หยวนจุนนั่งขัดสมาธิ ร่างกายภายในััได้ถึงกระแสปราณที่รุนแรงราวกับพายุ เพื่อปรับพลังให้สามารถควบคุมอักษรลับเก้าตะวัน มือของเขาจึงเปลี่ยนแปลงท่าทางไม่หยุด
กลางดึก ทั้งภายในและภายนอกสำนักิเจี้ยนเงียบสงัด เขาััได้ถึงปราณดาราที่สาดลงมาจากฟากฟ้า โดยสถานที่ที่ปราณดารารวมกัน คือบริเวณที่เหล่านักยุทธ์ดูดซับพลังปราณ
แสงสีฟ้าอ่อนของดวงดาวล้วนมาจากกลุ่มดาวที่ต่างกัน จุดเด่นจุดด้อยไม่เหมือนกัน แม้แต่ระดับความเข้มข้นของปราณดาราก็ต่างกันด้วย
หยวนจุนไม่ได้นำหญ้าหลงหยางไปต้มดื่ม เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียพลังโอสถ เขาจึงตัดสินใจเคี้ยวและกลืนไปทั้งต้น!
แม้วิธีนี้จะมีความเสี่ยง แต่ก็สามารถรักษาสรรพคุณของหญ้าหลงหยางได้เป็อย่างดี คนธรรมดาไม่สามารถกลืนลงไปทั้งต้นได้ เนื่องจากจะทำให้เส้นปราณเสียหายอย่างหนัก
ซึ่งหยวนจุนไม่จำเป็ต้องกังวลเื่นี้ เพราะภายในร่างกายเขาไม่มีเส้นปราณอยู่แล้ว...
“ดวงดาวบนฟากฟ้า กลุ่มดาวทั่วทุกสารทิศ หรือแม้แต่ดวงดาวบนทางช้างเผือก ก็มีสถานะสูงต่ำที่ต่างกัน หากสามารถประสานกับปราณธาตุดาวได้ ย่อมมีปราณดาราที่เหนือกว่าผู้อื่น”
ตอนนี้คิ้วของหยวนจุนขมวดขึ้นเล็กน้อย ตามหลักแล้วนักยุทธ์ที่เพิ่งบรรลุถึงระดับดาราวงแหวนขั้นหนึ่ง ส่วนใหญ่ต้องดูดซับปราณดาราที่ธรรมดาที่สุด
ทั้งนี้ก็มีข้อยกเว้น คือ ถ้าสามารถหาปราณธาตุดาวได้ในระหว่างบรรลุ ก็จะมีโอกาสเชื่อมประสานธาตุดาวได้โดยตรง
ตอนนั้นดาวดวงแรกที่หยวนจุนเชื่อมประสานคือดาวจูเชวี่ย เป็ดาวธาตุไฟ นอกจากจะได้ดูดซับพลังปราณที่มากกว่าดาวทั่วไปแล้ว ยังทำให้ร่างกายของเขามีพลังในการควบคุมไฟอีกด้วย
หยวนจุนนำหญ้าหลงหยางเข้าปาก เขาปิดปากสนิทแล้วกลืนลงไปสองสามครั้ง
การดูดซึมพลังโอสถของหญ้าหลงหยาง ทำให้ร่างกายหยวนจุนรู้สึกเ็ปทรมาน อวัยวะภายในเหมือนถูกไฟแผดเผา ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
“ติ๋งติ๋ง”
หยาดเหงื่อบนใบหน้าที่หล่อเหลาหยดลงบนพื้น
แม้จะทรมาน แต่เขาก็ยังยืนหยัดที่จะใช้อักษรลับเก้าตะวันเพื่อบรรลุความสำเร็จ ใช้ร่างสร้างปราณ รวมถึงดูดซับพลังโอสถของหญ้าหลงหยาง ขณะเดียวกันก็เชื่อมประสานกับดวงดาวบนฟ้า โดยพยายามค้นหาปราณธาตุดาวที่เหนือกว่าดาวทั่วไป
เมื่อเวลาผ่านไป พลังโอสถมากมายที่อยู่ในร่างกายก็ทำให้เขาชาไปทั้งตัว หยวนจุนยังคงหลับตา สีหน้านิ่ง แม้จะผ่านไปค่อนคืนแล้ว เขาก็ยังไม่ได้เชื่อมประสานกับธาตุดาวที่เหมาะสม
หลังจากผ่านไปครึ่งก้านธูป จู่ๆ นิ้วของหยวนจุนก็ขยับ
“หาเจอแล้ว! อยู่นั่นเอง!”
