“ติ่งเทียน อย่ามาทำน้ำตาจระเข้ ตอนที่แกรู้ว่าลูกเสียงตายใครจะรู้ว่าแกดีใจแค่ไหนกัน? ตอนนี้ลูกชายแกสามารถกลายเป็ผู้สืบทอดรุ่นเยาว์ได้อย่างราบรื่นแล้วนี่”อวี่ฮั่วหลงจ้องเขม็งและะโใส่อวี่ติ่งเทียน
ใบหน้าของอวี่ติ่งเทียนบึ้งลง“พี่ พี่จะพูดมั่วๆ แบบนั้นไม่ได้นะตอนนี้พี่กำลังใส่ร้ายผมอยู่นะ...เราทุกคนรู้ว่าอวี่เหวินเสียงเป็คนแบบไหนตามข้อมูลที่ผมรวบรวมมาได้ มันโดนกระทืบตายเพราะเขาไปข่มขืนสาวมหา’ ลัยขนาดผมเองยังคิดว่าพฤติกรรมเลวทรามแบบนี้น่ารังเกียจเลย”
“แกพูดว่าไงนะ? ไหนพูดใหม่อีกทีซิ” อวี่ฮั่วหลงะเิออกมาทันทีเขาชี้หน้าไปที่น้องชายและคำราม “แกคิดว่าลูกแกมันคนดีนักหรือไง? ไม่ใช่ว่ามันก็ไปขืนใจสาวบริสุทธิ์ของเมืองจิ้นเฉิงตลอดทั้งวันหรือ?ใครจะรู้ว่ากี่ตระกูลแล้วที่โดนมันล่อและแกยังกล้ามาพูดเื่ลูกชายฉันหรือไง? ฉันจะฆ่าแกก่อนนี่แหละ”ตระกูลอวี่อยู่ในโลกใต้ดินั้แ่เริ่มดังนั้นการพูดเื่สกปรกไร้ยางอายแบบนี้จึงเป็นิสัยที่ฝังอยู่ในกระดูก
ประมุขตระกูลอวี่กระแอมสองทีและเขาก็ยืนขึ้นเมื่อเห็นอวี่ฮั่วหลงและอวี่ติ่งเทียนเริ่มทะเลาะกัน“พวกเ้าทั้งคู่หยุดเดี๋ยวนี้ การทำแบบนี้ พวกเ้าทั้งคู่กำลังก่อความวุ่นวายอยู่นะ”
“ตอนนี้ ตระกูลอวี่ได้รับการเหยียดหยามอย่างร้ายแรงทายาทและหลานโดยตรงของตระกูลอวี่ถูกฆ่าและพวกเ้าสองคนยังมีอารมณ์มาขัดแย้งกันอีกหรือ? ข้าไม่สนว่าหลานเสียงจะข่มขืนผู้หญิงหรือไม่แต่ถ้ามีคนกล้าแตะต้องคนจากตระกูลอวี่ของเรา พวกมันจะต้องชดใช้อย่างสาสม”
“พ่อพูดถูกแล้ว ชีวิตของลูกเสียงสำคัญที่สุดไม่ว่าอะไรก็ตามแม้แต่ผู้หญิงราคาถูกร้อยคนพวกนั้นก็ยังไม่คุ้มค่าพอที่จะเทียบชีวิตเดียวกับลูกเสียงของเราได้”
“ตรวจสอบฆาตกรไปถึงไหนแล้ว? พบหรือยังว่ามันเป็ใคร?”ผู้าุโนั่งลงบนเก้าอี้หัวเสือและเปิดปากเล็กน้อย
“พวกเรากำลังค้นหาอยู่ครับ ผมเชื่อว่าเราจะได้คำตอบในเร็วๆ นี้แน่”อวี่ฮั่วหลงกล่าว
“ไม่จำเป็ต้องค้นหาหรอก นายน้อยผู้นี้มาถึงหน้าประตูพวกแกแล้ว”เสียงทุ้มต่ำผ่านมาถึงห้องรับรอง ผู้เข้าประชุมทั้งหมดใสุดขีดพวกเขาหันไปทางหน้าประตู
