“ยอดเยี่ยม! เช่นนี้ก็สามารถขุดเร็วขึ้นไม่น้อยน่ะสิ!” มีคนกล่าวชมทันที
เวลานี้ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำกลับเอ่ยขึ้น “หากทำเช่นนี้ถึงจะเร็วแต่ในแม่น้ำยังคงมีน้ำอยู่ พวกเราก็ยังต้องขุดจากใต้น้ำเหมือนเดิม”
“โง่จริง!” เ้าอ้วนน้อยฉินชิงพลันกล่าวออกมา “ในเมื่อแบ่งขุดเป็ส่วนๆพวกเราก็ต้องกั้นน้ำสิ!”
“แต่น้ำแบบนี้พวกเราจะกั้นได้หรือ?”
ทุกๆ คนต่างเคลื่อนสายตาหันไปมองทางกงอี่โม่กงอี่โม่กลับคลี่ยิ้มพร้อมชี้ไปตรงจุดหนึ่งบนแบบจำลองเบื้องหน้า จากนั้นจึงกล่าวขึ้น
“ในเมื่อกั้นน้ำไม่ได้ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเราจึงไม่เปลี่ยนเส้นทางของมันล่ะ?”
“เปลี่ยนเส้นทางน้ำ?!” มีคนอุทานออกมาอย่างใอันที่จริงคนในยุคสมัยนี้จะรู้สึกเกรงกลัวธรรมชาติ หากให้พวกเขาไปกั้นน้ำพวกเขาจะรู้สึกไม่สบายใจ หากให้พวกเขาไปเปลี่ยนเส้นทางน้ำ? พวกเขาจะรู้สึกว่ามันเหนือความสามารถของมนุษย์พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด
“ทุกท่านโปรดดูตรงนี้น้ำในคลองขนส่งอวี้หลงเน่ยระหว่างแม่น้ำหวายจนถึงแม่น้ำแยงซีมาจากไหน? ส่วนใหญ่ก็คือน้ำจากหวงหลงไหลเข้าสู่เปี้ยนสุ่ยแล้วจึงไหลเข้าสู่แม่น้ำหวายจากนั้นน้ำจากแม่น้ำหวายจึงไหลเข้าอวี้หลงทว่าหากพวกเราเปลี่ยนเส้นทางน้ำตรงส่วนเปี้ยนสุ่ยให้ไหลไปทางลั่วหยางเช่นนี้หวายหยางก็จะว่างแล้ว”
“ความลาดชันของคลองขนส่งอวี้หลงเน่ยก็คือการค่อยๆ ลดระดับเป็ขั้นๆจากอุดรลงทักษิณ น้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ถึงจะกั้นไว้ตรงตำแหน่งหนึ่งก็ยังมีตำแหน่งอื่นอยู่ยกตัวอย่างเช่น น้ำจากแม่น้ำหวายก็จะไหลเข้าสู่ทะเลสาบหงเจ๋อส่วนน้ำจากทะเลสาบหงเจ๋อก็จะไหลเข้าสู่อวี้หลง บริเวณนี้จึงจำเป็ต้องย้ายเช่นกัน”
“พวกเราสามารถผันน้ำจากทะเลสาบหงเจ๋อเข้าซานเหอและซูฉวี แล้วให้น้ำจากบริเวณนี้ไหลเข้าสู่แม่น้ำแยงซีเช่นนี้ก็สามารถทำให้น้ำในอวี้หลงตอนกลางและตอนล่างว่างลง พวกเราจะจัดการส่วนอื่นๆในรูปแบบเช่นนี้”
กงอี่โม่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมคลี่ยิ้มน้อยๆนางมองนายช่างและเด็กหนุ่มข้างกายที่ทำตาเป็ประกาย แต่ละคนต่างทำท่าอยากรีบไปทดลองั้แ่ตอนนี้
“วิธีการคือสิ่งที่มนุษย์คิดขึ้นมาประวัติศาสตร์ของเรามีอวี่ผู้ยิ่งใหญ่ (ต้าอวี่) แก้ปัญหาน้ำท่วมตอนนั้นก็เลือกวิธีผันน้ำแต่ไม่ใช่การกั้นน้ำ หากจัดการน้ำได้อย่างดีก็จะเป็ประโยชน์ต่อประชาชนไม่ใช่หรือ? ขณะที่ขุดนั้นพวกเราสามารถผันน้ำไหลเข้าสู่ตัวแผ่นดินทุกคนต่างรู้ว่ายิ่งไปทางประจิมก็ยิ่งกักเก็บน้ำลำบากทว่าหากสามารถทำเส้นทางน้ำกระจายไปทั่วแผ่นดินไม่ว่าจะใช้เพื่อการชลประทานหรือเพื่อป้องกันภัยธรรมชาติก็เป็สิ่งที่ดีทั้งสิ้นทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้จะมีส่วนร่วมอยู่ในประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน!”
