เสียงตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยวของาา ประหนึ่งลูกธนูพุ่งแทงหัวใจของผู้คนจำนวนมาก
ทหารผ่านศึกหลายนายต่างก้มหน้าลง ไม่อยากให้คนอื่นเห็นดวงตาของพวกเขา ทว่าร่างกายที่สั่นสะท้านเพราะความหวั่นไหว ได้เปิดเผยความรู้สึกภายในใจของพวกเขาในตอนนี้ และยังมีทหารหนุ่มบางส่วนอดกลั้นความรู้สึกไม่ไหวแล้วพากันร้องไห้ออกมา ไม่รู้เพราะว่าอัดอั้นตันใจหรือว่าปลาบปลื้มใจกันแน่
ชายผมขาวเพียร์ซ ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์บรู๊ค หรือแม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองแซมบอร์ด แฟรงก์ แลมพาร์ดที่ยืนห่างไปไม่ไกล ก็อดไม่ได้ที่เดือดพล่านไปกับคำพูดของซุนเฟย รู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังลุกโชนและพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่งอยู่ในอก
ตุลาการทหารคอนก้าสะดุ้งใเหมือนคนโง่
เขาคุกเข่าลงกับพื้น นิ่งค้างจนลืมแม้กระทั่งตบหน้าตัวเอง ไม่รู้ว่าเป็เพราะละอายใจหรือว่ากำลังคิดหาวิธีรับมือกับความโกรธของาา
“ที่เมืองแซมบอร์ด เ้าคือกฎของกองทัพ? ถ้าอย่างนั้นข้า! าาองค์นี้ควรเป็อะไร?”
ซุนเฟยตะคอกออกมาอย่างโมโห ยกเท้าขึ้นเตะคอนก้าที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้นจากนั้นก็หันไปถามบรู๊คว่า “ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ เกอเทอ บรู๊ค เ้าบอกข้าสิ ในฐานะตุลาการทหารกลับหนีทัพ ทั้งก่อนาจะเริ่มก็ยังกระทำการไร้มารยาทต่อาา ใช้อำนาจกฎของกองทัพตามอำเภอใจ การกระทำที่ผิดกฎเช่นนี้ ตามกฎแล้วสมควรจะลงโทษอย่างไร?”
“สมควรถูกปะาชีวิตด้วยข้อหาฏขอรับ!” บรู๊คตอบอย่างซื่อตรง
ซุนเฟยมองคอนก้าที่พยายามลุกขึ้นมาแล้วถามเสียงเ็าว่า “ได้ยินแล้วหรือไม่? เ้ายังมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?”
ตอนนี้ตุลาการทหารคอนก้าเริ่มหวาดกลัว
หวาดกลัวจริงๆ
แม้ว่าพลังของเขาจะอยู่ในจุดสูงสุดของนักรบระดับหนึ่งดาว แน่นอนว่าเขาไม่กลัวบรู๊คหรือเหล่าทหาร แต่กับยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองแซมบอร์ด แฟรงก์ แลมพาร์ดที่ยืนอยู่ไม่ไกล เหมือนูเาที่ตั้งตระหง่านทำให้เขายากที่จะแบกรับแรงกดดันมหาศาลไว้ได้ เห็นได้ชัดว่า หากอเล็กซานเดอร์้าจะสังหารเขา แลมพาร์ดก็สามารถตัดหัวเขาได้อย่างไม่ลังเลแน่นอน
“ฝ่าาโปรดเมตตา ฝ่าายกโทษให้ข้าด้วย ข้าไม่กล้าอีกแล้ว!”
