สวี่ตี้เข้าสอบเซียงซื่อต้นเดือนแปด สอบเสร็จแล้วก็กลับไปนอนที่เรือนสองวัน จากนั้นก็เป็เทศกาลไหว้พระจันทร์
เทศกาลไหว้พระจันทร์ในจวนเป็ไปอย่างสนุกสนาน
จวนหย่งหนิงโหวในรุ่นก่อนหน้านี้มีบุตรสาวสี่คน นอกจากสวี่สาวที่อยู่ในเมืองหลวง อีกสามคนแต่งไปอยู่ไกลมาก ที่ไกลที่สุดคือสวี่เยวี่ยนที่อยู่ตีนเขาไท่ซาน ซึ่งนางเป็บุตรสาวคนที่สองของหย่งหนิงโหวเย่ บุตรสาวทั้งสองคนของสวี่ฉี คนหนึ่งแต่งไปที่เทียนจิน อีกคนแต่งไปที่ชานเมืองหลวง ต่างพากันรีบมาฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่จวนโหว
เหล่าเด็กๆ ในจวนรู้ถึงความดีของฮูหยินผู้เฒ่าแน่นอน โดยเฉพาะแม่นางที่แต่งงานออกไป ก่อนที่จะแต่งงานออกมาล้วนได้รับถุงเงินที่ฮูหยินผู้เฒ่าแอบมอบให้ สั่งให้เก็บรักษาตั๋วเงินนี้ให้ดีเสมือนเป็เหมือนร่างกายตนเอง และอย่าให้มารดาของตนรู้เด็ดขาด เพราะสิ่งนี้ แม่นางที่แต่งงานออกไปแล้วมักจะส่งคนให้นำของมามอบให้ฮูหยินผู้เฒ่าเสมอ พอได้โอกาสกลับมาก็จะพาเหล่าลูกๆ มาเยี่ยมฮูหยินผู้เฒ่า
หลังจากผ่านเทศกาลไหว้พระจันทร์ไป รอจนคะแนนสอบเซียงซื่อของสวี่ตี้ออกมา จางจ้าวฉือก็จะพาลูกทั้งสามคนกลับเหอซี สวี่เหราอยู่ที่เหอซีคนเดียวมาปีกว่าแล้ว นางไม่สบายใจ
จางจ้าวฉือแอบบอกกับสวี่ตี้ว่า หากมีโทรศัพท์ก็คงจะดี ปกติแล้วหากไม่ได้อยู่ด้วยกันก็จะวิดีโอคอล ถึงแม้จะแยกกันนานแล้วก็ไม่รู้สึกคิดถึง ตอนนี้กลับทำไม่ได้ การเดินทางก็ทำได้แค่การเดิน ความปลอดภัยก็พึ่งสุนัข การติดต่อก็พึ่งการะโ เขียนจดหมายนานถึงสิบวันครึ่งเดือนจดหมายจึงจะไปถึง ตรอกซอกซอยหนึ่งบางครั้งก็ใช้เวลาหนึ่งเดือน เป็ชีวิตที่แสนเชื่องช้า
สวี่ตี้ช่วยหนิงซื่อ โจวซื่อ เฉินซื่อ เหยาซื่อเขียนหนังสือวางแผนอย่างละเอียดฉบับหนึ่ง ให้พวกนางเอาไปให้เ้าของร้านค้าดู ตอนนี้ได้เริ่มดำเนินการใช้จริง ผลสรุปออกมาถือว่าไม่เลว
ความจริงแล้วสวี่ตี้ให้ร้านของพวกนางเอาของที่ค่อนข้างดีออกมาขาย เป้าหมายคือสินค้าคุณภาพสูง เอาของที่ขายวางไว้ด้านใน แล้วนำพวกกล่อง ตะกร้าสานมาเป็บรรจุภัณฑ์ หากมีการสอบระดับเซียงซื่อกับระดับฮุ่ยซื่ออีก ก็จะผลักดันเอาของที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้สอบมาวางขายโดยเฉพาะ อย่างเช่นเปลี่ยนของมาเป็กระเป๋าใบเล็กๆ ้ายังเขียนมงคลเอาไว้ เช่น ขอให้สอบติดขุนนาง สอบติดอันดับหนึ่งของระดับฮุ่ยซื่อ เป็ต้น แล้วก็ยังมีร้านขนมหวาน ทำขนมหวานที่เหมาะสมกับการสอบ จากนั้นก็ใช้ตะกร้ามาใส่ขนม ส่วนมากคนที่ไปเข้าร่วมการสอบจะเป็ซิ่วไฉ กับจวี่เหรินที่รีบเดินทางมาจากด้านนอก มีของสำเร็จรูปขายอย่างนี้อยู่มีหรือที่จะต้องลำบากเตรียมมาด้วยตนเอง?
