ไป๋เซี่ยเหอหันหน้ามามองเขา แววตาเ็าคู่นั้นของฮั่วเยี่ยนไหวดูราวกับบรรจุดวงดารานับพันนับหมื่นเอาไว้ มันเจิดจ้าจนแยงตา
“ถ้าเช่นนั้นก็ละเว้นท่านย่าเถิด นางอายุมากแล้ว รับความใไม่ไหวหรอก”
สิ่งสำคัญที่สุดคือ เก็บไป๋เหล่าฮูหยินไว้ยังมีประโยชน์
“ได้ ข้าเชื่อฟังพระชายา”
คำเรียกขานอย่างพระชายาไม่ได้มีเพียงตำแหน่งเท่านั้น ทว่ายังมีหัวใจของเขาด้วย
ไป๋เหล่าฮูหยินที่กำลังยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อ กลับถูกประโยคถัดไปของฮั่วเยี่ยนไหวทำให้นิ่งค้างกลางอากาศทันที
“เพียงแต่โทษตายเลี่ยงได้ โทษเป็ยากจะเลี่ยง”
ดวงตาของฮั่วเยี่ยนไหวฉายความเย็นเยียบราวกับคมมีดออกมาทันที น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและแหบพร่า ฟังดูข่มขวัญอย่างแท้จริง
“จงคัดลอกคำสอนของสตรีมาหนึ่งร้อยจบภายในสามเดือน!”
ลงโทษเช่นนี้ไม่นับว่ารุนแรง ทว่าน่าขายหน้ายิ่งกว่าการถูกทุบตีเสียอีก!
หากจะกล่าวให้ชัดเจนก็คือ ไป๋เหล่าฮูหยินที่ร่างถูกฝังไปแล้วครึ่งหนึ่ง กลับถูกลงโทษให้คัดลอกคำสอนของสตรี
สีหน้าของไป๋เหล่าฮูหยินเปลี่ยนเป็แดงและเขียวอย่างไม่รู้จบ!
“ไป๋เหล่าฮูหยินมีอะไรไม่พอใจอย่างนั้นหรือ?”
“หม่อมฉันย่อมปฏิบัติตามพระประสงค์ของเซ่อเจิ้งอ๋องเพคะ”
ไป๋เหล่าฮูหยินกัดฟันเอ่ยออกมาทีละคำ
“ในเมื่อข้าตอบรับคำร้องขอของชายารักแล้ว ชายารักก็ควรพาข้าไปเปลี่ยนชุดได้แล้วใช่หรือไม่?”
ไป๋เซี่ยเหอสูงแค่อกของฮั่วเยี่ยนไหว ทันทีที่เขาเข้ามาใกล้ กลิ่นสะระแหน่เย็นก็อบอวลเต็มโพรงจมูก
คุ้นเคยเสียจนทำให้นางใจสั่น
เขาเอ่ยด้วยเสียงต่ำและแหบพร่าที่ข้างหูของนางอย่างเย้ายวน “เ้าหนีไม่รอดแล้ว”
“ท่านอ๋องตรัสได้ถูกต้องแล้ว”
นางกัดฟันเอ่ยทีละคำ นึกไม่ถึงว่าบุรุษสมควรตายผู้นี้จะกล้าข่มขู่นาง
ไป๋เซี่ยเหอทนไม่ได้ทันที ความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นมาในก้นบึ้งหัวใจ
นางยื่นมือไปหยิกเนื้อของฮั่วเยี่ยนไหวแล้วบิด
เขาไม่เปลี่ยนสีหน้าแม้แต่น้อย ความอ่อนโยนในแววตาเ็าดูลึกล้ำ “เชื่อข้า แล้วเ้าจะมีความสุข”
มีความสุข?
มีความสุขผายลมสิ!
ถูกข่มขู่อย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ยังจะมีความสุขอีกหรือ?
ในสายตาของทุกคน เห็นเพียงฝ่ามืออันกว้างและทรงพลังของฮั่วเยี่ยนไหวกอบกุมมือเล็กๆ ที่ขาวและนุ่มนิ่มของไป๋เซี่ยเหอเอาไว้แน่น ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินจ้ำอ้าวออกไป
แววตาของไป๋เซี่ยเหอทอประกายซับซ้อน สุดท้ายแล้วนางก็ไม่ได้สลัดฝ่ามือใหญ่คู่นั้นทิ้ง
กระทั่งทั้งสองคนจากไป ไป๋เหล่าฮูหยินก็ถูกประคองให้ลุกขึ้นยืน แววตาของนางเต็มไปด้วยความสับสน
นางเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วว่าตนเองพลาดไปั้แ่ต้นหรือไม่ นางอาจหลงผิดนึกว่าไข่มุกเป็กรวด
หากผู้ที่นางเคยมีใจลำเอียงไม่ใช่ไป๋หว่านหนิง ทว่าเป็ไป๋เซี่ยเหอ...
