หยางมามาเริ่มเป็สาวใช้ข้างกายเหล่าไท่ไท่ตอนอายุสิบสองปี เมื่อเหล่าไท่ไท่อายุสิบห้าก็แต่งงานเข้าตระกูลหลัว ขณะนั้นหยางมามาอายุราวสิบเก้าปี ตลอดชีวิตของนางไม่เคยออกเรือนและไม่มีสามี นางเป็บ่าวรับใช้ที่ซื่อสัตย์และให้ความสำคัญกับฐานะระหว่างนายบ่าวที่สุดในตระกูล นางไม่เคยว่าร้ายคนในตระกูลหลัว ทั้งยังเกลียดบ่าวรับใช้ที่ทรยศเ้านายเป็ที่สุด
คุณหนูสี่หลัวไป๋เส่าคือหลานสาวแท้ ๆ ของเหล่าไท่ไท่ ยามปกติหยางมามาไม่มีทางตำหนิคุณหนูสี่เป็แน่ แม้แต่ตอนที่เหอตังกุยบอกว่าคุณหนูสี่ทำยาเตียวซานเย่าหกใส่หน้าอกของนางโดย “ไม่ได้ตั้งใจ” เดิมทีหยางมามาไม่ปักใจเชื่อนัก ยาเตียวซานเย่าไม่ใช่โคลนตม ไม่มีผู้ใดถือยาพิษเช่นนั้นเดินบนถนนแล้วบังเอิญหกใส่คนโดยไม่ตั้งใจ ขณะหยางมามาฟังเหอตังกุยอธิบาย ความคิดแรกของนางคือเื่เหล่านี้ไม่ใช่ความผิดของคุณหนูสี่ ตนจะต้องปิดปากเหอตังกุยเสีย ไม่ให้นางแพร่งพรายเื่นี้จนเสื่อมเสียถึงคุณหนูสี่
หยางมามาคิดว่าคุณหนูทุกคนในจวนตระกูลหลัวล้วนไร้เดียงสา ไม่มีพิษภัย เป็เด็กดีรู้ความทุกคน บริสุทธิ์ดั่งน้ำค้างบนกลีบดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ แม้จะทำอะไรผิด ก็เป็เพราะบ่าวรับใช้เ้าเล่ห์ใส่ร้ายพวกนาง แก่นแท้ของพวกนางยังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทว่าตอนนี้หยางมามาได้ััฤทธิ์ยาแสนน่ากลัวเช่นเตียวซานเย่า รับรู้ถึงอาการคันทะลวงในข้อต่อกระดูกด้วยตัวเอง หากควบคุมตัวเองไม่ได้ละก็ อาจได้รับอันตรายจากแผลที่เกิดจากการเกาอย่างรุนแรง
หยางมามาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดยาชนิดนี้จึงกลายเป็สิ่งที่แม่เล้าในหอนางโลมรักที่สุด เหตุใดเหล่าโสเภณีจึงหวาดกลัวยาชนิดนี้ยิ่งนัก ตราบใดที่ได้ลิ้มลองฤทธิ์ยาเตียวซานเย่าหนึ่งครั้ง ทั้งชีวิตก็ไม่คิดจะลองอีกเป็ครั้งที่สอง เมื่อนึกถึงตอนตนจับถ้วยชาที่คุณหนูสามเคยจับจนทำให้คันทรมานเช่นนี้ เช่นนั้นคุณหนูสามที่ััเสื้อผ้าที่มีผงยาโดยตรงจะทรมานมากเพียงใด? ได้ยินนางบอกว่าผงยาที่ััในครั้งแรกเยอะกว่านี้หลายเท่า ทั้งยังต้องคันไปอีกสองสามวัน อายุยังน้อยทว่ากลับเคยััความทุกข์ทรมานเช่นนี้แล้ว ช่างน่าสงสารยิ่งนัก นางเป็บุตรสาวเพียงคนเดียวของกูไท่ไท่ ตนจะต้องช่วยให้คุณหนูสามได้รับความเป็ธรรมให้จงได้ มิเช่นนั้นครั้งหน้าก็ไม่รู้ว่าคุณหนูสี่จะก่อเื่อันใดอีก
