เย่ชิงโหรว หญิงสาวผู้คว้ามงกุฎดารานักแสดงนำหญิงชาวหัวเหรินคนแรกบนเวทีออสการ์ เธอมีรูปร่างสูงสง่างามจนเอาชนะดาราสาวฮอลลีวูดและนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ตได้ขาดรอย
ไม่ต้องพูดถึงใบหน้าอันไร้ที่ติและงดงามตามแบบฉบับตะวันออกโบราณ ซึ่งสร้างความอิจฉาให้กับหญิงสาวตะวันตกมาอย่างช้านาน
โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงที่สูง 187 เิเมักมีหน้าอกหน้าใจไม่ใหญ่นัก แต่สำหรับเย่ชิงโหรวแล้ว ราวกับเทพเ้าประทานพรให้เธอทั้งหมด เพราะหน้าอกของเธอนั้นเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนสมฉายา "ราชินีบิ๊กไซซ์"
ทว่าเทพเ้ากลับสร้างเธอเป็หญิงสาวผู้ไร้ความ้าทางเพศ ไม่สามารถมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวหรือมีบุตรได้
แต่เพื่อเป็การชดเชย เทพเ้าจึงประทานรูปโฉมและรูปร่างอันสมบูรณ์แบบให้กับเธอ
ภายใต้ใบหน้าและรูปร่างอันไร้ที่ติ ทุกท่าทางทุกอิริยาบถของเย่ชิงโหรวล้วนดึงดูดใจชายหนุ่มนับไม่ถ้วน
และแล้วในตอนนี้
ท่ามกลางสายตาจับจ้องของผู้คนมากมาย ในที่สุดเธอก็ก้าวออกจากรถ
งดงามเสียจนมัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา รูปร่างเพรียว เว้าโค้งได้สัดส่วน ไร้ที่ติในทุกมุมมอง และตอบสนองความงามของทุกผู้คน
แต่สิ่งเดียวที่เธอทำ กลับเป็การแต่งงานใหม่กับหนุ่มเ้าสำราญผู้ทรงอิทธิพล
เมื่อเ้าสาวเย่ชิงโหรวก้าวออกจากฝั่งข้างคนขับ สองเพื่อนเ้าสาวที่นั่งเบาะหลังก็เปิดประตูรถตามออกมา
ทั้งสองคนคือธิดาเพลงรัก จ้าวเสี่ยวเยว่ และนางเอกเ้าของรางวัลงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ หลี่ฉินหลวน
พวกเธอสวมชุดเพื่อนเ้าสาวสไตล์ตะวันตก คนหนึ่งสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบหก อีกคนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปด ทั้งสองต่างมีความสูงที่เหมาะกับการเป็นางแบบ
หลังจากเฉินเฟิงเตะเฉินฝูกระเด็นไกลออกไป เขาแบกโลงลูกสาว แล้วออกแรงะโหมุนตัวกลับมาอย่างช้าๆ เหนือรถหรูอีกครั้ง
เขาร่อนลงตรงหน้าทั้งสาม
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของหนุ่มรูปงามนามเฉินเฟิงที่สูงหนึ่งร้อยเก้าสิบห้าในชุดนายน้อยแห่งหุบเขาหมอยาะ
จ้าวเสี่ยวเยว่กับหลี่ฉินหลวนก้มลงคุกเข่าโดยไม่ลังเล แม้ว่าทั้งสองจะใส่ชุดเ้าสาวรัดตัวอยู่ก็ตาม
"ศิษย์น้องสิบ! ห้าปีที่ผ่านมา พวกเราจำต้องตีสนิทกับเย่ชิงโหรวเพื่อปกป้องนายอย่างลับๆ และได้กลายเป็เสาหลักของบริษัทเฉียนจินเอนเตอร์เทนเมนท์ ก่อนหน้านี้ที่โรงแรมตระกูลเย่ก็ได้แสดงละครว่าไม่รู้จักนาย ปัจจุบันยังรับหน้าที่เป็เพื่อนเ้าสาวของหล่อนในการแต่งงานกับเฉินฝู ฉันหวังว่านายจะเข้าใจ..."