คอนก้ารีบลุกขึ้นมาเกาะขาซุนเฟยพลางร้องไห้อ้อนวอน ท่าทางวางอำนาจก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่ามันหายไปไหนแล้ว
“อยากให้ข้ายกโทษให้เ้า เ้าถามพวกเขาสิ ว่าพวกเขาจะเห็นด้วยไหม?” ซุนเฟยชี้ไปทางเหล่าทหารบนกำแพง
ไม่มีใครตอบ
ทว่าเหล่าทหารมองตุลาการทหารคอนก้าด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว นี่คงพอจะอธิบายได้ทั้งหมด
คอนก้าคาดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ วันที่ตนเองจะต้องไปก้มหัวขอโทษเหล่าทหารชั้นต่ำที่ตนเองไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาเพื่อรักษาชีวิต เขานึกถึงเื่ราวที่ตนเองนั้นทำมาตลอดสองปี เขารู้ดีว่าทหารพวกนี้จะต้องไม่ให้อภัยตนเองอย่างแน่นอน
คอนก้าเข้าใจแล้วว่าวันนี้าาอเล็กซานเดอร์จงใจลงดาบตนเอง
เขามองไปที่เลขานุการบาร์เซิลที่เป็ความหวังสุดท้ายของเขา
ั้แ่ได้รับความชื่นชมจากบาร์เซิล เพื่อที่จะเอาอกเอาใจผู้กุมอำนาจเมืองแซมบอร์ดคนนี้ คอนก้าได้ทำเื่ชั่วช้าไว้ไม่น้อย เขาหวังว่าบาร์เซิลจะสามารถช่วยเขาได้เหมือนครั้งก่อนๆ ใช้อำนาจกลบเกลื่อนเพื่อช่วยเหลือตนเอง
และคอนก้าก็ต้องผิดหวัง เมื่อผีอั่งเปาเฒ่าไม่แสดงท่าทีใดๆ ไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ ท่าทางที่แสดงออกมาราวกับว่าเหมือนไม่รู้จักกัน
เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็เห็นรอยยิ้มเ็าของอเล็กซานเดอร์ยามมองมาที่เขา
สายตาของเหล่าทหารรอบข้างราวกับมีด เหมือนอดใจรอไม่ไหวที่จะเชือดเนื้อเถือหนังเขา
คนสนิทก็พากันถอยห่าง!
“ฝ่าา ท่านเตรียมจะจัดการข้าอย่างไร?” คอนก้าเริ่มสงบสติลง
ซุนเฟยมองเหมือนไม่มองเขา เงยหน้าหันไปกล่าวกับทุกคนบนกำแพงเมืองว่า “ตุลาการทหารคอนก้า ในระหว่างากลับหนีทัพ กระทำการไร้มารยาทต่อาา ใช้อำนาจกฎของกองทัพตามอำเภอใจ ตามกฎแล้ว ฏสมควรถูกตัดสินปะาชีวิต!”
มันไม่ง่ายเลยที่จะคว้าโอกาสนี้ได้ ซุนเฟยจะปล่อยผ่านไปเฉยๆ ได้อย่างไร เห็นชัดเลยว่าตุลาการทหารคอนก้าคนนี้เป็คนสนิทของเลขานุการบาร์เซิลและเขาก็สร้างความยุ่งเหยิงแก่กองทัพมาโดยตลอด ซึ่งดูจากสายตาของเหล่าทหารที่มองเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เป็ที่ยอมรับของทุกคน หากต้องจัดการคนแบบนี้มันต้องจัดการแบบถอนรากถอนโคน ไม่เพียงแต่สามารถกำจัดคนของบาร์เซิลยังสามารถสร้างขวัญกำลังให้แก่เหล่าทหารก่อนจะทำาได้อีก ดังนั้นั้แ่แรก ซุนเฟยก็ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะไม่ให้โอกาสใดๆ กับเขา
เมื่อรับสั่งนี้ออกมา เหล่าทหารบนกำแพงก็อดไม่ได้ที่จะโห่ร้องขึ้นมา
แต่ตอนนั้นเอง
“อยากให้ข้าตาย? งั้นเ้าก็อย่าอยู่เลยไอ้ปัญญาอ่อน!”
เสียงคำรามเหมือนสัตว์ร้ายดังขึ้น คอนก้าที่กอดขาซุนเฟยก็พลันโจมตีอย่างรุนแรง บนร่างกายปรากฏแสงสีเหลืองระยิบระยับ นี่เป็สัญญาณว่าเกือบจะเลื่อนขั้นเป็นักรบสองดาว เมื่อสองปีก่อนที่คอนก้ามาถึงเมืองแซมบอร์ด ตอนนั้นเขาอยู่ในระดับนักรบหนึ่งดาว น่าเสียดายที่ความสะดวกสบายทำให้พลังของเขาไม่มีการพัฒนา แต่ก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้เมื่อเขาเผชิญหน้ากับความลำบากกลับทำให้สัญญาณความก้าวหน้าปรากฎออกมา
ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด คอนก้าะโขึ้นมาใช้มือขวากำรอบคอซุนเฟย
ความเย่อหยิ่งของขุนนางผู้ใหญ่ในวันวานตอนนี้เหลือเพียงแต่สภาพสุนัขจนตรอก เสียงตะคอกดังขึ้นมาท่ามกลางเสียงใของทุกคน “หลีกไปให้พ้น...ออกไปห่างๆ ข้า ใครตามข้ามา ข้าจะฆ่าไอ้าาปัญญาอ่อนนี่ซะ!”
