ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     คุณยายยิ้มพร้อมกับกล่าว “ใครจะไปทำเป็๲ มันไม่ได้ทำได้ง่ายๆ”

        “คุณยายคะ ในหนังสือมีวิธีทำเขียนบอกเอาไว้ ไว้ว่างๆ หนูค่อยลองทำดู”

        คุณตาใช้มือเขกที่ศีรษะเธอไม่แรงนัก “โม่โม่ หลานเป็๲เด็ก อย่ามัวแต่คิดทำเต้าหู้เลย การบดถั่วมันลำบาก หลานทำเ๱ื่๵๹ย้ายทะเบียนบ้านเสร็จแล้วหรือยัง”

        เธอนึกถึงร่างกายของตัวเองที่อ่อนแอไม่ค่อยมีแรง เช่นนั้นคงต้องพักเ๹ื่๪๫ทำเต้าหู้เอาไว้ก่อน

        “เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวเอาหนังสือรับรองไปให้ผู้ใหญ่บ้าน แค่นี้ทะเบียนบ้านของหนูกับน้องก็ย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้แล้ว”

        “เอามาให้ตา พรุ่งนี้ตาจะเอาไปให้ผู้ใหญ่บ้านเอง”

        “ค่ะ” เธอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ความจริงแล้วคือล้วงมือเข้าไปในโกดังสินค้า เพื่อหยิบหนังสือรับรองออกมา ก่อนจะส่งให้คุณตา

        “คุณยายคะ วันนี้กินยาหรือยังคะ”

        “กินแล้ว ยาได้ผลดีจริงๆ หายใจได้โล่งขึ้นเยอะ”

        “งั้นก็กินติดต่อกันนะคะ”

        “ไม่ต้องหรอก ยายดีขึ้นแล้ว”

        “คุณยายคะ โรคหัวใจของยายจำเป็๞ต้องกินยาติดต่อกัน คุณยายอดทนกินต่ออีกหน่อยเถอะค่ะ”

        คุณยายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่คุณตากลับพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจขึ้นมาเสียก่อนว่า “หลานมันอุตส่าห์ซื้อยามาให้ แกก็อดทนกินไปหน่อยเถอะ”

        “ก็ได้ ฉันเชื่อแกกับหลาน”

        หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เซี่ยโม่เก็บโต๊ะ นำจานชามไปล้างอย่างขยันขันแข็ง

        เช้าวันต่อมา ฟ้าเพิ่งจะเริ่มมีแสงสว่าง เซี่ยโม่ตื่นนอนลุกลงจากเตียง แล้วออกไปวิ่งรอบหมู่บ้าน

        ครบหนึ่งรอบ เวลาก็ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง

        พอเหงื่อออกเต็มตัวเธอก็กลับมาที่บ้าน พบว่าคุณตาคุณยายตื่นนอนแล้ว

        คุณยายกำลังทำอาหารเช้า ส่วนคุณตากำลังเก็บจัดระเบียบข้าวของภายในบ้าน

        เธอเข้าไปในห้องครัว “คุณยายคะ เดี๋ยวหนูทำอาหารเช้าเอง เช้านี้จะทำอะไรกินคะ”

        คุณยายตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ก็กินของเมื่อวานนั่นแหละ โจ๊กข้าวฟ่างที่ทำไว้เมื่อวานยังเหลืออยู่ไม่น้อย เอามาอุ่นก็กินได้แล้ว ยายอุ่นเอาไว้แล้ว ว่าแต่หลานเถอะ ออกไปไหนมาแต่เช้า เหงื่อออกเต็มตัวเชียว”

        เธอตอบอย่างกระตือรือร้น “หนูไปออกกำลังกายตอนเช้ามาค่ะ วิ่งรอบหมู่บ้านมาหนึ่งรอบ วิ่งเสร็จแล้วรู้สึกดีมาก ต่อไปหนูจะออกไปวิ่งทุกเช้าเลย ร่างกายจะได้แข็งแรง”

        “ดีๆ”

        “คุณตาคะ กองการผลิตของหมู่บ้านมีงานเก็บหญ้าแห้วหมูใช่ไหมคะ เมื่อก่อนหนูจะไปเก็บหญ้าแห้วหมูหนึ่งกระบุงทุกเช้า ได้แต้มการทำงานตั้งสามแต้ม”

        “มีสิ กระบุงหนึ่งได้สามแต้มเหมือนกัน แต่ก่อนนี้หลานบอกว่าจะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรไม่ใช่เหรอ”

        “เ๹ื่๪๫นี้ยังไม่รีบค่ะ หนูจะไปเก็บหญ้าแห้วหมูก่อน ได้แต้มการทำงานแล้วค่อยขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพร”

        “โม่โม่ ตอนขึ้นเขาก็อย่าเข้าไปในป่าลึก อยู่แต่รอบนอกก็พอ แล้วก็รีบกลับมารู้ไหม” คุณตากำชับอย่างเป็๲ห่วง

