“ขอบคุณนะ” กู้เจิงไม่คุ้นชื่อนี้เลยแม้แต่น้อยแต่ดูจากท่าทางเป็กันเองของสาวน้อยคนนี้ก็คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างจางหลี่หนานกับเสิ่นเยี่ยนคงเป็คนรู้จักชอบพอกัน
“เริ่มเอาอาหารขึ้นโต๊ะได้” เสียงคนรับใช้ของจวนตวนอ๋องดังมาจากด้านนอก
บ่าวรับใช้นับไม่ถ้วนเริ่มทยอยบริการอาหารไม่นานอาหารก็ถูกจัดวางเต็มโต๊ะ ล้วนเป็สำรับอาหารสองชนชาติของชาวฮั่นและชาวแมนจูแขกทุกคนต่างถูกดึงดูดด้วยอาหารชั้นเลิศที่ตั้งอยู่ตรงหน้า
กู้เจิงสังเกตเห็นว่าไม่ได้มีแค่กลุ่มสตรีที่ตรงนี้ยังมีกลุ่มสตรีอีกฝั่งตรงข้าม ดูจากการจัดแจงของสาวใช้ที่อยู่ทางนั้นแล้วน่าจะมีฐานะสูงกว่าพวกนางมากคิดว่าคงเป็สตรีที่ได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์หรือสตรีในขุนนางชั้นผู้ใหญ่
ตอนที่กู้เจิงดึงสายตากลับมา นางเห็นปาเม่ยนั่งหลังตรงกินอาหารในชามอย่างละเมียดมะไมปัญหาคือนางกินอาหารชามนี้มาสักพักแล้ว คนอื่นสามารถกลืนลงท้องได้ในคำเดียวนางกลับต้องใช้เวลากินนานถึงเพียงนี้
“เ้ากินคำเล็กเช่นนี้ จะอิ่มหรือ?” กู้เจิงรู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวคนนี้มากนางยังดูเด็กอยู่เลยก็แต่งงานกลายเป็สตรีออกเรือนเสียแล้วแม้กู้เจิงเองก็เป็แบบเดียวกันกับนาง แต่ในใจของนางก็ยังคงรับไม่ได้
“ขะ ข้าอิ่มแล้วเ้าค่ะ” ปาเม่ยยิ้มเขินอาย
กู้เจิงก็ไม่เชื่อว่าปาเม่ยจะอิ่มแล้ว
นางเรียกสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกาย “ตักอาหารให้ฮูหยินน้อยผู้นี้หน่อย”
“เ้าค่ะ” สาวใช้เดินเข้ามาใช้ตะเกียบคีบอาหารบนโต๊ะใส่ชามของปาเม่ย
ปาเม่ยมองมองสาวใช้คีบอาหารให้ตนอย่างงุนงงนางไม่รู้ว่าสาวใช้พวกนี้จะสามารถเรียกใช้ได้
กู้เจิงเคยชินแล้วเพราะชุนหงคีบอาหารให้นางเช่นนี้มาโดยตลอด
เดิมทีฮูหยินที่อยู่โดยรอบล้วนกินอาหารเงียบๆพอเห็นกู้เจิงทำเช่นนี้ก็ล้วนทำตามบ้างทำให้สาวใช้ที่ยืนคอยรับใช้อยู่ด้านข้างต่างเข้ามารีบปรนนิบัติกันให้วุ่น
หลังอาหารค่ำเหล่าฮูหยินทั้งหลายก็พากันไปเดินเล่นในสวนโดยมีสาวใช้นำทาง
ยามเห็นมวลบุปผาและพืชไม้แปลกตาเหล่าฮูหยินล้วนอุทานชื่นชมกันออกมาไม่หยุด
ดอกไม้เหล่านี้ล้วนไม่แปลกตาสำหรับกู้เจิง นางเคยมาเห็นบ้างในเรือนของตระกูลกู้นางจึงคอยมองไปทางห้องโถงใหญ่เป็ครั้งคราว ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนจะทานอาหารเสร็จเมื่อไร
“พี่ใหญ่เสิ่นและคนอื่นๆคงใช้เวลาอีกพักใหญ่ถึงจะทานกันเสร็จเ้าค่ะ” ปาเม่ยเดินตามกู้เจิงมาโดยตลอดสังเกตเห็นที่นางเอาแต่มองไปทางห้องโถงใหญ่
กู้เจิงเดินทิ้งระยะห่างจากกลุ่มใหญ่เพื่อคุยกับปาเม่ยแค่สองคน “ปาเม่ย สามีของเ้ารู้จักสามีข้าได้ยังไงหรือ?”
“พี่ใหญ่เสิ่นได้เคยช่วยพี่หลี่หนานไว้เ้าค่ะหลังจากนั้นเขาก็ติดตามพี่ใหญ่เสิ่นจนได้ขึ้นคุมกองทหารถึงร้อยนาย”
“เื่นี้สามีข้ายังไม่เคยพูดให้ฟังเลย”
“ท่านคิดว่าข้าพูดมากไปหรือไม่เ้าคะ?” ปาเม่ยยิ้มอย่างกระดากอาย
“ข้าคิดว่าเ้าน่ารักมาก เ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?” นางสูงกว่าปาเม่ยครึ่งหัวได้
“ข้าอายุสิบสามปีแล้วเ้าค่ะ”
กู้เจิงคิดว่าตนเองฟังผิดไป “เ้าอายุสิบสามก็แต่งงานแล้วหรือ?”