เมื่อหยางมามาคิดถึงตรงนี้ก็ใจนเหงื่อซึม ชุดผ้าโปร่งสีขาวลายดอกอวี้หลานมีหนามกระบองเพชรซ่อนไว้ โชคดีที่คุณหนูสามถูกตำเพียงเล็กน้อยจึงเ็ปเพียงชั่วครู่เท่านั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก
ทว่าชุดชั้นในและกระโปรงไหมงาช้างเป็สิ่งของที่ใกล้ชิดร่างกายที่สุด คิดไม่ถึงว่าจะััถูกผงยาเตียวซานเย่าที่โรยไว้ทำให้คันทรมานเช่นนี้ หากคุณหนูสามเปลี่ยนชุดใหม่หลังขึ้นเกี้ยวแล้วฤทธิ์ยากำเริบ คันจนต้องถอดเสื้อผ้าที่ใกล้ชิดร่างกายที่สุดออก... หยางมามาสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้ ด้านหลังเกี้ยวคือองครักษ์ตระกูลหลัวแปดคน หากพวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องของคุณหนูสามจะต้องรีบมาตรวจสอบแน่นอน เช่นนั้นความบริสุทธิ์ของคุณหนูสามก็ถึงคราวมลาย แม้เหล่าไท่ไท่จะไม่ไล่ตนออก แต่ตนก็คงไม่มีหน้าอยู่ในตระกูลหลัวอีกต่อไป
หยางมามาผลักถังน้ำเย็นพลันหยัดกายลุกขึ้น ก่อนเอ่ยเสียงทุ้ม “คุณหนูสาม ตอนนี้ท่านถูกพิษผงคัน คงไม่เหมาะหากต้องเดินทางไกล ได้โปรดพักต่ออีกสักวันสองวัน เหล่าหนูจะกลับตระกูลหลัวก่อน ช้าที่สุดคือมะรืนนี้ เหล่าหนูจะกลับมารับคุณหนูสามกลับจวนแน่นอน หากไม่ผิดจากที่คาด เหล่าหนูจะพาคุณหนูสี่มาขอโทษท่าน ให้นางอยู่สวดมนต์และปรับปรุงนิสัยที่วัดสักระยะ”
แม้มีผ้าคลุมหน้าปิดบัง แต่ก็ยังรับรู้ถึงความใและไม่ยินยอมที่พรั่งพรูออกจากใบหน้าของนาง
เหอตังกุยกล่าวด้วยความใ “มามา สุขภาพของท่านไม่ค่อยจะดีนัก เหตุใดไม่พักที่วัดก่อนสองวันค่อยออกเดินทาง ตอนนี้ก็มืดแล้ว เหตุใดท่านต้องเร่งเดินทางทั้งคืนด้วยเล่า? อีกทั้งคุณหนูสี่ก็ไม่เคยล่วงเกินข้า เหตุใดมามาต้องให้น้องสี่ขอโทษข้าด้วย? น้องสี่ไม่มีทางยอมมาที่วัดกันดารแห่งนี้แน่”
มามาเอ่ยแน่วแน่ “คุณหนูสี่ต้องได้รับโทษ เช่นนี้ดีต่อนางแล้ว หากไม่ถึงที่สุด บ่าวคงไม่ยอมนำเื่ที่คุณหนูสี่ก่อไปบอกเหล่าไท่ไท่แน่นอน ทว่าเมื่อคิดดูแล้ว นายหญิงรองก็มีงานมากมายให้จัดการ นางจึงไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนคุณหนูสี่ ทั้งยังมีบ่าวรับใช้เ้าเล่ห์คอยส่งเสริมเยินยอ คุณหนูสี่จึงมีพฤติกรรมทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้ โชคดีที่นางเพิ่งจะเก้าขวบ ยังไม่สายเกินแก้ไข”
