หยางเฉินเดินออกจากสถานีตำรวจด้วยใบหน้าสับสน เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทนายคนนี้ถึงช่วยเขาทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน และดูเหมือนคนคนนี้จะมีอิทธิพลพอสมควร
หน้าสถานีตำรวจ ทนายจางผู้มีผมขาวโพลนสวมแว่นตากรอบทอง กำลังจับมือขอบคุณสารวัตรไช่เอี๋ยนอยู่
"ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะครับ หายากมากนะครับที่คนอายุน้อยอย่างคุณจะได้รับตำแหน่งใหญ่โตถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังใจกว้างอีกด้วย"
อย่างไรก็ตาม ไช่เอี๋ยนยังคงแสดงท่าทางเข้มงวดอย่างอหังการ ใบหน้าเ็าของเธอปรากฏรอยยิ้มเย็นเยียบ
"ทนายจางเป็ผู้ใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการกฎหมายนี้มานาน พวกเราเป็แค่เด็กรุ่นหลัง ต้องให้ความเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่อยู่แล้ว" แม้เธอจะพูดกับทนายจาง แต่สายตาเหลือบมองไปยังหยางเฉินที่ยืนบิดี้เีอย่างสบายอารมณ์
ไช่เอี๋ยนคิดไม่ถึงว่าทนายจางจะมาประกันตัวให้หยางเฉิน ถึงแม้ทนายจางจะไม่ได้บอกว่าใครอยู่เื้ัของเขา แต่คนคนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ถึงขนาดให้ทนายจางผู้มีชื่อเสียงอันลือลั่นมาประกันตัวด้วยตนเองเช่นนี้ ไช่เอี๋ยนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะเดาได้ถูกต้อง เื้ัของหยางเฉินต้องไม่ธรรมดาแน่
หลังจากเดินออกมาจากสถานีตำรวจไม่นาน หยางเฉินยิ้มอย่างสุภาพกล่าวกับทนายจางว่า
"เอ่อ… ผมต้องขอบคุณทนายจางมากเลยนะครับ ไม่งั้นล่ะก็ผมต้องติดแหง็กอยู่ในนั้นตลอดสองวันแน่ๆ ผมมีนัดกับเพื่อนคืนนี้ซะด้วยสิ แถมยังปวดหัวอยู่ด้วย..."
เมื่อมองดูหยางเฉินยิ้มอย่างเคอะเขิน ทนายจางก็เปลี่ยนเป็อยากรู้อยากเห็นในทันที ก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมต้องมาประกันตัวชายผู้นี้ด้วย แต่หลังจากพบหยางเฉิน เขาก็รับรู้ได้ว่าชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดา ต้องมีเื่อะไรเกิดขึ้นในสถานีตำรวจแน่ๆ เขากลับเดินออกมาด้วยท่าทางปลอดโปร่งและพูดคุยกับเขาอย่างสบายๆ บรรยากาศรอบกายเขาไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง
เมื่อปราศจากสายตาดูถูกอีกต่อไป ทนายจางหัวเราะร่วนพลางกล่าวว่า
"คุณหยาง ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมแค่ได้รับไหว้วานมาจากคนคนหนึ่งน่ะ หากคุณอยากขอบคุณเขาล่ะก็ เขาอยู่ตรงหน้าคุณแล้วล่ะ"
หยางเฉินกวาดสายตาไปยังทางที่ทนายจางส่งสัญญาณให้ เขาสังเกตเห็นรถยนต์สีแดงจอดอยู่ข้างฟุตบาท
หยางเฉินจ้องมองอย่างสนใจ รถเบนท์ลี่ย์นั้นหายากทีเดียวสำหรับประเทศนี้ มันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของอังกฤษ ในประเทศจีนนั้นราคาต่ำสุดอยู่ที่สี่ล้านหยวน แน่นอนว่าไอ้บ้าคนนั้นคงเห็นเงินหนึ่งล้านหยวนเป็เพียงเศษเงินเท่านั้น
หลังจากร่ำลากับทนายจางแล้ว หยางเฉินก็ก้าวเดินไปที่รถคันนั้นอย่างเชื่องช้า แล้วหยุดก้มลงมองที่นั่งคนขับ เขาตะลึงไปในทันทีและไม่อาจละสายตาจากเ้าของรถได้ ชายหนุ่มยิ้มพลางกล่าว
"คุณนั่นเอง?"
เธอสวมชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ ผมสีดำเรียบถูกรวบไว้เป็ระเบียบ พร้อมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ั์ปกปิดใบหน้าที่งดงามเข้ากันกับรูปลักษณ์อันเ็า ทุกอย่างนี้มากพอที่จะทำให้ใจทุกคนสั่นไหว
กระจกรถเลื่อนลงพร้อมเสียงเ็าที่ดังลอดออกมา
"ขึ้นรถ" เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าหยางเฉิน
หยางเฉินเข้าไปนั่งที่เบาะหลังอย่างไม่เกรงใจ ปรับที่นั่งให้ขยายออกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดั่งเจอสหายเก่า
"เมื่อเช้านี้คุณรีบออกไปจัง ผมยังคิดอยู่เลยว่าจะได้เจอคุณอีกหรือเปล่า แต่ผมคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอคุณเร็วขนาดนี้ แถมคุณยังประกันตัวผมออกมาอีกต่างหาก มันเป็โชคชะตาใช่ไหม?"
