“คนอื่นๆ...”
าามารตะวันตกกล่าวพึมพำ จากนั้นจึงกล่าวกับเสิ่นเสวียน
“เื่นี้ข้าเคยคิดมาก่อน น่าจะมีอำนาจบางอย่างเข้าแทรกแซงหุบเขาสุขาวดี ้าชำระล้างหุบเขาสุขาวดีขึ้นมาใหม่”
“ข้าเห็นด้วยกับความคิดนี้ พลังของพวกเขาเ่าั้ไม่ธรรมดาเลย อำนาจที่สามารถเรียกผู้แข็งแกร่งมากมายมารวมกันได้เช่นนี้มีอยู่ไม่มาก” เริ่นเสี้ยวเทียนดื่มสุราแล้วกล่าว
“เช่นนั้นสหายเริ่นมองออกไหมว่าเป็อำนาจใด” เสิ่นเสวียนถามเริ่นเสี้ยวเทียน
“ไม่แน่ใจ แต่ก็มั่นใจได้ว่าในหุบเขาสุขาวดีต้องมีของล้ำค่าที่พวกเขาอยากได้อย่างแน่นอน เพื่อให้ได้จำเป็ต้องกำจัดสี่าามารที่เป็ภัยคุกคามไปก่อน”
เริ่นเสี้ยวเทียนครุ่นคิดพลางกล่าว ด้วยความรอบรู้ของเขาไม่ยากที่จะคิดคำนวณเื่เหล่านี้
“น้องเริ่นกล่าวไม่ผิดเลย ผู้ฝึกตนระดับนี้ไม่ค่อยปรากฏตัวออกมาง่ายๆ จะต้องมีของล้ำค่าปรากฏขึ้นจึงทำให้พวกเขาออกมาเช่นนี้” าามารตะวันตกพยักหน้า เห็นด้วยกับการคาดเดาของเริ่นเสี้ยวเทียน
แม้เสิ่นเสวียนจะไม่ได้กล่าวอะไรแต่ก็คาดเดาไว้เช่นนี้เหมือนกัน ที่นี่ก็เหมือนกับโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร ไม่มีสิ่งใดดึงดูดใจผู้ฝึกตนได้เท่ากับของล้ำค่าอีกแล้ว เมื่อได้พบเจอของล้ำค่าจะเข้าแย่งชิงมาให้ได้แม้ต้องตายก็ตาม
แม้แต่จักรพรรดิเซียนที่แข็งแกร่งยังเข้าแย่งชิงผังเมืองซานเหอจากผู้แข็งแกร่งขั้นเซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ นับประสาอะไรกับผู้ฝึกตนธรรมดาๆ
“ดูจากสีหน้าของผู้าุโาามาร เหมือนในใจจะมีคำตอบอยู่แล้ว”
เสิ่นเสวียนมองาามารตะวันตกก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อืม แต่ข้าต้องมั่นใจบางอย่างก่อน” าามารตะวันตกสีหน้าเคร่งขรึม เหมือนมีบางอย่างติดค้างอยู่ในใจ
“ใช่แล้ว พวกเ้าทั้งสองมายังหุบเขาสุขาวดีเพราะเหตุใด”
าามารตะวันตกถามเสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียน ที่แห่งนี้หากไม่มีเหตุจำเป็ไม่มีใครเข้ามา หาก้าความช่วยเหลือ เขาาามารตะวันตกพอมีเส้นสายอำนาจในหุบเขาสุขาวดีอยู่บ้าง ไม่แน่อาจช่วยพวกเขาได้
“ไม่ปิดบังผู้าุโาามารเลยแล้วกัน ข้ามาที่นี่เพราะ้าตามหาคนผู้หนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้าไล่ตามเขาจนมาถึงที่นี่”
“เขาชื่ออะไร”
“เหลยป้าเทียน”
“เหลยป้าเทียน?”