เหอตังกุยเอ่ยถามด้วยความใ “น้องสี่ทำอะไรผิดหรือเ้าคะ? หยางมามาคงไม่คิดว่าน้องสี่โรยผงคันบนชุดนั้นกระมัง”
หยางมามาเบิกตากว้าง “หากไม่ใช่นางแล้วจะเป็ใคร? ข้าไม่ได้ “เดา” แต่ข้า “มั่นใจ” ว่าเป็นาง คุณหนูรองเลือกชุดกระโปรงเหล่านี้ด้วยตัวเอง ชุดชั้นในก็เป็เอ้อร์ไท่ไท่ตั้งใจสั่งคนไปจัดการ ทั้งหมดถูกวางไว้ที่เรือนเป่าฉินเพื่อรอให้ข้าไปรับเท่านั้น คนนอกไม่สามารถแตะต้องได้ อีกทั้งคุณหนูสี่ก็เคยซ่อนผงคันไว้ หากไม่ใช่นางแล้วจะเป็ผู้ใด”
เหอตังกุยโบกมือปฏิเสธ พลางเอ่ยแก้ต่าง “มามาเข้าใจผิดแล้วเ้าค่ะ นี่เป็เพียงเื่บังเอิญเท่านั้น ก่อนหน้านี้มามาบอกว่าชุ่ยเกิ่นลื่นล้มขณะยกเสื้อผ้าผ่านสวนดอกไม้ จึงทำให้เสื้อผ้าร่วงลงไป ข้าเดาว่าทั้งหนามกระบองเพชรและผงคันน่าจะติดมาตอนนั้นเป็แน่ คุณหนูสี่ชอบเล่นซน ข้ามักเห็นนางหยิบผงยาหลากสีมาเล่นในห้องหนังสือบ่อยครั้ง นางอาจเผลอทำผงยาหกในสวนดอกไม้โดยไม่ตั้งใจ จึงทำให้เสื้อผ้ามีสิ่งเ่าั้ปะปน”
เมื่อเหอตังกุยเห็นสีหน้าเ็าของหยางมามาก็รีบโบกมือเปลี่ยนคำพูดทันที “ไม่ ๆ ๆ ผงยาในสวนดอกไม้อาจจะไม่ใช่คุณหนูสี่ทำหกก็ได้ คนในจวนหลัวตะวันออกมีมากมายเพียงนั้น นายบ่าวรวมแล้วเกือบสามพันคน คนอื่นอาจมียาเ่าั้ก็เป็ได้ ท่านว่าจริงหรือไม่? ไม่แน่อาจมีคนขโมยยาของคุณหนูสี่แล้วตั้งใจใส่ร้ายนาง ไม่แน่...”
“คุณหนูสามอย่าได้ขอร้องเพื่อนางอีกเลย” หยางมามาเอ่ยแทรกด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “แม้ผงคันจะเป็ของสกปรกแต่ราคากลับแพงมาก แพงเกือบเทียบเท่ายาพิษนกกระเรียนแดง บ่าวรับใช้ทำงานเก็บเงินสองสามปียังซื้อไม่ได้แม้แต่ขวดเดียว แล้วจะนำมาโรยทิ้งได้เยี่ยงไร? คิดไม่ถึงว่าคุณหนูสี่จะซ่อน ‘ผงยาหลากสีชนิดอื่น’ ไว้อีก ไม่แน่อาจเป็ยาต้องห้ามที่อันตรายกว่า ์...ข้าจะต้องเอ่ยโน้มน้าวเหล่าไท่ไท่ให้ส่งคนไปตรวจสอบเรือนเถาเยาของคุณหนูสี่ให้ได้ ข้ารู้ว่าคุณหนูสามจิตใจดีรักพี่น้อง แต่หากท่านปกป้องคนผิด ต่อไปนางอาจกลับมาทำร้ายท่านได้”
