บทที่ 7: ดอกเหมยบานในคืนหนาว
ชีวิตใหม่ของเมิ่งหรงซินเริ่มต้นขึ้น... ไม่ใช่ด้วยเสียงร้องไห้หรือเสียงดาบ แต่เป็เสียงเจื้อยแจ้วของการต่อรองราคาและกลิ่นหอมกรุ่นของหมั่นโถวที่นึ่งสุกใหม่ๆ ในยามเช้า
หลายสัปดาห์ผ่านไป... นางได้เรียนรู้จังหวะชีวิตของโรงเตี๊ยมหลงเหมินจนขึ้นใจ ทุกวันนางจะตื่นก่อนฟ้าสาง ช่วยป้าหลิวในครัว เตรียมน้ำชาสำหรับแเื่ เช็ดถูโต๊ะเก้าอี้จนขึ้นเงา แม้จะเป็งานของสาวใช้ แต่มันกลับทำให้นางรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองอีกครั้ง... ความรู้สึกของการได้ "ทำงาน" ที่ขาดหายไปนาน
ป้าหลิวและท่านหลงเมตตานางเหมือนลูกหลานแท้ๆ ความอบอุ่นที่ได้รับทำให้น้ำแข็งในใจของนางค่อยๆ ละลายลงทีละน้อย
และที่สำคัญที่สุด... คือ อวี้หลง
เด็กหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน เขามักจะหาโอกาสมาพูดคุยกับนางเสมอ บางครั้งก็นำตำรามาอ่านให้ฟัง สอนให้นางรู้จักตัวอักษรที่ซับซ้อนของโลกใบนี้ บางครั้งก็นำสมุนไพรหอมที่เก็บได้จากบนเขามาให้นางดมเล่น อวี้หลงเป็ดั่งสายลมอ่อนๆ ในฤดูใบไม้ผลิที่พัดพาความเ็ปในอดีตของนางให้จางลง
"วันนี้ดูเ้าเหนื่อยๆนะ แม่นางหรงซิน" อวี้หลงเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นซาลาเปาไส้ถั่วแดงร้อนๆ ให้ ขณะที่นางกำลังพักเหนื่อยอยู่หลังร้าน "พักสักหน่อยเถิด"
เมิ่งหรงซินรับมาอย่างเกรงใจ "ขอบคุณท่านพี่อวี้หลง"
นางเรียกเขาว่าท่านพี่อย่างเป็ธรรมชาติแล้วในตอนนี้ การมีอยู่ของเขาทำให้นางรู้สึกว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแต่ความโหดร้าย
ทว่า... ความสงบสุขนั้นมักเปราะบางเสมอ
วันนี้โรงเตี๊ยมคึกคักเป็พิเศษ กลุ่มพ่อค้าคาราวานใหญ่จากทางใต้แวะเข้ามาพักทานอาหาร เสียงพูดคุยอันดังจอแจของพวกเขานำพากลิ่นอายของโลกภายนอกเข้ามาด้วย... โลกที่นางพยายามจะลืม
"พวกท่านได้ยินข่าวหรือไม่? กองทัพใหญ่ของ แม่ทัพกู้เหยียนหลง เดินทางกลับถึงเมืองหลวงเยี่ยนจิงแล้ว! ว่ากันว่าจักรพรรดิพอพระทัยอย่างยิ่ง เตรียมจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่!"
เคร้ง!
ถ้วยชาในมือของเมิ่งหรงซินร่วงหล่นลงพื้นแตกกระจาย
ชื่อนั้น... ชื่อของบุรุษผู้นั้น... มันเป็ดั่งสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจนางอย่างไม่ทันตั้งตัว ความทรงจำในคืนนั้น... ััที่รุนแรง... และแววตาที่เ็า... กลับมาหลอกหลอนนางอีกครั้ง
"หรงซิน! เ้าเป็อะไรไป!?" อวี้หลงรีบเข้ามาดูนางด้วยความเป็ห่วง เขาสังเกตเห็นใบหน้าของนางที่ซีดเผือดและมือที่สั่นเทา
"ขะ...ข้าไม่เป็ไรเ้าค่ะ" นางรีบก้มลงเก็บเศษถ้วยชาเพื่อซ่อนอาการของตัวเอง "แค่... แค่ใเสียงดังนิดหน่อย"
พ่อค้าคนหนึ่งหัวเราะเสียงดัง "แม่นางน้อยคงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของ 'พยัคฆ์ดำแห่งซีเป่ย' สินะ! ท่านแม่ทัพกู้เหยียนหลงน่ะ ทั้งเก่งกาจและเหี้ยมโหดที่สุดในแผ่นดิน! ศัตรูได้ยินแค่ชื่อก็ขวัญหนีดีฝ่อกันหมดแล้ว! ฮ่าๆๆ!"
