“หมายเลข 4 ขึ้นเวทีได้!!” กรรมการกล่าวเสียงดัง
ได้ยินดังนั้น จื่อต้าหลงจึงทะยานร่างขึ้นบนเวที อีกฝ่ายก็เช่นกันคู่ต่อสู้ของเขาในรอบนี้ มีนามว่าจินตานเป็ชายร่างอวบดูทรงพลังมหาศาล
จินตานนั้นมีพลังบ่มเพาะอยู่ที่ปราณจิตขั้น 3 มากกว่าจื่อต้าหลง 1 ระดับ เขาใช้กระบองลูกตุ้มเป็อาวุธ
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัว จงยอมแพ้ไปเสียเถอะ” จินตานกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มขรึม ท่าทางของมันดูใจเย็นเป็อย่างยิ่ง
“เ้าพูดถูก ถ้าไม่อยากเจ็บตัวจงยอมแพ้ไปซะเ้าอ้วน” จื่อต้าหลงกล่าวโต้ตอบ
“จะ…เ้าว่าไงนะ! เ้าอ้วนงั้นรึ! ข้าไม่ได้อ้วนข้าแค่อวบโว้ยยย!!” จินตานคำรามอย่างเดือดดาล ใบหน้าที่ใจเย็นพลันเปลี่ยนเป็บิดงอในทันที
“ฮ่าๆๆ เ้าอ้วนอย่าเพิ่งโมโหไปสิ” จื่อต้าหลงกล่าวยั่วยุเพื่อให้อีกฝ่ายขาดสติ
……จินตานหมดคำจะพูด ขณะนี้เส้นเืปูดขึ้นที่ขมับของมันทั้งสองข้าง มันพร้อมขย้ำจื่อต้าหลงอย่างเต็มที่
เริ่มได้!!
สิ้นเสียงกรรมการ จินตานพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วหมายที่จะเอากระบองตุ้มเหล็กของมันฟาดหัวจื่อต้าหลงเสียหน่อย ข้อหาปากเสีย
วูบบบบ!! เสียงกระบองลูกตุ้มเหล็กแหวกอากาศฟาดไปยังจื่อต้าหลง จื่อต้าหลงขยับตัวหลบเพียงเล็กน้อย กระบองตุ้มเหล็กเฉียดหัวเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ตู้ม!! เสียงกระบองลูกตุ้มเหล็กฟาดลงพื้นสนามประลองเต็มๆ พื้นแตกเป็เสี่ยงๆ
‘หากโดนเต็มๆแม้ข้าจะฝึกวิชาเกราะกายาถึงขั้นสูงแล้วคงจะเจ็บไม่น้อย หลีกเลี่ยงไว้ดีกว่า’ จื่อต้าหลงคิดในใจ
จินตานหลังจากท่าแรกพลาดไปแล้ว มันก็กวัดแกว่งกระบองลูกตุ้มด้วยความโกรธของมัน ทำเอาจื่อต้าหลงต้องหลบเป็พัลวัน
“เฮ้ๆ เ้าอ้วนใจเย็นๆ ต่อไปนี้ข้าจะไม่เรียกเ้าว่า เ้าอ้วนอีกแล้ว” จื่อต้าหลงกล่าวอย่างร้อนรน ทว่าคำพูดเขาดันไปกระตุ้นต่อมโทสะอีกฝ่าย เขาไม่คิดว่าไอ้เ้านี่จะยั่วยุง่ายถึงเพียงนี้
“หุบปากกก!! ย้ากกก!!” จินตานยิ่งสู้ยิ่งบ้าคลั่ง จื่อต้าหลงรู้สึกเหมือนกำลังถูกกระทิงไล่ขวิด เขาหลบอย่างพัลวันอยู่นับ 100 กระบวนท่า หลังจากผ่านไป 100 กระบวนท่าที่แสนดุเดือดแล้ว จินตานก็เริ่มอ่อนแรง
“ดูนี่สิ จินตานเป็ฝ่ายบุกอยู่ฝ่ายเดียว จื่อต้าหลงทำอะไรไม่ได้เลย ต้องรับ ต้องหลบ ถอยร่นอย่างต่อเนื่อง” ผู้ชมการประลองคนนึงกล่าวแสดงความเห็น
“ฮ่าๆๆ หนีหัวซุกหัวซุนเลย ดูแล้วอีกไม่กี่กระบวนท่าคงไม่รอดแล้วแหละ จินตานแข็งแกร่งกว่าเยอะ” ผู้ชมการประลองอีกคนกล่าว
“ไร้สาระ ยังไงจื่อต้าหลงก็ชนะ” เป็เฉิงไฉเซียวกล่าวขึ้นมา
“เ้าผิดแล้วล่ะ ยังไงระดับฝีมือก็ต่างกัน จื่อต้าหลงพลังบ่มเพาะน้อยกว่าแถมยังโดนบุกอยู่ฝ่ายเดียวด้วย อีกไม่นานจื่อต้าหลงต้องสิ้นลายแน่นอน” กลุ่มผู้ชมมีความเห็นเช่นเดียวกันว่า จินตานต้องชนะอย่างแน่นอน
“แล้วถ้าข้าจะบอกว่าจินตานไม่มีทางเอาชนะจื่อต้าหลงได้ล่ะ พวกเ้าเชื่อหรือไม่?” เฉิงไฉเซียวกล่าว
“บัดซบ!! ข้าไม่มีทางเชื่อ!”