“เหตุใดจึงเป็เช่นนี้?” เหอตังกุยอุทานผ่านผ้าคลุมหน้าผืนหนา ดวงตาคลอไปด้วยหยาดน้ำระยิบระยับ
หยางมามาลูบฝ่ามือบรรเทาอาการคัน พลางขมวดคิ้วตอบ “คุณหนูสี่เคยชินกับการได้รับความรักมาั้แ่เด็ก ในจวนหลัวฝั่งตะวันออก นอกจากคุณหนูรองแล้ว คนที่ทุกคนรักที่สุดก็คือนาง ด้วยเพราะถูกเลี้ยงมาเช่นนี้ นางจึงกลายเป็คนไม่รู้ที่ต่ำที่สูง เพิ่งจะอายุเก้าขวบแต่กลับรู้จักใช้ยาพิษทำร้ายพี่สาวตนเอง หากเติบใหญ่ออกเรือนไป ข้อพิพาทระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ พี่สะใภ้กับน้องสะใภ้ ภรรยาหลวงกับอนุภรรยาจะยิ่งเปลี่ยนแปลงและซับซ้อน มีหรือที่จะทำอะไรก็ได้ตามใจตน ตระกูลหลัวรักและเอ็นดูนางเพราะฐานะของนาง แต่ฐานะของนางไม่สามารถนำไปใช้ในจวนสามีได้ แม้แต่องค์หญิงของฮ่องเต้ เมื่อถึงเวลาเข้าจวนสามี ฐานะก็ไร้ความหมาย”
เหอตังกุยเช็ดน้ำตาพลางเอ่ยถาม “จำเป็ต้องส่งคุณหนูสี่มาอบรมสั่งสอนถึงที่นี่ด้วยหรือเ้าคะ? ในบ้านก็มีมามาคอยอบรมแล้ว อบรมสั่งสอนนางที่จวนไม่ได้หรือเ้าคะ?”
“หากไม่ถึงที่สุด ข้าก็ไม่อยากโน้มน้าวเหล่าไท่ไท่ให้ตัดสินใจเช่นนี้ ทว่าตอนนี้เื่ราวถึงขั้นร้ายแรง จำต้องใช้มาตรการพิเศษมาจัดการ ข้าต้องพยายามโน้มน้าวเหล่าไท่ไท่ให้ส่งคุณหนูสี่มาที่วัดนี้ให้ได้ เพื่อให้แม่ชีที่ไร้ความรู้สึกปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไปสั่งสอนนางสักครั้ง”
คำที่หยางมามากล่าวนั้นไม่เกินจริง นางจงรักภักดีต่อเหล่าไท่ไท่ยิ่งนัก เหล่าไท่ไท่ก็เชื่อใจและไว้ใจนางมากเช่นกัน ความเห็นของนางจึงมีผลต่อการตัดสินใจส่วนใหญ่ของเหล่าไท่ไท่
ตอนนางยังเด็ก หยางมามาเป็สตรีมีความรู้และมีความมั่นใจ เป็สาวใช้ข้างกายเหล่าไท่ไท่นานหลายสิบปี ขณะที่เหล่าไท่ไท่เป็ผู้ดูแลจวน นางก็คอยช่วยเหลือ จนกระทั่งทั้งสองเกษียณ ทุกครั้งที่หยางมามาพบปัญหาในจวนหลัว ตราบใดที่นางเอ่ยวิเคราะห์ความเสี่ยงได้สมเหตุสมผลและเอ่ยวิธีแก้ไขที่เป็รูปธรรม เหล่าไท่ไท่ก็จะพิจารณาคำพูดนางอย่างจริงจัง เมื่อได้ลิ้มรสหวานของความสำเร็จมากมาย ทำให้เหล่าไท่ไท่เชื่อใจหยางมามายิ่งกว่าเดิม และทำให้หยางมามาเกิดความทะนงภายใต้จิตสำนึกของตนด้วย
