ยามเช้าของเหมันต์ฤดู แม้จะยังไม่ถึงคราที่หิมะแรกจะโปรยปรายก็ตาม แต่มันกลับสามารถเยือกหัวใจของหานหยางได้เป็อย่างดี
โฉมสะคราญค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ทุกข้อต่อของร่างกายนั้นปวดร้าวราวกับถูกบีบคั้นด้วยโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น เื่เมื่อคืนยังคงเด่นชัดอยู่ในความทรงจำ
ในความเงียบงันของห้องนอนหรูหราของหานหยาง เสียงฝีเท้าหนึ่งกลับทำลายความสงบลงเมื่อสตรีวัยกลางคนได้ย่างเท้าเข้ามาในห้อง
“ดื่มน้ำแกงนี่เสีย นางคณิกาชั้นต่ำอย่างเ้าไม่สมควรได้ร่วมเตียงกับองค์ชายของข้า!” พูดจบนางก็วางน้ำแกงกระแทกลงบนโต๊ะด้วยความเดือดดาล พร้อมกับแววตาที่จ้องมองมาที่หานหยางด้วยท่าทางรังเกียจ
“ท่านคิดว่าท่านสูงส่งนักหรือถึงเที่ยวมาด่ากราดว่าผู้อื่นเป็คนชั้นต่ำ” แม้จะถูกซื้อตัวมาจริงแต่นางก็เป็ถึงบุตรสาวของคณบดีหาใช่คนที่โตมากับหอนางโลม ถูกเหยียดหยามขนาดนี้ก็ย่อมต้องมีโทสะเป็ธรรมดา
“ข้าพูดผิดตรงไหน เ้าเป็เพียงคณิกาชั้นต่ำมาจากหอคณิกา ไม่คู่ควรแม้แต่จะอยู่ในจวนของเป่ยอ๋อง เ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้ให้กำเนิดบุตรของเขา!”
คำพูดเ่าั้ทำให้หัวใจของหานหยางเหมือนถูกกรีดด้วยมีดคม นางกัดฟันแน่นเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลริน แต่ความเ็ปกลับล้นท้นอยู่ในใจ
“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ไม่ใช่สิ่งที่ข้าปรารถนาเลยสักนิด หากต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่คู่ควร...มันคือท่านอ๋องต่างหาก ไม่ใช่ตัวข้า!”
“บังอาจนัก! ข้าเลี้ยงท่านอ๋องมาั้แ่เยาว์วัย องค์ชายไม่ลดตัวลงมาเล่นกับของสกปรกอย่างเ้าหรอก!” แม่นมอิงฮวากล่าวด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“ธุระของข้าจบลงแล้ว ที่นี่สกปรกเกินไปจนข้าไม่อยากอยู่นาน” หลังจากที่น้ำแกงถูกทานจนหมดถ้วย แม่นมอิงฮวาจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วพร้อมถ้วยน้ำแกงถ้วยนั้น ทิ้งไว้เพียงบรรยากาศที่ชวนดูอึดอัดไว้แทน
จากนั้นไม่นานบ่าวสองคนก็เข้ามาจัดแจงอาบน้ำแต่งกายให้กับหานหยาง สอบถามจึงรู้พวกนางมีชื่อว่าว่าจินเป่ยและหงหลัน พวกนางบอกว่าเป็คำสั่งของท่านเป่ยอ๋อง เห็นว่าเขา้าพาหานหยางออกไปเดินเที่ยวนอกจวน
"เตรียมตัวเสีย เราจะออกไปข้างนอกกัน"
‘ลูกฏอย่างข้าจะไปข้างนอกได้จริงหรือ ไหนบอกว่าข้าจะมีอันตราย เขาลืมไปหมดสิ้นแล้วหรืออย่างไร'
"ไปข้างนอก? ท่านจะพาข้าไปไหนกัน?" หานกยางถามด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล
หลี่เจ๋อไม่ได้ตอบในทันที เขาทำแค่เพียงยืนเงียบพลางทอดมองไปที่หานหยางด้วยสายตาที่เหมือนจะซ่อนบางสิ่งไว้จนยากจะอ่านออก
ที่จริงแล้วหลี่เจ๋อรู้สึกผิดในสิ่งที่เขาก่อไว้เมื่อคืน เขาเมาจนเสียการควบคุมตัวเอง และการกระทำของเขาไม่เพียงทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของหานหยาง แต่ยังทำให้แผนการใหญ่ของเขาพลั้งพลาดไปด้วย
การออกไปข้างนอกครั้งนี้อาจเป็หนทางหนึ่งที่เขาจะได้ชดเชยความผิดพลาด อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อปลอบโยนหญิงสาวที่เขาได้ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ
"ไม่ต้องถามมาก…แค่ทำตามที่ข้าบอก เ้าก็จะปลอดภัย ข้าเคยบอกกับเ้าว่าถ้าตัวข้าไม่อนุญาต ใครก็เข้ามาทำร้ายเ้าไม่ได้"
แม้จะยังสับสนแต่หานหยางไม่กล้าขัดคำสั่ง นางลุกขึ้นยืนอย่างลังเล แม้ใจของหญิงสาวยังเต็มไปด้วยคำถาม ทว่าคำตอบเดียวที่นางได้รับกลับเป็ความเงียบจากชายตรงหน้า
แต่ก่อนที่จะได้ออกจากเขตจวนของเป่ยอ๋อง หมวกคลุมหน้าใบหนึ่งถูกยื่นมาให้หานหยาง นางรับมันมาใส่อย่างว่าง่าย ด้วยไม่อยากให้ท่านอ๋องนั้นต้องลำบากใจในการไปไหนมาไหนกับลูกฏอย่างนาง
ตลาดคนเดินที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ร้านค้าตั้งแผงลอย มีทั้งอาหาร ขนม ของเล่น เครื่องประดับและผ้าแพรสวยงามเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
สายตาหลายคู่พากันจับจ้องเมื่อเห็นเป่ยอ๋องหลี่เจ๋อเดินเคียงข้างหญิงสาวคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด หลายคนเริ่มซุบซิบกันด้วยความสงสัย เพราะเป็ที่รู้กันดีว่าเป่ยอ๋องมักไม่เข้าใกล้สตรี ไม่ว่าจะฐานะใดก็ตาม