“ข้าแต่งงานั้แ่อายุห้าขวบเ้าค่ะ” เห็นกู้เจิงมองนางด้วยความประหลาดใจ ปาเม่ยจึงพูดอย่างเหนียมอายว่า“ข้าเป็ภรรยาเลี้ยง[1] ของพี่หลี่หนานเ้าค่ะแต่พี่หลี่หนานบอกว่าการแต่งงานในอดีตนั้นไม่นับ รอเขามีอนาคตที่ดีเขาจะให้ขบวนแบกเกี้ยวมาสู่ขอข้าอย่างยิ่งใหญ่เ้าค่ะ” ปาเม่ยเล่าอย่างเขินอาย
กู้เจิงยิ้มรับ ดูท่าทั้งสองคนคงยังไม่ได้แต่งงานกันอย่างจริงจังสินะ
ในตอนนั้นเองกู้เจิงก็ได้ยินเสียงซุบซินนินทาจากในกลุ่มชมดอกไม้ด้านหน้า “พวกเ้าดูสิ ฮูหยินคนนั้นกำลังเดินมาทางนี้แล้ว”
“คนที่เดินนำหน้าสุดเหมือนจะเป็ฮูหยินของเซี่ยกงเจวี๋ย”
“เซี่ยกงเจวี๋ยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มากคุณชายสายตรงของตระกูลเขาก็เป็สหายร่วมชั้นเรียนกับองค์รัชทายาทั้แ่เด็กข้าได้ยินมาว่าบุตรสาวของฮูหยินใหญ่อาจจะได้เป็ว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาทด้วยนะ”
“คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฮูหยินกงเจวี๋ยคงเป็ฮูหยินแห่งตระกูลฟู่ป๋อเจวี๋ยกระมัง?”
“ก็บุตรสาวนางที่ถูกฉีกกระโปรงต่อหน้าผู้คนยังไงเล่าซ้ำยังถูกบุตรชายอนุตระกูลหนิงเห็นเข้า สุดท้ายก็โดนจับแต่งงานกับตระกูลหนิง”
“ใช่ๆ”
“คนที่เดินอยู่ท้ายสุดล่ะใช่ฮูหยินหนิงแห่งจวนหนิงป๋อเจวี๋ยหรือไม่?”
“ก่อนหน้านี้ฮูหยินทั้งสองยังสนิทสนมกันอยู่ตอนนี้คงได้แตกหักกันแล้ว”
“ความจริงฮูหยินหนิงผู้นี้ก็ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็ธรรมนักบุตรชายอนุคนนั้นไม่ใช่บุตรชายแท้ๆ ของนางเสียหน่อยแต่ตระกูลฟู่กลับตำหนิโทษนางเสียอย่างนั้น”
“ถ้าจะโทษก็ต้องโทษคนที่ฉีกกระโปรงของคุณหนูตระกูลฟู่ นางชื่ออะไรนะ? ”
กู้เจิงรับฟังถ้อยคำนินทาผ่านหูนางมองไปที่ฮูหยินใหญ่ฟู่และฮูหยินใหญ่หนิง นายหญิงตระกูลฟู่เคยพบนางมาก่อนแต่ในเวลานี้อย่าพึ่งได้เจอหน้ากันจะดีกว่า นางเรียกสาวใช้ที่อยู่ข้างๆมาถามเสียงเบาว่า “ห้องน้ำไปทางไหนหรือ?”
“บ่าวจะนำทางท่านไปเองเ้าค่ะ”
“พี่สะใภ้ อยากให้ข้าไปเป็เพื่อนไหมเ้าคะ?” ปาเม่ยถาม
“ไม่ต้องหรอก เ้าเดินเล่นอยู่ที่นี่เถอะ” นางจะไปรอเสิ่นเยี่ยนที่ด้านนอกห้องโถงใหญ่และจะไม่กลับมาที่นี่อีก
สาวใช้นำนางเดินผ่านสวนด้านหลังจวน ที่จัดสวนจำลองฉากวิวทิวทัศน์
“ข้าไม่อยากไปห้องน้ำแล้ว เ้าพาข้าไปยังห้องโถงใหญ่เถอะ” กู้เจิงพูดกับสาวใช้ที่พานางไปห้องน้ำ
“เ้าค่ะ”
เมื่อเดินผ่านระเบียงออกมาบรรยากาศก็สงบขึ้นโคมไฟที่ประดับบริเวณนี้ไม่มากเท่าริมทางเดินที่พึ่งผ่านมา แปลงดอกไม้แปลกๆบางตาลงและถูกแทนที่ด้วยไม้ประดับต่างๆ และหินหยกูเาจำลอง
“ท่านอ๋อง ท่านเมามากแล้ว หนูฉาย[2] จะไปเรียนให้ใต้เท้าทุกท่านกลับกันไปก่อนท่านก็รีบพักผ่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ” เสียงนั้นลอยมาพร้อมกับกลิ่นสุราจางๆ
ยามกู้เจิงได้ยินคำว่าท่านอ๋อง ก็คิดในใจว่า ''ซวยแล้ว'' เป็ไปตามคาดตวนอ๋องเดินออกมาโดยมีคนรับใช้คอยช่วยประคองไว้
กู้เจิงกับสาวใช้หยุดคารวะ
“เป็ฮูหยินน้อยนี่เอง” ‘พ่อบ้านว่าน’ ที่คอยต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าประตูทักนาง“ตวนอ๋องเมาแล้ว ขออภัยที่เสียมารยาท”
กู้เจิงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม นางยืนเงียบๆรอพ่อบ้านประคองท่านอ๋องเดินผ่านไป จังหวะที่ท่านอ๋องเดินผ่านนางนั้น อยู่ๆเขาก็หยุดฝีเท้าลง และหรี่ตามองนาง
กู้เจิงใจเต้นระรัว นี่จะมาหาเื่นางอีกแล้วหรือ?