เมิ่งหรงซินกำเศษกระเบื้องในมือแน่นจนมันบาดเข้าที่ฝ่ามือ... เหี้ยมโหดงั้นรึ?... นางรู้ดีกว่าใครทั้งหมด
อวี้หลงสังเกตเห็นความผิดปกติของนาง แต่ก็ไม่ได้ซักไซร้ เขาเพียงแต่ดึงมือนางขึ้นมาอย่างแ่เบา ค่อยๆ แกะเศษกระเบื้องที่บาดเนื้อออก แล้วนำผ้าเช็ดหน้าของตนมาพันแผลให้อย่างอ่อนโยน "เจ็บมากหรือไม่?"
นางส่ายหน้า น้ำตาคลอเบ้า ไม่ใช่เพราะความเจ็บที่ฝ่ามือ... แต่เป็ความเ็ปในใจที่ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง
คืนนั้น... เมิ่งหรงซินนอนไม่หลับ เสียงจอแจของเมืองหลวงเยี่ยนจิงที่เหล่าพ่อค้าพูดถึง... เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา... เมืองที่บุรุษผู้นั้นอยู่... มันทำให้นางรู้สึกว่ากำแพงของโรงเตี๊ยมหลงเหมินที่เคยดูปลอดภัย บัดนี้กลับบางเฉียบราวกับกระดาษ... พร้อมที่จะถูกกรงเล็บของพยัคฆ์ร้ายฉีกกระชากเข้ามาได้ทุกเมื่อ.
หลายวันหลังจากได้ยินข่าวของกู้เหยียนหลง เมิ่งหรงซินก็พยายามทำใจให้สงบและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ทว่าในบ่ายวันหนึ่ง ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
อวี้หลงซึ่งออกไปเก็บสมุนไพรบนเขากลับมาในสภาพเปียกปอนไปทั้งตัว คืนนั้นเอง... ร่างกายที่แข็งแรงของเขาก็ทานทนไม่ไหว เขาล้มป่วยลงด้วยอาการไข้สูงอย่างรุนแรง
"ท่านพี่อวี้หลง!" เมิ่งหรงซินเป็คนแรกที่พบเขานอนซมอยู่บนเตียง ใบหน้าแดงก่ำ เหงื่อกาฬแตกพลั่ก และละเมอไม่ได้ศัพท์
ท่านหลงและป้าหลิวร้อนใจเป็อย่างยิ่ง แต่หมอในเมืองก็ติดพายุฝนมาไม่ได้ ในขณะที่ทั้งสองกำลังทำอะไรไม่ถูก จิติญญาของนักธุรกิจสาวจากศตวรรษที่ 21 ในร่างของเมิ่งหรงซินก็เข้าควบคุมสถานการณ์
"ป้าหลิว! ต้มน้ำเยอะๆ เลยนะเ้าคะ! ท่านลุงหลง ช่วยหาผ้าสะอาดมาให้ข้าหลายๆ ผืน!" นางสั่งการด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดแต่ก็แฝงความห่วงใยจนทุกคนประหลาดใจ นางใช้ความรู้พื้นฐานจากโลกเก่า จัดการเช็ดตัวลดไข้ให้เขาอย่างถูกวิธี และคอยป้อนน้ำให้เขาอยู่ตลอดเวลา
เวลาล่วงเลยไปจนดึกสงัด... พายุฝนเริ่มซาลงแล้ว แต่ไข้ของอวี้หลงยังคงไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย เสื้อผ้าของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อจนเหนียวเหนอะหนะ
เมิ่งหรงซินรู้ว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ เขาอาจจะหนาวสั่นจนอาการทรุดหนักลงไปอีก นางลังเลอยู่ชั่วครู่... การแตะต้องตัวบุรุษในยุคนี้เป็เื่ที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง... แต่ชีวิตของเขาสำคัญกว่า!
