หลี่ชิงหลิงชำเลืองมองหลิวจือโม่เงียบๆ นางรู้ว่าถ้าพูดไปตอนนี้เขาจะคัดค้าน ดังนั้นไว้ค่อยโน้มน้าวตอนเริ่มสร้างอาจจะดีกว่า
เพราะอย่างไรเสีย นางก็คิดจะสร้างบ้านหลิวพร้อมกันด้วย ครอบครัวมีเงิน พวกเขาจ่ายได้
เมื่อหิมะหยุดตกอย่างสมบูรณ์ และอากาศค่อยๆ ดีขึ้น หลี่ชิงหลิงก็เริ่มคุยเื่สร้างบ้าน
เด็กสาวเกลี้ยกล่อมหลิวจือโม่อยู่นาน วิเคราะห์ให้เขาฟังทีละเื่ จากนั้นเขาจึงตกลงสร้างบ้านด้วย
ทั้งสองบ้านไม่ได้แยกสร้างสองหลัง แต่รวมเป็หนึ่งหลัง
ก่อนสร้างบ้านต้องไปหาผู้นำหมู่บ้านเพื่อขอซื้อที่ดิน
ก่อนหน้านี้พวกหลี่ชิงหลิงเช่าบ้าน ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ หากพวกเขา้าสร้างบ้านที่นั่น พวกเขาต้องซื้อที่ดิน
หลี่ชิงหลิงขอให้หลิวจือโม่พานางไปพบผู้นำหมู่บ้านสำหรับเื่นี้
เมื่อผู้นำหมู่บ้านได้ยินว่าพวกเขา้าซื้อที่ดิน เขาก็ตกลงโดยไม่พูดอะไรสักคำ แถมยังลดราคาให้ถูกลงอีกเล็กน้อย
เพราะอย่างไรเสียมันก็อยู่เชิงเขาห่างไกล ให้ราคาถูกได้
หลังจากซื้อที่ดินแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหาคนสร้างบ้าน
หลี่ชิงหลิงรู้ว่าคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านสร้างบ้านเป็ นางคิดว่าเจิงเถียโถวช่วยเหลือนางและเป็คนดี ดังนั้นนางจึงปรึกษาเื่นี้กับหลิวจือโม่
หลิวจือโม่เองก็คิดว่าเจิงเถียโถวดี ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง เขาไปหาเจิงเถียโถวและขอให้เขาหาคนมาช่วยสร้างบ้านให้ โดยให้ค่าจ้างวันละยี่สิบเหวิน ไม่รวมค่าอาหาร เหมือนตอนจ้างคราวก่อน
ต้นฤดูใบไม้ผลิมีงานวันละยี่สิบเหวินนับว่าไม่เลวมาก
เจิงเถียโถวรู้สึกขอบคุณพวกหลิวจือโม่ที่ให้โอกาสนี้แก่เขา ตั้งใจหาคนที่ทำงานเก่งและมีความสามารถมาช่วย
ชาวบ้านได้ยินค่าจ้างต่างก็ยอมทำ
คนเกียจคร้านบางคนที่อยากได้งานนี้ไปหาเจิงเถียโถวเพื่อผูกมิตร แต่เจิงเถียโถวบอกว่าได้คนครบแล้ว ไม่้าแล้ว
เมื่อทางนี้ไม่ได้ คนเ่าั้ก็ไปหาหลี่ชิงหลิงและหลิวจือโม่ กล่อมให้พวกเขาพยักหน้าแทน
หลี่ชิงหลิงและหลิวจือโม่ไม่มีเงินเหลือทิ้ง พวกเขาจะตกลงทำตามคำขอของคนเหล่านี้ได้อย่างไร?