นางมีนิสัยเผด็จการและทะนงตน หากพูดในทางที่ดีคือเด็ดขาดและรวดเร็ว ในทางที่แย่คือเอาแต่ใจ อยากได้สิ่งใดต้องได้ เมื่ออาการคันเพิ่มขึ้น นางก็ยิ่งร้อนรนจนส่งผลต่อการตัดสินใจ ผลของเื่นี้จึงออกมาดีกว่าที่เหอตังกุยคาดไว้
ความจริงแล้ว แม้วันนี้คนแจ้งข่าวจะไม่ใช่หยางมามาแต่เป็คนอื่นในตระกูลหลัว เหอตังกุยก็สามารถแสดงทักษะการแสดงและเปลี่ยนหัวข้อปัญหาได้ทันที ทว่าหยางมามาคือคนที่ใกล้ชิดเหล่าไท่ไท่ที่สุด ความสำคัญของนางเทียบเท่าสาวใช้และมามาธรรมดาถึงสามสิบคน แม้นางจะยังเอ่ยสนับสนุนนายหญิงรองและคุณหนูรอง แต่ตราบใดที่ในใจของนางฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยไว้ รอวันที่เมล็ดพันธุ์เติบโต นางจะดึงคันธนูช่วยเหอตังกุยและตีกลองเคียงข้างเพื่อให้กำลังใจแน่นอน อีกทั้งยังจะปล่อยให้นางแสดงงิ้วฉากใหญ่ในตระกูลหลัวได้อย่างสบายใจเสียด้วย
หยางมามาถอนหายใจพลางส่ายศีรษะ “ท่านไม่เกี่ยวข้องอันใดกับคุณหนูสี่ แต่เพราะท่านมีใบหน้างดงามเกินไป คุณหนูสี่จึงไม่พอใจและคิดทำร้ายท่าน วันหน้าเมื่อนางออกเรือนก็จะมีฐานะเป็ชายาถูกต้องตามกฎหมาย สามีนางก็จะมีอนุชายาใบหน้างดงามเพิ่มไม่หยุด หรือนาง้าสังหารสตรีเ่าั้เสียสิ้น? เมื่อนางทำผิดกฎเจ็ดประการ ไม่เพียงจะถูกครอบครัวสามีละทิ้งเท่านั้น แม้แต่ตระกูลหลัวก็ยังต้องเสื่อมเสียเกียรติไปด้วย”
เหอตังกุยกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนเอ่ยแนะนำอย่างไร้เดียงสา “เช่นนั้นก็ให้น้องสี่หาสามีที่ไม่รับอนุเข้าจวนไม่ดีกว่าหรือ ท่านป้ารองเป็คนกว้างขวาง นางจะต้องหาสามีที่ดีให้น้องสี่ได้แน่”
หยางมามาส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ “พูดนั้นง่าย แต่บุรุษส่วนมากบนโลกล้วนเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเื่ความรัก แม้บุรุษดี ๆ หลายคนจะยอมไม่รับอนุเพิ่ม แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ ในกลุ่มภรรยาทั้งหมดมักจะมีสตรีที่บุรุษรักจริงใจเพียงคนหรือสองคนเท่านั้น ที่เหลือล้วนเป็ผู้อื่นยัดเยียด หากพูดล่วงเกินคือเื่ราวของท่านตา ท่านยายของท่านและเหล่าไท่ไท่ของพวกเรา ขณะทั้งสามยังหนุ่มสาวก็มีความสัมพันธ์ซับซ้อนเช่นกัน เหตุเพราะเหล่าไท่ไท่แห่งจวนตระกูลฉายเลอะเลือนชั่วขณะ ทั้งสามคนล้วนเหนื่อยล้าเพราะมีเื่กังวลใจนานหลายปี...”