าามารตะวันตกกล่าวชื่อนี้เบาๆ เหมือนเคยได้ยินมาก่อนแต่ก็เหมือนไม่คุ้นหู หนึ่งคือ เขาที่เป็าามารคนหนึ่งจะจดจำคนไม่สำคัญอย่างเหลยป้าเทียนไม่ได้นับเป็เื่ปกติ สองคือ าามารตะวันตกไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวเื่ภายในหุบเขาสักเท่าไร
“อ้อ ข้าจำได้แล้ว ใช่เ้าพวกเลวทรามจากสำนักตี้หยินหรือเปล่า”
าามารตะวันตกกล่าวขึ้นทันทีพร้อมแววตาเป็ประกาย
“ใช่แล้ว สำนักตี้หยินเกี่ยวข้องกับเขาจริงๆ”
“แค่เกี่ยวข้องที่ไหนกัน ตาแก่ในสำนักตี้หยินไม่เลวนักหรอก แต่กลับโดนศิษย์ของตนเองลอบสังหาร ข้าจำได้ว่าเื้ัคือตระกูลเหลยคนหนึ่งที่เลวทรามเหมือนกับเ้าเด็กนั่น” เื่ที่ทำให้าามารตะวันตกจำได้ แสดงว่าเหลยต้งสร้างเื่ไว้ในหุบเขาสุขาวดีมากมายเลยทีเดียว
“คนที่ข้ากล่าวถึงก็คือผู้นำตระกูลเหลยที่อยู่เื้ัคนนั้น และเขาคือพี่ชายของเหลยต้งแห่งสำนักตี้หยิน เขาหนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ที่นี่”
“เด็กนั่นน่าจะมีพลังยุทธ์ขั้นราชันระดับสูงแล้วใช่ไหม!”
าามารตะวันตกมองเสิ่นเสวียนพลางกล่าวอย่างมีเลศนัย เขาไม่เคยเห็นเสิ่นเสวียนแสดงพลังโจมตีออกมาเลยั้แ่แรก มีเพียงพลังที่ได้เห็นในแอ่งเถียนซือเท่านั้น ถึงแม้ว่าภายในแอ่งเถียนซือจะน่าอัศจรรย์มากแล้ว แต่ก็เพียงแค่อัศจรรย์ ไม่มีสิ่งอ้างอิงใดๆ มาเปรียบเทียบ
และตอนนี้เหลยป้าเทียนคือสิ่งอ้างอิงที่ดี นั่นคือขั้นราชันระดับสูง! สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งขั้นราชันระดับสูงคนหนึ่งถึงกับหลบหนีไป อย่างน้อยต้องมีพลังอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
“เอาล่ะ เื่ของน้องชายก็เหมือนเื่ของข้า ให้เป็หน้าที่ของข้าเอง ข้าจะลากตัวเขามาให้เ้าภายในสามวัน”
าามารตะวันตกกล่าวพร้อมตบหน้าขาตนเอง
“ขอบคุณผู้าุโาามารมาก”
เสิ่นเสวียนยกจอกสุราขึ้นพลางกล่าวขอบคุณาามารตะวันตก ในโลกของเขาไม่มีสิ่งที่เรียกว่าจิตใจเย่อหยิ่ง ขอเพียงบรรลุเป้าหมายก็พอ ไม่สนใจว่าใครจะเข้ามาช่วยเหลือ ทำแบบนี้ก็เพื่อตนเองที่ี้เีวิ่งไล่ตามจะได้มีพลังเหลือไว้สำหรับการฝึกฝน และต่อให้เขาคุ้นเคยกับหุบเขาสุขาวดีมากเพียงใด ก็ไม่คุ้นเคยเท่าาามารตะวันตกอยู่ดี
“เกรงใจอะไรกัน พวกเราเริ่มกินอาหารกันเลยไหม”
าามารตะวันตกกล่าวด้วยภาษาถิ่น แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมเป็พิเศษ
เสิ่นเสวียนและเริ่นเสี้ยวเทียนพยักหน้าทันที าามารตะวันตกเรียกเด็กๆ ให้ยกอาหารที่เตรียมไว้แล้วเข้ามา ทั้งยังเรียกเสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นเลี่ยนให้มากินอาหารพร้อมกัน
นับเป็งานเลี้ยงต้อนรับเล็กๆ และยังแสดงให้เห็นถึงอุปนิสัยของาามารตะวันตกอีกด้วย
หลังจากจัดการอาหารที่วางเต็มโต๊ะและดื่มสุรากันไปไม่น้อยแล้ว ทุกคนต่างกลับเข้าไปพักผ่อนภายในเรือนที่เตรียมไว้
เรือนของเสิ่นเสี่ยวเม่ยอยู่ติดกับเรือนของเสิ่นเสวียนและเสิ่นเลี่ยนเพื่อให้ดูแลกันได้ และเสิ่นเลี่ยนพักเรือนเดียวกับเสิ่นเสวียนเพราะความ้าของเสิ่นเสวียน
เมื่อกลับเข้ามาในเรือน เสิ่นเสวียนโคจรพลังหลิงชี่เล็กน้อยเพื่อขับฤทธิ์สุราออกไป ทำให้ตนเองสร่างเมา
“ไปเถอะ คืนนี้เ้าออกไปตามลำพัง พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมา”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับเสิ่นเลี่ยน
“ขอรับ”
เสิ่นเลี่ยนพยักหน้าน้อยๆ แล้วแสดงคารวะเสิ่นเสวียน ขณะที่เขาเตรียมตัวจะออกไป เสิ่นเสวียนกลับเรียกเขาไว้
“ช้าก่อน สิ่งนี้ข้าให้เ้า”
ขณะที่กล่าว เสิ่นเสวียนเอากริชสีดำสนิทเล่มหนึ่งออกมาส่งให้เสิ่นเลี่ยน
“พี่เสวียน นี่มัน...”
