กู้จวิ้นเฉินยกมุมปากขึ้น ยื่นมือออกไปหยิบหยกที่อยู่บนคอของหลี่ลั่ว “หยกล้ำค่าเช่นนี้ ต่อไปอย่าได้ใส่ออกมาข้างนอกอีก” พูดแล้วก็ดึงปกคอเสื้อของหลี่ลั่ว นำหยกชิ้นนั้นใส่เข้าไปด้านใน จากนั้นยังช่วยหลี่ลั่วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยอีกด้วย
แววตาของหลี่ลั่วเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ได้แปลกใจที่กู้จวิ้นเฉินจำหยกชิ้นนี้ได้ เจตนาของเขาคือ้าให้ผู้อื่นจำหยกชิ้นนี้ได้ เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าหยกชิ้นนี้เป็หยกที่ฝ่าาพระราชทานให้แก่เขา
การกระทำของกู้จวิ้นเฉินทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโถงต่างก็ตกตะลึง ในเมืองหลวงไม่มีผู้ใดไม่รู้จักฉีอ๋อง พระราชนัดดาที่จ้าวหนิงฮ่องเต้ทรงโปรดปรานที่สุด ต่อให้เป็พระโอรสมายืนอยู่เบื้องหน้าเขาก็ยังต้องหลีกถอยให้เขาสามส่วน และอุปนิสัยของเขานั้นเรียบเฉยเ็ายิ่ง น้อยนักที่จะออกมาข้างนอก คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาเยือนจวนจงหย่งโหว ต่อให้เป็เพราะความสัมพันธ์ของหลี่ต้าน นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้จวนจงหย่งโหวได้หน้าแล้ว
“เปิ่นหวาง[1]อยู่ที่นี่ก็รังแต่จะทำให้ทุกท่านอึดอัด มิสู้เปิ่นหวางไปนั่งที่เรือนเสี่ยวโหวเหฺยดีเล่า” ฟังดูแล้วเหมือนคำถาม แต่กลับไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ตอบหรือถาม
“ดีพ่ะย่ะค่ะ เชิญท่านพี่ฉีอ๋องทางนี้” หลี่ลั่วยื่นมือไปจับมือของกู้จวิ้นเฉิน
มือของกู้จวิ้นเฉินกำแน่น เขาหลุบตาลง ดวงตาที่กระจ่างใสหากกลับลึกลับน่าค้นหาเสมือนน้ำนิ่งในบ่อลึกนั้นมองไปที่หลี่ลั่ว ทว่ารอยยิ้มของเด็กน้อยช่างอ่อนหวานนัก ทั้งบริสุทธิ์และสดใสดุจแสงอาทิตย์ที่สว่างเจิดจ้า มือของเด็กน้อยมีความอบอุ่นอยู่เล็กน้อยเนื่องด้วยมาจากสภาพอากาศใน่ฤดูนี้ “เชิญเสี่ยวโหวเหฺยนำทาง” น้ำเสียงของกู้จวิ้นเฉินไม่ได้เป็เสียงทุ้มต่ำเหมือนดั่งชายที่เติบเป็หนุ่มใหญ่ ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยความเยือกเย็น เหมือนกับมือของเขานั่นแหละ
ใช่แล้ว เมื่อสักครู่ที่จับมือของกู้จวิ้นเฉินหลี่ลั่วเกือบจะสะบัดมือออก มือของเขาเย็นมาก หากจะบอกว่าเย็นเหมือนน้ำแข็งในฤดูหนาวก็คงไม่ผิดนัก หากเป็ผู้ที่มีธาตุเย็นอยู่ในร่างกายมากเกินไปหรือว่าผิวกายเย็นเยียบอยู่แล้วก็ไม่ควรที่จะเย็นถึงเพียงนี้ ทันใดนั้น หลี่ลั่วก็นึกถึงคำพูดเมื่อวานในวังหลวง เื่นี้จะเกี่ยวกับร่างกายที่อ่อนแอของเขาหรือไม่นะ?