“เจิงเอ๋อร์? อนุรักของเปิ่นหวัง” ท่านอ๋องผลักบ่าวรับใช้ที่ประคองเขาออก มือจับตัวกู้เจิงไว้แล้วบังคับให้นางเงยหน้ามองเขา
ดวงตาดำสนิทแวววาวมองนางอย่างเมามาย นางมองเห็นร่องรอยความเกลียดชังสะท้อนจากดวงตาคู่นั้น
นางมองอย่างงุนงง ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบ นางกลัวแทบตายเขาเรียกนางว่าอะไรนะ? เจิงเอ๋อร์? อนุรักของเปิ่นหวัง?
“ทะ ท่าน?” กู้เจิงพยายามดิ้นรน
ท่านอ๋องปล่อยตัวนางไป แต่กลับโอบเอวนางไว้แทนเขาออกแรงดึงให้ตัวนางมาชิดกับเขาอย่างแแ่ก่อนจะก้มหน้ามองหญิงสาวที่หน้าซีดเผือดในอ้อมอก ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะเยาะ “เ้าก็กลัวเป็ด้วยหรือ?”
หัวสมองกู้เจิงขาวโพลนไปหมดรับรู้เพียงสีหน้าเ็าของอีกฝ่ายตรงหน้า แม้เขาจะเมามายแต่ก็ยังคงมองนางอย่างเย้ยหยันด้วยใบหน้าอันหล่อเหลา
ตวนอ๋องถอนหายใจเบาๆ สองมือโอบนางไว้ แนบใบหน้าชิดข้างหูนางพึมพำว่า “เหตุใดสตรีเช่นเ้าถึงได้โง่นักนะ”
สาวใช้ที่นำทางกู้เจิงมา รวมถึงพ่อบ้านว่านกับบ่าวรับใช้อีกคนแต่ละคนล้วนหน้าซีดเผือด สตรีที่ถูกท่านอ๋องโอบไว้ในอ้อมแขนตอนนี้เป็ภรรยาของเสิ่นเยี่ยนที่ปรึกษาคนโปรดของเขาเอง
พ่อบ้านว่านเป็คนแรกที่ดึงสติกลับมาได้ เหตุใดจึงเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นได้? เขาหันไปสั่งกับบ่าวรับใช้ว่า “พวกเ้ายังยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบออกไปดูด้านนอกให้ดี และอย่าให้ใครเข้ามา”
“ขอรับ” บ่าวรีบวิ่งออกไป
“ทำยังไงดี ทำยังไงดี?” พ่อบ้านว่านพึมพำอย่างจนใจ
กู้เจิงใดิ้นขัดขืน นางใช้ทั้งหมัดและเท้าจนสามารถผลักท่านอ๋องออกไปได้ในที่สุด
“เ้า ไอ้คนสารเลว” กู้เจิงชกไปยังใบหน้าของท่านอ๋องด้วยความเกรี้ยวโกรธหมัดเดียวยังไม่พอ เท้ายังเตะเข้าที่ท้องของเขาอย่างแรงจนท่านอ๋องล้มไปนอนกับพื้น
“ท่านอ๋อง” พ่อบ้านว่านพุ่งเข้าไปประคองท่านอ๋องที่ฟุบอยู่กับพื้นขึ้นมาแต่เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงกรนของท่านอ๋อง เขาดันหลับไปเสียแล้ว
---------------------------------------------
[1] ภรรยาเลี้ยง หมายถึง ประเพณีการเลี้ยงเ้าสาวเด็กในสมัยโบราณ(การเลี้ยงต้อยเด็ก)เป็การหาเด็กผู้หญิงมาเลี้ยงเมื่อโตเป็สาวก็จะบังคับให้แต่งงานกับบุตรชายของตนเอง
[2] หนูฉาย เป็สรรพนามเรียกแทนตนของขันทีรับใช้ในวัง