“พลังกายาธารวน!”
เซียวหลงะโเสียงดัง ทันใดนั้นชั้นแสงหนาทึบก็ปรากฏขึ้นบนตัวเขา ซึ่งมองแล้วเหมือนกับสายน้ำที่วนอยู่รอบๆ !
ด้วยความช่วยเหลือจากพลังกายาธารวน ทำให้พลังทั่วทั้งร่างของเซียวหลงแข็งแกร่งมากกว่าหลิวหรูเยียน!
เมื่อเห็นดังนี้ หลิววั่นซานถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นเยียบออกมา วิชายุทธ์พลังกายาหาได้ยาก หากฝึกฝนสำเร็จจะทำให้มีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ระดับเดียวกันถึงสิบเท่า!
“กรงล้อมอสูร”
เมื่อหลิวหรูเยียนเผชิญหน้ากับพลังปราณของเซียวหลง นางไม่รีรอที่จะแสดงวิชายุทธ์ของตระกูลออกไปทันที
“กรงล้อมอสูรเป็วิชายุทธ์เ้าฮั่วขั้นสูง ตามหลักแล้วต้องบรรลุถึงระดับดาราวงแหวนขั้นเก้าจึงจะสามารถฝึกฝนได้ นึกไม่ถึงว่านางจะสามารถฝึกฝนจนสำเร็จ!”
หลิวหรูเยียนเคลื่อนไหวบนสนามประลองอย่างทรงพลัง จนทำให้หลิวซินไห่ต้องอุทานอยู่ในใจ น้องสาวของเขาเป็อัจฉริยะวิชายุทธ์ที่หาได้ยากในรอบร้อยปีจริงๆ !
แม้แต่หยวนจุนที่อยู่ห่างจากสนามประลองค่อนข้างไกล ยังััได้ถึงพลังยุทธ์ที่หลิวหรูเยียนแสดงออกมา เขาเห็นเพียงลำแสงสามเหลี่ยมสามมิติที่กำลังล้อมรอบเซียวหลงไว้
กรงล้อมอสูรที่ปรากฏนั้นยิ่งขยับยิ่งเล็กลง จนกระทั่งเซียวหลงถูกบีบให้อยู่ในพื้นที่จำกัด แม้เขาจะมีพละกำลังมากกว่าคนทั่วไปถึงสิบเท่า แต่ก็มิอาจทำลายกรงล้อมอสูรได้!
ยิ่งเขาออกแรงมากเท่าไร ขอบเขตของกรงล้อมอสูรก็ยิ่งแคบลงเท่านั้น เขาหายใจลำบาก วิชายุทธ์พลังกายาจึงถูกบีบให้สลายไป
หลิวหรูเยียนอาศัยจังหวะนี้ใช้ปราณดารา นางพุ่งพลังปราณไปยังกรงล้อมอสูรที่ล้อมเซียวหลงอยู่จนตกเวทีประลอง
จากนั้นกรงล้อมอสูรจึงล้มลงแล้วกลายเป็แสงดาว ส่วนเซียงหลงที่พยายามดันตัวลุกขึ้นนั้น เขาหายใจหอบ ก่อนจะเดินกลับที่นั่งโดยไม่เปลี่ยนอารมณ์มากนัก
“ฮาฮาฮา ดูระหว่างลูกชายเ้ากับลูกสาวข้าสิ ผู้ที่เหนือชั้นกว่ากลับเป็ลูกสาวข้า สหายเซียว ล่วงเกินแล้ว!”
เมื่อหลิววั่นซานเห็นชัยชนะครั้งแรกของหลิวหรูเยียนก็หัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ทันที เขารู้สึกถึงความอิ่มเอิบใจอย่างบอกไม่ถูก
“ยอดเยี่ยมจริงๆ สมควรยกย่อง”
เซียวจั้นเป็ถึงผู้นำอันดับหนึ่งของเมือง สำหรับคำพูดของหลิววั่นซานนั้น เขาย่อมใจกว้างชื่นชมอยู่แล้ว
หลังจากหลิวหรูเยียนเดินกลับมา นางยิ้มและย่นจมูกใส่หลิวซินไห่ ก่อนกล่าวว่า “พี่ใหญ่ รอบที่สองยังเป็ข้าอยู่นะ หากเจอกับเซียวหาน ข้าสามารถลดพลังของนางให้ท่านพี่ได้ แต่หากเจอกับต้วนเชียน บางทีข้าอาจชนะเขาก็ได้!”