ร้านผลไม้แห้งกับร้านเครื่องเขียนก็ทำเช่นเดียวกัน จะต้องเตรียมของที่ทั้งดีทั้งใช้งานได้จริง ที่สำคัญที่สุดก็คือ จะทำให้คนที่รีบเดินทางมาสอบเ่าั้เห็นแล้วสามารถสร้างความโดดเด่นให้ตนเองได้ เช่นนี้ยังจะต้องกังวลว่าจะขายไม่ออกอยู่อีกหรือ?
ส่วนบ้านสวนเล็กๆ สี่หลังนั้น สวี่ตี้บอกว่าจะต้องไปดูก่อนค่อยว่ากัน ดูว่าดินเหมาะสมกับการเพาะปลูกอะไร ปลูกอะไรถึงจะได้ผลดี ตอนนี้หากสวี่ตี้อยากจะใช้มันแกวมาทำเป็แป้ง ถึงตอนนั้นก็จะไปดูที่บ้านสวนทั้งสี่ ที่ดีที่สุดคือหาสถานที่ที่มีแหล่งน้ำค่อนข้างสะดวก แล้วจะต้องเป็ความลับหน่อย ตอนนี้อย่างอื่นยังไม่ต้องพิจารณา ขอแค่ในมือมีเงินยังจะต้องกังวลว่าชีวิตจะไม่ดีอีกหรือ?
สวี่ตี้รู้สึกว่าเวลาของตนเองนั้นไม่เพียงพอ สอบเสร็จกลับมาพัก อาศัย่เทศกาลไหว้พระจันทร์สองวันพาองครักษ์หลายคนในจวนไปที่บ้านสวนทั้งสี่แห่ง พอไปถึงก็พบว่าฮูหยินผู้เฒ่านั้นได้นำเอาสวนทั้งห้าที่อยู่ค่อนข้างใกล้มามอบให้ลองบริหารจัดการ นี่ล้วนเป็ดินที่ไม่ค่อยจะมีสารอาหารมากนัก นี่คือที่ที่มารดาของเขาได้ทำจุดแต่ละตำแหน่งมาให้ ว่าเป็สถานที่ที่อยู่ใกล้ๆ กับูเาเล็กๆ ระหว่างกลางสวนทั้งห้ายังมีสวนของคนอื่นๆ แทรกกลางอยู่อีก โชคดีที่ใกล้ๆ ยังมีแม่น้ำสายหนึ่งไหลมาจากูเา ลูกหนึ่งไหลลงมา ก่อนจะไหลผ่านหลายสวนนี้ จนกลายเป็เส้นทางแม่น้ำ
ในเมื่ออยากจะทำเส้นหมี่ เช่นนั้นทางที่ดีที่สุดที่ตรงนี้ต้องเป็ของตนเองทั้งหมด สวี่ตี้มีใจอยากจะได้สวนที่เหลือของคนพวกนี้ หลังจากซื้อที่ตรงนี้ไปแล้วก็ปลูกมันแกวให้หมด จากนั้นก็เปิดโรงงานทำเส้นหมี่ เช่นนี้ก็ไม่ต้องกังวลเื่หาเงินไม่ได้แล้วใช่หรือไม่?
