สาเหตุที่เซี่ยเสี่ยวหลานทำความดีไม่เอาหน้า เพราะว่าเธอไม่ได้ใส่ใจเงินจำนวนเพียงเท่านี้นัก
แม้เธอจะไม่ขัดสนเงินทอง ก็ไม่ให้คนหลายสิบสวาปามอาหารเกินจำเป็อยู่ดี ‘อาหารของผู้เข้าสอบ’ ควรเน้นโภชนาการที่สมดุลเหมาะสม พอท้องไส้ซึ่งปกติไม่ได้แตะไขมันอะไรมากมายเพลิดเพลินกับอาหารอันอุดมสมบูรณ์ เวลากินจะพยายามยัดลงท้องอย่างเอาเป็เอาตาย หลังจากนี้คงไม่พ้นท้องเสีย อาหารที่สะอาดถูกสุขอนามัย สิ่งสำคัญที่สุดคือความสดใหม่ก็พอ ของที่เซี่ยเสี่ยวหลานและนักเรียนเหล่านี้รับประทานไม่แตกต่างกัน เน้นกับข้าวปริมาณมากหน่อย ส่วนอาหารหลักจำพวกแป้งปริมาณน้อยหน่อย
“อาหารหลักจากแป้งประเภทข้าวสวยกับบะหมี่ กินมากไปจะง่วงนอนง่าย ตอนบ่ายทุกคนยังต้องสอบ กินพวกผักเยอะๆ เถอะ”
นี่เป็ข้อคิดจากประสบการณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลาน บางคนกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย ข้าวปลาอาหารที่ไม่ต้องจ่ายเงิน กินหมั่นโถวเพิ่มสักอันมันจะเสียหายอย่างไร แต่เมื่อจะยื่นมือไปหยิบหมั่นโถว สุดท้ายในใจเกิดความลังเลสงสัย การปฏิบัติตามคำพูดของเพื่อนเซี่ยเสี่ยวหลานอาจไม่ถูกต้องทั้งหมดเสมอไป ทว่าคงไม่ถึงขั้นผิดพลาด
เพื่อนเสี่ยวหลานหวังดีทำเพื่อทุกคนอย่างแน่นอน ข้อสอบที่นำมาจากโรงเรียนในเมืองก็ให้พวกเขาใช้โดยไม่เสียเงิน
การสอบคัดเลือกรอบแรกมีทั้งหมดสองวัน มีมื้ออาหารที่เซี่ยเสี่ยวหลานเอื้ออำนวย และเหล่าวังก็รับผิดชอบอย่างตั้งใจ ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนล้วนรักษากิจวัตรชีวิตที่ดีไว้ได้ ระหว่างการสอบคัดเลือก ไม่มีผู้เข้าสอบล้มป่วยแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าการแสดงศักยภาพในสนามสอบจะเป็อย่างไร อย่างน้อยสุขภาพกายก็ไม่เป็อุปสรรคต่อการสอบ
การกำหนดวิชาของสอบคัดเลือกรอบแรกเหมือนกับเกาเข่า เป็การซ้อมล่วงหน้าของเกาเข่านั่นเอง วิชาแรกสอบภาษาจีน วิชาสุดท้ายสอบภาษาอังกฤษ
วิชาสุดท้ายของเซี่ยเสี่ยวหลานง่ายดายที่สุด สอบเสร็จออกจากห้อง เหล่านักเรียนเซี่ยนอีจงตามมาเพื่อเทียบคำตอบ ใครๆ ก็รู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมักได้คะแนนเต็มในวิชาภาษาอังกฤษ ดังนั้นคำตอบของเธอคือคำตอบมาตรฐาน
“เสี่ยวหลาน ฉันรู้สึกว่าภาษาอังกฤษคราวนี้ไม่ได้ยากมากนะ!”
“ฉันก็เหมือนกัน...”
“ข้อแรกเลือก B ใช่ไหม?”