บรู๊ค เพียร์ซและเหล่าทหารต่างพากันใ
ฝูงชนรอบๆ รีบเข้ามาล้อมเขาไว้ ดาบ หอก กระบี่ ค้อน หรือแม้กระทั่งอาวุธที่ชำรุดต่างชี้ไปทางคอนก้า
“ปล่อยองค์าาซะ ไอ้สารเลวเอ๊ย!” เพียร์ซควงค้อนคู่ในมืออย่างโมโห
ใบหน้าของบรู๊คก็พลันเคร่งเครียดขึ้นมา แม้ว่าก่อนหน้านี้อเล็กซานเดอร์จะเคยแสดงให้เห็นว่าตัวเขาสามารถสังหารนักรบหนึ่งดาวได้เพียงเสี้ยววินาที แต่คลื่นพลังที่ปกคลุมร่างคอนก้าแสดงให้เห็นว่าเขาได้เลื่อนระดับเป็นักรบสองดาวแล้ว และการโจมตีที่รุนแรงนั่น ทำให้เขากลัวว่าจะพลาดทำให้องค์าาาเ็จึงรีบพูดขึ้นว่า “คอนก้า ปล่อยองค์าาซะ ข้าสาบานต่อพระเ้าด้วยเกียรติของนักรบ ข้าจะไว้ชีวิตเ้าและปล่อยให้เ้าออกไปจากเมืองแซมบอร์ดกลับไปเป็ทหารรับจ้าง!”
“ทหารรับจ้าง? ฮ่าๆๆ เ้าจะให้ข้ากลับไปทำอาชีพทหารรับจ้างเสี่ยงเป็เสี่ยงตายอีกนะเหรอ?” ตอนนี้คอนก้าเริ่มบ้าคลั่งขึ้นแล้ว เขาหัวเราะเหมือนคนบ้าพลางกล่าวว่า “เ้าคิดว่าหลังจากที่ข้าใช้ชีวิตสุขสบายในเมืองแซมบอร์ดมาสองปี ข้ายังจะมีคุณสมบัติเป็ทหารรับจ้างได้อีกหรือ? ข้าไม่คิดจะกลับไปเสี่ยงตายเพื่อเหรียญทองไม่กี่เหรียญหรอก...ข้า้าเหรียญทองมากที่สุดและม้าเร็วสองตัว รีบไปเตรียมมา!”
อาศัยตอนที่คอนก้ากำลังถูกดึงดูดความสนใจ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองแซมบอร์ด แฟรงก์ แลมพาร์ดก็ค่อยๆ เข้ามาข้างหน้าอย่างช้าๆ กระบี่ั์ด้านหลังสั่นน้อยๆ เขาคำนวณระยะห่าง ในใจขบครุ่นว่าจะช่วยชีวิตคนอย่างไร และจะปล่อยพลังเท่าไรให้ตายในดาบเดียว...
แต่...
คอนก้าก็เห็นเข้าเสียก่อน
ตอนนี้เขาแหกปากตะคอกเหมือนหนูถูกกระตุ้น “อย่าเข้ามานะ! ท่านแลมพาร์ด อย่าเข้ามาเชียว ท่านรีบถอยหลังไปไกลๆ หน่อย...ไกลอีก อย่างนั้นแหละ ข้ารู้อยู่แล้วว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน แต่ด้วยระยะห่างนี้ ท่านเชื่อหรือไม่ว่าก่อนที่ท่านจะลงมือ ข้าสามารถหักคอไอ้าาปัญญาอ่อนได้ก่อน?”
แลมพาร์ดทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ถอยหลังเล็กน้อย
ทุกคนต่างคิดไม่ถึงว่าเื่ราวจะมาถึงขั้นนี้
สีหน้าของบรู๊คและเพียร์ซเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย เขาไม่รู้ว่าควรจะจัดการอย่างไรดี ถ้าทำได้ พวกเขาจะไปแทนที่ซุนเฟยอย่างไม่ลังเล แต่...
ท่ามกลางฝูงชน มีเพียงผู้แทนบาร์เซิลที่นิ่งเงียบไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา
ในดวงตาของผีอั่งเปาเฒ่าปรากฏร่องรอยเ็าขึ้นมาวูบหนึ่ง ดวงตาลึกโหลปรากฏร่องรอยความยินดีปรีดาอย่างเงียบๆ ในใจแอบภาวนา ไอ้โง่ อย่าพูดเื่ไร้สาระให้มากนัก รีบฆ่ามันเร็ว ฆ่ามันเลย ฮ่าๆๆ แบบนั้นจะประหยัดเวลาข้ามาก...
“รีบไปเตรียมเหรียญทองและม้ามาเร็ว!”