เขาแสดงสีหน้าดีใจ หน้านิ่วคิ้วขมวดเปลี่ยนเป็ผ่อนคลาย จากนั้นจึงเริ่มรวมพลังปราณภายในเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการบรรลุ
กลุ่มควันสีเหลืองอ่อนของปราณดาราค่อยๆ ตกลงมายังหลังคาห้องของหยวนจุน พลังปราณพลิ้วไหวดั่งสายน้ำที่หลั่งไหลบนท้องฟ้า ผ่านเข้ามาทางประตู หน้าต่าง แล้วตกลงบนตัวของเขา
ในชั่วพริบตา ร่างกายของหยวนจุนได้ถูกปราณดาราสีเหลืองอ่อนปกคลุม ภายในใจรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก
เห็นได้ชัดว่าปราณดารานี้มีพลังมากกว่าปราณดาราทั่วไป และยังมากกว่าดาวธาตุไฟที่เขาเคยเชื่อมประสานมาก่อนเสียอีก!
“ไม่เลวเลย นี่เป็ดาวอี้เสอที่บันทึกไว้ในตำราดวงดาวโบราณ อยู่อันดับที่ 72 ในหมู่ดาวธาตุไฟ! แล้วก็ยัง...ใกล้กับแกนดาวจูเชวี่ยด้วย!”
เมื่อนึกขึ้นได้หยวนจุนก็ใจนถึงกับอ้าปากค้าง
แม้เป็นักยุทธ์ยอดฝีมือระดับตะวันที่สามารถเข้าใกล้แกนหลักของดาวจูเชวี่ยก็ใช่ว่าจะเชื่อมประสานได้ แต่เขาที่อยู่ในสภาพนี้กลับสามารถเชื่อมประสานกับดาวธาตุไฟที่บันทึกไว้ในตำราดวงดาวโบราณได้!
ใเพียงไม่นาน หยวนจุนก็แสดงความดีใจออกมา แล้วใช้ทุกชุ่น[1] ในร่างกายดูดซับปราณดาราสีเหลืองอ่อนเข้าสู่ภายใน
เขาประสานปราณดาราเข้มข้นจากภายนอกและดูดซับพลังโอสถของหญ้าหลงหยางจากภายใน โดยขณะที่ทุกอย่างกำลังแทรกซึมไปทุกอณูของร่างกาย กระแสปราณทั้งเล็กและใหญ่ก็ค่อยๆ บีบอัดจนเหลือเพียงขนาดเท่าฝ่ามือ
แผ่นกระดาษสีแดงอ่อนลอยอยู่เหนือกระแสปราณ ขณะเดียวกันก็มีควันสีแดงอ่อนวนอยู่รอบๆ อย่างหนาแน่น
หลังจากปราณดาราจากภายนอกผ่านแผ่นกำบังนี้จนเย็นลง ก็จะหลั่งไหลเข้าสู่ด้านในของกระแสปราณ
“เช่นนี้นี่เอง ความลับของแผ่นกระดาษสีแดงนี้ คือช่วยเร่งการกลั่นพลังให้บริสุทธิ์! ปราณดาราที่ถูกแผ่นนี้ทำให้เย็นลงนั้นมีพลังและบริสุทธิ์มากกว่าการดูดซับปราณโดยตรง!”
