ภายในจวนใหญ่โตโอ่อ่าของ “เิชาง” เ้าเมืองิอี้นั้นกำลังจัดเตรียมงานเลี้ยงขอบคุณท่านแม่ทัพจางชิงหยวนอย่างยิ่งใหญ่ งานที่ถูกจัดขึ้นไม่ได้มีเพียงเป้าหมายในการแสดงความขอบคุณเพียงเท่านั้น แต่เื้ัคือแผนการที่ถูกวางไว้อย่างแเี
เิชางพยายามเก็บซ่อนเจตนาที่แท้จริงไว้ลึกในใจ ใบหน้าของเขาเปื้อนรอยยิ้มขณะคอยกำชับข้ารับใช้ให้เตรียมงานอย่างดีที่สุด แต่ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ของเขา ความหวังที่จะเห็นแผนการที่เขาวางร่วมกับบุตรสาว เิอวี้ เป็จริงในคืนนี้
แผนการนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงความยินดีที่กองทัพต้าหยางมารักษาความสงบในเมืองิอี้ แต่เป็แผนที่เิอวี้ บุตรสาวผู้ทะเยอทะยานของเขา ได้ผลักดันให้เกิดขึ้น
เิอวี้พร่ำบอกตัวเองและพ่อของนางซ้ำ ๆ ว่าจางชิงหยวนคือกุญแจสู่ความสำเร็จและอำนาจที่นางโหยหา ชายผู้เป็ทั้งแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่และหนทางที่จะนำพานางและตระกูลเิไปสู่ความรุ่งเรือง
“ท่านพ่อ งานเลี้ยงคืนนี้ต้องเป็ไปตามแผนที่ข้าวางไว้ จางชิงหยวนจะต้องเห็นว่าข้าเป็ผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา ข้ามั่นใจว่าหลังจากนี้เราจะได้ครองอำนาจทั้งในิอี้และแคว้นต้าหยาง” นางกล่าวด้วยความมั่นใจที่แฝงไปด้วยความทะเยอทะยาน
เิชางมองบุตรสาวด้วยความเป็ห่วง “เ้าแน่ใจหรือว่าทางนี้คือเส้นทางที่เ้า้า? แผนนี้เสี่ยง หากแม่ทัพจางไม่ตอบสนองตามที่เราหวัง ตระกูลเราอาจตกอยู่ในอันตรายอย่างที่เ้าคาดไม่ถึง”
รอยยิ้มที่มุมปากของเิอวี้ปรากฏขึ้นอย่างมีเลศนัย “ท่านพ่อ ข้ารู้ดีว่ามันเสี่ยง แต่บางครั้งความเสี่ยงก็นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ข้าจะไม่ยอมเป็เพียงลูกสาวของเ้าเมือง ข้าจะเป็หญิงผู้ทรงอำนาจในแคว้นต้าหยาง และจางชิงหยวนคือกุญแจที่จะพาข้าไปสู่สิ่งนั้น”
ในดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น นางรู้ดีว่าการยั่วยวนและความงามคืออาวุธของนาง นางตั้งใจจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้จางชิงหยวนตกอยู่ในกำมือ อำนาจและอิทธิพลที่มากขึ้นไม่ใช่เพียงสิ่งที่นางปรารถนา แต่เป็ความหวังของตระกูลเิ ที่จะขยายอำนาจครอบคลุมไปทั้งแคว้นต้าหยาง
เิชางหันมามองบุตรสาวอย่างชื่นชม แม้ในใจจะมีความไม่แน่ใจเล็กน้อยก่อตัวขึ้น แต่เขาก็ยังเลือกที่จะหลับตาข้างหนึ่ง เพราะเขาเชื่อว่าทุกอย่างที่ทำเพื่อบุตรสาวของเขานั้นคุ้มค่า หากมันจะจำให้บุตรสาวของเขามีความสุขและนำพาให้ตระกูลของเขามีอำนาจยิ่งใหญ่ในแคว้นต้าหยาง