คิดได้แล้วก็ลงมือทำ พอดีกับเ้าของที่ดินพวกนี้หาเงินได้ไม่เท่าไหร่เพราะดินไม่ดี สวี่ตี้ส่งคนไปสอบถามก็ได้ความว่าทางเ้าของที่ตกลงจะขายให้
หลังจากเทศกาลไหวพระจันทร์ผ่านไปได้หลายวัน สวี่ตี้ถึงได้ซื้อสวนพวกนี้ได้ หลังจากนี้ที่ดินแถบนี้ก็เป็ของสกุลสวี่แล้ว ก่อนจะล้อมที่ดินตรงนี้ หลังจากเก็บมันแกวในตอนฤดูหนาวแล้วก็เก็บเอาไว้ในโรงงาน จากนั้นก็เริ่มทำเส้นหมี่
คิดถึงหมูสับผัดเส้น เส้นใหญ่ผัดไก่ สวี่ตี้อยากจะกินสักถ้วยในตอนนี้ พอคิดถึงเส้นใหญ่ๆ นั้น ใส่ลงไปในหม้อไฟต้มจนใสแล้วแช่ในน้ำหม่าล่า รสชาติคงจะอร่อยสุดยอด
ก่อนที่สวี่ตี้จะซื้อที่ดินพวกนี้มาก็ได้เอาความคิดของตนเองไปคุยกับฮูหยินเฒ่าก่อน นางบอกว่าจะออกเงินซื้อที่ดินตรงนี้ให้ แต่ว่าสวี่ตี้ไม่ยอม เขาจะออกเงินด้วยตนเอง เขาวางแผนเอาไว้ดีแล้ว จะให้เหล่าป้าสะใภ้น้าสะใภ้เอาสวนในมือของตนเองมาเข้าร่วมเป็หุ้นส่วน ส่วนต่อมาก็ปลูกมันแกวทำเส้นใหญ่ ทั้งหมดนี้เขาจะหาคนมาทำ หาเงินมาได้ก็ปันส่วนกันตามอัตราส่วนในตอนสิ้นปี ส่วนจะแบ่งอย่างไรนั้น ก็จะเขียนสัญญาโดยให้ฮูหยินผู้เฒ่าเป็พยาน
เขาได้เชิญบรรดาป้าสะใภ้น้าสะใภ้มาในเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า ทุกคนก็ต่างมานั่งกันในห้องพักผ่อนของฮูหยินผู้เฒ่า บนโต๊ะวางพู่กันกับหมึกเอาไว้ ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะเหอะๆ มองทุกคนที่นั่งลงก่อนจะกล่าว “วันนี้ที่เชิญทุกคนมาก็เพราะว่าตี้เกอมีความคิดหนึ่งอยากจะปรึกษากับพวกเ้าทุกคน”
หนิงซื่อรู้ว่าหลายวันมานี้สวี่ตี้มักจะออกไปด้านนอก แต่ว่าสวี่ตี้ใช้คนขับรถม้าที่สกุลจางส่งมาให้ หนิงซื่อเองก็ไม่กล้าที่จะถามว่าสวี่ตี้ไปที่ใด วันนี้ถูกฮูหยินผู้เฒ่าเรียกมาที่นี่ หนิงซื่อก็รู้สึกว่าสวี่ตี้คงจะหาวิธีการดูแลสวนได้แล้ว
สวี่ตี้กล่าว “ป้าน้าสะใภ้ทุกท่าน ข้าไปดูที่นอกเมืองหลวงมาแล้ว สวนที่ฮูหยินผู้เฒ่าให้พวกท่านดูแลมิไกลกันมาก คุณภาพของดินถือว่าไม่ได้มีคุณภาพมากนัก หากอยากจะปลูกธัญพืชอย่างจริงจัง ผลลัพธ์ที่ได้คงจะไม่ได้ดีนัก ข้าคิดวิธีแก้ได้แล้ว อยากจะพูดกับพวกท่านเสียหน่อยน่ะขอรับ หากทุกคนยินยอม ข้าก็จะไปทำ แต่หากไม่ยินยอม พวกเราค่อยมาคิดหาวิธีอื่นขอรับ”