นางตัดสินใจแน่วแน่ ค่อยๆ ปลดสาบเสื้อที่เปียกชื้นของเขาออกอย่างแ่เบา เผยให้เห็นแผงอกของบุรุษที่แม้จะไม่กำยำล่ำสันอย่างทหาร แต่ก็สมส่วนงดงามในแบบของบัณฑิต ใบหน้านางร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่นางก็รีบสะบัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป แล้วตั้งใจใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นค่อยๆ เช็ดตัวให้เขาอย่างเบามือ
นางนั่งเฝ้าเขาอยู่ข้างเตียง แสงเทียนสลัวๆ ส่องกระทบใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความห่วงใย เป็ภาพที่งดงามและเปี่ยมด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้ง...
ทว่า... นางไม่รู้เลยว่าความงดงามนั้นกำลังจะถูกทำลายลง...
ณ ด้านนอกโรงเตี๊ยม รถม้าคันหรูที่ไม่มีตราสัญลักษณ์ใดๆ ได้จอดลงอย่างเงียบเชียบ บุรุษในอาภรณ์สีดำสนิทก้าวลงมา เขาบอกกับคนของโรงเตี๊ยมที่กำลังจะปิดร้านว่า้าพบเ้าของเพื่อเจรจาธุรกิจบางอย่าง... เป็เหตุผลที่เขาใช้เพื่อเข้ามาโดยไม่ให้ดูน่าสงสัย
กู้เหยียนหลงเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม... หลายวันที่ผ่านมานี้ เขาพยายามจะสลัดภาพของนางเชลยคนนั้นออกจากหัว แต่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งองครักษ์เงารายงานว่านางปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้ดี เขากลับยิ่งรู้สึกหงุดหงิดใจอย่างไม่มีสาเหตุ คืนนี้... เขาจึงทนไม่ไหวอีกต่อไป
เขาเดินตามเสียงคนในบ้านที่บอกว่า "คุณชายป่วยอยู่ คุณหนูหรงซินกำลังดูแลอยู่ในห้อง" ไปยังเรือนพักด้านหลัง... หัวใจของเขากระตุกวูบอย่างประหลาดเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เขาผลักประตูห้องเข้าไปโดยไม่ได้ขออนุญาต...
และภาพที่เขาเห็น... ก็ทำให้โลกทั้งใบของเขาหยุดหมุน
เมิ่งหรงซิน... สตรีที่เขาผลักไสออกมา... กำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของชายอื่น แสงเทียนขับเน้นให้ใบหน้าด้านข้างของนางดูงดงามอ่อนโยนยิ่งนัก มือของนางกำลังถือผ้า... เช็ดอยู่ที่แผงอกเปลือยเปล่าของบุรุษที่นอนอยู่บนเตียง!
ตึง!
เสียงหัวใจของกู้เหยียนหลงเต้นกระหน่ำรุนแรงราวกับกลองรบจนเขาแทบคุมตัวเองไม่อยู่!
ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน... มันคือความรู้สึกที่ร้อนรุ่มดั่งไฟเผา... คือความรู้สึกที่เหมือนมีใครเอามีดนับพันเล่มมากรีดเฉือนกลางอก...
ความหึงหวง...
บรรยากาศที่เคยอบอุ่นในห้องพลันเย็นเยียบลงในบัดดล เมิ่งหรงซินััได้ถึงรังสีอำมหิตที่คุ้นเคย นางค่อยๆ หันขวับไปมองที่ประตู...
และนางก็ได้สบเข้ากับดวงตาคู่นั้น... ดวงตาของพยัคฆ์ร้ายที่บัดนี้ไม่ได้มีเพียงความเ็า... แต่มันลุกโชนไปด้วยเปลวไฟสีดำมืดแห่งความโกรธาและ... ความ้าอย่างบ้าคลั่ง!