ทว่าหากร่างกายอ่อนแอก็ไม่น่าจะทำให้มีร่างกายที่เย็นเฉียบปานน้ำแข็งได้เช่นนี้ หรือว่า...จะเป็ผลที่เกี่ยวเนื่องมาจากโอสถกัน
หลี่ลั่วเดินไปคิดไป คิดจนคิ้วทั้งคู่ขมวดเข้าหากันแน่น
กู้จวิ้นเฉินเกิดความสงสัย เด็กน้อยคนนี้...กำลังคิดสิ่งใดอยู่กัน
แต่พวกเขายังไม่ทันได้ก้าวออกไปจากเรือนว่านโซ่ว ของขวัญที่ชิ้นใหญ่ยิ่งกว่าก็ได้มาถึง
“มีราชโองการ...จงน้อมรับพระบรมราชโองการจากฮ่องเต้”
ราชโองการหรือ? คนทั้งหมดที่อยู่ในห้องโถงต่างได้ยินกันถ้วนหน้า ผู้ที่เป็ประธานอย่างจงกั๋วกงฮูหยินและหลี่เหล่าไท่ไท่ต่างก็ออกมา
“ไปเรียนเหล่าไท่เหฺยเสีย” หลี่เหล่าไท่ไท่กล่าว
“เ้าค่ะ”
หลี่ลั่ว กู้จวิ้นเฉิน และหลี่ต้านเป็ผู้ที่มาถึงก่อนผู้อื่น
“ไห่เหฺยเหฺย” ผู้ที่นำเสด็จราชโองการคือไห่กงกง จ้าวหนิงฮ่องเต้ได้ให้หน้าแก่หลี่ลั่วแล้วจริงๆ ขนาดกู้จวิ้นเฉินยังรู้สึกคาดไม่ถึงอยู่หลายส่วนเมื่อเห็นไห่กงกง
ทว่าเมื่อไห่กงกงเห็นกู้จวิ้นเฉินก็รู้สึกคาดไม่ถึงอย่างยิ่งเช่นกัน “บ่าวถวายบังคมฉีอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
“ตามสบายเถิด” กู้จวิ้นเฉินตอบ
“ขอบพระทัยฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ” ไห่กงกงยิ้มจนตาหยี มองดูแล้วราวกับพระยิ้มอย่างไรอย่างนั้น “เสี่ยวโหวเหฺยน่ารัก เฉลียวฉลาด คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องเองก็ยังชมชอบเช่นนี้” ไฉนจะมิชมชอบคนเขาเล่า สองมือกอบกุมกันเช่นนี้ กระนั้นแล้วไห่กงกงจึงมีความคิดดังกล่าว
หากกู้จวิ้นเฉินปล่อยมือของหลี่ลั่วในตอนนี้ จะเป็การแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขากำลังเขินอายอยู่ “ไฉนจะมิใช่เล่า เสี่ยวโหวเหฺยน่ารักยิ่งนัก” กู้จวิ้นเฉินเอ่ยไปตามน้ำ
หลี่ลั่วผู้ถูกกล่าวถึงว่าน่ารัก ในใจนั้นให้รู้สึกกดดันเป็อย่างยิ่ง เขารู้สึกว่าที่ตนเองแสดงตนเป็เด็กน่ารักเชื่อฟังผู้ใหญ่เช่นนี้นับว่าเป็การกระทำที่ไร้ยางอายอย่างถึงที่สุดของตนแล้ว
“ไห่กงกงมีเมตตา ท่านพี่ฉีอ๋องเป็กันเอง ข้าเองก็ชมชอบพวกท่านเช่นกันขอรับ” แม้ในใจจะให้รู้สึกชังน้ำหน้าตัวเองยิ่งนัก แต่ทว่าปากของหลี่ลั่วนั้นก็ยังคงหวาน...เสียจนเรียกว่าไหลไปตามน้ำด้วยแล้ว
กู้จวิ้นเฉินเลิกคิ้ว ไม่ว่าจะเป็เสด็จอาหรือว่าไห่กงกงที่ไม่เข้าใครออกใครผู้นี้ต่างก็ปฏิบัติต่อเสี่ยวโหวเหฺยท่านนี้ด้วยความใจกว้าง ให้อภัย และตามใจอยู่หลายส่วน วันนี้นับว่าเขาได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ความใจกว้างและให้อภัยนี้ได้มาจากความปากหวานของเสี่ยวโหวเหฺยผู้นี้นั่นเอง
“บ่าวขอบคุณที่เสี่ยวโหวเหฺยชมชอบขอรับ” ไห่กงกงยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา หากเป็ผู้ที่ไม่รู้เื่รู้ราวมาเห็นอาจจะเข้าใจได้ว่าหัวหน้าขันทีข้างกายจ้าวหนิงฮ่องเต้ผู้นี้เป็ผู้ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขอยู่เป็นิจ
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกขอรับ” หลี่ลั่วปล่อยมือของกู้จวิ้นเฉิน จากนั้นเดินมาถึงด้านหน้าของไห่กงกง หลี่ลั่วดึงแขนเสื้อของเขาแล้วกระซิบถาม “ไห่เหฺยเหฺย ฝ่าาทรงมอบของขวัญอันใดให้กับข้าหรือขอรับ”
“ฮ่าๆๆ...” ไห่กงกงหัวเราะเสียงดังทันที “ท่านลองทายดูสิขอรับ”
[1] เปิ่นหวาง (本王) เป็คำเรียกแทนตัวเองของท่านอ๋อง