ไม่ใช่ว่าโจทย์ง่ายขึ้น แต่เป็เพราะระดับภาษาอังกฤษของพวกเขามีพัฒนาการต่างหาก อันที่จริงคนมีพื้นฐานน้อยพัฒนาได้ง่ายมาก มันยากหาก้าเพิ่มจาก 90 คะแนนเป็ 100 คะแนน ส่วนการเพิ่มจาก 30 คะแนนเป็ 50 คะแนนนั้นไม่ได้ยากเท่าไรจริงๆ
เหล่าวังปรี่เข้ามาพลางถือใบรายชื่อ “อ่านถึงชื่อใครแล้วรีบขึ้นรถเลย! พาพวกเธอมาสอบที่เฟิ่งเสียน และต้องพากลับไปทั้งหมดด้วย”
“ครูวัง ให้ผมถามอีกสองคำถามเถอะ”
เหล่าวังตบลงบนบ่าของเขาหนึ่งที “สอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว คะแนนของการสอบรอบแรกจะออกมาเร็วมาก กลับไปรอที่โรงเรียนซะ!”
เหล่าวังถามเซี่ยเสี่ยวหลานว่าจะเอาอย่างไร เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คิดจะกลับเขตอันชิ่งพร้อมคณะอยู่แล้ว
“หนูจะไปกับญาติน่ะค่ะ ครูวังอย่าเป็ห่วงหนูเลย”
ความแปลกคือซุนเถียนไม่กลับไปเช่นกัน บอกว่าตนเองยังมีธุระในเฟิ่งเสียน เหล่าวังไม่ได้ถามไถ่อะไร เดิมทีซุนเถียนก็เป็คนที่อาจารย์ใหญ่ซุนส่งมาเพื่อดูแลเซี่ยเสี่ยวหลาน การอยู่กับเซี่ยเสี่ยวหลานจึงค่อนข้างปกติ
“เสี่ยวซุน เธอต้องส่งนักเรียนเสี่ยวหลานขึ้นรถด้วยตัวเองนะ ที่บ้านพักนั่น...”
ซุนเถียนแย่งตอบ “ที่บ้านพักฉันจะรับผิดชอบคืนห้องเองค่ะ”
เหล่าวังต้องดูแลนักเรียนหลายสิบคน ภาระหน้าที่มากมาย ย่อมดีกว่าถ้าซุนเถียนอาสาแบ่งเบาภาระไปสักหน่อย
พอรถที่บรรทุกคณะนักเรียนจากไป เซี่ยเสี่ยวหลานถึงหันศีรษะกลับมาถามซุนเถียน “ครูซุน ครูมีเื่อะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่าคะ?”
ซุนเถียนอดทนอย่างยากลำบากยิ่งนัก เซี่ยเสี่ยวหลานจึงแสร้งให้ความร่วมมือ สองวันมานี้ไม่เคยซักไซ้เลย หลี่ต้งเหลียงคิดว่าได้เวลาบอกเื่นี้แก่คุณผู้หญิงเซี่ยแล้ว ซุนเถียนเล่าไม่ชัดเจน ก็ให้เป็หน้าที่ของหลี่ต้งเหลียงอธิบาย
“คุณกลับบ้านพักไปดูพร้อมกับพวกเราแล้วกัน”
ซุนเถียนกำลังตื่นตระหนก จึงไม่ได้สังเกตว่าหลี่ต้งเหลียงเรียกเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยสรรพนามที่ให้เกียรติกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก ภายในห้องของหลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยน เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นจ้าวกังที่โดนจับมัดกับเก้าอี้ การสอบคัดเลือกดำเนินเป็เวลาสองวัน จ้าวกังก็โดนขังไว้สองวัน นอกจากปล่อยให้เขาไปเข้าห้องน้ำ หลี่ต้งเหลียงและเก่อเจี้ยนไม่เคยคลายเชือกบนตัวเขาแม้แต่น้อย ด้านอาหารให้เพียงของกินเล็กน้อยเท่านั้น ประทังชีวิตไม่ให้จ้าวกังหิวโหยตายก็พอ หลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนไม่มีทางบริการจ้าวกังเป็อย่างดีแน่นอน