เมื่อจางชิงหยวนมาถึงพร้อมด้วยตวนหลี่ จิ่งซื่อ และลู่หยวนฮวา สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่พวกเขา ความสง่างามและน่าเกรงขามของแม่ทัพทำให้ผู้คนต่างเคารพยำเกรง
แต่เมื่อพวกเขาเห็นลู่หยวนฮวาที่ติดตามมาด้วย เิอวี้กลับรู้สึกไม่พอใจอย่างรุนแรง สายตาที่มองนางเต็มไปด้วยความอิจฉาและดูถูก ความงามของลู่หยวนฮวาและความใกล้ชิดที่นางมีต่อจางชิงหยวนสร้างความขุ่นเคืองในใจของเิอวี้ทันที
แม้ลู่หยวนฮวาจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่ไม่เป็มิตร แต่นางยังคงสงบและพยายามทำตัวไม่ให้เป็ที่สนใจ นางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือโต้ตอบใดๆ เพราะรู้ดีว่านางมาในฐานะผู้ติดตามของจางชิงหยวน นางไม่อยากสร้างปัญหาให้เขา
ขณะที่ลู่หยวนฮวาปลีกตัวออกมาจากงานเลี้ยง นางััได้ถึงสายตานับไม่ถ้วนที่ยังคงจับจ้องมาอย่างไม่ลดละ ทุกคู่ตามองด้วยความไม่พอใจ การเหยียดหยาม และความไม่เป็มิตรที่ปกคลุมบรรยากาศรอบตัว นางหยุดยืนชั่วครู่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามควบคุมอารมณ์ที่ปะทุขึ้นในใจ "พวกเขาไม่มีวันปล่อยข้าไปหรืออย่างไร จะจ้องมองข้าทำไมกัน" นางคิดเงียบๆ แต่ทว่าก่อนที่ความคิดจะจบลง เสียงเย้ยหยันจากด้านหลังก็ดังขึ้น
"แม่นางลู่... ข้าไม่คิดว่าตัวซวยอย่างเ้าจะเหมาะกับงานมงคลเช่นนี้หรอก" น้ำเสียงของเิอวี้แหลมคมและเสียดแทง เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเหยียดหยามในทุกคำพูด นางเดินเข้ามาพร้อมข้ารับใช้ที่ยิ้มเหยียดข้างๆ ราวกับว่าการปรากฏตัวของลู่หยวนฮวาคือเื่น่าขันและต่ำต้อยนัก
ลู่หยวนฮวาหยุดนิ่ง สายลมเย็นที่พัดผ่านไม่ได้ทำให้นางคลายความตึงเครียดที่เกาะกุมหัวใจ นางไม่แม้แต่จะหันไปมอง ไม่ได้ตอบโต้กลับ ทั้งที่ภายในใจร้อนรุ่มด้วยความโกรธ "ข้าเป็แค่สตรีตัวคนเดียว จะจ้องจับผิดข้าไปทำไม..." นางคิดในใจ หัวใจเต้นแรงด้วยความอึดอัด
แต่ในความสงบเสงี่ยมที่นางแสดงออกนั้นเต็มไปด้วยการอดกลั้น ลู่หยวนฮวาเลือกที่จะไม่โต้กลับ ไม่ใช่เพราะนางขลาดกลัว แต่เพราะนางรู้ดีว่าการเผชิญหน้ากับเิอวี้ในที่สาธารณะเช่นนี้จะนำมาซึ่งปัญหาใหญ่กว่า นางยิ้มบางๆ ที่ริมฝีปาก แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและความอึดอัดที่กัดกิน
เิอวี้ขมวดคิ้ว รอยยิ้มเหยียดบนใบหน้าหายไป นางคาดหวังจะเห็นลู่หยวนฮวาโต้กลับหรือแสดงความอ่อนแอออกมา การนิ่งเฉยเช่นนี้กลับทำให้นางรู้สึกว่าถูกิ่ศักดิ์ศรี นางหันไปสั่งข้ารับใช้ด้วยสายตาเฉียบขาดให้จัดการกับลู่หยวนฮวาก่อนเดินจากไป
ข้ารับใช้ปฏิบัติตามคำสั่งเงียบๆ ก่อนจะเดินเข้ามาชนลู่หยวนฮวาอย่างแรงจนร่างนางเกือบเซล้ม นางพยายามตั้งหลัก กัดฟันแน่นเพื่อควบคุมอารมณ์ นางถอยหลังสองก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะและหันหลังกลับ พยายามหายใจให้เป็ปกติ แต่ความรู้สึกน่าอึดอัดยังคงเกาะกุมอยู่ในใจ