ความเงียบที่กดดันภายในห้องราวกับจะทำให้แผ่นไม้ทุกแผ่นปริแตกออกจากกัน เมิ่งหรงซินตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปเป็หิน ดวงตาจับจ้องไปยังบุรุษผู้เป็ดั่งฝันร้ายที่เดินได้ของนาง
กู้เหยียนหลงก้าวเข้ามาในห้อง... ช้าๆ ... แต่ทุกย่างก้าวของเขากลับหนักอึ้งราวกับกำลังเหยียบย่ำลงบนหัวใจของนาง เขาปิดประตูลงกลอน... ตัดขาดพวกเขาออกจากโลกภายนอก
"ดูเหมือนเ้าจะปรับตัวได้ดีเกินไป" เสียงของเขาเย็นเยียบเสียดกระดูก "ถึงขั้น... ปรนนิบัติชายอื่นถึงเตียงนอนของเขา"
คำพูดที่เจือด้วยยาพิษนั้นทำให้เมิ่งหรงซินได้สติ นางโกรธจนลืมกลัวไปชั่วขณะ
"ท่านพูดจาเหลวไหลอะไร! ท่านพี่อวี้หลงป่วยหนัก ข้าเพียงแค่ดูแลเขาในฐานะคนในครอบครัว!" นางเผลอขึ้นเสียงใส่เขา คำว่า "ท่านพี่" และ "คนในครอบครัว" ที่หลุดออกมาจากปากนางนั้น ราวกับน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟ
"ท่านพี่ ฮึฮึฮึ?" กู้เหยียนหลงทวนคำนั้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม เขามาหยุดอยู่ตรงหน้านางแล้ว คว้าท่อนแขนของนางไว้ด้วยแรงที่มหาศาลจนนางต้องนิ่วหน้าด้วยความเ็ป "เ้าลืมสถานะของตัวเองไปแล้วรึ... ว่าเ้าเป็ใคร... และเป็ของใคร?"
แววตาของเขามืดครึ้มลงจนน่ากลัว เขาบีบแขนนางแน่นขึ้น จ้องลึกลงไปในดวงตาของนางราวกับจะสูบิญญา "ข้าส่งเ้ามาที่นี่เพื่อให้มีชีวิตรอด... ไม่ใช่เพื่อให้เ้ามาปรนิบัติชายอื่น!"
"ข้าเปล่า!" นางพยายามบิดแขนออก แต่ก็ไร้ผล "ท่านไม่มีสิทธิ์มาพูดกับข้าเช่นนี้! ท่านไม่ใช่เ้าชีวิตของข้า!"
"งั้นรึ?" เขากระชากร่างของนางเข้ามาจนชิดแผงอกกำยำของเขา "เช่นนั้นข้าควรจะทบทวนความจำให้เ้าดีหรือไม่... ว่าเ้าของที่แท้จริงของเ้าคือใคร!"
เขาโน้มใบหน้าลงมา ริมฝีปากเย็นเฉียบของเขากำลังจะประทับลงบนริมฝีปากของนางอีกครั้ง...
"อึก... หรง... ซิน..."
เสียงละเมอแหบพร่าของอวี้หลงดังขึ้นขัดจังหวะ เขาพยายามจะลุกขึ้นและขยับตัวเล็กน้อยบนเตียง และเรียกชื่อของนางอย่างโหยหา
ชั่วขณะนั้น... สติของกู้เหยียนหลงพลันกลับคืนมา เขาชะงักไป มองไปยังร่างที่นอนป่วยอยู่บนเตียงสลับกับใบหน้าที่ซีดเผือดและเปียกชุ่มด้วยน้ำตาของหญิงสาวในอ้อมแขน
ก๊อกๆๆ!
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้อนรนของป้าหลิว เป็ดั่งระฆังช่วยชีวิตของเมิ่งหรงซิน "คุณหนูหรงซิน! คุณชายเป็อย่างไรบ้าง!?"
กู้เหยียนหลงสบถในใจอย่างหัวเสีย เขารีบปล่อยแขนของนางออก แล้วถอยห่างไปสองก้าว ปรับสีหน้าให้กลับมาเรียบเฉยดังเดิม เมิ่งหรงซินรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที.!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้