เมื่อถูกโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าอีกทั้งการโจมตีของตัวเองก็ไม่อาจััฝ่ายตรงข้ามได้ ในที่สุดความโกรธในดวงตาของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกก็เริ่มกลายเป็ความหงุดหงิด มันร้องคำรามเสียต่ำออกมาครั้งหนึ่ง สายฟ้าแรงสูงสีม่วงถูกอัดแน่นอยู่ที่กรงเล็บของมันแล้วกรงเล็บสิงโตก็ตะปบออกไปทันที ตามมาด้วยสายฟ้าอันดุร้ายที่ประทับลงบนร่างของเย่เทียนเซี่ยและนำมาซึ่งเสียงดังสนั่นจนแก้วหูแทบแตก
มันขยับตัวอย่างรวดเร็วแล้วใช้ท่าไม้ตายของตัวเอง......... อัสนีบาต มันคือทักษะอันน่ากลัวที่มีพลังมหาศาลและไม่อาจหลบหลีกได้ ต่อให้ด้วยความสามารถในการตอบสนองของเย่เทียนเซี่ย ถ้าอยู่ใกล้ตัวมันก็คงไม่มีทางหลบพ้นอย่างแน่นอน...... แต่ตอนนี้การโจมตีของมันยังคงปะทะเข้ากับกำแพงิญญาัและไม่อาจสร้างความเสียหายให้เย่เทียนเซี่ยได้แม้แต่นิดเดียว เย่เทียนเซี่ยยิ้มเย็นก้าวเข้าไปใกล้มันมากขึ้นแล้วฟาดห้วงเวลาแห่งโชคชะตาไปบนร่างของมันอย่างหนักหน่วงทำให้มันถอยหลังไปทีละก้าวๆท่ามกลางเสียงร้องต่ำๆของมัน
ห้าวินาที.......... หกวินาที......... เจ็ดวินาที...........
ความหงุดหงิดของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาทั้งคู่ของมันเปล่งประกายสายฟ้าออกมาราวกับะเิสีม่วงที่พร้อมจะะเิออกมาได้ตลอดเวลา ในที่สุดความโกรธของมันก็มาถึงขีดสุด มันคำรามออกมาเสียงยาวแสงสว่างจ้าที่ไม่มีใครกล้ามองตรงๆะเิออกมาจากใจกลางร่างของมันแล้วแสงสว่างจ้านั้นก็สาดกระทบดวงตาของเย่เทียนเซี่ย
“ติ๊ง! ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกตกอยู่ในสถานะโกรธแค้นโดยสมบูรณ์ ปลดปล่อยทักษะลับ : พายุอัสนี..........”
ระดับความน่ากลัวของเขตแดนอัสนีทำให้ระบบแจ้งเตือนออกมาเป็พิเศษ เย่เทียนเซี่ยไม่ได้ประหลาดใจ เขาไม่มีความกลัว ไม่มีแม้กระทั่งความคิดที่จะหลบหนี ในดวงตาของเขาทอประกายตื่นเต้นราวกับได้ปลดปล่อยภาระอันยิ่งใหญ่ เขาหมุนตัวกลับแล้วพุ่งเข้าไปหามู่หรงชิวสุ่ยพร้อมกับะโออกมาเสียงดัง “ชิวสุ่ยจัดการมันซะ!!”
พลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยลดลง 10% ทุกวินาทีด้วยความรวดเร็ว กำลังิญญาัแสดงผลติดต่อกันเป็เวลา 7 วินาที........ 8 วินาที........แต่พายุอัสนีที่เป็ทักษะลับอันน่ากลัวของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกต้องใช้เวลาร่าย 3 วินาทีจึงจะะเิออกมาใส่ขอบเขตโดยรอบได้ ความรู้สึกกดดันเสมือนความตายกำลังมาเยือดกดทับลงบนร่างของเย่เทียนเซี่ยและบนจิตใจของคนอีกสามคน ด้วยของเขตการโจมตีของพายุอัสนีมันจะต้องคลอบคลุมพวกเขาทั้งสี่คนอย่างแน่นอน
และเมื่อเสียงของเย่เทียนเซี่ยจบลงลูกศรลูกหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากที่ไกลๆเป็เส้นตรงแล้วปักลงบนหัวของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกตามมาด้วยเสียง “ปั้ง” ที่ดังขึ้นมา
-1。
ความเสียหายที่เกิดขึ้นลอยขึ้นมาจาก้าหัวของราชสีห์อเมทิสต์หกปีก แต่แสงสีม่วงที่อยู่รอบร่างของมันที่ขยายตัวจนแทบจะะเิออกมากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยอย่าฉับพลัน
ศรกระแทก เป็หนึ่งในทักษะพื้นฐานของนักล่า แม้ว่าพลังโจมตีหลังจากโจมตีใส่เป้าหมายจะเท่ากับ 80% ของพลังโจมตีธรรมดา แต่กลับมีความเป็ไปได้ 35% ที่จะสกัดการร่ายเวทย์ของเป้าหมาย
แต่ถ้ามันถูกหัวของเป้าหมายอย่างจัง......... ความเป็ไปได้นั้นก็จะเพิ่มขึ้นเป็ 100%!
และที่เย่เทียนเซี่ยตบตีกับความโกรธของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกอยู่นานถึง 9 วินาทีโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ จนราชสีห์อเมทิสต์หกปีกตัดสินใจปลดปล่อยทักษะลับอันน่ากลัวออกมา ก็เพราะเย่เทียนเซี่ยเชื่อว่ามู่หรงชิวสุ่ยจะต้องสามารถสกัดทักษะของมันได้อย่างแน่นอน!
นี่คือความเชื่อมั่นอันเป็คุณสมบัติของพี่น้อง
หัวของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกโดนทักษะศรกระแทกเข้าไปอย่างจังทำให้เวทมนต์ที่มันร่ายจนมาถึงวินาทีสุดท้ายถูกสกัดหายไปทันที และถ้ามองให้ดีๆก็จะพบว่าศรดอกนั้นไม่เพียงพุ่งเข้าใส่ศีรษะของราชสีห์อเมทิสต์หกปีก แต่ตำแหน่งของมันยังอยู่ตรงหลางหน้าผากของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกพอดีเป๊ะอีกด้วย ระยะห่างซ้ายขวาก็สมบูรณ์แบบสุดๆ! ราวกับมันได้ผ่านการคำนวณมาอย่างแม่นยำอย่างไรอย่างนั้น
มู่หรงชิวสุ่ยลดธนูในมือลง มือที่ขาวยิ่งกว่าผู้หญิงพาดธนูเอาไว้บนร่างเบาๆ ตอนนี้ระยะแสดงผลที่ไกลที่สุดของศรกระแทกที่เขายิงไปคือ 20 เมตร และระยะห่างของเขากับราชสีห์อเมทิสต์หกปีกในตอนนี้ก็คือ 20 เมตรพอดี..... ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่นิดเดียว
ความสามารถอันน่ากลัวของเขาสะท้อนให้เห็นว่านี่เป็แค่เื่ปกติธรรมดาเท่านั้น
เขาคือคนที่อยากเป็คนธรรมดาแต่ถูกกำหนดให้เป็คนที่ไม่ธรรมดา ท่ามกลางานองเืที่ไร้เย่เทียนเซี่ย เขาเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่บนกำแพงพร้อมกับรอยยิ้มทรงเสน่ห์ และ“โลกพิสุทธิ์” ที่ทำให้ผู้คนหวาดหวั่นก็ถูกจารึกไว้ด้วยรูปลักษณ์อันงดงามและท่วงท่าการร่ายรำด้วยสองมือของเขา และมันยังสั่นไหวหัวใจและจิติญญาของผู้เล่นทุกคนในที่แห่งนั้นอีกด้วย