        เธอพยักหน้า “ค่ะ”

        หลังจากรับประทานมื้อเช้า คุณตาคุณยายก็ออกไปทำงาน

        เธอกำชับน้องชายหลายประโยค จากนั้นจึงออกจากบ้าน ไปเก็บหญ้าแห้วหมูก่อนเป็๞อย่างแรก

        เรียบร้อยแล้วเซี่ยโม่จึงไปหาคนจดแต้มการทำงาน แจ้งชื่อของเธอและชื่อคุณตา รอจนอีกฝ่ายบันทึกเสร็จถึงค่อยเดินขึ้นเขาไปอย่างอารมณ์ดี

        ก่อนหน้านี้เธอมักขึ้นเขาไปเก็บไม้มาทำเป็๞ฟืน ฟืนที่ใช้ในบ้านล้วนเป็๞เธอแบกลงมาจากเขาทั้งสิ้น

        วันนี้ในที่สุดเธอก็ได้ขึ้นเขาเพราะเป้าหมายอื่น เดินมาได้สักพัก แววตาเธอพลันเป็๲ประกาย

        ต้องขุดดอกผูกงอิงตรงนั้น แล้วก็ผักกาดน้ำตรงโน้นด้วย

        ว้าว ผลฟู่เผินจื่อ[1]ที่ขึ้นตรงพุ่มไม้นั้นสุกแล้ว ถ้าเด็ดกลับไป คุณยายกับน้องชายต้องชอบมากแน่

        ระหว่างที่เธอเก็บผลฟู่เผินจื่อ เธอก็ได้ค้นพบของดีอีกหนึ่งอย่าง

        นั่นคืออู่เว่ยจื่อ[2]ไม่ใช่เหรอนั่น

        ผลไม้ชนิดนี้มีสรรพคุณในการรักษาโรคหัวใจ หากนำไปแปรรูป สามารถนำไปต้มเป็๞น้ำให้คุณยายดื่มได้ตลอดทั้งปี เธอเลยจะเก็บมันกลับไปด้วย

        ทันใดนั้นเอง เซี่ยโม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากพุ่มไม้ข้างหน้าซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน

        เธอระแวดระวังตัวขึ้นมาในทันที หันไปมองรอบๆ ตัว พบว่าตัวเองเดินขึ้นเข้าป่ามาลึกพอสมควร โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิด

        เซี่ยโม่ยังคงจับจ้องบริเวณที่มีเสียงความเคลื่อนไหว พอเพ่งมองให้ดีถึงได้เห็นว่าต้นตอของเสียงคือไก่ป่าตัวหนึ่ง

        เธอวางตะกร้าที่สะพายหลังลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพุ่งไปหาไก่ป่าตัวนั้นประหนึ่งเสือที่กำลังตะครุบเหยื่อ

        จังหวะที่เธอจับไก่ป่าตัวนั้นเอาไว้ หูได้ยินเสียงอะไรบางอย่างแตกเบาๆ

        เธอก้มมอง ที่แท้ไก่ป่าตัวนี้กำลังนั่งกกไข่อยู่นั่นเอง

        เธอตะครุบไก่ป่าตัวนี้แรงไปหน่อย ไข่เลยแตกไปสองฟอง มันคงเพิ่งนั่งกกไข่ได้ไม่นาน แล้วก็ถูกเธอจับตัวได้

        ในโกดังสินค้าใช่ว่าไม่มีพวกของสด แต่เธอไม่รู้จะอ้างเหตุผลอะไรเพื่อนำมันออกมา

        เธอค้นพบว่าเวลาในโกดังสินค้าหยุดนิ่ง ต่อให้ผ่านไปสองวันอาหารที่อยู่ในนั้นก็ยังคงสดใหม่

        ไก่ป่าที่จับมาสามารถเอากลับไปทำซุปไก่ให้คุณยายรับประทานได้ ใส่ผลไม้ห้ารสลงไปด้วย ดีต่อโรคหัวใจของคุณยายอย่างยิ่ง

        เธอมัดขาและปากของไก่ป่า ไม้ที่จะนำกลับไปทำฟืนก็ใช้เชือกซึ่งทำจากหญ้ามัดเอาไว้หลวมๆ ให้เหลือที่ตรงกลางสำหรับใส่ไก่ป่า

        เธอเก็บไข่ที่ยังไม่แตกของมันใส่ตะกร้ากลับไปด้วย

        ยุคนี้สัตว์บนเขามักจะอยู่รวมกันเป็๲กลุ่ม พวกชาวบ้านมักแอบขึ้นเขามาล่าสัตว์เพื่อนำกลับไปเป็๲อาหาร

        วันนี้เธอได้ของดีกลับไปไม่น้อย เธอสะพายตะกร้า ถือไม้กองหนึ่งลงจากเขา

        เมื่อเซี่ยโม่กลับถึงบ้าน คุณยายที่ไปให้อาหารหมูก็กลับมาบ้านพอดี

        “คุณยาย…”

        “โม่โม่ เป็๲ยังไงบ้าง”

        เธอยิ้ม “คุณยาย หนูมีของดีจะให้ด้วยค่ะ”

        เฉินเฟิงที่ได้ยินเสียง วิ่งออกมาจากในห้อง “พี่ครับ เก็บของอร่อยอะไรกลับมาเหรอครับ”

        เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระหยิ่มยิ้มย่อง “เฉินเฟิง พี่เก็บผลไม้ป่ามาฝากเราด้วย”

        เด็กชายตาโต น้ำลายเริ่มสอ “กิน ผมอยากกิน!”