จ้าวกังที่เซี่ยเสี่ยวหลานพบคือเชลยผู้อ่อนแรงจากการถูกทรมานมาสองวันแล้วนั่นเอง
“จับเขาได้เมื่อไรหรือ?”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ถามแม้แต่ทำไมต้องจับเขา จ้าวกังไม่ควรจะปรากฏตัวในเมืองเฟิ่งเสียนด้วยซ้ำ
ถ้าถูกหลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนขังไว้ได้ ต้องเป็เพราะคิดมิดีมิร้ายต่อเธออย่างแน่นอน
หลี่ต้งเหลียงเล่าเื่ราวเมื่อคืนวานหนึ่งรอบ ในสองวันที่จ้าวกังถูกขัง หลี่ต้งเหลียงซักฟอกข้อมูลออกมาได้มากมายเช่นกัน เริ่มแรกซุนเถียนปฏิเสธไม่ให้จ้าวกังตามมาเฟิ่งเสียนด้วยกัน จ้าวกังจึงไม่อยู่เฉยที่โรงเรียน ขอลางานมายังเฟิ่งเสียนล่วงหน้าทันที เหล่าวังจองบ้านพักที่ไหนให้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่ความลับโดยสิ้นเชิง เขาแค่ซ่อนตัวในห้องของบ้านพัก เมื่อถึงเวลากลางคืนก็พกอุปกรณ์มาพยายามเปิดประตู
เขางัดแงะประตูเข้าไปเพื่อจะทำอะไร?
ตอนแรกยังปากแข็ง บอกว่าจะมาพบซุนเถียน
จ้าวกังยืนกรานเรียกซุนเถียนว่าเป็แฟนสาวของเขา เื่นี้คือความขัดแย้งระหว่างคู่รัก ตั้งเป็ข้อหาอันธพาลได้ยากด้วยซ้ำ
ทว่าหลังจากโดนหลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนจัดการยกใหญ่ จ้าวกังผู้ซึ่งไม่แข็งแกร่งพอ สุดท้ายก็สารภาพจุดมุ่งหมายที่แท้จริงออกมาจนได้ หลี่ต้งเหลียงดึงถุงเท้าเหม็นที่ยัดไว้ในปากของเขาออก ให้เขาเล่าเื่ราวอีกครั้งต่อหน้าเซี่ยเสี่ยวหลาน
อาจารย์ใหญ่ซุนบอกว่าต้องสงบเงียบ จึงจองห้องชุดราคาแพงที่สุดของบ้านพักให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลาน
ดังนั้นห้องนี้จึงเก็บเสียงดีมาก ทั้งชั้นมีเพียงสองห้องที่มีคนเข้าพัก แม้จ้าวกังจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็ไร้หนทางหนี นอกจากนี้เขายังถูกทำร้ายและหิวโหย ไม่เหลือเรี่ยวแรงร้องเรียกเช่นกัน
“ฉันพูด ฉันจะพูดทั้งหมด... มีคนสอดเงิน 500 หยวนเข้ามาใต้ประตูห้องฉัน ให้ฉันขัดขวางเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ให้เข้าร่วมสอบเกาเข่า ถ้าสำเร็จจะให้เงินฉันเพิ่มด้วย...”
เซี่ยเสี่ยวหลานเกือบหัวเราะทั้งที่โกรธมาก
ขัดขวางการเข้าร่วมสอบเกาเข่า มีวิธีตั้งมากมายกลับไม่ใช้ กลับมางัดแงะประตูกลางดึก?