เมื่อเห็นสายตาไร้เดียงสาไม่รู้ว่าความรักระหว่างชายหญิงคืออะไรของเหอตังกุย หยางมามาจึงส่ายศีรษะพลางเอ่ย “ช่างเถอะ ท่านยังเด็กนัก ข้าพูดถึงเพียงนี้ ท่านยังไม่เข้าใจ พูดง่าย ๆ คือแทนที่จะฝากความหวังกับการหาสามีดี ๆ สู้สั่งสอนคุณหนูสี่อย่างเข้มงวดไม่ดีกว่าหรือ ขอเพียงเหล่าไท่ไท่ตกลง แม้นายหญิงรองและนายท่านรองจะคัดค้าน คุณหนูสี่ก็ต้องมาปรับปรุงความประพฤติที่วัดแห่งนี้สามเดือนอยู่ดี เมื่อถึงตอนนั้น ทุกอย่างจะเป็ไปตามการตัดสินใจของนางว่าควรให้คุณหนูสี่ขัดเกลานิสัยที่จวนต่อหรือไม่”
เหอตังกุยพยายามเกลี้ยกล่อมสุดกำลังเป็ครั้งสุดท้าย “คุณหนูสี่ดีต่อข้ามาก นางจะทำร้ายข้าได้เยี่ยงไร? มามาไม่มีหลักฐาน อย่าทำให้คุณหนูสี่ไม่ได้รับความเป็ธรรมดีกว่าเ้าค่ะ แม้มีหลักฐาน อย่างไรก็ต้องโน้มน้าวเหล่าไท่ไท่เพื่อให้โอกาสน้องสี่ได้อธิบายนะเ้าคะ เมื่อข้าหิวโหย น้องสี่ก็ส่งอาหารมื้อดึกมาให้ข้าติดต่อกันถึงสี่เดือน ข้าได้กินอาหารอร่อย ๆ ก่อนเข้านอนทุกวัน”
หยางมามาพยักหน้ากล่าว “อืม ข้าเข้าใจแล้ว เดิมทีข้าอยากให้นางขัดเกลานิสัยด้วยการใช้แรงงาน จึงคิดจะไม่ให้เงินมากนัก แม้ข้าอยากบริจาคแต่คงต้องรอคราวมารับตัวคุณหนูสี่กลับจวน ข้าจะเตือนเหล่าไท่ไท่ให้ตรวจสอบสัมภาระที่คุณหนูสี่นำไปอย่างละเอียด ไม่มีทางให้นางหลีกหนีโอกาสอันดีที่จะได้ขัดเกลานิสัยเช่นนี้เด็ดขาด”
“หวังว่าน้องสี่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยของตนในเร็ววัน กลายเป็คนที่มีนิสัยเหมือนพี่สาวนาง” เหอตังกุยถอนหายใจ ก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาที่เดิมทีก็แทบไม่เหลือให้เช็ดแล้ว
หยางมามากังวลต่อคนรุ่นหลังตระกูลหลัว นางถอนหายใจก่อนเอ่ยจริงจัง “หากคุณหนูที่อาศัยในจวนหลัวเ่าั้สามารถสมบูรณ์แบบดุจหยกไร้ที่ติ มีใบหน้างดงามสมส่วนเช่นเดียวกับคุณหนูสามคงจะดีไม่น้อย ตระกูลหลัวต้องกลับมารุ่งโรจน์เหมือนครั้งนายท่านยังมีชีวิตอยู่เป็แน่”
เหอตังกุยรีบเอ่ยปฏิเสธทันที “ตังกุยไม่เฉลียวฉลาดเหมือนคุณพี่ใหญ่ ไม่เรียบร้อยเหมือนพี่รอง ไม่ร่าเริงมีชีวิตชีวาเหมือนน้องสี่และไม่น่ารักเหมือนหลานสาวในตระกูล ไยมามาจึงบอกว่าข้าสมบูรณ์แบบล่ะเ้าคะ” ทันใดนั้นนางก็มองโดยรอบอย่างมีเลศนัย ก่อนเอ่ยถามหยั่งเชิงเสียงเบา “มามา ตระกูลหลัวมีคนป่วยหรือไม่? คนป่วยนั้นใช่...หนึ่งในฝาแฝดหลานเว่ยและหลานจูหรือไม่เ้าคะ? อาการป่วยใช่...หน้าอกเป็ผื่นแดงหรือไม่?”
หยางมามาใมาก สายตาของนางทอประกายเ็า ก่อนเอ่ยถามจริงจัง “ใครบอกเื่นี้แก่คุณหนูสาม? คนในตระกูลหลัวที่รู้เื่มีไม่มากนัก ข้าเป็หนึ่งในนั้นที่มาพบท่านเพียงคนเดียว ท่านรู้เื่นี้ได้อย่างไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้