ทั้งสองปฏิเสธทีละคน บอกว่าพวกเขาได้คนพอแล้วและไม่้าอีก
คนเ่าั้ไม่ได้งานจึงไม่พอใจ คอยไปพูดให้ร้ายพวกหลี่ชิงหลิงไปทั่ว
เขา้าทำลายชื่อเสียงของหลี่ชิงหลิง
พวกเจิงเถียโถวได้ยินแล้วโกรธมาก รู้สึกคนเหล่านี้ไร้น้ำใจ ไม่ได้งานแล้วใช้วิธีต่ำๆ เหล่านี้
พวกหลี่ชิงหลิงได้ยินแล้วก็ไม่สนใจ พวกเขายุ่งกับเื่หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนไปโรงเรียน
“ต้องทำตัวให้อาจารย์ประทับใจนะ เข้าใจไหม?” หลี่ชิงหลิงช่วยหลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนจัดเสื้อคลุมให้เรียบร้อย เห็นรูปลักษณ์ที่กระฉับกระเฉงแล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนพยักหน้า บอกว่าพวกเขาจะได้สอบเข้าให้ได้ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
การไปเรียนเป็ความฝันของพวกเขาเสมอมา ตอนนี้ความฝันของพวกเขาเป็จริงแล้ว พวกเขาจะรักษามันไว้
"เอาล่ะ ไปเถอะ!" หลังจากหลิวจือโม่เตรียมเงินค่าสอบแล้วก็ออกจากบ้านไปพร้อมกับเด็กสองคน
หลี่ชิงหลิงเห็นทั้งสามคนเดินออกไปจึงปิดประตูลานบ้าน และกลับไปที่ห้องเพื่อดูแลน้องๆ
ยามนี้หลี่ชิงหนิงคลานได้แล้วจึงต้องจับตาดู มิฉะนั้นกลัวว่านางจะตกจากเตียง
"น้อง น้อง นี่” หลิวจือโหรวตบมือเล็กๆ ะโบอกหลี่ชิงหนิงและหัวเราะ "ปีนมาทางพี่”
หลี่ชิงหนิงน้ำลายไหล ปากเล็กๆ ที่ไร้ฟันฉีกยิ้ม คลานไปหาหลิวจือโหรวอย่างรวดเร็วเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน
นางปีนขึ้นไปบนหลิวจือโหรว ยื่นมือป้ายน้ำลายจำนวนมากบนใบหน้าของหลิวจือโหรว
หลิวจือโหรวกอดหลี่ชิงหนิงหัวเราะคิกคัก จูบหน้านางหลายครั้ง
"คนสวยทั้งสองกำลังเล่นอะไรกันอยู่ มีความสุขเชียว” ทันทีที่หลี่ชิงหลิงเดินเข้ามา เห็นทั้งสองหัวเราะคิกคักก็ยิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจ
หลิวจือโหรวเห็นหลี่ชิงหลิง ยิ้มและร้องเรียก "พี่..."
"อา... อา..." หลี่ชิงหนิงเห็นหลี่ชิงหลิงแล้วยื่นมือเล็กๆ ออกมาอยากให้อุ้ม
หลี่ชิงหลิงยื่นมือไปอุ้มหลี่ชิงหนิงมา จูบนางสองครั้ง ช่วยเช็ดน้ำลายที่ปาก "แมวน้อยตัวไหนน้ำลายไหลเนี่ย หืม?” เห็นน้องอ้วนพีแบบนี้ นางรู้สึกถึงความสำเร็จมาก
หลี่ชิงหลิงเอื้อมมือไปถอดรองเท้า ปีนขึ้นไปบนเตียงพร้อมกับน้องสาว ยื่นมือออกไปและเกาเอวของหลิวจือโหรว ทำให้หลิวจือโหรวหัวเราะเสียงดัง รีบคลานหนีไปที่ปลายเตียง เมื่อรู้ว่าหลี่ชิงหลิงเอื้อมมาไม่ถึงแล้วจึงหยุดพร้อมหัวเราะ
