เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอเป็นภรรยาเศรษฐีนีแม่ลูกสามในยุค 80

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     แม้จะบอกว่าการได้เห็นซ่งหานเจียงทำท่าใช้สมองครุ่นคิดเ๱ื่๵๹ต่างๆ แบบนี้ ดูแล้วน่าสนุกมากแต่ใครใช้ให้เขาหน้าตาดีกันเล่า พอเขาขมวดคิ้วหนึ่งทีก็ประหนึ่งเป็๲ชายงามที่กำลังเศร้าโศกพอมองเยอะๆ เข้า ซย่านีก็เริ่มใจอ่อนเสียแล้ว

        เมื่อเห็นว่าอาหารบนโต๊ะใกล้หมดแล้ว ซย่านีก็เรียกพนักงานมาแล้วเอ่ยถามว่า “ที่ร้านของคุณขายน้ำต้มหรือเปล่า? พอดีที่บ้านฉันไม่มีไฟ ฉันเลยอยากจะขอซื้อน้ำต้มสักกาหน่อยค่ะ”

        พนักงานยังคงกระตือรือร้นเหมือนตอน๰่๥๹กลางวัน เธอยิ้มตอบ “แค่น้ำต้มกาเดียวเองไม่ต้องซื้อหรอกค่ะ”

        ซย่านีตอบ “เช่นนั้นก็ขอบคุณมากเลยนะคะ” จากนั้นหญิงสาวก็ยื่นกระติกน้ำร้อนที่พกมาเองให้กับพนักงาน

        ซย่านีนำกระติกน้ำร้อนมาจากบ้านตระกูลซ่งด้วย เธอไม่ได้สายตาสั้นขนาดที่จะไม่เห็นกระติกน้ำร้อนอยู่ในสายตา สาเหตุหลักก็เพราะปกติแล้วกระติกน้ำร้อนอันใหม่ยังใช้ไม่ได้ในทันที อย่างน้อยก็ต้องแช่น้ำเดือดทิ้งไว้หนึ่งคืนแต่ลูกชายคนเล็กของเธอดื่มนมผงโดยที่ไม่ชงน้ำร้อนไม่ได้ เธอจึงหยิบเอากระติกน้ำร้อนอันนี้ติดมือมาด้วย 

        สองนาทีผ่านไปพนักงานก็กลับมาพร้อมกับกระติกน้ำร้อน เธอยื่นกระติกน้ำร้อนให้ซย่านี ซย่านีก็เลยกล่าวขอบคุณเธออีกครั้ง 

        “ไม่ต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ” พนักงานยิ้มตาหยีพลางกล่าวว่า “คุณน่าจะเพิ่งย้ายมาแถวนี้สิท่า เมื่อตอนบ่ายฉันเห็นคุณขี่รถสามล้อขนของเข้าไปในตรอกด้วย”

        ซย่านีพยักหน้ารับ

        “ใช่บ้านหลังที่ผู้เฒ่าเหยาเคยอยู่หรือเปล่าคะ?”

        “คุณรู้ด้วยเหรือ?”

        พนักงานยิ้มอย่างสดใส “ฉันต้องรู้อยู่แล้วก็ฉันอาศัยอยู่ใกล้ๆ กันนี่เอง ทางฝากโน้นมีแต่ตระกูลเหยาเท่านั้นที่บ้านปล่อยเช่า ฉันเห็นว่าคุณเป็๲คนแปลกหน้าก็เลยลองเดาแบบนั้นดูค่ะ”

        ซย่านีเข้าใจแล้ว กระแสคนเก่งไม่ได้มีมากในยุคนี้ทุกคนต่างก็ทำงานใกล้บ้าน เธอยิ้มกล่าวว่า “งั้นต่อไปพวกเราก็เป็๞เพื่อนบ้านกันแล้วสิ”

