"เจียงเฉิน เอาเงินของนายน้อยผู้นี้ไปและส่งเม็ดยาให้กับเราเดี๋ยวนี้"
มู่หรงฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงโอหัง ระหว่าง่เวลาสามวันก่อน ร้านขายโอสถตระกูลเจียงคึกคักและมีชีวิตชีวา แต่ทว่าร้านขายโอสถตระกูลมู่หรงกลับเป็ตรงกันข้าม เขาไม่อาจทนให้เป็เช่นนี้ได้ ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจมาตรวจดูด้วยตัวเอง และซื้อโอสถมนุษย์หยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วนจำนวนหนึ่ง แต่เขาไม่คิดว่าจะถูกจับได้ในทันที
ในฐานะอัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลมู่หรง รวมถึงผู้มีพร์มากที่สุดในเมืองเทียนเซียง ความหยิ่งยโสของเขาอยู่ในจุดสูงสุด
"โอสถตระกูลเราขายให้แก่มนุษย์เท่านั้น มิขายให้เดรัจฉาน... ข้าจะเก็บเงินนี่เอาไว้ แต่ทางที่ดีเ้ารีบไปซะขณะที่ข้ายังอารมณ์ดีอยู่"
เจียงเฉิน กล่าวอย่างไม่แยแส
"เจียงเฉิน เ้าว่าใครเป็เดรัจฉาน?"
มู่หรงฮ่าว กล่าวด้วยท่าทีโกรธเคือง เขาเป็อัจฉริยะอันดับหนึ่งในตระกูลมู่หรง ไม่มีใครเคยแสดงท่าทีดูถูกเช่นนี้แก่เขา ไม่กี่วันก่อนตอนที่เขาได้ยินมาว่าเจียงเฉินทุบตีมู่หรงหยิง เขาก็ตัดสินใจที่จะหาโอกาสได้พบเจียงเฉิน แต่เขาไม่คิดว่าจะได้พบเจอในสถานการณ์เช่นนี้
"นายน้อยของข้าว่าเ้านั่นแหละ แม้แต่คนโง่ยังเข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร... หูของเ้าเต็มไปด้วยอาจมหรืออย่างไร"
เจียงเฉิง ที่ยืนอยู่ข้างเจียงเฉิน แสดงความภาคภูมิใจในนายน้อยของตน ขณะที่เขาชี้นิ้วไปยังมู่หรงฮ่าวแล้วกล่าวออกมา เจียงเฉิงไม่กล้าพูดเช่นนี้กับอัจฉริยะอันดับหนึ่งในเมืองเทียนเซียง แต่นายน้อยได้ด่าทอมู่หรงฮ่าวแล้วเรียกเขาว่า เดรัจฉาน เป็ธรรมดาที่เขาจะตามการนำของนายน้อย
"สุนัขไร้ค่า เ้าเป็ใคร? กล้าดีอย่างไรถึงได้พูดกับข้าเช่นนี้?"
มู่หรงฮ่าว กล่าวเสียงดัง
รอยยิ้มบางๆปรากฏในใจเจียงเฉินเมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่หรงฮ่าวนั้นเด็กเกินไปแล้วยังโอหังอวดดี เขาลืมไปว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ที่ไหน ดูเหมือนว่าเขาจะลืมว่าตระกูลเจียงกับตระกูลมู่หรงนั้นเป็ศัตรูกัน!
"หุบปาก!"
เจียงเฉินฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะและลุกขึ้นจากที่นั่ง " เ้าสุนัขตระกูลมู่หรงไม่รู้จักมารยาท กล้ามายังถิ่นข้าและเห่าเยี่ยงนี้! เด็กๆ จัดการมัน! "
ยามทุกคนจากร้านขายยาวิ่งออกมา ล้อมกรอบมู่หรงฮ่าวไว้ ตาเฒ่าระดับฉีไห่ออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของเจียงเฉิน
ทุกคนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาถอยห่างออกมาโดยทันที พวกเขามาที่นี่เพื่อได้เห็นการขายโอสถหยวนประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นเื่ดีๆเช่นนี้
"ใครคิดแตะต้องนายน้อยของข้า?!"