หลี่ชิงหลิงวางน้องสาวลงบนเตียง ชี้ไปที่หลิวจือโหรว ให้นางคลานไปหาหลิวจือโหรว
น้องสาวมองหลี่ชิงหลิงด้วยดวงตากลมโต เมื่อหลี่ชิงหลิงขอให้นางจับหลิวจือโหรวอีกครั้ง นางก็น้ำลายไหลและคลานไปหา
หลิวจือโหรวเอาแต่ะโ น้อง เร็วๆ สิ เมื่อเกือบมาถึงตรงหน้า นางก็รีบคลานหนีอีกครั้ง
เด็กๆ ไม่เคยเบื่อเกมนี้เลย หลังจากเล่นอยู่นานจนเด็กๆ เหงื่อออก หลี่ชิงหลิงก็หยุด
นางวิ่งออกไปหาอ่างน้ำแล้วกลับมาช่วยเด็กน้อยทั้งสองทำความสะอาด ตบก้นน้อยๆ บอกให้รีบเข้านอน
เด็กน้อยทั้งสองเหนื่อยมาก เอนตัวไม่นานนักก็หลับไป
หลี่ชิงหลิงก็รู้สึกง่วงนอนเล็กน้อยจึงนอนลงข้างๆ น้องสาว เตรียมพักผ่อนหน่อย
ทางหลิวจือโม่ เขาพาพวกหลี่ชิงเฟิงไปหาอาจารย์ไต้และอธิบายถึงจุดประสงค์
อาจารย์ไต้เขียนคำถามให้พวกหลี่ชิงเฟิงทำ หากพวกเขาตอบได้จะรับไว้
เมื่อทั้งสองคนกำลังถามคำถาม ผู้เป็อาจารย์ก็มองหลิวจือโม่ และถามเขาว่าเขา้าเรียนต่อหรือไม่?
หลิวจือโม่ส่ายหัวเบาๆ ถ้าเขาไปเรียน ครอบครัวจะต้องพึ่งพาหลี่ชิงหลิง นางคงเหนื่อยเกินไป
“เพราะค่าสอบหรือ?” เขารู้ว่าพ่อแม่ของหลิวจือโม่เสียไปแล้ว เป็ตอนนั้นเองที่หลิวจือโม่ออกจากสถานศึกษา
“ไม่เชิง” ถ้าเขาอยากเรียนต่อ ครอบครัวจ่ายได้ “น้องยังเด็ก ข้าต้องดูแลน้อง”
“น่าเสียดาย” อาจารย์ไต้ส่ายหน้าด้วยความเสียดาย เขาลุกไปซื้อหนังสือสองเล่มกลับมาให้หลิวจือโม่ “อ่านบ่อยๆ อย่าให้ความรู้เสียเปล่า ถ้ามีโอกาสก็เรียนต่อเถอะ!" หลิวจือโม่มีความสามารถ ถ้าเขาสามารถเรียนต่อได้น่าจะมีอนาคตที่สดใส
น่าเสียดาย…
เมื่อเห็นหนังสือสองเล่มนี้ หลิวจือโม่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขายืนขึ้นโค้งคำนับและกล่าวขอบคุณ
เมื่อมีหนังสือสองเล่มนี้ เขาสามารถทบทวนจุดสำคัญและไปสอบระดับต้นได้
หากสอบผ่านถงเซิง การสอบระดับต้นก็จะไปสอบซิวไฉได้
นี่คือสิ่งที่เขา้าทำมาโดยตลอด ตอนนี้มีโอกาสอยู่ตรงหน้า เขาจะคว้ามันไว้อย่างแน่นอน
อาจารย์ไต้ตบไหล่หลิวจือโม่ด้วยความหดหู่ บอกให้เขาตั้งใจสู้ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็สามารถมาถามได้ตลอดเวลา
เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ไต้ หลิวจือโม่รู้สึกขอบคุณยิ่งกว่าเดิม เขากล่าวขอบคุณอีกครั้งอย่างเคร่งขรึม
อาจารย์ไต้โบกมือบอกไม่ต้องเกรงใจ
ในเวลานี้หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนเขียนเสร็จแล้ว พวกเขาหยิบกระดาษออกมาให้อาจารย์ไต้ดู