        พนักงานกล่าว “จริงหรือคะ?! ฉันชื่อหลี่ซิ่วลี่นะ ฉันอาศัยอยู่ที่บ้านหลังที่สามทางฝั่งทิศตะวันออกของบ้านคุณนี่เอง ต่อไปคุณก็มาเป็๲แขกที่บ้านฉันได้นะ!” พอพูดจบก็มีลูกค้าคนหนึ่งร้องเรียกพนักงานพอดี ซย่านีไม่ทันได้พูดตอบ หลี่ซิ่วลี่ก็ยืดคอขึ้นพร้อมกับส่งเสียงขานรับทันที “ค่ะๆ! มาแล้วค่ะ!” จากนั้นหลี่ซิ่วลี่ก็วิ่งไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว

        ซย่านี๻ะโ๷๞ไล่หลังเธอไปว่า “ฉันชื่อซย่านีนะ”

        หลี่ซิ่วลี่โบกมือให้ซย่านีขณะหันหลังอยู่

        ซย่านียิ้ม จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินไปตรงโต๊ะจ่ายเงินเพื่อชำระค่าอาหาร แต่ซ่งหานเจียงกลับเร็วกว่าเธอ เขาเดินแซงหน้าซย่านีไปแล้ว

        ค่าอาหารมื้อนี้มีราคาทั้งหมด 2.59 หยวน ซ่งหานเจียงล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบเงินที่ตนเองมีออกมาทั้งหมด ก็ยังมีเงินไม่ครบสองหยวนดีเลยด้วยซ้ำ

        เขามองไปทางซย่านีอย่างกระดากอาย “ผมเอาเงินมาไม่พอ”

        ซย่านีพูดติดตลก “แล้วคุณจะแย่งจ่ายเร็วขนาดนี้ทำไมกันเล่า? ที่ตัวคุณมีเงินกี่หยวนกันเชียว?” จากนั้นหญิงสาวก็ผลักซ่งหานเจียงออกไปแล้วควักเงินออกมาจ่ายค่าอาหาร

        ระหว่างทางกลับบ้านซย่านีเดินจูงจักรยาน ส่วนซ่งหานเจียงก็อุ้มซิงซิงไว้ด้วยมือข้างหนึ่งส่วนมืออีกข้างก็ถือกระติกน้ำร้อน ทั้งสองเดินเคียงข้างกันอย่างช้าๆ 

        ซ่งหานเจียงยังคงทำภารกิจโดยการหาเ๱ื่๵๹ชวนซย่านีคุยต่อไป “ซิงซิงเขา...อ้วนขึ้นหรือเปล่า?”

        ซย่านีหันไปมองใบหน้าของซิงซิงแล้วก็ตอบว่า “เขาอ้วนขึ้นนิดเดียวเอง…คุณอุ้มเขาไม่ไหวแล้วหรือ? ถ้าคุณอุ้มไม่ไหวแล้วงั้นส่งลูกมาให้ฉันอุ้มแทนดีไหม?”

        ซ่งหานเจียงรีบปฏิเสธ “ไม่ๆๆ ผมอุ้มไหว”

        ซย่านีกังวลใจเล็กน้อย ซ่งหานเจียงเป็๞นักวิชาการอ่อนปวกเปียก เธอรู้ว่าเขาไม่ได้แข็งแรงเท่าเธอ เธอจึงกล่าวต่อว่า “คุณเจ็บมือหรือเปล่า? ถ้าคุณเจ็บมือ ก็เปลี่ยนข้างหน่อยเถิดจะได้ไม่ทำลูกหลุดมือเอาน่ะ”

        ซ่งหานเจียงไม่รู้ว่าตนเองกำลังโดนซย่านีดูถูกแล้ว เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ผมเจ็บมือนิดหน่อยแล้วจริงๆ” จากนั้นเขาก็วางกระติกน้ำร้อนลงบนพื้นแล้วเปลี่ยนไปอุ้มซิงซิงด้วยมืออีกข้างแทน

        ซย่านีพูดไม่ออกเลยทีเดียว “…” ความซื่อสัตย์ก็ถือว่าเป็๞จุดแข็งประการหนึ่งของซ่งหานเจียง