เมื่อรู้สึกว่ากระแสปราณขยายขึ้น หยวนจุนจึงรวบรวมสมาธิเพื่อเตรียมบรรลุ มือแสดงท่าทางออกมา
กระแสปราณภายในหนาขึ้นเรื่อยๆ จนพลังปราณที่หนาแน่นปะทุออกมา
“ตูม”
จุดตันเถียนของหยวนจุนเป็ศูนย์กลางแผ่ความร้อน อากาศทั้งห้องจึงร้อนขึ้นในทันที
ตอนนี้เขาบรรลุระดับดาราวงแหวนเล็กขั้นหนึ่งสำเร็จ เรียกได้ว่าเป็นักยุทธ์เต็มตัวแล้ว!
“ยังไม่หมดอีกหรือ?” ก่อนที่หยวนจุนจะดึงพลังกลับ เขาสังเกตเห็นว่าพลังโอสถของหญ้าที่หลงเหลืออยู่ภายในมีการผันแปร เมื่อพบต้นเหตุของการผันแปรนี้ก็ทำให้เขาแทบเก็บรอยยิ้มแห่งความดีใจไว้ไม่อยู่
ร่างกายนี้ได้รับยาสารพัดโรคมานานนับสิบปีแต่ไม่เคยเกิดผลอย่างเต็มที่ นำไปสู่การสะสมพลังโอสถภายในครั้งแล้วครั้งเล่า
ขณะที่หยวนจุนบ่มเพาะอักษรลับเก้าตะวัน และเข้าใจแก่นแท้ของการใช้ร่างสร้างปราณแล้ว พลังโอสถที่สะสมไว้ก็ค่อยๆ ถูกปลุกขึ้น
จากประสบการณ์ของเขาในชาติที่แล้ว แสงขนาดเท่านิ้วโป้งที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของพลังโอสถ สามารถดึงฤทธิ์ของหญ้าหลงหยางออกมาได้ทั้งหมด!
หากกระตุ้นพลังโอสถที่อยู่ภายในร่างกายได้ทั้งหมด ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาสามารถไปถึงระดับดาราวงแหวนขั้นห้า!
หากจะกล่าวว่าร่างกายนี้เป็ขุมทรัพย์แห่งพลังโอสถก็คงไม่เกินจริง!
โอกาสแบบนี้หาได้ยาก! ทำให้เขาไม่ต้องใช้พลังมาก ทั้งยังช่วยย่นระยะเวลาในการเลื่อนวงแหวนพลังยุทธ์ด้วย
ขณะที่หยวนจุนกำลังดีใจอยู่นั้น ปราณก็แผ่ออกจากร่างกายเขาอีกครั้ง พลังยุทธ์ที่บ่มเพาะเลื่อนขั้นทันที ทำให้เขาบรรลุได้ในเวลาไม่นาน จากวงแหวนเล็กกลายเป็วงแหวนใหญ่อย่างสมบูรณ์
“ั้แ่กลั่นกระแสปราณไปจนถึงบรรลุระดับดาราวงแหวนใหญ่ขั้นหนึ่ง! ใช้เวลาไม่ถึงห้าวัน...ด้วยเวลาที่รวดเร็วเช่นนี้ ดีกว่าชาติที่แล้วของข้าเสียอีก”
หยวนจุนตื่นเต้นดีใจ ก่อนจะรวมปราณดาราให้เข้าที่เข้าทาง และออกไปด้านนอกเพื่อสูดอากาศหายใจลึกๆ
แต่เมื่อออกไปเขาก็ต้องใ
หยวนฉางเทียนปู่ของหยวนจุน ผู้าุโใหญ่วั่นชางกู่ ผู้าุโรองโต้วหลิง และผู้าุโสามสวี่ฉือจ้ง ชายชราทั้งสี่ยืนเรียงกัน สายตาเบิกกว้างด้วยความใ
เมื่อได้ยินเสียงประตูไม้เปิดออก พวกเขาทั้งสี่ก็เบนความสนใจจากปราณดาราสีเหลืองอ่อนบนท้องฟ้า แล้วมองมายังหยวนจุนที่มีสีหน้าใไม่ต่างกัน
[1] 1 ชุ่น เท่ากับ 1 นิ้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้