อาจารย์ไต้อ่านที่ทั้งสองคนเขียนอย่างระมัดระวัง ดวงตาของเขาเป็ประกาย เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นี่เป็ต้นกล้าชั้นดี ขอแค่ดูแลดีๆ จะประสบความสำเร็จแน่
“ดีเลย พวกเ้าอยู่ที่นี่ได้!” เขาพบต้นกล้าที่ดีอีกสองต้น เป็เื่ที่ชวนมีความสุขที่สุด
เมื่อได้ยินว่าทั้งคู่ผ่าน หลิวจือโม่ก็ยิ้ม เอื้อมมือไปตบหน้าผากของทั้งสองคน ให้พวกเขาขอบคุณอาจารย์ไต้
หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนโค้งคำนับอาจารย์ไต้อย่างตื่นเต้นและพูดขอบคุณ
"ไม่ต้องเกรงใจ พรุ่งนี้มาเรียนให้ตรงเวลานะ!" อาจารย์ไต้ลูบเครา "อย่าลืมเตรียมพู่กัน หมึก กระดาษ และหินหมึก" ฝั่งเขาไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้
"ขอรับ..." หลี่ชิงเฟิงและหลี่ชิงเฟิงตอบพร้อมกัน
หลิวจือโม่ขอบอาจารย์ไต้อีกครั้ง จากนั้นจึงพาทั้งสองออกไป
หลังจากออกจากประตูและเดินไปได้ระยะหนึ่ง หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนก็หัวเราะตื่นเต้น ในที่สุดพวกเขาก็สามารถไปเรียนได้แล้ว
เมื่อเห็นทั้งสองคนมีความสุขมาก หลิวจือโม่ก็มีรอยยิ้มในดวงตา “หลังไปเรียนแล้วห้ามชะล่าใจ ต้องฟังคำพูดของอาจารย์อย่างระมัดระวัง เข้าใจไหม?" ทั้งสองยังไม่มีนิสัยที่แน่นอน เขาจึงต้องดูแลด้วยระเบียบวินัยเข้มงวด
“เข้าใจแล้ว!” พวกเขาไม่ได้มาง่ายๆ ย่อมเชื่อฟังที่อาจารย์พูดอยู่แล้ว
หากไม่เชื่อฟังก็จะทำให้การทำงานหนักของพี่ๆ เสียเปล่า
พวกเขาไม่ทำเื่แบบนั้นเด็ดขาด
เมื่อเห็นพวกเขาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง หลิวจือโม่ก็ตอบรับด้วยความพอใจ พาพวกเขาสองคนไปซื้อพู่กัน หมึก กระดาษและหินหมึก จากนั้นก็ไปซื้อเนื้อก่อนจะกลับบ้าน
ทันทีที่กลับถึงบ้าน หลี่ชิงหลิงแทบรอไม่ไหวที่จะถามว่าสอบผ่านหรือไม่
วันนี้เด็กสาวคิดเื่นี้ทั้งวัน กลัวแค่คนใดคนหนึ่งไม่ผ่าน หากเป็เช่นนั้นจะแย่มาก
หลี่ชิงเฟิงวิ่งไปหาหลี่ชิงหลิงอย่างตื่นเต้น พยักหน้าและบอกว่าพวกเขาผ่านการทดสอบกันทั้งคู่ พรุ่งนี้พวกเขาสามารถไปสถานศึกษาได้อย่างเป็ทางการ
"จริงหรือ" เมื่อหลี่ชิงหลิงรู้ข่าวก็ผุดลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข เห็นหลิวจือโม่พยักหน้าจึงยิ้มและยกนิ้วให้เด็กสองคน "พวกเ้าเก่งมาก!" เด็กทั้งสองสอบผ่านกันหมด นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด พวกเขาสามารถไปเรียนด้วยกัน
หลี่ชิงเฟิงเกาหัวพลางหัวเราะซื่อๆ
เขารู้สึกขอบคุณพี่จริงๆ ถ้าไม่มีพี่ ต่อให้อยากไปเรียนก็คงเป็ไปไม่ได้