World of Fate มีตำนานที่กระจายออกไปทั่วทั้งโลกว่าหากถูก “จักรพรรดิปีศาจ” จับจ้องก็ล้วนไม่มีทางหนีไปจากกำมือของ “โลกพิสุทธิ์” ได้ ................. ไม่เคยมีเลยสักครั้ง
ตำนานกล่าวว่าในสนามรบอันโหดร้าย เขายิงธนูออกไปถึงหนึ่งพันแปดดอกด้วย “โลกพิสุทธิ์” และธนูทั้งหนึ่งพันแปดดอกนั้นก็กวาดล้างศัตรูไปถึงหนึ่งพันแปดคน ทุกดอกโจมตีเข้าเป้า ไม่มีพลาดแม้แต่ครั้งเดียว การโจมตีออกไปในทุกๆครั้งก็เพื่อโจมตีใส่นักเวทย์ที่เป็ภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่ที่ถูกปกป้องอยู่ด้านหลัง.......... จนพวกเขาตายตกตามกันไปในเสี้ยววินาที! ในวันนั้นผู้เล่นทั่วทั้งโลกล้วนจดจำชื่อของเขาได้เป็อย่างดี มันคือนามของปีศาจอันชั่วร้ายซึ่งไม่อาจเรียกขานออกมาได้
ลูกศรของเขาไม่เคยพลาดเป้า ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว และถ้าจะต้องหาคนที่สามารถหลบหลีกลูกศรของเขาได้จริงๆ ก็คงจะมีเพียงเย่เทียนเซี่ยคนเดียวเท่านั้น........ เพราะต่อให้เขาเล็งไปที่ตัวเองก็คงไม่อาจรักษาชีวิตของตัวเองไว้ได้เช่นกัน
การร่ายเวทย์ของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกถูกสกัดในที่สุด ผลสำเร็จที่ตามมาก็คือบทลงโทษที่เท่าเทียมกับเวทย์ที่มันร่าย......... สถานะอัมพาต 8 วินาทีที่ไม่อาจหลบหลีกได้ ซึ่งนี่คือ่เวลายิ่งใหญ่ที่เย่เทียนเซี่ยใช้ในการเอาชนะมัน
ภายในระยะเวลา 8 วินาที เขาก็สามารถกวาดกวาดพลังชีวิตมันหายไปได้มากกว่าแสนหน่วย!
สำหรับผู้เล่นธรรมดา นี่เป็เป้าหมายที่ยากและบ้าคลั่งยิ่งกว่าการตะกายขึ้นฟ้า
และแล้วกำแพงิญญาัของเย่เทียนเซี่ยก็หายไปอย่างฉับพลัน ในตอนนั้นเองขนนกสีแดงที่อยู่้าของห้วงเวลาแห่งโชคชะตาก็เปล่งแสงสีแดงสดราวกับเืออกมา
พลังชีวิตของเย่เทียนเซี่ยในตอนนี้มีแค่ 5 หน่วย!!
เมื่อพลังชีวิตของเขาลดลงั้แ่ 90.2% จนถึง 80.2%……70.2%……60.2%…………10.2%……0.2% กำแพงิญญาัก็หายไปโดยอัตโนมัติ และทักษะสังเวยเืแห่งโชคชะตาที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันบ้าคลั่งก็ถูกปลดปล่อยออกมา...........พลังชีวิตที่เหลือต่ำกว่า 1% ส่งผลให้พลังโจมตีของเย่เทียนเซี่ยเพิ่มขึ้นมาถึง 400% เต็มๆ!! กลายเป็พลังโจมตีอันแข็งแกร่ง 5 เท่า!!
แสงสีเืจากห้วงเวลาแห่งโชคชะตาแพร่กระจายไปทั่วร่างของเย่เทียนเซี่ย แสงสว่างนั้นราวกับเืจริงๆและมันยังมีสีเืเข้มข้นสุดๆด้วย เย่เทียนเซี่ยที่ถูกห่อหุ่มไว้ด้วยสีแดงเืราวกับเพิ่งเดินขึ้นมาจากน้ำพุเืที่มีเืสดๆพวยพุ่งออกมา......... เงาร่างสีเืทำให้คนอีกสามคนตกตะลึงตาค้างไปอีกครั้ง
“สง.......คราม.......คลั่ง..........”
พลังงานเดือดพล่านราวกับจะทำให้ร่างของเขาะเิออกดูเหมือนจะกลืนกินสติสัมปชัญญะของเขาไปจนสิ้น ความปรารถนาที่อยากจะระบายอารมณ์ปะทุขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน เย่เทียนเซี่ยยกห้วงเวลาแห่งโชคชะตาขึ้นมาแล้วฟาดลงไปบนร่างที่นิ่งค้าของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกท่ามกลางเสียงคำรามดังก้อง
และพลังโจมตีของเย่เทียนเซี่ยในเวลานี้ก็คือ 4,413!!
