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับ
“ข้าจะไม่ปล่อยให้คนอย่างเขาทำลายหัวใจของพวกเ้าลงอีกเด็ดขาด... ต่อให้ไม่มีพ่ออยู่เคียงข้าง แต่พวกเ้าก็จะมีแม่ผู้หนึ่ง… ที่จะสู้เพื่อพวกเ้า”