เสิ่นเลี่ยนมองกริชในมือด้วยความรู้สึกตื่นใระคนดีใจ
แม้เขาจะดูไม่ออกว่ามันอยู่ในระดับไหน แต่จากความคมกริบของมันแล้ว ไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าศาสตราวิเศษขั้นลึกลับตั้งเท่าไร
คนตระกูลเสิ่นต่างก็รู้ว่าเสิ่นเสวียนมีศาสตราวิเศษขั้นปฐีอย่างกระบี่ัคำราม แต่เมื่อเห็นกริชเล่มนี้ เกรงว่าอาจอยู่ในระดับเดียวกันก็ได้
"นับแต่นี้ไปมันเป็ของเ้าแล้ว จงทำให้กริชเล่มนี้กลายเป็มือซ้ายมือขวาของเ้า”
“ขอรับ ขอบคุณท่านผู้นำ”
เสิ่นเลี่ยนรู้ว่าเสิ่นเสวียนไม่ใช่คนหน้าซื่อใจคด ในเมื่อมอบให้เขาแล้วแสดงว่ามันต้องเป็ของเขา
“หืม? เรียกข้าว่าอะไรนะ”
“พี่... พี่เสวียน” เสิ่นเลี่ยนเปลี่ยนคำเรียกในทันที เสิ่นเสวียนไม่ชอบให้เขาเรียกว่าผู้นำ ชอบให้เรียกอย่างพี่น้องมากกว่า
“ไปเถอะ จำคำของข้าไว้ให้ดี” เสิ่นเสวียนตบบ่าเสิ่นเลี่ยนพลางกล่าว
“ขอรับ”
เสิ่นเลี่ยนออกจากเรือนด้วยใบหน้าปลาบปลื้ม และเดินลงเขาไปอย่างเงียบเชียบ
เสิ่นเสวียนมองเสิ่นเลี่ยนเดินออกไปแล้วก็ส่ายหัวพลางกล่าว “ดูเหมือนข้าจะตั้งเงื่อนไขกับตนเองไว้ต่ำเกินไป คิดว่าสองปีจะถึงขั้นบรรพบุรุษ ตอนนี้มาคิดๆ ดู อีกแค่เดือนเดียวก็พอแล้ว”
ก่อนหน้านี้เขาสัญญาไว้ว่าจะทำให้เสิ่นเลี่ยนมีพลังขั้นบรรพบุรุษให้ได้ใน่เวลาสองปี ตอนนี้ดูเหมือนจะบรรลุเป้าหมายก่อนกำหนดเสียแล้ว
หลายวันที่ผ่านมา ตอนกลางวันพวกเสิ่นเสวียนท่องเที่ยวไปทั่วูเาของาามารตะวันตก เมื่อตกกลางคืนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนเสิ่นเลี่ยน ในตอนกลางวันก็ใช้ชีวิตปกติทั่วไป แต่ตอนกลางคืนต้องไปฝึกฝนในแอ่งเถียนซือ
ระหว่างนั้นเสิ่นเลี่ยนเปลี่ยนไปในทุกวัน เพียงแค่สามวันเขาก็เข้าใกล้จุดที่จะทะลวงเลื่อนขั้นแล้ว
คืนนี้เสิ่นเลี่ยนทำตามที่เสิ่นเสวียนกำชับไว้ มุ่งหน้าไปฝึกฝนยังแอ่งเถียนซือเหมือนเดิม
การฝึกฝนในแอ่งเถียนซือนั้นธรรมดามาก สิ่งที่ฝึกฝนไม่ใช่พลัง แต่เป็การทำความเข้าใจกับความมืดมิด มือสังหารหรือจอมยุทธ์สังหารจำเป็ต้องทำความคุ้นเคยกับความมืด เข้าใจความมืด หลอมรวมเข้ากับความมืด และสุดท้ายคือควบคุมความมืด
หลายวันมานี้เสิ่นเลี่ยนพยายามอย่างสุดความสามารถมาโดยตลอด
ในคืนนี้ เสิ่นเสวียนนั่งสมาธิฝึกฝนไปตามปกติ
ขณะที่เขากำลังทำสมาธิอยู่นั้น เขาพลันลืมตาขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ
“เสี่ยวเหยียน เ้าทำสำเร็จแล้ว!” เสิ่นเสวียนกล่าว