หนิงซื่อมองน้องสะใภ้ทั้งสามคนของตนเอง ก่อนจะยิ้มแล้วกล่าว “ตี้เกอ พวกเรานั้นเชื่อในความสามารถในการหาเงินของเ้า ตอนที่ข้าเอาแผนที่เ้าเขียนไปให้ผู้ดูแลร้านดู ผู้ดูแลร้านก็บอกได้ๆ ติดกัน บอกว่าร้านใบชาของข้าน่ะ ต่อไปจะต้องขายได้ดียิ่งๆ ขึ้นไปเป็แน่”
อีกสามคนก็พูดสมทบ เหยาซื่อเอ่ย “ตี้เกอ ตอนนี้พวกเราต่างก็นับถือเ้าเป็อย่างมาก เื่พวกนั้นเ้าแค่คิดก็สามารถคิดหาวิธีออกมาได้ พวกเราคิดจนหัวแทบแตกก็คิดไม่ออก”
สวี่ตี้หัวเราะเหอะๆ พลางตอบ “ท่านป้ากับท่านน้าพูดชมกันเกินไปแล้วขอรับ ข้าจะมาพูดถึงความคิดเกี่ยวกับสวนพวกนั้นน่ะขอรับ”
สวี่ตี้หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา ้าวาดตำแหน่งของสวนอย่างคร่าวๆ เอาไว สวี่ตี้ชี้แล้วกล่าว “สวนพวกนี้ก็คือสวนที่ฮูหยินผู้เฒ่ามอบให้พวกท่านป้าท่านน้าและท่านแม่ของข้าบริหารดูแลขอรับ ใกล้ๆ นี้ยังมีสวนอีกหลายสวน ทางนี้มีเส้นทางแม่น้ำไหลผ่าน ข้าเดินวนอยู่ตรงนั้นสองวัน พบว่าดินตรงแถบนั้นไม่เหมาะสมที่จะปลูกธัญพืช หรือก็คือสถานที่ปลูกข้าวสาลีหรือข้าวขาว กลับเหมาะสมที่จะปลูกมันแกว หรือพวกข้าวโพดมากกว่าขอรับ”
พวกหนิงซื่อตั้งใจฟังเป็อย่างมาก ถึงแม้จะให้พวกนางบริหารจัดการสวน แต่พวกนางเป็สตรีที่อยู่ในเรือนมาโดยตลอด อยากจะให้ออกจากเรือนสักครั้งนั้นไม่ใช่เื่ง่าย
สวี่ตี้กล่าว “ข้าอยากจะให้สวนพวกนี้ปลูกมันแกวให้หมด เกี่ยวกับมันแกวนี่ คิดว่าพวกป้าน้าสะใภ้ทุกท่านก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ว่าที่ข้ามีคือโรงงานเล็กๆ เป็สิ่งที่ท่านลุงพี่ชายของท่านแม่ข้าหามาให้จากทางใต้ เ้ามันแกวนี่ นอกจากเอามานึ่งเอามาต้มกินได้แล้ว ยังสามารถทำของที่เหมือนเส้นบะหมี่ออกมาได้ ข้าอยากจะทำสิ่งนี้ขายขอรับ”
หนิงซื่อฟังแล้วก็ขมวดคิ้วถาม “ตี้เกอ เ้าสิ่งนี้ทำยากหรือไม่?”