ตาเฒ่าระดับฉีไห่ะโเสียงดัง
"เ้ากล้าโอหังเพียงนี้ทั้งที่อยู่ในระดับฉีไห่? สุนัขของมู่หรงฮ่าวช่างไม่รู้จักมารยาทเอาเสีย นอกจากนี้คงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อทำเช่นนี้... ลุงโจว ช่วยข้าทุบตีสุนัขแก่ตัวนี้ให้พิการ"
เจียงเฉินแสดงความยิ่งใหญ่ของเขา
"ขอรับ นายน้อย"
โจวเป่ยเฉินกล่าว จากนั้น เขาก็ะโจากด้านหลังโต๊ะ พลังปราณอันแข็งแกร่งของระดับฉีไห่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา หลายคนรู้สึกถึงแรงกดดันจากที่แห่งนี้ท่าทีของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนเป็ซีดขาว
"สหายมู่หรงฮ่าวช่างอวดดียิ่งนัก วันนี้ในที่สุดเขาก็พบคู่ต่อสู้... นายน้อยเจียงเฉินไม่ใช่ตัวโง่งมไร้ประโยชน์เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว"
"ใช่แล้ว ตระกูลมู่หรงกับตระกูลเจียงเป็ศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ มู่หรงฮ่าวยังกล้ามาที่ร้านขายโอสถตระกูลเจียง... ดูเหมือนเขา้ามีปัญหา"
หลายคนเริ่มพูดคุยกัน พวกเขาส่วนใหญ่ต่างได้เห็นว่าเจียงเฉินเป็อย่างไรเมื่อไม่กี่วันก่อน... เขากล้ากระทั่งดูถูกผู้นำตระกูลมู่หรง เขาเป็เพียงแค่เด็กหนุ่มเท่านั้น!
"เฮอะ! เจียงเฉิน ไม่ต้องทำตัวเหมือนคนพาลเช่นนั้น... ถ้าหากเ้ากล้าจริงเช่นนั้นก็สู้กับข้าตัวต่อตัว มาดูกันว่าใครกันแน่ที่เป็อัจฉริยะรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งในเมืองเทียนเซียงนี้"
มู่หรงฮ่าว แค่นเสียงเ็าขณะที่เขากล่าวกับเจียงเฉิน
เจียงเฉินรู้ั้แ่เขาทุบตีมู่หรงหยิงเมื่อไม่กี่วันก่อน และทำให้ชื่อเสียงของตระกูลมู่หรงต้องพังพินาศ เห็นได้ชัดว่ามู่หรงฮ่าว้ากอบกู้ชื่อเสียงของพวกเขาคืนจากการเอาชนะเจียงเฉิน
แน่นอน นี่เป็สิ่งที่สามารถอภัยให้ได้
ในความจริงนั้น อัจฉริยะอันดับหนึ่งจากตระกูลมู่หรง้าพบเจียงเฉิน ที่ชื่อเสียงเพิ่มขึ้นพรวดพราดและพิสูจน์ว่าเขาเป็อัจฉริยะอันดับหนึ่งในเมืองเทียนเซียง ถึงแม้เจียงเฉินจะไม่ยั่วโทสะเขา เขาก็ต้องหาทางที่จะสู้กับเจียงเฉินให้ได้อยู่ดี
"กล้า? แน่นอน ข้ากล้าอยู่แล้ว ข้าไม่สนว่าใครจะแข็งแกร่งที่สุดในรุ่นเยาว์ แต่ถ้าหากเ้า้าสู้กับข้า เช่นนั้น ข้าก็จะทำตามคำขอของเ้า ทุกคน ถอยไป!"
เจียงเฉิน กล่าว ขณะที่ก้าวไปหามู่หรงฮ่าว วันนี้เขา้าให้คนที่เรียกตนว่า 'อัจฉริยะ' ต้องเสียใจที่มาที่นี่ และเขาจะทิ้งาแลึกลงไปในตระกูลมู่หรง
นี่คือสิ่งที่พวกเขาได้ส่งมายังหน้าประตูของเขา เขาไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆ
"นายน้อยขอรับ เ้าสองคนนี่มันกล้ามาที่นี่และสร้างปัญหา? ให้ตัวข้าสั่งสอนบทเรียนพวกมันดีหรือไม่ขอรับ!"