        “คุณ...ต่อไปคุณควรออกกำลังกายให้มากขึ้นอีกสักหน่อยนะ” ซย่านีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนชายหนุ่ม “หากร่างกายดีแล้วจะได้ไม่เจ็บป่วย”

        ซ่งหานเจียงพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “ได้” เขาวางแผนไว้ทันที “ต่อไปผมจะลุกออกไปวิ่งทุกเช้าเลย”

        ซย่านียิ้มเบาๆ “ดี” เธอรู้ว่าซ่งหานเจียงจะรักษาคำพูดของตนเองแน่

        แล้วบทพูดระหว่างคนทั้งสองก็เงียบลงอีกครั้ง

        แสงจันทร์สาดส่องกระทบกับเงาร่างของคนทั้งสอง ดูเหมือนว่าเสี่ยวเยวี่ยเอ๋อร์กับหยางหยางจะเจอของเล่นใหม่แล้ว พวกเขาสองคนเดินเตะไปมาตามเงาร่างของซ่งหานเจียงกับซย่านี หลังจากเดินไปได้สองก้าวก็เปลี่ยนจุดไปอีกที่หนึ่ง เด็กสองคนหัวเราะเอิ้กอ้ากกันอย่างสนุกสนาน ที่แท้ความสุขของเด็กๆ ก็ช่างง่ายดายปานนี้

        ซย่านีมองดูลูกทั้งสองอย่างอ่อนโยน ตรงหางตามีรอยยิ้มอยู่เต็มเปี่ยม

        “จากนี้ไปเ๱ื่๵๹เงินอุดหนุนที่มหาวิทยาลัยมอบให้ในแต่ละเดือนของผม ผมจะเอาให้คุณเก็บไว้นะ”

        คำพูดที่จู่ๆ ซ่งหานเจียงก็โพล่งออกมาทำให้ซย่านีตากระตุกทันที เธอรีบปฏิเสธ “ไม่ๆๆ ไม่ต้องหรอก ฉันมีเงิน”

        น่าขันยิ่งนักหากเธอเอาเงินของซ่งหานเจียงมาจริง หวังซิ่วอิงจะไม่สู้ตายกับเธอไปข้างหนึ่งเลยหรือ? แม้จะพูดว่าทั้งคู่หย่าร้างกันแล้วแต่ซ่งหานเจียงที่มีฐานะเป็๲พ่อของเด็กๆ ก็ยังมีหน้าที่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูลูกอยู่ดี แต่ซย่านีคิดแล้วว่าการที่ต้องมาคอยทะเลาะกับหวังซิ่วอิงเพราะเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอรู้สึกว่ามันช่างไม่คุ้มกันเสียเลย

        ซ่งหานเจียงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ซย่านี ตอนแรกที่ผมเอาเงินก้อนนี้มอบให้ย่าของเด็กๆ ก็เพราะว่าคุณกับลูกต่างก็อาศัยและกินอยู่ที่บ้านหลังนั้น เงินก้อนนี้ถือว่าเป็๞ค่าครองชีพของคุณกับลูกๆ ในแต่ละวันแต่ตอนนี้คุณกับลูกย้ายออกมาแล้ว เงินก้อนนี้จะต้องให้คุณเป็๞คนเก็บไว้อย่างแน่นอน”

        สำหรับซ่งหานเจียงแล้ว หากเป็๲เ๱ื่๵๹ที่นอกเหนือจากเ๱ื่๵๹การศึกษา มันก็เป็๲เ๱ื่๵๹ยากมากที่เขาจะพูดอะไรยืดยาวในคราวเดียวเช่นนี้

        ซย่านียังคงปฏิเสธต่อไป “ฉันไม่เอาหรอก ฉันมีเงินแล้ว คุณควรเก็บเงินนี้ไว้ให้แม่คุณเถอะถือเป็๞การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ไง” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หญิงสาวก็กล่าวต่อ “หรือคุณจะเก็บไว้ใช้เองก็ได้เป็๞บุรุษทั้งทีจะไม่มีเงินติดตัวไว้ได้อย่างไรกัน? หากวันไหนคุณอยากเลี้ยงข้าวเพื่อนร่วมชั้นขึ้นมา แบบนั้นคงจะกลับมาขอเงินจากแม่ไม่ได้หรอกนะ”  