ครั้นพักได้ครู่หนึ่ง หลิวหรูเยียนจึงก้าวขึ้นสู่สนามประลอง ขณะที่บุรุษท่าทางอ่อนโยนนามต้วนเชียนก็ขึ้นสนามประลองเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าผู้ที่ประลองรอบนี้มิใช่เซียวหานแต่เป็ต้วนเชียน หลิววั่นซานถึงกับต้องนำกำปั้นมาอุดปากที่เกือบจะหัวเราะ ลำดับในการประลองเช่นนี้ ช่างเป็ผลดีต่อเมืองเทียนอวิ่นจริงๆ
ต้วนเชียนเพิ่งโดดเด่น เขาจะเป็คู่ต่อสู้ของหลิวหรูเยียนได้อย่างไร!
“ดวงพี่สาวช่างดีเสียจริง ทุกอย่างล้วนเป็ไปตามความคิดของข้า” หลิวหรูเยียนมองบุรุษท่าทางเงียบขรึมที่ยืนอยู่ตรงข้าม พูดไปก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
ต้วนเชียนพยักหน้า เขายกสองนิ้วขึ้นแล้วเล็งไปยังหัวใจของหลิวหรูเยียน “เช่นนั้นรบกวนพี่สาวปรานีข้าด้วย!”
“ฟ่อ”
ขณะที่หลิวหรูเยียนกำลังจะลงมือ นางได้ยินเสียงอันน่าหวาดกลัวดังมาจากต้วนเชียน เมื่อตั้งสติแล้วมองไป ก็เห็นงูพิษสีเขียวเข้มสองตัวอยู่ในแขนเสื้อของเขา
งูสองตัวนี้ไม่มีอยู่จริง นี่เป็วิธีการต่อสู้อย่างหนึ่งของต้วนเชียน
“งูคู่พันใจ”
ต้วนเชียนควบคุมพลังปราณดาราที่เปลี่ยนเป็งูพิษสีเขียวเข้มสองตัว พวกมันเหมือนกับแถบเชือกสองเส้นประกบกัน ตัวหนึ่งเข้ามา อีกตัวหนึ่งรีบตามติด
การจู่โจมที่รุนแรงเช่นนี้ทำให้หน้าผากของหลิวหรูเยียนเหงื่อออก โดยเฉพาะยามที่ข้างหูนางได้ยินเสียงขู่ฟ่อของงู ร่างกายก็พลันแข็งทื่ออย่างไม่ได้ตั้งใจ
ต้วนเชียนใช้โอกาสนี้ไปอยู่ด้านหลังหลิวหรูเยียน เขาตบไหล่ซ้ายของนางด้วยฝ่ามือ ก่อนจะบังคับให้นางออกจากเวทีประลอง
“ขอบคุณพี่สาวที่ออมมือ!” คำพูดของต้วนเชียนที่ยืนอยู่ขอบเวทีประลองนั้น แฝงไปด้วยการเย้ยหยันและเหน็บแนม
แม้ผลจะเป็เช่นนี้ แต่หลิวซินไห่ก็มิได้แสดงท่าทีกังวลใจใดๆ ออกไป เขาตบเบาๆ ไปที่ไหล่ของหลิวหรูเยียนเพื่อบอกว่าเขาจะชนะการประลองอย่างแน่นอน
เมื่อต้วนเชียนเห็นหลิวซินไห่ลงประลอง เขายอมถอยแต่โดยดี และให้เซียวหานขึ้นประลองแทน
“หลิวซินไห่ ข้าเซียวหานมีความมั่นใจในตนเองพอ ไม่จำเป็ต้องให้ต้วนเชียนตัดกำลังของเ้าเพื่อช่วยข้า สามปีก่อนเ้าพ่ายแพ้ให้ข้าอย่างไร เกรงว่าปีนี้ก็ยังคงเป็เช่นนั้น!”
เซียวหานสะบัดผมยาวสีทองที่ประกายเจิดจ้ากว่าดวงอาทิตย์ ใบหน้างามมาพร้อมกับหน้าอกอิ่มที่สั่นสะท้านยามก้าวเดิน ซึ่งเป็สิ่งที่หาชมได้ยากยิ่ง
“เกรงว่าครั้งนี้คงทำให้เ้าผิดหวังแล้ว!”