สวี่ตี้ส่ายหน้า “ทำไม่ยากขอรับ แต่ว่าอยากจะทำมันออกมาจำเป็ต้องใช้มันแกว คนงานเองก็จำเป็ ของที่ทำออกมาไม่เพียงจะแก้หิวได้ ยังสามารถทำอาหารรสชาติอร่อยๆ ออกมาได้อีกด้วยนะขอรับ ข้าอยากจะเอาเ้าสิ่งนี้ไปขายที่ร้านหม้อไฟ เ้าสิ่งนี้สามารถเป็เครื่องเคียงของหม้อไฟได้ กินเข้าไปแล้วอร่อยมากขอรับ”
ตอนนี้ร้านหม้อไฟเปิดร้านสาขาในเขตต้าเหลียงมากมาย รายได้ทุกปีนั้นถึงเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ใช่ไม่มีคนอิจฉาตาร้อน แต่ว่าร้านหม้อไฟเป็คนสกุลเว่ยเป็ผู้เปิดโดยผ่านทางเหลียงเฉิงตี้อย่างเปิดเผย อีกทั้งไม่รู้ว่าเว่ยหลางไปปรึกษากับเหลียงเฉิงตี้อย่างไร รายได้ของร้านหม้อไฟทุกปีจะเอาออกมาสองส่วนแล้วส่งเข้าคลังส่วนตัวของเหลียงเฉิงตี้ ถือว่าเป็เงินส่วนตัว ถึงแม้เบื้องหน้าจะไม่มีคนพูด แต่ว่าเื่ที่ควรรู้ก็รู้แล้ว
หนิงซื่อฟังแล้วใบหน้าก็เต็มไปด้วยความปรารถนา “ถ้าหากสามารถเอาไปใช้ในร้านหม้อไฟได้จริงๆ ก็ดี ตี้เกอ ข้าไม่มีปัญหา”
หนิงซื่อพูดว่าไม่มีปัญหาแล้ว แน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน
สวี่ตี้หยิบกระดาษออกมาหลายแผ่น “เพราะว่าจะต้องทำเส้นหมี่ ระหว่างสวนทั้งห้ายังมีอีกหลายสวน ข้ารู้สึกว่ามันขัดขวางก็เลยซื้อสวนพวกนั้นมาด้วย ตอนนี้อยู่ภายใต้ชื่อของข้าแล้ว ข้าจึงเอาสวนพวกนี้ไปรวมอยู่ในสวนของพวกท่าน เช่นนี้สวนทั้งแถบนี้ก็เป็ของพวกเราสกุลสวี่แล้ว ตอนนี้ข้าเริ่มจัดคนเตรียมตัวสร้างโรงงานทำเส้นออกมาก่อน จากนั้นก็จัดการกับดินในสวน ปีหน้าก็เริ่มปลูกมันแกวได้แล้วขอรับ”
ได้ยินว่าสวี่ตี้จัดการอย่างเป็สัดส่วนเรียบร้อย หนิงซื่อก็ยิ่งวางใจ สวี่ตี้แบ่งกระดาษไปไว้ในมือของป้าสะใภ้ แล้วก็ให้กับฮูหยินผู้เฒ่าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลัวฮั่น “ความคิดของข้าก็คือ รายได้ทุกปีพวกเราจะแบ่งออกเป็หกส่วน ท่านป้าท่านน้าทั้งสี่รวมทั้งท่านแม่ของข้า แล้วก็ข้า พวกเราทุกคนคนละส่วน จากนั้นสี่ส่วนที่เหลือก็มอบให้กับท่านทวดขอรับ”
ฮูหยินผู้เฒ่าฟังแล้วก็หัวเราะ “ส่วนของข้าน่ะไม่ต้องแล้ว พวกเ้าแบ่งกันไปเถิด”
สวี่ตี้ส่ายหน้า “ฮูหยินผู้เฒ่าขอรับ ท่านฟังที่ข้าพูด ตอนแรกท่านเคยพูดเอาไว้ ทุกปีจะต้องเอารายได้ของสวนเก็บไว้ให้ท่านสองส่วน ท่านจะใช้เงินพวกนี้ไปให้กับคนที่ออกมาจากจวนหย่งอี้โหวที่ติดตามท่านออกมาด้วยในตอนนั้น ในนี้มีห้าสวนนะขอรับ รวมทั้งหมดแล้วให้ท่านสี่ส่วน ข้ายังรู้สึกว่ามันน้อยไปหน่อยนะขอรับ”
หนิงซื่อกล่าว “ท่านย่า ข้ารู้สึกว่าเช่นนี้ดีมากเลยนะเ้าคะ”