“ใช่ ข้าก็ไม่มีทางเชื่อ! โดนรุกขนาดนี้เดี๋ยวก็จอดแล้ว” เหล่าผู้ชมกล่าวแย้งอย่างหัวเด็ดตีนขาด ทำเสมือนว่าจินตานเป็บิดาของพวกมันก็มิปาน
“ฮ่าๆๆๆ ถ้างั้นมาเดิมพันกันมั้ยล่ะ?” เฉิงไฉเซียวกล่าวท้าทายด้วยใบหน้ายียวน
ลวี่เหรินเห็นดังนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ สหายเขาช่างชอบการพนันเดิมพันซะเหลือเกิน
“พนัน!! ก็มาสิ ข้าไม่เคยกลัวใครที่ไหนอยู่แล้ว ฉายาข้าคือเซียนพนันจางเอ้อ!” ชายคนนึงกล่าวอย่างมั่นใจ
“เอาล่ะถ้างั้นมาเลย ใครที่้าก็เดิมพันมาได้ ข้ารับเฉพาะ 100 ตำลึงขึ้นไป ไม่มีอั้น!” เฉิงไฉเซียวกล่าว หลังจากนั้นเพียงไม่นานเขาก็ได้ผู้รับแทงจินตานไปหลายคนแล้ว อย่างต่ำๆก็ 50 คนเข้าไปแล้ว
“วางเงินแล้วห้ามเอากลับนะไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือนหึๆ” เฉิงไฉเซียวกล่าวพร้อมเผยแววตาอำมหิต
กลับมาที่เวทีประลอง ขณะนี้จื่อต้าหลงรับมือกระบวนท่าของจินตานไปนับ 200 กระบวนท่าแล้ว จื่อต้าหลงจึงะโถอยฉากออกมา ‘เอาล่ะหมดเวลาสนุกแล้ว’ จื่อต้าหลงคิดในใจ
“ข้าจะบุกละนะ ระวังตัวด้วย จินตาน…” จื่อต้าหลงกล่าวเตือน
“เหอะๆ ก็มา…..”
จินตานพูดยังไม่ทันจบประโยค
วูบ!!
เสียงคนพุ่งแหวกผ่าอากาศอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือถูกปล่อยออกมา ภาพที่จินตานเห็นคือเสมือนมีัตัวสีม่วงทะยานร่างออกมาจากฝ่ามือของอีกฝ่าย คลื่นพลังปราณัสีม่วงเข้ากระแทกจินตานเข้าที่หน้าอกเต็มๆ! ทำเอามันกลิ้งกระเด็น กระอักเืออกมาเป็จำนวนไม่น้อย ตอนนี้จินตานาเ็มากจนลุกมาสู้ต่อไม่ไหว กรรมการเห็นดังนั้นก็ประกาศผลทันที
“จื่อต้าหลงเป็ฝ่ายชนะ!!”
ผู้ชมในสนามประลองต่างก็ส่งเสียงเฮ มีทั้งคนสุขและคนเศร้า
“ฮ่าๆๆ ข้าชนะเดิมพันอีกแล้ว” เฉิงไฉเซียวกล่าวพร้อมกวาดถุงเงินเข้าแหวนมิติ รอบนี้เขาได้กำไร ราวๆ 5,000 ตำลึงจึงค่อนข้างอารมณ์ดี เขาคิดว่าจื่อต้าหลงคือตัวนำโชคของเขาโดยแท้
หลังจากล้มคู่ต่อสู้ลงไปได้ จื่อต้าหลงก็เดินมารวมกลุ่มกับสหาย
“เ้าอยู่ 1 ใน 4 คนสุดท้ายแล้ว…” ลวี่เหรินกล่าว
“ถูกต้อง ข้าแค่โชคดีไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจมากนัก” จื่อต้าหลงกล่าว
“ฮ่าๆๆ บางทีดวงก็คือฝีมืออย่างนึง เ้าไม่อาจชนะลิขิตฟ้าได้หรอก” เฉิงไฉเซียวกล่าว
หลังจากจื่อต้าหลงลงจากเวทีเขาก็รีบสงบสติและฟื้นฟูพลังทันที เตรียมพร้อมที่จะรับศึกในรอบถัดไป
หลังจากจบรอบ 8 คนสุดท้าย ก็มีเวลาให้ 4 คนที่เหลือพักฟื้นพลังเพิ่มอีกครึ่งชั่วยาม
หลังจากพักฟื้นฟูพลังครบกำหนดแล้ว กรรมการก็กล่าว
“เอาล่ะ! พวกเ้าเชิญจับหมายเลขใหม่ได้!!”
หลังจากกรรมการพูดจบ ทั้ง 4 คนก็ขึ้นเวทีไปจับหมายเลขประลอง
หลังจากที่ทุกคนส่งหมายเลขให้กรรมการในที่สุดก็จับคู่ประลองได้แล้ว
รอบรองชนะเลิศ!!
“จื่อต้าหลง ปะทะ ฟงเลี่ย!!”
“เกาซีิ ปะทะ หลิวสุ่ยเยว่!!”
กรรมการประกาศเสียงดัง
ดูเหมือนการคัดเลือกรอบนี้จะทำให้สำนักปลาทองโด่งดังขึ้นมาแล้ว เพราะใน 4 คน มีถึงสองคนที่มาจากสำนักปลาทอง
ขณะนี้เหล่าผู้ชม ต่างมีคนมากมายอยากไปฝึกที่สำนักปลาทองเพิ่มมากขึ้นเพราะในรอบ 8 คนสุดท้าย มีถึง 4 คนที่มาจากสำนักปลาทอง
“นี่มันสำนักอันใดกันข้าไม่เคยได้ยินเลย ปีนี้นับว่าสู้กับสำนักลี่ได้อย่างสูสี เหลือเชื่อจริงๆ!” เหล่าผู้ชมต่างกล่าวเป็เสียงเดียวกัน