คำพูดของนางช่างน่าตื่นเต้นยิ่งนัก เวลานี้นางก้มศีรษะเล็กน้อยหันหน้าไปทางองค์รัชทายาทพร้อมทำท่าเชิญ “ตอนนี้ไม่อาจรอช้าได้แล้ว ลำดับถัดไปเชิญท่านพี่รัชทายาทออกคำสั่งกระจายงานเถิด!”
กงเช่อครุ่นคิดชั่วครู่ จากนั้นร่วมปรึกษาหารือกับทุกๆ คนสุดท้ายเขาจึงออกคำสั่ง
“สวีหยวน! เ้ากับหลี่ซือหลิ่วซือและคนอื่นๆ ไปกั้นและเปลี่ยนเส้นทางน้ำที่แม่น้ำหวายอีกทั้งขุดคลองขนส่งสายใหม่ขึ้นไปทางอุดร ข้าจะให้อำนาจออกคำสั่งแก่เ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”
“รับทราบ!” สวีหยวนทำสีหน้าจริงจังพร้อมกล่าวเสียงดังฟังชัด
กลุ่มอิทธิพลเื้ัของสวีหยวนและอวี้จื่อชิงเป็กลุ่มที่วางตัวเป็กลางส่วนฉินชิงอยู่ฝ่ายองค์รัชทายาท มีเพียงหลี่เคอที่มีสถานะค่อนข้างอึดอัด
ทว่าไม่เป็ไร เนื่องจากตัวองค์รัชทายาทเองก็มีจดหมายส่งมาอยู่ไม่น้อยจึงสามารถดูแลตรวจสอบพวกเขาได้เช่นกัน
“จื่อชิงเ้ากับเฉินซือและผู้ทดสอบเจียงรีบไปกั้นและเปลี่ยนเส้นทางน้ำที่ทะเลสาบหงเจ๋ออีกทั้งให้มุ่งหน้าไปทางทักษิณแบ่งส่วนจัดการโดยมีจุดเริ่มต้นที่หงเจ๋อเมื่อมีส่วนหนึ่งทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เ้าค่อยลาดตระเวนเขื่อนจากทักษิณขึ้นอุดรจนกระทั่งมารวมตัวกับพวกเรา!”
“ส่วนเส้นทางหลักอวี้หลงที่อยู่ตรงกลางบริเวณนี้มีปัญหาอุดตันมากที่สุด กงอี่โม่ เ้าไปกับข้า”
“รับทราบ!” กงอี่โม่ยิ้มน้อยๆ
“ส่วนหน้าที่ขุดเส้นทางน้ำสายย่อยในตัวแผ่นดินเพื่อเป็การระบายน้ำฉินชิง หลี่เคอ หน้าที่นี้มอบให้พวกเ้าแล้ว!”