โจวเป่ยเฉิน กล่าว
"ลุงโจว เขาบอกว่า้าสู้กับข้า ถ้าข้าหลบหลังคนอื่นรังแต่จะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะเอาได้"
เจียงเฉิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม เขารู้สิ่งที่โจวเป่ยเฉินกังวล เหตุผลหลักก็เพราะมู่หรงฮ่าวเป็อัจฉริยะที่มีพร์มากที่สุดในตระกูลมู่หรง การไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตฉีจิงได้ แม้แต่มู่หรงหยิงยังพ่ายแพ้ มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถเอาชนะมู่หรงฮ่าวได้
"ถ้าเป็เช่นนั้น นายน้อยระวังตัวด้วยขอรับ"
โจวเป่ยเฉิน กล่าวพลางผงกหัว เขาเห็นความมั่นใจบนใบหน้าของเจียงเฉินและนึกย้อนกลับไปถึงความสามารถของเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน ทั้่งหมดที่เขาทำล้วนมีผลลัพธ์อันน่าตื่นตะลึง!
"ทุกคน ถอยไป"
เจียงเฉิน กล่าวขณะที่เขาสะบัดมือให้กับฝูงชน ยามทุกคนที่ล้อมกรอบสองคนจากตระกูลมู่หรงก่อนหน้านี้ หลีกทางให้พวกเขาต่อสู้กัน โจวเป่ยเฉินก็ถอยกลับไปข้างหลัง ตาเฒ่าระดับฉีไห่มีความกังวลบนใบหน้าขณะที่ขมวดคิ้วของเขาแน่น ท่าทางของเขานั้นเป็คนขี้กังวล เขาเสียใจที่ปล่อยให้มู่หรงฮ่าวตามเขามาวันนี้ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับมู่หรงฮ่าว ก็ไม่มีทางที่เขาจะอธิบายกับมู่หรงเจิ้นได้
"ลุงหุ่ย ท่านถอยไปเถอะ รอดูข้าว่าจะสั่งสอนไอ้หนูนี่อย่างไร"
มู่หรงฮ่าวหุบพัดของเขา และรอยยิ้มเย้ยปรากฏบนใบหน้า
"ระวังตัวด้วยขอรับ นายน้อย"
ตาเฒ่ากระซิบก่อนจะก้าวถอยออกไป ใบหน้าเขาแสดงความเตรียมพร้อม
"ใครจะเป็ผู้ชนะศึกนี้กันแน่?"
"ข้าคิดว่ามู่หรงฮ่าวชนะ เขาไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตฉีจิง และขาดอีกเพียงก้าวเดียวจากขอบเขตฉีไห่... ข้าไม่คิดว่าคนที่อยู่ในระดับฉีจิงจะสามารถเอาชนะเขาได้.. และเขายังเป็อัจฉริยะที่โด่งดังในเมืองเทียนเซียง เจียงเฉินเอาชนะมู่หรงหยิงได้ แต่เขาก็เป็ตัวโง่งมไร้ประโยชน์มาก่อน ข้าไม่แน่ใจระดับของเขาในตอนนี้... ทว่าเขาไม่น่าจะไปถึงขอบเขตฉีไห่"
"ข้าไม่คิดว่ามู่หรงฮ่าวจะชนะ นี่คือเจียงเฉินผู้ลึกลับ แม้กระทั่งมู่หรงเจิ้นยังถูกเขาดูถูก... ความสามารถที่แท้จริงของเขาจะต้องยอดเยี่ยม เ้าเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนหรือไม่ มู่หรงหยิง ที่เป็ผู้ฝึกตนฉีจิงระดับแปดกลับพ่ายแพ้ด้วยฝ่ามือเดียว"
ผู้คนจำนวนมากต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับเื่นี้ ชื่อเสียงของตระกูลมู่หรงได้ลดถอยลงสองวันก่อนด้วยฝีมือเจียงเฉิน ั้แ่นั้นมา ผู้คนก็เริ่มปฏิบัติกับเขาดังเช่นอัจฉริยะ มันคงไม่ใช่เื่ง่ายที่จะได้เห็นอัจฉริยะสองคนต่อสู้กัน
"เจียงเฉิน แสดงทุกอย่างที่เ้ามีออกมา โอ้.... และอย่ามากล่าวโทษข้าทีหลังว่าข้ารังแกเ้า.. ข้าจะให้เ้าลงมือก่อนหนึ่งกระบวนท่า"
มู่หรงฮ่าว กล่าวด้วยความทะนงตน
"ถ้าหากเ้าให้ข้าลงมือก่อนหนึ่งกระบวนท่า... เช่นนั้น เ้าก็น่าจะให้ข้าสักสิบกระบวนท่า ถ้าหากเ้าให้ข้าสิบกระบวนท่าไม่ได้ ก็อย่าได้กล่าวอะไรเช่นนี้อีก"
เจียงเฉิน กล่าวพลางหัวเราะ
"เ้า...."