หลิวซินไห่ออกตัวและเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด จนเหลือเพียงเงาเลือนรางด้านหลังของเขาเท่านั้น เมื่อเห็นอีกที เขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเซียวหานแล้ว
“ยังใช้วิธีโจมตีเช่นเดียวกับเมื่อสามปีก่อน มิได้ก้าวหน้าขึ้นเลย” เซียวหานซัดมือขาวเนียนออกไปด้วยรอยยิ้ม แม้มิได้หันไปมอง นางก็ยังป้องกันการโจมตีจากหลิวซินไห่ได้
“ปัง ปังปัง”
พลังปะทะกันจนก้อนหินก้อนกรวดที่อยู่บนเวทีประลองกระจัดกระจาย ครั้นมองไปรอบๆ อีกครั้งก็ไม่มีเศษดินเศษฝุ่นอยู่ใต้เท้าพวกเขาแล้ว!
“เคลื่อนท่าเก้าสยบ!”
หลิวซินไห่ซัดพลังเคลื่อนท่าเก้าสยบไปที่แขนของเซียวหาน เสียงจากพลังเคลื่อนท่าดังวนอยู่รอบๆ ตัวนาง เื้ัของทุกเสียงแข็งแกร่งพอที่จะส่งผลรุนแรงต่อพลังของนาง
“ฮู่ ฟ้าว”
ชุดยาวสีอ่อนของเซียวหานถูกแรงพลังจากเคลื่อนท่าเก้าสยบปะทะ ลวดลายของชุดบริเวณใกล้แขนขาดลงมาทันที เผยให้เห็นไหปลาร้าอย่างชัดเจน
สุดท้ายพลังเคลื่อนท่าเก้าสยบก็ผ่านลำคอของนาง ทำให้ผมยาวสีทองถูกตัดเป็กระจุกขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ ผมนั้นค่อยๆ ตกลงสู่พื้น ดูแล้วเหมือนกับด้ายสีทองที่ตกลงมาอย่างเกลื่อนกลาด
“หยาดน้ำแข็งทะลวงปราณ!”
เซียวหานหันไปทางหลิวซินไห่ที่กำลังแสดงฝ่ามือ แววตาเปลี่ยนสีเล็กน้อย จากนั้นพลังปราณเยือกเย็นก็ออกมาจากฝ่ามือของนาง ครั้นอากาศแข็งตัวแล้ว มันกลายเป็หยาดน้ำแข็งพุ่งไปยังจุดลมปราณสำคัญของหลิวซินไห่ทันที
หลิวซินไห่เ็ปจนร้องไม่ออกจึงได้แต่ถอยหลังออกไป เขายกแขนเสื้อคลุมยุทธ์ขึ้น พบว่าบนข้อมือมีน้ำแข็งเกาะอยู่บนจุดลมปราณ
“แตก!”
สิ้นเสียงะโ หลิวซินไห่ก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง สีหน้าเต็มไปด้วยความเ็ปทรมาน ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หลับตาและสลบไปบนเวทีประลอง
“สามปีที่ผ่านมา นอกจากข้าจะบรรลุวงแหวนใหญ่ขั้นห้าได้แล้ว ข้ายังฝึกวิชายุทธ์ที่ยากต่อการควบคุมด้วย นั่นคือการใช้น้ำแข็งหมื่นปีเพิ่มพลังให้ข้า ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางทำได้!”
เซียวหานพูดประโยคนี้ทิ้งท้าย ก่อนจะสะบัดมือให้กลายเป็สายลมอ่อนๆ ผลักหลิวซินไห่ให้ตกเวทีประลอง
“ซินไห่!”
หลิววั่นซานสะดุ้งใราวกับหัวใจกำลังหล่นลงเหว เขารู้สึกปวดร้าวเหมือนดั่งมีดทิ่มแทงหัวใจ
เมื่อหลิวซินไห่กับหลิวหรูเยียนพ่ายแพ้ทั้งคู่ สิทธิ์ในการูเาสองแดนสามสิบปี รวมถึงอนาคตของตระกูลหลิวและเมืองเทียนอวิ่นคงเปลี่ยนแปลงมิได้แล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้