พวกเขาทุกคนเห็นชายหนุ่มที่ดูธรรมดาและผิวซีดเผือดปรากฏอยู่หน้าประตูเขายืนตัวตรงตระหง่านดั่งต้นสน ดูดุดันและมีความหนาวเย็นบางๆไหลซึมออกมาจากร่างกาย แม้ว่าความรู้สึกนี้จะมองไม่เห็นหรือััได้แต่ผู้คนในคฤหาสน์ก็รู้สึกได้ว่ามันชัดเจนแค่ไหน บางคนแม้แต่เริ่มตัวสั่น
“ไอ้เด็กเปรต แกเป็ใคร?” ตระกูลอวี่เพิ่งกำลังประชุมกันพวกเขาโกรธที่มีคนภายนอกปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน
อวี่ฮั่วหลงก้าวออกมาและจ้องฉินเฟิงอย่างเ็าสายตาของเขาเป็เหมือนอสรพิษที่ซ่อนอยู่ในเงามืด
“นายจะเรียกฉันว่านักชำแหละก็ได้ เพราะว่าฉันเพิ่งชำแหละสัตว์มาสัตว์ที่ชื่ออวี่เหวินเสียง”
เสียงของฉินเฟิงเบาและส่อแววเจตนาแต่เมื่อประโยคนี้เข้าถึงหูของพวกคนที่อยู่ในห้องรับรองของตระกูลอวี่มันก็เหมือนมีสายฟ้าช็อกสมองของพวกเขา เหล่าผู้เข้าประชุมตกตะลึงพวกเขาจ้องฉินเฟิงด้วยั์ตาเบิกโพลงและอ้าปากค้าง
ครั้งนี้พวกเขาตรวจสอบฉินเฟิงใหม่
เขายังหนุ่มยังแน่นไม่มีอาวุธในมือและไม่ได้ซ่อนตัว พวกเขาตั้งคำถามเื่กำลังใจของฉินเฟิงเพราะเขาวิ่งมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ของตระกูลใต้ดินอันดับหนึ่งและกล่าวคำโตอย่างนั้นด้วยท่าทีที่สงบและใจเย็น
ชายคนนี้ไม่ได้โง่แต่บ้า!
“ฮ่าๆๆ ไอ้เด็กเปรต แกมาที่นี่เพื่อชดใช้ความผิดหรือไง?” อวี่ฮั่วหลงหัวเราะเสียงดังทันที ระหว่างที่หัวเราะสีหน้าของเขาก็เหี้ยมขึ้น เขาจ้องฉินเฟิงอย่างดุดัน“แกคิดว่าคนในตระกูลอวี่เป็พวกโง่เง่าหรือ? ไหนบอกซิว่าใครส่งแกมา?ใครกล้าฆ่าลูกเสียงของฉัน? ฉันจะฉีกมันให้เป็หมื่นชิ้น”
ฉินเฟิงมีสีหน้าใจเย็นสายลมพัดผ่านผมที่นุ่มสลวยของเขาและกล่าวเบาๆ “ฉันฆ่าอวี่เหวินเสียงเองแกไม่ต้องสงสัยหรอก”
“ฮึ่ม แกคิดว่าฉันจะเชื่อหรือไง? แกทำอย่างกับตระกูลอวี่ของเราเป็เหมือนพวกตระกูลกิ๊กก๊อกแกฆ่าลูกฉันและยังกล้ามาตระกูลอวี่ถึงที่ด้วยตัวเองเพื่อมายอมรับความตายหรือไง?ฉันเห็นการแสดงจิ๊บจ๊อยของแกทะลุปรุโปร่งมาั้แ่แรกและเริ่มเบื่อแล้วถ้าแกบอกเรามาตรงๆ ว่าใครอยู่เื้ั ฉันอาจจะไว้ชีวิตแกก็ได้นะ”
“ใครก็ตามที่กล้ารังควานคนของตระกูลอวี่จะต้องไม่ตายดีแน่!”