พวกเขาทั้งสองต่างตอบรับ
เมื่อเป็เช่นนี้ทุกคนจึงถูกมอบหมายไปคนละทิศคนละทางทว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกใจหายเลยแต่ละคนต่างมีแต่ความมุ่งมั่นที่้าทำงานใหญ่ให้สำเร็จ พวกเขามีชาติกำเนิดสูงส่งความทะเยอทะยานที่้าสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ล้วนถูกสืบทอดอยู่ในสายเื
แม้ว่าตอนนี้พวกเขายังกังวลอยู่บ้าง ทว่าหากงานง่ายๆที่ถูกแบ่งอย่างชัดเจนเป็ขั้นเป็ตอนเช่นนี้ยังทำไม่สำเร็จพวกเขาก็ควรใช้ชีวิตสบายๆ รอความตายในเมืองหลวงยังดีเสียกว่า
เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดนี้กำลังดำเนินไปชีวิตของกงอี่โม่จึงมีสีสันขึ้นมา ตอนกลางวันนางจะช่วยคนงานขุดแม่น้ำนางไม่ได้ยืนออกคำสั่งเท่านั้น แต่นางลงไปขุดดินด้วยตัวเองจริงๆนางเนื้อตัวสกปรกมอมแมม เต็มไปด้วยเศษโคลนทุกวัน ดังนั้นเพียงไม่นานนางจึงอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างกลมกลืน
ส่วนพวกชายฉกรรจ์ร่างใหญ่เหล่านี้เห็นว่ากงอี่โม่มีอายุใกล้เคียงกับบุตรสาวของตนแต่นางกลับมีความรู้มากมาย ถึงพวกเขาจะรู้สึกเกรงกลัวอยู่บ้างทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าก็คือความใกล้ชิดสนิทสนมเวลาทำงานพวกเขาจึงยิ่งตั้งใจมากกว่าเดิม
“ให้ลูกท้อคืนด้วยลูกพลัม” เพื่อเป็การตอบแทนแล้วกงอี่โม่จึงช่วยปรับปรุงพัฒนาสิ่งของมากมายให้กับพวกเขาเพราะนางมีประสบการณ์มาสามชาติภพแล้ว อีกทั้งยังเห็นอะไรมากมายมีเครื่องมือการเกษตรจำนวนมากเมื่อหยิบมาให้กงอี่โม่พร้อมบอกรายละเอียดวิธีการใช้ให้กับนางนางก็มักสามารถหาวิธีพัฒนาเครื่องมือเหล่านี้ได้เสมอสร้างประโยชน์ให้พวกเขาอยู่ไม่น้อย ในชั่วพริบตาจึงมีแต่ผู้คนกล่าวชื่นชมนาง
ส่วนกงเช่อนั้น เนื่องจากเขาไม่ได้กดขี่คนงานเลยอีกทั้งยังเข้าใจเป็อย่างดีว่าพวกเขาจำเป็ต้องกลับไปเก็บเกี่ยว เขาจึงให้คนงานทำงานเพียงครึ่งวันต่อหนึ่งวันมีบางครอบครัวที่ยากจนมากเขายังอนุญาตให้ภรรยาและบุตรของพวกเขามาช่วยทำอาหารให้คนงาน ด้วยเหตุนี้บริเวณริมแม่น้ำจึงมีบรรยากาศคึกคัก
เสียงผู้คนะโ เสียงสัตว์ร้องรวมทั้งเสียงกำชับอย่างอ่อนโยนจากสตรีที่ส่งอาหารเสียงเหล่านี้สอดประสานกันราวกับเป็บทเพลงอันไพเราะ มีเด็กน้อยวิ่งผ่านไปมาพวกเขาต่างสนใจกงอี่โม่มาก จึงมักจะเหลือบมองนางอยู่บ่อยๆ
วันนี้กงอี่โม่กำลังทดลองการใช้ลูกรอกให้กับเหล่านายช่างนาง้าทำให้ได้ผลลัพธ์เหมือนล้อของกระเป๋าเดินทางในปัจจุบันที่ล้อสามารถหมุนได้สามร้อยหกสิบองศาหากเป็เช่นนี้ เวลาคนงานขนดินจะสามารถผ่อนแรงได้มาก
ส่วนกลุ่มเด็กน้อยกำลังแอบมองพวกนางทำงานอยู่หลังต้นไม้สีหน้าท่าทางของพวกเด็กๆ เหมือนอยากเข้าใกล้แต่ก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้
กงอี่โม่หันไปมองพวกเขา นางส่งยิ้มเห็นฟัน จากนั้นจึงเดินเข้าไปหา“เด็กๆ กำลังทำอะไรหรือ?”