นี่ยิ่งทำให้มู่หรงฮ่าวโกรธขึ้นไปอีก " เฮอะ! เ้ามันก็ดีแต่ปาก มาดูสิว่าเ้าจะทำอะไรได้! "
ขณะที่เคลื่อนร่างของเขา มู่หรงฮ่าวก็ปลดปล่อยพลังปราณของขอบเขตฉีจิงระดับเก้าออกมา พลังหยวนอันทรงพลังพุ่งออกมาจากร่าง ประดุจดั่งคลื่นถาโถม
"มู่หรงฮ่าวเป็อัจฉริยะจริงๆ... เขามีพลังหยวนทรงพลังขนาดนี้แม้เป็เพียงฉีจิงระดับเก้า ฉีจิงระดับเก้าทั่วไปไม่มีทางเทียบเขาได้... ข้าล่ะสงสัยนักว่านายน้อยของเราจะรับมือเขาได้หรือเปล่า?"
โจวเป่ยเฉินกังวลเกี่ยวกับเจียงเฉิน แต่เมื่อเขาหันไปมองที่เจียงเฉินก็พบว่าเขามีรอยยิ้มมั่นใจอยู่บนใบหน้า โจวเป่ยเฉินสงสัยว่าทำไมเจียงเฉินถึงได้มั่นใจขนาดนี้
"มู่หรงฮ่าว ช้าก่อน สู้กันโดยไร้จุดหมายเช่นนี้มันเปล่าประโยชน์... มาเดิมพันกันเถอะ"
เจียงเฉินกล่าวพลางเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา
"ดี, เ้าอยากเดิมพันอะไร?"
มู่หรงฮ่าวมั่นใจในตัวเองมาก
"ถ้าหากเ้าชนะ ข้าจะปล่อยเ้าไปโดยไม่ทำอะไรเ้า แต่ถ้าหากเ้าแพ้ เ้าจะต้องทิ้งของบางอย่างเอาไว้... ไม่ต้องห่วง วันนี้ข้าอารมณ์ดี ดังนั้น ข้าจึงไม่คิดฆ่าพวกเ้าสองคน"
เจียงเฉิน กล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
"การเดิมพันนี้ไม่ยุติธรรม ถ้าหากข้าชนะไปข้าไม่เห็นจะได้อะไรเลย"
มู่หรงฮ่าว กล่าว
"ล้อเล่นแล้ว เ้าเชื่อหรือว่าข้าเพียงแค่เอ่ยปากคำเดียวก็สามารถบดขยี้เ้ากับตาเฒ่าตรงนั้นได้? ข้ามอบโอกาสให้เ้า เ้าควรรู้สึกซาบซึ้งเอาไว้"
เจียงเฉิน กล่าวโดยไม่แสดงความปรานีใดๆ
"เข้าใจแล้ว อย่างน้อยข้าก็มีโอกาสสั่งสอนบทเรียนให้แก่เ้า"
มู่หรงฮ่าว กล่าว และหลังจากนั้นในทันที เขาก็ซัดกำปั้นเข้าใส่เจียงเฉิน เชื่อว่าเจียงเฉินไม่มีทางเทียบเขาได้
ปัง...!