อวี่ฮั่วหลงไม่ใช่แค่คนเดียวที่ไม่เชื่อว่าฉินเฟิงเป็คนฆ่าแม้แต่พวกเข้าประชุมที่เหลือในห้องรับรองของตระกูลอวี่ก็ไม่เชื่อเขา
อวี่เหวินเสียงเพิ่งจะทลายขีดจำกัดสู่ขั้นที่สี่ในรุ่นเดียวกันเขานับได้ว่าเป็ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพร์และน่ายกย่องจากภายนอกฉินเฟิงยังดูหนุ่ม เขาดูไม่เหมือนว่าจะสามารถฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ได้ เห็นได้ว่ามันไม่มีเหตุผลที่จะพูดว่าเขาฆ่าอวี่เหวินเสียง
“แกคิดว่าชีวิตของตระกูลอวี่ล้ำค่าหรือไง?” ฉินเฟิงตอกหน้ากลับอย่างเ็าเขาไม่สนการคิดพินิจของคนพวกนั้น
“ล้ำค่าสิ คนในตระกูลอวี่ของเราคือัและหงส์เพลิงในหมู่มนุษย์คนธรรมดาจะมาเทียบกับเราได้อย่างไร? แกฆ่าลูกเสียงแค่เพราะว่าข่มขืนผู้หญิงแม้ว่าหล่อนจะมีหมื่นชีวิตคุณค่าของหล่อนก็ยังเทียบไม่ได้แม้แต่ขี้เล็บของลูกเสียงด้วยซ้ำ”
อวี่ฮั่วหลงะโด้วยความเกรี้ยวกราด“ผู้หญิงมากมายทะเลาะกันหน้าบ้านตระกูลอวี่ของเรา ถ้าลูกเสียงสนใจนางเด็กสาวนั่นมันก็เป็ความโชคดีของหล่อนสิบแปดชั่วโคตรแล้ว แล้วหล่อนยังไม่ตั้งใจอีกหรือไง? ช่างต่ำช้าจริงๆ”
สีหน้าของฉินเฟิงแสดงความอันตรายมากขึ้นเขาเริ่มแผ่ออร่าเย็นะเืออกมา “ในโลกนี้ผู้คนเกิดมาเท่าเทียมกันไม่มีการจัดหมวดหมู่ว่าล้ำค่าหรือด้อยค่า อวี่เหวินเสียงมันสมควรตายแล้ว และแกก็ด้วย!”
เมื่อเสียงของเขาเงียบลงฉินเฟิงก็พุ่งเข้าใส่อวี่ฮั่วหลง!
“บัดซบ รีบล้อมชายคนนี้และหักแขนหักขามันซะ”เมื่อเขาเห็นว่าฉินเฟิงกำลังจะเริ่มลงมือ ประมุขตระกูลอวี่ก็ะโออกมาชายแข็งแกร่งมากกว่าสิบคนใส่ชุดถังจวงสีดำรีบเข้ามาจากด้านนอก พวกเขาล้อมรอบฉินเฟิงทันที
อันธพาลพวกนี้เป็ลูกน้องของตระกูลอวี่ปีศาจพวกนี้มองฉินเฟิงและพุ่งใส่เขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
อันธพาลตัวใหญ่กว่าสิบคนพุ่งเข้ามาตัวเปล่าพวกเขาค่อนข้างน่ากลัว ฉินเฟิงยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมและสีหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเขารอจนกระทั่งหมัดของชายคนแรกที่ปล่อยออกมากำลังจะกระทบปลายจมูกของเขาทันใดนั้นฉินเฟิงก็ถีบออกไป ความรุนแรงที่ทรงพลังกระทบเข้ากับท้องของชายคนนั้นและมันก็ปลิวไปทุกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของมันล้มกราวระเนระนาด
ขณะที่ชายคนนั้นปลิวไปด้วยลูกถีบฉินเฟิงก็ยืมพลังนี้เพื่อะโขึ้นสู่อากาศทันทีเขาตีลังกาอย่างไม่แยแสและเหยียบหัวของชายอีกคนหนึ่งท่ามกลางลูกหลานน้ำหนักมหาศาลทำให้ชายคนนั้นคุกเข่าทันที เขาไม่สามารถยืนขึ้นได้
ฉินเฟิงยืนด้วยขาเดียวและขาอีกข้างหนึ่งก็เหยียบหัวของชายคนนั้นไว้เขายืนโดยมีมือไพล่หลังและมองผู้เข้าร่วมประชุมด้วยสายตาที่ลุกโชน “วันนี้ฉันมาเพื่อจัดการตระกูลอวี่ ส่วนคนที่ไม่เกี่ยวข้องถ้าอยากไปก็รีบไสหัวไปซะ!”
เมื่อคำว่า“ไสหัวไปซะ” จบลง ความน่าเกรงขามก็แผ่ออกมาจากร่างกายของฉินเฟิงเขาส่งลูกเตะใส่ผู้ชายที่กำลังยืนอยู่ปลิวไป และบังเอิญไปชนกับพวกอันธพาลเป็แถว