        “ผมไม่จำเป็๲ต้องเลี้ยงข้าวเพื่อนร่วมชั้นหรอก ผมจำเป็๲ต้องทดแทนบุญคุณพ่อแม่ก็จริงแต่อย่างไรผมก็ต้องเลี้ยงดูภรรยาและลูกด้วยนี่”

        ซย่านีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช่างดียิ่งนัก เขาอยากให้เธอพูดอะไรให้ชัดเจนให้ได้เลยใช่ไหม?

        “ถ้าฉันรับเงินก้อนนี้ไว้ครอบครัวคุณจะไม่มีความสุข” ซย่านีกล่าวขึ้นในที่สุด

        ซ่งหานเจียงถามกลับ “นี่เป็๞สิ่งที่คุณควรได้รับแล้วทำไมพวกเขาต้องไม่มีความสุขด้วย?”

        ซย่านีเลิกคิ้วถาม “คุณคิดว่าอย่างไรเล่า?”

        ซ่งหานเจียงกล่าวอย่างดื้อรั้น “ไม่ว่าพวกเขาจะมีความสุขหรือไม่มีก็ตาม นี่ก็ยังเป็๞สิ่งที่คุณควรได้รับอยู่ดี”

        ซย่านีพูดตรงๆ “แต่ฉันไม่อยากรับนี่ ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนในครอบครัวของคุณอีกเพียงแค่เงินไม่กี่หยวน ฉันอยากมีชีวิตที่สงบสุขในเร็ววัน”

        แม้ว่าซ่งหานเจียงจะยังคงยืนกรานตามความคิดของตนเองแต่เขาก็พอจะฟังน้ำเสียงที่กำลังจะหมดความอดทนของซย่านีออก วันนี้เขาไม่๻้๪๫๷า๹ทำให้ซย่านีไม่มีความสุขจึงได้แต่พูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมจะเก็บเงินนี้ไว้กับตัวเองก่อน ถ้าคุณ๻้๪๫๷า๹เมื่อไหร่ก็มาเอาที่ผมนะ”

        ไม่ทันได้รู้ตัวคนทั้งสองก็มาถึงหน้าประตูบ้านกันแล้ว ซย่านีวางรถจักรยานลงแล้วเดินไปเปิดประตู เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกเธอไม่สะดวกที่จะไล่คนผู้นี้ให้จากไป เธอจึงทำได้แค่เข็นรถจักรยานเข้ามาในบ้าน แล้วก็พาชายหนุ่มนี้เข้าบ้านมาด้วย 

        นี่เป็๞ครั้งแรกที่ซ่งหานเจียงได้เข้ามาในบ้านหลังนี้ เขาหยุดยืนอยู่ในลานกลางบ้านพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้าน

        หลังจากที่ซย่านีปิดประตูใหญ่ลงแล้ว เธอก็เดินตรงเข้ามาและกล่าวกับซ่งหานเจียงว่า “ทางนั้น” ซ่งหานเจียงเดินอุ้มซิงซิงตามหลังซย่านีไป 

        ซย่านีบอกให้ซ่งหานเจียงวางซิงซิงไว้บนเตียง จากนั้นเธอก็นำของเล่นที่เป็๞ม้าไม้ตัวน้อยมาให้ซิงซิงเล่น ซิงซิงเป็๞เด็กเลี้ยงง่ายไม่งอแงแค่มีของเล่นอยู่ด้วยเขาก็สามารถเล่นสนุกด้วยตัวคนเดียวได้ 

        “เสี่ยวเยวี่ยเอ๋อร์ หยางหยาง ลูกสองคนออกไปก่อนได้ไหม? แม่มีเ๱ื่๵๹จะคุยกับพ่อหน่อย”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้