เมื่อหนิงซื่อพูดออกมาแล้ว คนอื่นๆ จึงไม่มีปัญหาอะไร เดิมสวนก็เป็ของฮูหยินผู้เฒ่าอยู่แล้วนี่นา ฮูหยินผู้เฒ่าเอาออกมาให้ทุกคนบริหาร ความจริงแล้วก็อยากจะหาช่องทางให้ทุกคนมีเงิน ให้ชีวิตของทุกคนสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อยากจะซื้ออะไรก็สามารถซื้อได้อย่างสบายใจ
ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นท่าทางของทุกคนเช่นนี้ก็ยิ้มแล้วกล่าวกับสวี่ตี้ “ตี้เกอ ในเมื่อเป็เช่นนี้ เช่นนั้นเ้าก็สร้างโรงเรือน ส่วนเงินซื้อเมล็ดย่าออกให้พวกเ้า อีกเดี๋ยวข้าจะให้แม่นมเสิ่นเอาตั๋วเงินมาให้พวกเ้า อาศัยใน่ที่เ้าอยู่เมืองหลวง จัดการเื่ที่ควรทำให้เรียบร้อย สิ่งใดควรจัดระเบียบก็จัดสักหน่อย แล้วก็คนงาน เ้าไปเลือกเอาในสวนได้เลย ดูว่ามีผู้ใดเหมาะสมหรือไม่”
สวี่ตี้ยิ้มรับคำ “ในเมื่อทุกคนต่างไม่มีปัญหา เช่นนั้นก็ดูสัญญาฉบับนี้ พวกเราก็ลงชื่อไว้เป็หลักฐาน ต่อไปจะแบ่งเงินตามนี้นะขอรับ”
ทุกคนต่างเป็คนที่รู้ตัวหนังสือ จึงอ่านสัญญาที่เขียนมาเสร็จั้แ่ต้นจนจบ พอเห็นว่าไม่มีตรงไหนไม่ถูกต้อง ก็ลงชื่อของตนเองลงไป จากนั้นก็ประทับลายนิ้วมือ
สวี่ตี้เก็บสัญญาหลายฉบับพวกนี้ขึ้นมา แล้วเอาไปวางไว้ที่ฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านเป็ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ของพวกนี้ควรจะให้ท่านเป็คนดูแลขอรับ”
ฮูหยินผู้เฒ่าถาม “ไม่ใช่เ้าเป็คนดูแลหรือ?”
สวี่ตี้กล่าว “ท่านทวด ท่านเป็เ้าของร้านที่ใหญ่ที่สุด ข้าก็แค่คนที่ทำงานให้ท่านเท่านั้น ส่วนของท่านก็เก็บเอาไว้ให้ดี จากนั้นท่านกับท่านป้าท่านน้าสะใภ้ก็รอแบ่งงานก็พอแล้วขอรับ”
ต่อมาสวี่ตี้ก็งานยุ่งขึ้นมาจริงๆ ทั้งเลือกคน สร้างโรงเรือน แล้วยังสร้างตามความคิดของตนเอง ทำโรงงานกับทำสวนไม่เพียงจะต้องมีสถานที่ที่สามารถทำเส้นกว้างขวาง ยังต้องมีโรงเรือนที่เอาไว้ตากเส้น ที่สำคัญก็คือ ยังต้องมีที่ให้ลาลากที่โม่ได้ด้วย ตอนนี้ไม่มีเครื่องโม่ไฟฟ้า อยากจะบดให้เป็ผงเล็กๆ ก็ต้องพึ่งที่โม่แป้งเท่านั้น
ตอนที่คะแนนสอบระดับเซียงซื่อออกมา สวี่ตี้ยังตรวจสอบช่างที่มาสร้างโรงเรือนอยู่ หลายสวนต่อกันเป็ผืนเดียว เดิมทีในสวนก็สร้างเรือนเอาไว้หลายหลังที่หน้าสวน ล้อมรอบด้วยเรือนเล็กๆ ให้คนงานที่เฝ้าสวนอาศัยอยู่ ตอนนี้จะสร้างโรงงานทำเส้นแล้ว ไม่เพียงจะให้คนทำงานในสวนทุกวัน ยังต้องสร้างอีกหลายเรือนให้กับช่างสร้างโรงงานทำเส้นพักอาศัยอีกด้วย ถึงแม้พวกนี้ปีหน้าถึงจะได้ใช้ แต่ว่าตอนนี้วางแผนเอาไว้ก่อนก็มีแต่ข้อดีมากกว่าข้อเสีย