ถ้าให้เธอพูด นายแซ่จ้าวคนนี้มีสายตาหลุกหลิก รับเงินคนอื่นมาจริง และเขาเองก็้าฉวยโอกาสกระทำเื่ไม่ดีด้วยแน่
“ใครให้เงินคุณ?”
จ้าวกังพูดจาตะกุกตะกัก บอกว่าเงินถูกสอดเข้ามาในช่องประตูโดยใส่ซองจดหมาย เขาไม่เห็นเ้าตัวเหมือนกัน
ถึงเวลานี้แล้วยังไม่พูดความจริงอีก เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากเสวนากับคนขี้ขลาดนี่ “ช่างเถอะ จับส่งสถานีตำรวจดีกว่า ให้ตำรวจถามเขาเอง”
“เซี่ยจื่ออวี้! คือเขาเคยคุยกับฉัน ถามว่าฉันชอบเธอหรือเปล่า ถามว่าอยากแต่งงานกับซุนเถียนหรือเปล่า และบอกว่าไม่้าให้เธอเข้าร่วมการสอบเกาเข่าด้วย ตอนเย็นฉันกลับหอไปก็เห็นซองจดหมาย... อย่าส่งฉันไปสถานีตำรวจเลย ฉันรับรู้ว่าทำผิดไปแล้ว”
เซี่ยเสี่ยวหลานทำความเข้าใจกับตรรกะของจ้าวกังอยู่พักใหญ่
หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือ คนคนนี้ละโมบในความงามของเธอ และละโมบในผลประโยชน์ที่ได้มาจากการแต่งงานกับอาจารย์ซุนเถียน ้าทั้งสองสิ่งมาั้แ่แรก เซี่ยจื่ออวี้ไหว้วานจ้าวกังขัดขวางไม่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานสอบเกาเข่า หลังงานสำเร็จจะมอบค่าตอบแทนงามๆ หนึ่งก้อนแก่จ้าวกัง และจ้าวกังก็จะสามารถนำเงินส่วนนี้ไปขอซุนเถียนแต่งงานได้อีกด้วย
เซี่ยเสี่ยวหลานหัวเราะร่วนในขณะโมโหออกมาจนได้ ซุนเถียนยืนอยู่ที่เดิม เธออยากแทรกแผ่นดินหนีเหลือเกิน
เมื่อนึกว่าตนเองเคยไม่ชัดเจนกับคนแบบจ้าวกังนี้ ซุนเถียนรับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ผู้ชายคนนี้น่าขยะแขยงเหลือทน ไม่คู่ควรจะเป็ครูด้วยซ้ำ!
จ้าวกังงัดประตูห้อง เนื่องจาก้าฉวยโอกาสทำอะไรบางอย่าง
ในความคิดของเขา ขอแค่เขาทำสำเร็จ เซี่ยเสี่ยวหลานน่าจะเก็บความทุกข์นี้ไว้โดยไม่บอกใคร ผู้หญิงน้อยคนนักที่ประสบเื่ประเภทนี้แล้วเลือกจะไปแจ้งความ แต่ส่วนมากแล้วพวกเธอจะปกปิดไว้อย่างระมัดระวังแทน เพราะกลัวผู้อื่นรับรู้ หากเซี่ยเสี่ยวหลานยืนยันปฏิเสธแม้ต้องตาย จ้าวกังก็มีวิธีพูดเช่นกัน บอกว่าตนเองมาเพื่อหาซุนเถียน ปรากฏว่าเข้าผิดห้อง อีกทั้งโดนนักเรียนหญิงยั่วยวน... เื่ราวจะสมใจหวังหรือไม่ เซี่ยเสี่ยวหลานก็อย่าคิดว่าจะได้ร่วมสอบเกาเข่าอีกเลย ถ้าเด็กคนนั้นเจอเื่แบบนี้เข้า ยังสามารถเข้าสอบตามปกติโดยไม่มีผลกระทบใดเชียวหรือ?
แผนการสกปรกยิ่งนัก ทว่ามันได้ผลจริง!