ตอนนี้อีกฝ่ายจะมีท่าทีต่างออกไปหรือไม่?
ไป๋ซูเหอที่ยืนอยู่ข้างไป๋เหล่าฮูหยินมองเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหญิงชรา หัวใจก็พลันเต้นโครมครามขึ้นมาทันที
ลางลังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้น อารมณ์ไม่ยินยอมแทบจะกลืนกินนางไปทั้งตัว
เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนจากไป๋เหล่าฮูหยิน นางติดตามปรนนิบัติอยู่ข้างกายของอีกฝ่ายมาหลายวันเยี่ยงสาวใช้ ทว่าตอนนี้...
แววตาของไป๋ซูเหอขุ่นมัวเล็กน้อย
“ท่านย่าวางใจเถิด อีกสามเดือนให้หลัง หลานต้องทำสำเร็จอย่างแน่นอนเ้าค่ะ”
น้ำเสียงอ่อนหวานดังขึ้นข้างกาย ทำให้จิตใจของไป๋เหล่าฮูหยินได้รับการปลอบโยนเล็กน้อย
ไป๋เหล่าฮูหยินโยนความอัปยศอดสูที่ได้รับเมื่อครู่ทิ้งไปอย่างหมดจด นางเชิดศีรษะขึ้นสูง “ไม่เลว เ้าเป็เด็กกตัญญูอย่างที่คิด ย่าไม่ได้เอ็นดูเ้าเสียเปล่าจริงๆ”
ไป๋ซูเหอรู้นิสัยของไป๋เหล่าฮูหยินมานานแล้ว นางเป็เพียงหญิงชราที่เห็นแก่ตัวจนถึงขีดสุดเท่านั้น
ไป๋เหล่าฮูหยินไม่มีทางยอมลงให้ั้แ่แรก ทว่าไม่ช้าก็เร็วนางต้องยอมทำเช่นนั้นด้วยเหตุผลนานัปการ ไป๋ซูเหอจึงเป็ฝ่ายยอมลงให้ก่อน
โชคดีที่ทำให้ไป๋เหล่าฮูหยินติดค้างไมตรีนี้กับนาง!
ไป๋ซูเหอยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แววตาทอประกายคมปลาบ “ผู้คนล้วนกล่าวว่าสตรีที่ตกอยู่ในห้วงรักคือคนโง่ หลานยังคิดว่าคำกล่าวนี้ช่างฟังดูน่าขบขันยิ่งนัก”
“ทว่าพี่ใหญ่ก็เป็เช่นนี้ไม่ใช่หรือ? สายตาของนางมีเพียงท่านอ๋องเท่านั้น มาถึงที่นี่ตั้งนานแล้ว ทว่ากลับไม่คารวะท่านย่าเลย”
อารมณ์ของไป๋เหล่าฮูหยินที่เพิ่งแปรเปลี่ยนจากมืดมนเป็สดใส ตอนนี้กลับจมดิ่งลงทันทีอีกครา
“เฮอะ นางไม่เห็นย่าอย่างข้าอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ!”
ไป๋ซูเหอประคองไป๋เหล่าฮูหยินให้นั่งลง จากนั้นตนเองก็ลงไปนั่งยองๆ อยู่แทบเท้าของนางเพื่อคอยบีบนวดให้
หากพูดถึงทักษะการนวด ไป๋ซูเหอเคยเชิญสาวใช้คนสนิทที่ฝีมือดีที่สุดของไป๋เหล่าฮูหยินมาสอนให้แล้ว
ผ่านไปสักพัก ไป๋เหล่าฮูหยินก็ปรือตาลงครึ่งหนึ่งด้วยความสบาย
ระหว่างที่ไป๋ซูเหอบีบนวดอย่างขะมักเขม้น นางก็ถือโอกาสเอ่ย “หลานกังวลว่าหากพี่ใหญ่แต่งเข้าจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง เื่นี้จะฉุดรั้งจวนของเราหรือไม่? เพราะตอนนี้เงินในจวนของเราร่อยหรอเป็อย่างยิ่ง หากถูกตรวจสอบเข้า...”
“ไป๋เซี่ยเหอคือหมาป่าตาขาว[1] เลี้ยงไม่เชื่อง ข้าควรบีบคอนางให้ตายเสียั้แ่เกิด!”
ใบหน้าอันแก่ชราของไป๋เหล่าฮูหยินเต็มไปด้วยความดุร้าย ปรารถนาจะย้อนเวลากลับไปในตอนนั้น
ไป๋ซูเหอไม่ตอบ ทว่าเงยหน้าอันงดงามที่แต่งหน้าตามโหยวพิงถิงขึ้นมา ดูคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ตั้งใจ
“ข้ายังไม่ได้ถามเลยว่าเหตุใดวันนี้เ้าถึงแต่งหน้าเช่นนี้?”