จ้าวเสี่ยวเยว่และหลี่ฉินหลวนเปล่งเสียงทรงพลังแต่แฝงด้วยความนอบน้อมพร้อมเพรียงกัน ในน้ำเสียงมีความรู้สึกสำนึกผิดปะปนอยู่ด้วย
"ลุกขึ้นเถอะ ผมรับรู้เื่ราวทั้งหมดแล้ว พวกเธอทั้งสองตอนนี้ชื่อเสียงเลื่องลือ คนหนึ่งเป็ราชินีเพลงรัก อีกคนเป็ราชินีภาพยนตร์ คุกเข่าลงแบบนี้เสียชื่อหมด เพียงแต่ไม่รู้ว่าทักษะด้านการแพทย์ของพวกคุณยังจะดีเช่นเดิมหรือไม่ ผมคงต้องสั่งสอนพวกคุณสักประโยค พวกคุณออกนอกลู่นอกทางเกินไปแล้ว พี่แปด พี่เก้า"
เฉินเฟิงยิ้มจางๆ โบกมือเบาๆ แล้วพยุงจ้าวเสี่ยวเยว่ขึ้นเป็คนแรก
ด้วยทักษะด้านการแพทย์ของเฉินเฟิง เพียงแค่เขาเหลือบมองชั่วครู่ก็รู้
แม้จ้าวเสี่ยวเยว่และหลี่ฉินหลวนจะย่างเข้าอายุยี่สิบแปดแล้ว
แต่พวกเธอยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง
พวกเธอโลดแล่นในวงการบันเทิงเนิ่นนานถึงห้าปี มีโอกาสได้พบเจอชายหนุ่มหน้าตาดีมากมาย
แต่ไม่มีดาาายคนใดที่ครองใจและกายอันแสนหอมหวานของพวกเธอได้
เพราะจริงๆ แล้ว ศิษย์พี่เก้าเป็เ้าสาวที่ท่านอาจารย์เซียนแพทย์ตระเตรียมไว้ให้เขา
เขาโอบรอบเอวจ้าวเสี่ยวเยว่หลังช่วยพยุงให้เธอลุกขึ้น
ส่วนเย่ชิงโหรว เฉินเฟิงไม่แม้แต่จะปรายตามองเธอด้วยซ้ำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ได้จดทะเบียนหย่าร้างกันแล้ว ส่วนเื่การชิงตัวเ้าสาวเป็เพียงกลอุบายเท่านั้น
เป้าหมายที่แท้จริงคือเฉินฝูและตระกูลเฉิน
เฉินเฟิงวางแผนใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ ทำให้อดีตภรรยาอย่างเย่ชิงโหรวกลับมาตกหลุมรักเขาอีกครั้ง
ถึงตอนนั้น อาจเป็เขาเองที่อาจยอมรับตัวเย่ชิงโหรวกลับมาอีกครั้ง
“ศิษย์น้อง ความรู้ทางการแพทย์พวกเราไม่กล้าละเลย หากนายไม่เชื่อ สามารถทดสอบพวกเราได้ทุกเมื่อ”
เมื่อจ้าวเสี่ยวเยว่ถูกเฉินเฟิงโอบรอบเอว ใบหน้างดงามนั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุขผสมความตื่นเต้นเล็กน้อย
ส่วนหลี่ฉินหลวนที่ลุกขึ้นยืนด้วยตนเองแล้ว เธอก็มองจ้าวเสี่ยวเยว่ด้วยสายตาอิจฉา อิจฉาที่เธอถูกเฉินเฟิงโอบกอด
ั้แ่เด็ก สายสัมพันธ์ระหว่างน้องเก้ากับน้องสิบนั้นแข็งแกร่งที่สุด
ดังนั้นเมื่อแสดงละครชิงตัวเ้าสาวไม่สำเร็จ เขาจึงเลือกชิงเพื่อนเ้าสาว หรือจ้าวเสี่ยวเยว่แทน
เย่ชิงโหรวที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกอยู่ในใจลึกๆ ว่า ถูกอดีตสามีเมินเฉยอย่างสิ้นเชิงเสียแล้ว
ตอนนี้เธอยังได้ยินลูกน้องและเพื่อนสนิทใกล้ตัวสองคนพูดว่า ที่เข้าหาเธอก็เพื่อปกป้องเฉินเฟิงจากในเงามืด
เย่ชิงโหรวรู้สึกว่าตนเป็คนล้มเหลว ล้มเหลวทั้งชีวิตแต่งงาน ล้มเหลวทั้งมิตรภาพระหว่างมิตรสหาย
“เฉินเฟิง พวกคุณสามคนมาจากไหนกันแน่ มีความเกี่ยวข้องกันยังไง?” ในขณะที่สบกับตากับเฉินเฟิง เย่ชิงโหรวก็ถามทั้งสามด้วยความรู้สึกเ็ปและขุ่นเคือง
“ห้าปีก่อน คุณแกล้งทำเป็สูญเสียความทรงจำ แฝงตัวเข้าใกล้ฉัน จริงๆ แล้วเป็แผนการจัดการกับตระกูลเย่หรือเปล่า?”