การโจมตีของมู่หรงฮ่าวนั้นรุนแรงมากและตามมาด้วยเสียงดัง 'ปัง' กำปั้นของเขาเกิดประกายไฟขึ้น นี่คือหมัดจอมพลังของตระกูลมู่หรง ทักษะยุทธมนุษย์ระดับสูงที่มีพลังอันรุนแรง
"อ่อนแอยิ่งนัก"
เจียงเฉินส่ายศีรษะของเขา เขายังคงยืนอยู่กับที่รอให้กำปั้นของมู่หรงฮ่าวเข้าใกล้เขา จากนั้น เขาก็ซัดกำปั้นกลับไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด
ปัง....!
กำปั้นของเจียงเฉินและมู่หรงฮ่าวเข้าปะทะกัน เกิดเสียงดังสนั่นและเป็ฉากที่ทำให้ทุกคนที่กำลังเฝ้าชมต้องตกตะลึง
เปรี๊ยะ...!
อ้าาาาา!
เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระดูกแตกหัก จากนั้นก็มีร่างคนถูกส่งกระเด็นออกไป
เห็นได้ชัดว่า ร่างนั้นไม่ใช่เจียงเฉิน แต่เป็มู่หรงฮ่าวที่มั่นใจตัวเองมากเกินไป มู่หรงฮ่าวกระเด็นออกไปสามจั้ง ขาทั้งสองข้างสั่นไหวอย่างรุนแรง เขาใช้กำลังทั้งหมดพยุงตัวไม่ให้ล้มลงบนพื้น
ทุกคนต่างจับจ้องไปที่มู่หรงฮ่าว พวกเขาตกตะลึงจากที่เห็นแขนบิดเบี้ยวของมู่หรงฮ่าว กำปั้นอันทรงพลังของเจียงเฉินได้บดขยี้กระดูกทั้งหมดในแขนและทำลายจนสิ้น
เจียงเฉินยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมพร้อมเอามือไพล่หลัง รอยยิ้มของเด็กหนุ่มผู้ไร้เดียงสา มันไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งส่งกำปั้นอันทรงพลังออกมา
"เป็ไปไม่ได้, นี่มันเป็ไปไม่ได้ มันจะมีกำปั้นที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?"
มู่หรงฮ่าวใบหน้าปกคลุมด้วยเม็ดเหงื่อ ผิวของเขาซีดขาวราวกับกระดาษขณะจ้องมองเจียงเฉินที่ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ได้ส่งความตะลึงอย่างมากเข้าสู่ไขสันหลัง
ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้น ฝูงชนก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน... เขาเอาชนะมู่หรงฮ่าวในกระบวนท่าเดียว นี่มันแตกต่างจากตอนที่เขาเอาชนะมู่หรงหยิงโดยสิ้นเชิง
โจวเป่ยเฉินและยามต่างมองมาที่เจียงเฉิน นายน้อยของพวกเขา นี่มันไม่น่าเชื่อ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาปรับตัวลำบากกับการเปลี่ยนไปของนายน้อย
ชายแก่ร่างท้วมและผอมส่ายศีรษะของพวกเขา นายน้อยผู้นี้ไม่เคยแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน ไม่เพียงสามารถปรุงโอสถได้ พละกำลังของเขายังทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ
'นายน้อยรู้จักปกปิดตัวเองจริงๆ เขาซ่อนตัวตนที่แท้จริงไว้มาเป็สิบปี... นี่จะต้องเป็เื่ยากสำหรับเขาอย่างแน่นอน'
ทุกคนในตระกูลเจียงเฉินชื่นชมเจียงเฉิน... ประกายแสงเจิดจรัสดั่งดวงดาราปรากฏขึ้นในดวงตาเจียงเฉิง เหมือนกับสาวน้อยที่ได้พบกับชายในฝัน
"เจียงเฉินปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขามาโดยตลอด... เขานี่ล่ะอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองเทียนเซียง!"
"เขาเอาชนะมู่หรงฮ่าวในกระบวนท่าเดียว... ถ้าหากข้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ข้าไม่มีทางเชื่อเป็แน่"
"ดูต่อกันเถอะ น่าจะมีอะไรดีๆให้ดูกัน! มู่หรงฮ่าวพ่ายแพ้แล้ว แต่นี่คือเจียงเฉิน... ข้าว่ามู่หรงฮ่าวไม่มีทางมีจุดจบที่ดีแน่!"
ผู้คนส่วนใหญ่ต่างรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป... นั่นก็คือ เื่ดีๆที่แท้จริง