ไป๋เหล่าฮูหยินเพิ่งสังเกตว่าไป๋ซูเหอดูแตกต่างไปจากปกติ
“เหล่าฮูหยินคงรู้จักอันหนิงจวิ้นจู่กระมัง หลานแต่งหน้าตามนาง ในเมื่อเซ่อเจิ้งอ๋องชมชอบสตรีที่บอบบางและงดงาม หลานเองก็ทำได้เช่นกัน วันนี้เซ่อเจิ้งอ๋องชมหลานว่างดงามด้วยเ้าค่ะ”
เมื่อไป๋เหล่าฮูหยินนึกถึงประโยค ‘สาวใช้ของจวนสกุลไป๋รูปโฉมไม่เลวเลย’ ในใจก็พลันเกิดโทสะ
ทว่าหากเซ่อเจิ้งอ๋องไม่ทราบว่าไป๋ซูเหอคือคุณหนูของจวนเล่า?
บางทีเขาอาจไม่รู้จริงๆ ก็เป็ได้
นั่นหมายความว่าเขาชมชอบไป๋ซูเหอใช่หรือไม่?
หากเป็เช่นนี้...
“เื่สะเพร่าเช่นในวันนี้ วันหน้าจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้เด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?”
แววตาของไป๋ซูเหอทอประกายยินดี ในมือของนางมีต่างหูจื๋อสุ่ยจิง[2]คู่หนึ่งที่ซื้อมาด้วยเงินเก็บส่วนตัวทั้งหมด
“นี่คือต่างหูที่หลานบังเอิญได้รับมา หลานคิดว่ามันเหมาะกับท่านย่ามากเลยเ้าค่ะ”
ช่างเป็การพูดโกหกที่หน้าไม่อายจริงๆ อัญมณีเช่นนี้เหมาะกับหญิงสาวเท่านั้น หากไป๋เหล่าฮูหยินที่สูงวัยสวมใส่มัน เกรงว่าจะชวนให้ผู้คนหัวเราะเยาะเสียมากกว่า
ทว่านี่ไม่ส่งผลกระทบต่อไป๋เหล่าฮูหยินที่ชื่นชอบอัญมณีแต่อย่างใด
อัญมณีมีขนาดไม่ใหญ่นัก ทว่าในยุคนี้มันไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป
ดังนั้น ของหายากย่อมล้ำค่า
ไม่ว่าจะเป็ของแพงหรือของล้ำค่า ไป๋เหล่าฮูหยินล้วนชื่นชอบทั้งหมด!
ดวงตาของนางเป็ประกายทันที นางแย้มยิ้มราวกับดอกเบญจมาศบาน “ยังเป็เ้าที่รู้ใจย่ามากที่สุด”
“...”
ภายในเรือนสุ่ยฉิง
หลังจากอิ๋งเฟิงส่งชุดใหม่มาให้ก็หมุนกายออกไปโดยไม่ลังเล
ไป๋เซี่ยเหอนำชุดดังกล่าวมาวางพาดเอาไว้ เมื่อนางเตรียมจะออกไปก็ถูกมือข้างหนึ่งขวางทาง
“ข้าไม่เคยสวมเสื้อผ้าเอง”
“เช่นนั้นข้าจะเรียกอิ๋งเฟิงให้ท่าน”
ฮั่วเยี่ยนไหวหดมือกลับมา “อิ๋งเฟิงไปทำธุระแทนข้าแล้ว”
“เช่นนั้นข้าจะเรียกสาวใช้ให้ท่าน”
“ข้าไม่ใกล้ชิดสตรี เข้าใกล้เมื่อใดต้องสังหารเท่านั้น!”
น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย ราวกับกำลังพูดคุยเื่ทั่วไป
“...”
“เด็กดี จงเชื่อฟัง ช่วยข้าสวมเสื้อผ้าเสีย”
เขาก้าวเข้ามาอีกหนึ่งก้าว กันร่างของไป๋เซี่ยเหอไว้ในเครื่องเรือนที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมอย่างพอดิบพอดี
กลิ่นอายของอีกฝ่ายลอยเข้ามาปะทะใบหน้าของไป๋เซี่ยเหอ น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและแหบพร่าแฝงไว้ด้วยความเย้ายวน
ไป๋เซี่ยเหอเอียงศีรษะเพื่อหลบหนีจากกลิ่นอายอันร้อนรุ่มนั้น พวงแก้มของนางแดงเรื่อ หัวใจเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้
“ได้ แต่ท่านปล่อยข้าก่อนเถิด”
เพียงช่วยสวมเสื้อคลุมตัวหนึ่งเท่านั้น นางมาจากยุคปัจจุบัน ตอนว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำ มีอะไรที่นางไม่เคยเห็นบ้าง?
------------------------
[1] หมาป่าตาขาว หมายถึง คนอกตัญญู
[2] จื๋อสุ่ยจิง หมายถึง อเมทิสต์