“เย่ชิงโหรว ฉันไม่ได้พูดเกินจริงนะ… แต่เธอเป็เพียงแค่ผู้นำตระกูลเย่ ยังไม่คู่ควรจะรู้ว่าพวกเรามาจากไหน แผนการ? ฮ่าๆ… แมลงตัวเล็กๆ อย่างตระกูลเย่ไม่คู่ควรให้ศิษย์น้องของฉันใช้การแผนใดๆ กับพวกเธอหรอก ถ้าเขาอยากจัดการกับตระกูลเย่จริงๆ เขาใช้กำลังบดขยี้ตรงๆ ก็ได้อีกอย่าง ศิษย์น้องของฉันเกี่ยวอะไรกับเธอ? เขาหย่ากับเธอแล้วั้แ่เมื่อวานไม่ใช่เหรอ? ส่วนเธอวันนี้ก็กำลังแต่งกับเฉินฝู”
หลี่ฉินหลวนรีบพูดแทรกเฉินเฟิงก่อนที่เขาจะตอบคำถามเย่ชิงโหรว ใบหน้างดงามของเธอในยามนี้เต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
ก่อนหน้านี้ที่โรงแรมตระกูลเย่ เธอยังคงมีความเกรงใจสถานะของพี่เจ็ดหลินอ้าวเยว่ และเพื่อลดผลกระทบด้านลบให้มากที่สุด พวกเธอเหล่าศิษย์พี่ศิษย์น้องจึงต้องเสแสร้งว่าพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกัน ทุกอย่างเป็เพียงละคร
แต่ตอนนี้ คนของตระกูลเย่ก็มีเพียงเย่ชิงโหรวคนเดียว พวกเธอจึงไม่จำเป็ต้องสวมหน้ากากอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ด้วยสติปัญญาของเย่ชิงโหรว ตัวตนที่ลึกลับซับซ้อน จริงบ้างปลอมบ้างของเฉินเฟิง เธอคงยืนยันได้ไม่แน่ชัด อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้
เฉินเฟิงพยักหน้ารับเบาๆ โดยยังไม่มองเย่ชิงโหรวแม้แต่น้อย
พูดจบ หลี่ฉินหลวนเดินเข้าหาเฉินเฟิงจากทางด้านซ้าย เพื่อยืนอยู่ด้านข้างเขา
"พวกเราเข้าไปพร้อมกันเถอะ ไปกับผม ข้ามกำแพงบ้านตระกูลเฉินเข้าไปเลย วันนี้ได้กลับมาเหยียบตระกูลเฉินที่ถีบส่งผมออกจากตระกูลไปเมื่อสิบเก้าปีก่อน เป้าหมายหลัก..."
หลังจากเฉินเฟิงสั่งการอะไรบางอย่างให้จ้าวเสี่ยวเยว่และหลี่ฉินหลวนฟัง เขาก็เป็คนแรกที่ะโถีบตัวออกไปด้วยพละกำลังมหาศาล
เขาอุ้มโรงหยกเย็น และบุกกระโจนข้ามกำแพงบ้านตระกูลเฉินที่สูงใหญ่เข้าไปด้านใน
เพราะวันนี้เป็วันจัดพิธีสำคัญของทายาทตระกูลเฉินอย่างเฉินฝู วันแต่งงานกับเย่ชิงโหรวผู้นำตระกูลเย่คนปัจจุบัน
ด้วยเหตุนี้เอง สมาชิกในตระกูลเฉินทุกคนจึงมารวมตัวกันในลานบ้านต้นตระกูลอันเก่าแก่แห่งนี้
ดั้งเดิมลานบ้านเต็มไปด้วยโคมไฟสีแดงและดอกไม้มงคล บรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริง
แต่หลังจากเฉินฝูถูกเฉินเฟิงถีบจนแขนหักและกระเด็นกลับเข้ามาในบ้าน
เหล่าสมาชิกตระกูลเฉินทุกคนต่างเต็มไปด้วยความคลั่ง
โดยเฉพาะเหล่าศิษย์ของตระกูลเฉินที่คิดว่าตัวเองมีฝีมือ ต่างก็รู้สึกโกรธแค้นและ้าแก้แค้นให้กับเฉินฝู