หลี่เจ๋อไม่สนใจเสียงซุบซิบเ่าั้ เขาพาหานหยางเดินผ่านแผงลอยต่าง ๆ ก่อนจะหยุดที่ร้านขายเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยของงดงาม
หานหยางเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาสับสน ขณะที่หลี่เจ๋อชี้ให้ดูแหวนหยกและกำไลทองคำ
"จงเลือกสิ่งที่เ้าชอบมาหนึ่งอย่าง" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เขาหมายจะใช้สิ่งเหล่านี้ช่วยคลายความหวาดกลัวที่นางมีต่อเขา แต่ท่าทางของหานหยางกลับไม่แสดงความสนใจในเครื่องประดับเ่าั้เลย
ดวงตาของนางกลับไปหยุดอยู่ที่ร้านอีกฝั่งหนึ่ง แผงลอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยพู่กัน ผ้าใบ และหมึกสีสันต่างๆ มากมาย
หานหยางก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว สายตาที่มองสิ่งของเ่าั้เปล่งประกายราวกับได้พบสิ่งที่นางโหยหามานาน
หลี่เจ๋อสังเกตเห็นสีหน้าแปลกใหม่ของนาง เขาเดินตามไปเงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยกับเ้าของร้าน
“ข้าเหมาทั้งหมดร้าน ส่งของทั้งหมดไปส่งที่จวนของข้าและเรียกเก็บเงินที่นั่นได้เลย”
เ้าของร้านอ้าปากค้างด้วยความใ ขณะที่หานหยางหันมามองหลี่เจ๋อด้วยสายตาผสมระหว่างความฉงน แต่ชายหนุ่มกลับทำราวกับว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็เื่ที่แสนธรรมดา
เมื่อกลับมาถึงจวน หานหยางยังคงไม่พูดดจากับผู้ใด เลือกที่จะเก็บความรู้สึกและคำพูดทั้งหมดไว้ภายในใจ ด้วยยังไม่มั่นใจว่าผู้คนในจวนอ๋องนั้นคิดกับนางในฐานะใด พวกเขาจะรังเกียจนางเช่นเดียวกับแม่นมอิงฮวาหรือไม่?
ความคิดนี้ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยความกังวล หากนางถูกรังเกียจอย่างที่คาดคิดไว้ การใช้ชีวิตที่นี่คงเต็มไปด้วยความอึดอัดและยากลำบากเกินกว่าจะทนไหว...
“ท่านพี่!”
เสียงหวานใสดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของจวน หานหยางที่เดินตามหลี่เจ๋อสะดุดหยุดเท้า ดวงตาคู่งามของนางเบิกกว้างเมื่อพบกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
หญิงผู้นั้นงดงามหมดจดในชุดแพรพรรณสีอ่อนที่พลิ้วไหวราวกลีบดอกไม้ ดวงตาสีน้ำตาลทองของนางคมกริบ ทว่ากลับเปล่งประกายความสดใสและมีชีวิตชีวา รอยยิ้มอ่อนโยนที่ปรากฏบนริมฝีปากของนางช่างดูอบอุ่น ทว่าก็แฝงไว้ด้วยบางสิ่งที่ทำให้หานหยางรู้สึกหวาดหวั่นในใจ
"ข้าอยู่ตรงนี้ท่านพี่!" นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล นางปรายตามองหานหยางก่อนจะยิ้มให้ แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้หัวใจของหานหยางหนักอึ้ง นางก้มศีรษะลงอย่างสงบเสงี่ยมโดยไม่กล้าแม้แต่จะสบตา
"หรือว่านางคือภรรยาของท่านอ๋อง?"
ความคิดนี้แทรกเข้ามาในใจของหานหยางอย่างรวดเร็ว หัวใจของนางพลันเต้นระรัวด้วยความกระอักกระอ่วนและไม่มั่นใจ ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเหมือนสงบ แต่กลับมีแรงกดดันบางอย่างที่มองไม่เห็น หานหยางรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางสมรภูมิที่ตนไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร
หลี่เจ๋อหยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงเรียก เขาหันกลับมามองโฉมสะคราญผู้นั้น ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ข้าต้องไปสะสางงานต่อ เ้าอยู่ที่นี่พูดคุยเล่นกับหานหยางก่อนเถิด"
คำพูดสั้นๆ ของเขาเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจของหานหยาง นางไม่กล้าสบตาโฉมสะคราญผู้นั้นอีก…ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ขณะที่หลี่เจ๋อหันหลังเดินจากไป โดยมีเฟิงอี้ก้าวเข้ามารายงานเื่ด่วนพอดี
บรรยากาศในห้องโถงพลันเงียบงัน เหลือเพียงหานหยางและสตรีผู้นั้นที่ยังคงยืนเผชิญหน้ากัน
รอยยิ้มอ่อนโยนของนางกลับดูเหมือนมีความหมายซ่อนเร้น ทำให้หานหยางรู้สึกว่าแม้รอยยิ้มนั้นจะงดงามเพียงใด แต่มันช่างน่าหวาดหวั่นเสียเหลือเกิน...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้