เงินเดือนให้ครบ จ้างช่างมาครบถ้วน ก็เห็นในสวนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน
หลังจากคะแนนสอบระดับเซียงซื่อออกมาแล้ว ปรากฏว่าสวี่ตี้สอบติดและได้สมยานามเป็จวี่เหรินแล้ว แต่ว่าระดับอยู่หลังๆ คิดอีกครั้ง สวี่ตี้เพิ่งจะอายุสิบห้าปี สามารถสอบได้คะแนนเช่นนี้ออกมาได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
โหวเย่ได้รับข่าวดีจากคนที่มารายงาน หลังจากให้เงินรางวัลแล้ว ก็พาคนขี่ม้าไปที่สวน
หลายวันมานี้สวี่ตี้ทำงานอยู่ที่สวนตลอด โหวเย่เองก็แปลกใจว่าเขายุ่งอะไร สำหรับเื่ที่สวี่ตี้พาลูกสะใภ้หาเงิน โหวเย่ยังรู้สึกยินดีมาก
ขี่ม้าไปที่สวน หลังจากออกจากเมืองก็ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วยาม [1]
ถึง่เวลาเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ในสวนต่างๆ ยุ่งอยู่กับการเก็บเกี่ยว ั้แ่มันแกวและข้าวโพดถูกเผยแพร่ออกไป พอถึงฤดูใบไม้ร่วง ในดินก็จะเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ให้เก็บเกี่ยวมากมาย ไม่เพียงประชาชนเท่านั้นที่เห็นแล้วดีใจ แม้แต่ขุนนางเองก็ดีใจเช่นกัน มีการเก็บเกี่ยวก็มีอาหารให้กิน ไม่ต้องกลัวว่าปีหน้ายังไม่ถึงหน้าเก็บเกี่ยวฤดูร้อนจะไม่มีอะไรให้กินอีกต่อไป
สวี่ตี้อยู่ที่สวนได้หลายสิบวันแล้ว เื่ที่จะต้องกังวลมีอยู่มาก ตัวเขาทั้งดำทั้งผอม แล้วก็เพราะสวี่ตี้รังเกียจพวกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าไหมจึงไม่ค่อยจะสวมสักเท่าไหร่ สวมแค่เสื้อผ้าเนื้อหยาบ โหวเย่มองจากที่ไกลๆ ก็ยังจำสวี่ตี้แทบไม่ได้
เห็นโหวเย่มา สวี่ตี้ก็รีบเข้าไปทำความเคารพ โหวเย่ลงจากหลังม้าแล้วพูดอย่างปวดใจ “ตี้เกอ เหตุใดเ้าถึงได้ทำให้ตัวเองเหน็ดเหนื่อยจนกลายเป็เช่นนี้? เ้ายังเด็ก จะไม่รักษาร่างกายของตัวเองเช่นนี้มิได้นะ”
สวี่ตี้หัวเราะแล้วกล่าว “ท่านปู่ ข้าไม่เป็อันใดขอรับ ข้ายังเด็ก เหนื่อยมากๆ ก็กินข้าวให้อิ่มสักมื้อ นอนสองวันก็หายแล้ว ที่นี่ยังวุ่นวายอยู่เล็กน้อย เรือนตรงนั้นมีห้องรับแขก พวกเราไปพูดคุยกันที่นั่นเถิดขอรับ”
สถานที่ที่สวี่ตี้อาศัยอยู่ตามปกติเป็ในเรือนเล็กสองทางเข้ามีสามห้องหลังเดิม ทางทิศตะวันออกเป็ที่นอน ทางตะวันตกเป็ที่ไว้อ่านหนังสือของสวี่ตี้ ตอนนี้โต๊ะขนาดใหญ่ทางด้านทิศตะวันตกมีแผ่นกระดาษรูปภาพที่วาดเอาไว้แล้วถูกโยนเอาไว้ ซึ่งล้วนเป็ภาพออกแบบโรงงานทำเส้นที่สวี่ตี้วาดไว้ทั้งสิ้น
เชิงอรรถ
[1] 2 ชั่วโมง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้