ความโกรธค่อยๆ ปะทุขึ้น นางรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมที่ถาโถมเข้ามาอย่างหนัก นางอยากจะตอบโต้ อยากจะแสดงความแข็งกร้าวออกมา แต่ทุกครั้งที่คิดจะทำเช่นนั้น สายตาของจางชิงหยวนที่มองนางจากระยะไกลก็กลับเตือนสติ นางเหลือบมองเขา เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล แม้เขาจะไม่พูดอะไร แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้นางตัดสินใจเก็บอารมณ์เ่าั้ไว้
หัวใจของลู่หยวนฮวาสับสนเต็มไปด้วยความกดดัน นางรู้ดีว่าการตอบโต้จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง นางกัดฟันแน่น รู้สึกถึงความไม่เป็ธรรมที่ท่วมท้น แต่ในขณะเดียวกัน นางก็รู้ดีว่าหากเลือกที่จะสร้างปัญหาในตอนนี้ มันอาจนำมาซึ่งสิ่งที่นางและจางชิงหยวนไม่้า
เิอวี้กลับเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยท่าทางที่ดูสงบเสงี่ยม แต่ดวงตาที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มหวานฉายแววเ้าเล่ห์ นางกวาดสายตามองไปรอบๆ งาน ก่อนที่สายตาจะหยุดนิ่งอยู่ที่จางชิงหยวน
ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนในยามปกติ บัดนี้กลับมีรอยยิ้มที่แฝงความลึกลับและเจตนาร้ายอย่างเห็นได้ชัด
นางกระซิบกระซาบบางอย่างกับสาวใช้ข้างกาย ก่อนที่สาวใช้จะรีบแยกตัวออกไปทางด้านหลัง เพื่อจัดการเตรียมสิ่งที่จำเป็
เิอวี้เดินเข้ามาใกล้โต๊ะของจางชิงหยวนอย่างเงียบๆ ราวกับนางกำลังร่ายรำอยู่บนเวทีแห่งแผนการอันซับซ้อน ความมั่นใจในแผนนี้ทำให้นางรู้ว่านี่คือโอกาสทองที่จะชายผู้เป็ทั้งแม่ทัพและกุญแจสู่ความยิ่งใหญ่ของนาง
สายตาของนางหยุดนิ่งที่จอกเหล้าบนโต๊ะ น้ำใสที่ไหลรินลงไปคือเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้แผนการสำเร็จ เมื่อสาวใช้กลับมาพร้อมกับเหล้าและจอกใหม่ เิอวี้ยิ้มบางๆ
ขณะนางยื่นมือไปจับจอกเหล้า ท่าทางที่ดูสง่างามของนางปกปิดการกระทำที่ซ่อนอยู่เื้ั นางค่อยๆ หย่อนบางสิ่งลงในเหล้าอย่างแ่เบา มือที่ซ่อนอยู่ในเงามืดขยับอย่างเชี่ยวชาญ แน่ใจว่าการเคลื่อนไหวนั้นรอดพ้นสายตาของทุกคน
เิอวี้ยื่นจอกเหล้าให้จางชิงหยวนด้วยรอยยิ้มที่ดูสุภาพและเป็มิตร แต่เื้ัรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความโลภและความปรารถนาที่จะเขา นางมองเขาด้วยสายตาเ้าเล่ห์ขณะที่มือของเขาเอื้อมมารับจอกเหล้า
"ทุกอย่างจะต้องเป็ไปตามแผน..." หญิงสาวคิดในใจ ขณะที่เฝ้ารอดูผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