หญิงสาวแปลกหน้าผู้นี้เองที่ใช้เวลากับหยางเฉินทั้งคืน ด้วยสายตาเ็าที่มองมาแล้ว ทำให้หยางเฉินนึกถึงเื่เมื่อคืน เธอเหมือนเป็คนละคนกันโดยสิ้นเชิง เขานึกอย่างขบขัน
"นายไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่านายเป็ใบ้หรอกนะ"
เมื่อปราศจากเสียงใดๆ อีก หญิงสาวก็ออกรถจากสถานีตำรวจไปทันที สิบกว่านาทีผ่านไป เธอจอดรถที่ร้านกาแฟใกล้ๆ กับสวนสาธารณะใจกลางเมือง
หยางเฉินเดินตามเธอเข้าร้านกาแฟเงียบๆ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบดั่งหลุดออกสู่ลุ่มน้ำอเมซอน ตามที่บริกรแนะนำพวกเขาเลือกที่นั่งบนชั้นสองซึ่งตกแต่งด้วยแมกไม้ใหญ่หลายสายพันธุ์ ให้ความรู้สึกสงบอย่างยิ่ง
"คุณหลินและท่านนี้ ไม่ทราบว่าจะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ?" บริกรชายยิ้มถามอย่างสุภาพ
ดูเหมือนเธอจะมาที่นี่บ่อยๆ หญิงสาวถอดแว่นตาออกเผยให้เห็นใบหน้าที่สามารถทำให้ชายทุกคนต้องใจร้อนรุ่ม
"บลูเมาท์เทนใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล"
หยางเฉินขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนยิ้มกว้างบอกกับบริกรว่า
"เอ่อ… ขอชาดอกเบญจมาศ แบบไม่ร้อนนะครับ ไม่ต้องเอาอย่างดีก็ได้ เอาที่ถูกที่สุด"
ใบหน้าของบริกรเปลี่ยนเป็แข็งทื่อทันที ก่อนกล่าวออกมาช้าๆ ว่า
"คุณครับ เราเป็ร้านกาแฟ ไม่มีน้ำชาครับ ยิ่งเป็ชาดอกเบญจมาศแล้ว..."
"งั้นเปลี่ยนเป็น้ำแก้วหนึ่งก็แล้วกัน ว่าแต่น้ำเปล่าคิดเงินหรือเปล่า?" หยางเฉินถามต่อด้วยความรำคาญ
"เอ่อ... เรามีน้ำเปล่าครับ ว่าแต่คุณ้าแค่น้ำเปล่าหรือครับ?" บริกรมองหยางเฉินด้วยความงุนงง เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดสหายของท่านหลินนั้น จึงสั่งแค่น้ำเปล่า
ในที่สุดหญิงสาวก็หมดความอดทน เธอบอกบริกรไปว่า
"เอากาแฟเนเปิลส์ แบบอเมริกันสไตล์ให้เขาที่หนึ่งนะ"
"ครับคุณหลิน" บริกรหนุ่มหายลับไปอย่างว่องไว
ใบหน้าหยางเฉินเปลี่ยนเป็เศร้าหมองทันที พร้อมกล่าวว่า
"คุณหนูหลินใช่หรือไม่? ผมไม่มีเงินจะจ่าย ทำไมคุณยังจะสั่ง... เนเปิลส์ มันราคาสูงถึงร้อยหยวน รู้ไหมผมต้องขายแพะย่างเป็พันไม้ถึงจะมีเงินจ่าย"
"ฉันจ่ายเอง" เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงใกล้หมดความอดทน
"ผมไม่สนว่าใครจะเป็คนจ่าย ผมมีมือมีเท้า เกียรติและศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของผมจะไม่ยอมให้คุณมาทำลายมันด้วยกาแฟแก้วเดียวแน่ๆ คุณควรรู้ไว้ด้วยนะว่าถึงผมจะจน แต่ผมก็ทำอาชีพสุจริต ถ้าผมต้องดื่มกาแฟ ผมจะใช้เงินของผมจ่ายเอง อีกอย่างผมก็ไม่ชอบดื่มกาแฟด้วย..."
"ฉันไม่ได้พานายมาเพราะว่านายชอบหรือไม่ชอบ" หญิงสาวมีโทสะเล็กน้อย เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าแค่กาแฟถ้วยเดียวจะอะไรนักหนา
กลับกันท่าทางของหยางเฉินจริงจังเป็อย่างมาก
"คุณหลิน อย่างที่ผมพูดไป สุภาพบุรุษนั้นไม่เคยขอใครกิน คุณอาจมองว่าเลี้ยงกาแฟเแก้วเดียวเป็เื่เล็กน้อย แต่คุณลองนึกถึงฐานะของผมสิ ถึงผมจะเป็แค่พ่อค้าขายแพะย่าง แต่คุณก็ไม่ควรดูถูกผมอย่างนี้"
"พอกันที!!!"
หญิงสาวลุกขึ้นทุบโต๊ะอย่างแรงจนชุดเดรสสีขาวส่ายไปมา
"พูดจบแล้วใช่ไหม ฉันไม่ว่างมาฟังเื่ไร้สาระของนายหรอกนะ!"
หยางเฉินเปลี่ยนจากหน้ามือเป็หลังตูด เขายิ้มออกมาทันที
"คุณหลิน ท่าทางในตอนนี้ของคุณน่ารักมาก คุณยังสาวควรมีอารมณ์ร้อนเปลี่ยนแปรผัน มากกว่าเ็าดุจน้ำแข็ง ผมคิดว่าท่าทางในตอนนี้ของคุณน่าดูเอามากๆ"
"นี่นาย..." หญิงสาวนั่งลงโดยพลัน แววตาสีส้มจ้องมองหยางเฉิน "ฉันไม่มีเวลาว่างมาคุยเื่ไร้สาระหรอกนะ ฉันมีเื่สำคัญต้องคุยกับนาย"