ถูกผู้คนล้อมกรอบให้อยู่ตรงกลาง ดาบหอกชี้มาทางตน ภายใต้รุ่งอรุณสาดส่อง ตุลาการทหารคอนก้าสีหน้าเคร่งเครียดอย่างมาก คอยะโเร่งรัดเหมือนกับคนเป็โรคประสาท
แต่...
“ไม่ต้องเตรียม!” ซุนเฟยพูดออกมาหลังนิ่งเงียบมาตลอดหลังจากถูกบีบคอ
“เ้าว่าอะไรนะ?” คอนก้าตะลึง
“ข้าบอกว่าไม่ต้องเตรียมของพวกนั้น เพราะในความคิดข้า ต่อให้เ้ามีเหรียญทองมากมาย เ้าก็ไม่มีโอกาสได้ใช้มันอีก” ซุนเฟยจ้องคอนก้าด้วยท่าทางสงบ ก่อนจะอธิบายออกมาอย่างช้าๆ
ดวงตานิ่งสงบ ราวกับกว่าคนที่ถูกบีบคอคือคอนก้า ไม่ใช่ตัวเอง
ท่ามกลางความร้อนรนต่างๆ คอนก้าจึงโมโห “ฮ่าๆๆ ไม่มีโอกาสได้ใช้? ไอ้ปัญญาอ่อนเอ๊ย เ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?”
“เพราะ เ้า...จะ...ต้อง...ตาย...ไง...ล่ะ”
“อะไร?”
ไม่รอให้คอนก้าได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ทันใดนั้นก็รู้สึกเ็ปอย่างรุนแรงที่่ท้องขึ้นมาทันที ความรู้สึกนี้ราวกับว่าอวัยวะภายในกำลังะเิ มือที่บีบคอซุนเฟยพลันไร้เรี่ยวแรงทันที พลังที่ปกคลุมทั่วร่างก็หายไป จากนั้นโลกก็เริ่มหมุนพร้อมร่างของเขาที่ลอยขึ้นฟ้า
ฉากนี้ ทำให้เสียงอุทานใดังขึ้นทั่วเมืองแซมบอร์ด
เกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนต่างใจนตาค้าง
เพราะพวกเขาเห็นองค์าาอเล็กซานเดอร์ที่เป็ตัวประกันลงมือ เพียงแค่ชกหมัดเดียวธรรมดาๆ อย่างสบายๆ ชกเบาๆ ที่ท้องคอนก้า...
วินาทีต่อมา
คลื่นพลังที่ประกายระยิบระยับต่อเนื่องซึ่งเป็สัญลักษณ์ความแข็งแกร่งของนักรบระดับสองดาว ถูกทำลายจนสลายหายไปอย่างรวดเร็ว สองขาคอนก้าถึงกับลอยจากพื้น
ท่ามกลางสายตาตื่นใ
ซุนเฟยไม่พูดอะไรออกมา แค่ยื่นมือไปดึงหอกยาวในมือของทหารที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะโยนไป
สวบ!
เสียงแหลมๆ แสงเยือกเย็นประกายวาบ
หอกยาวเหมือนกับธนูั์บัลลิสต้า ลอยทะยานออกไป
คอนก้าที่ลอยอยู่กลางอากาศแม้แต่เสียงกรีดร้องก็ไม่ทันได้ร้องออกมา ถูกหอกยาวแทงทะลุหัวใจ ก่อนร่างเขาจะพุ่งไปด้านหลัง สุดท้ายร่างถูกตรึงอยู่บนผนังหินของหอสังเกตการณ์ มือและเท้าของคอนก้าเกร็งกระตุกอยู่สองสามครั้งก่อนจะหยุดนิ่ง คอเอียงตกลงมา เืไหลออกมาจากมุมปาก เขาไม่อาจตายได้มากกว่านี้อีกแล้ว
วิกฤติก็พลันหายไป
สังหารเพียงชั่วพริบตา?!
สังหารนักรบสองดาวเพียงชั่วพริบตา
แม้ว่าจะเคยเห็นปาฏิหาริย์มากมายที่องค์าาหนุ่มคนนี้ได้ทำ ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองแซมบอร์ดหรือทุกคน ต่างก็ถูกทำให้ตื่นตะลึงอีกครั้ง
หากเทียบความแข็งแกร่งระหว่างนักรบหนึ่งดาวกับสองดาว ไม่ใช่เพียงช่องว่างของตัวเลข
ในแผ่นดินอาเซรอท ความสูงต่ำของพลังเหล่านักรบจะแบ่งระดับตามดวงดาวท้องฟ้า ซึ่งสามารถแบ่งได้สามระดับนั่นคือ ดาว จันทรา สุริยะ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้