        “ใจเย็น”

        เธอวางตะกร้าที่สะพายอยู่บนไหล่ลง และวางกองไม้ลงบนพื้น

        จากนั้นนำไก่ป่าออกมา รวมถึงไข่ของมันที่อยู่ในตะกร้า

        คุณยายถึงกับตะลึง ไม่นานก็ได้สติกลับคืนมา เอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีว่า “โม่โม่ หลานนี่โชคดีจริงๆ ยายไม่ได้ยินมานานแล้วว่ามีคนจับไก่ป่าบนเขาได้ แถมยังได้ไข่ไก่มาด้วย”

        “คุณยาย เป็๞พวกเราโชคดีต่างหากละคะ จะได้เอามาทำซุปไก่ให้คุณยายกับเฉินเฟิงกินบำรุงร่างกาย”

        “ทุกคนกินด้วยกันต่างหาก แถมได้ไข่ไก่มาตั้งหลายฟอง ดีจริงๆ!”

        ระหว่างที่เดินกลับบ้าน เธอคิดว่าโอกาสเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง เลยนำไข่ไก่ออกมาจากโกดังสินค้า มาวางรวมกับไข่ของไก่ป่า หน้าตาของพวกมันคล้ายๆ กัน ดูไม่ออกแน่นอน

        แล้วก็เป็๲จริงดังที่คิดไว้ คุณยายดูไม่ออก

        “ตอนที่หนูเจอ มันกำลังกกไข่อยู่พอดี หนูทำแตกไปสองฟอง คงเป็๞ไข่ที่มันเพิ่งออกได้ไม่นาน”

        “น่าสงสารจริงๆ…” คุณยายเอ่ยพร้อมกับถอนหายใจ

        เธอนำอู่เว่ยจื่อกับฟู่เผินจื่อออกมาจากในตะกร้าอย่างระมัดระวัง รวมถึงพวกสมุนไพร

        นำฟู่เผินจื่อไปล้างน้ำจนสะอาด ใส่ในถ้วยแล้วยื่นให้น้องชาย จากนั้นถึงค่อยไปจัดการกับไก่ป่า

        รอจนคุณตากลับมา ในห้องครัวก็อวลไปด้วยกลิ่นหอม คุณตามองหลานสาวด้วยความประหลาดใจ

        “หลานจับไก่ป่ามาได้งั้นเหรอ” คุณตาเอ่ยถาม

        คุณตาจมูกดีเหลือเกิน แยกแยะกลิ่นออกด้วย เธอพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ

        “หลานนี่โชคดีจริงๆ” คุณตาเอ่ยชม

        เธอเองก็คิดว่าตัวเองโชคดีมากเช่นกัน

        หลังจากได้กลับมาเกิดใหม่ ไม่เพียงช่วยน้องชายกลับมาได้ ยังหลุดพ้นจากบ้านหลังนั้นอีกด้วย

        ทั้งยังมีโอกาสได้อยู่เป็๞เพื่อนคุณตาคุณยาย พวกเธอทั้งสี่คนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เรียกได้ว่าโชคดีอย่างยิ่ง

        เธอพยักหน้ารัว “ต่อไปพวกเราต้องโชคดียิ่งกว่านี้อีกแน่ค่ะ”

        คุณตาพยักหน้าเช่นกัน “ตาเชื่อ มีพวกหลานอยู่ ชีวิตพวกเรามีแต่จะยิ่งดีขึ้นๆ”

        มื้อเย็นวันนี้คือข้าวสวยร้อนๆ กับซุปไก่หอมกรุ่น ทั้งสี่คนนั่งรับประทานอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข

        เซี่ยโม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขึ้นมาว่า “พรุ่งนี้หนูจะขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรอีก บนเขามีของดีเยอะเลย”

        “โม่โม่ ระวังตัวด้วยละ” คุณตาไม่วายกำชับอย่างเป็๲ห่วง

        เธอพยักหน้า “ค่ะ หนูจะระวังตัวค่ะ”

         

        -----------------------------------

        [1] ฟู่เผินจื่อ คือ ราสป์เบอร์รี

        [2] อู่เว่ยจื่อ คือ ชิแซนดราเบอร์รี เป็๞พืชสมุนไพรที่ใช้ในตำรับยา นิยมทำเป็๞ชาดื่มกัน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้