นางมีสภาพราวกับาาแห่งขุนเขา สอบถามด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ปกติหากกงอี่โม่ไม่ได้ยุ่งอยู่ นางก็มักจะเล่านิทานให้พวกเขาฟังแต่คาดไม่ถึงว่าวันนี้พวกเขามาหานางก็เพราะ้าถ่ายทอดคำพูดบางอย่าง
“เจ้ใหญ่ มีคุณชายท่านหนึ่งฝากคำพูดให้ข้ามาบอกท่าน”กงอี่โม่บังคับให้เด็กๆ เรียกนางว่าเจ้ใหญ่ส่วนผู้ที่กล่าวประโยคนี้ก็คือเด็กชายที่ดูฉลาดมากคนหนึ่ง
“อ้อ? คำพูดอะไรหรือ?”
“เขาบอกว่า ขอเชิญพบกันตอนยามจื่อ* ในคืนนี้”
กงอี่โม่ลูบปลายคาง จากนั้นนางจึงเบิ่งตาโต“เจ้ใหญ่มีธุระที่ต้องทำ! ห้ามบอกเื่นี้กับผู้ใด! เข้าใจไหม?”
เ้าเด็กน้อยทั้งหลายต่างพยักหน้ารับ กงอี่โม่ส่งยิ้ม เมื่อนางหยิบลูกกวาดออกมาแจกเด็กๆแล้ว นางจึงอมลูกกวาดก้อนหนึ่งไว้ในปาก จากนั้นจึงฮัมเพลงเดินกลับไป
จันทราส่องสว่างเหนือยอดไม้
บุรุษผู้หนึ่งยืนอยู่บนที่สูงแห่งหนึ่งเขากำลังมองพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด ทว่าเวลานี้ไม่มีคนงานเลยสักคนมีเพียงหน่วยลาดตระเวนที่เดินผ่านเป็ระยะๆ เท่านั้นรวมทั้งพื้นที่เป็หลุมเป็บ่อชุ่มไปด้วยน้ำท่ามกลางแสงคบไฟ
“เป็อย่างไรบ้าง? ใใช่ไหม?”
ไม่รู้ว่ากงอี่โม่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาั้แ่เมื่อไรจินอวิ่นเหลือบมองนางอย่างประหลาดใจมาก
“เ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่?”
“เพราะตำแหน่งนี้เป็ตำแหน่งเดียวที่สามารถสังเกตพื้นที่ด้านล่างได้ทั้งหมด”กงอี่โม่หยุดยืนตรงด้านข้างของเขา นางมองพื้นที่ก่อสร้างด้านล่าง
นางมองลงไปพร้อมรำพึงออกมาอย่างอดไม่ได้“บางครั้งมันก็เป็เื่น่าทึ่งที่พวกเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติแต่ตอนนี้ข้ากลับรู้สึกว่าเมื่อมองมนุษย์ค่อยๆเปลี่ยนแปลงธรรมชาติทีละน้อยก็เป็เื่น่าประหลาดใจมากอย่างหนึ่ง”
ความหมายลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของนางทำให้จินอวิ่นคิดตามเขาพลันคิดถึงเื่บางอย่าง จากนั้นจึงทอดสายตาหว่านเสน่ห์ใส่นาง
“ถ้าอย่างนั้นเ้าก็ลองทายดูว่าเพราะเหตุใดข้าจึงมาหาเ้า?”
“ตอนนี้พวกเรากำลังขุดคลองอย่างจริงจังส่วนพวกท่านก็แอบดำเนินการอยู่เงียบๆการลอบขนส่งเช่นนี้นอกจากต้องมีเส้นทางน้ำแล้วก็ต้องมีเรือใช่ไหมล่ะ?” กงอี่โม่ยิ้มน้อยๆ
“โชคดีที่เ้าไม่ใช่บุรุษ มิฉะนั้น......” จินอวิ่นถอนหายใจส่ายศีรษะ
“มิฉะนั้นท่านจะตอบแทนด้วยชีวิตหรือ?” กงอี่โม่เลิกคิ้วคลี่ยิ้ม
* ยามจื่อ คือ เวลา 23.00 – 24.59น.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้