(มาดูกันว่าตัวเลข 4,413 นี้มาได้ยังไง.........)
({(10+15×8+5+48)(ค่าพละกำลัง)×2+150(ห้วงเวลาแห่งโชคชะตา)+15×5(กรงเล็บัปีศาจ)}×{(1+(15×0.3×0.01)}(กรงเล็บัปีศาจ)×(1+10%)(ห้วงเวลาแห่งโชคชะตา)×500%(ทัณฑ์ชีวิตแห่งโชคชะตา)×(1+30%)(าคลั่ง)= 4413)
ปั้ง!!
8074!
เมื่อถูกัสะบั้นที่มีพลังมหาศาลฟาดเข้าใส่ สิ่งที่ปรากกออกมาก็คือเสียงดังสนั่นที่ชวนตกตะลึงมากกว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่าราวกับการโจมตีอันแข็งแกร่งนั้นมีพลังที่สามารถผ่าภูผาได้เลยทีเดียว เมื่อมันเข้าปะทะก็เหมือนจะสั่นะเืไปทั่วพื้นดิน เย่เทียนเซี่ยทำสีหน้าเหมือนไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรแล้วเผยยิ้มเ็าออกมาโดยไม่ตั้งใจ เขาจัดการโจมตีลงบนร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกด้วยัสะบันเหมือนเดิมอีกครั้ง
-8100,-8091,-8150,-8042,-8055,-8101……
เวลาเจ็ดวินาที การโจมตีอย่างบ้าคลั่งเจ็ดครั้ง ตัวเลขความเสียหายมหาศาลเจ็ดตัวกวาดพลังชีวิตของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกไปอย่างมหาศาล!!
จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยเบิดตาโตอ้าปากค้างจนคางแทบจะตกลงไปถึงพื้น......... นอกจากฝันไปแล้วพวกเขาก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายความช็อคที่พวกเขากำลังเห็นอยู่ในตอนนี้ได้
วินาทีที่แปด......... เมื่อราชสีห์อเมทิสต์หกปีกฟื้นจากสถานผิดปกตาได้ในที่สุด ความรู้สึกกดดันมหาศาลที่มาจากเย่เทียนเซี่ยก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
“หัว.......ใจ........ผู้..........กล้า!!”
แสงสีทองผสมผสานไปกับแสงสีแดงเื สายลมอันบ้าคลั่งปรากฏขึ้นมาโดยมีร่างของเย่เทียนเซี่ยเป็จุดศูนย์กลาง ภายใต้แสงสีแดงที่ส่องสว่างออกมาแม้แต่สีของพายุหมุนัก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็สีเืบริสุทธิ์
“พายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้า!!!”
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกที่เพิ่งได้รับอิสระได้รับการโจมตีที่พาให้สิ้นหวังอย่างแท้จริง.........
-8110,-8041,-8110,-8042,-8015,-8101,-8042!
ทักษะสังเวยเืแห่งโชคชะตาปลดปล่อยพลังงานอันรุนแรงออกมา.........เพิ่มการโจมตีขึ้น 400% ภายใต้การเพิ่มพลังโจมตี 30% ของทักษะาคลั่งและการโจมตีอันโเี้ของหัวใจผู้กล้า........ การโจมตีในครั้งนี้ของเย่เทียนเซี่ยนำพาความเสียหายมามากกว่าห้าหมื่นหกพันหน่วย!
เวลาเพียงหนึ่งวินาทีราชสีห์อเมทิสต์หกปีกที่เพิ่งจะฟื้นคืนจากสถานะอัมพาตยังไม่ทันจะได้ปลดปล่อยการโจมตีอันรุนแรงของมันออกมา การโจมตีต่อเนื่องเจ็ดครั้งที่แฝงไว้ด้วยพลังอันน่ากลัวก็ฉุดมันลงไปในนรกอันสิ้นหวัง......... หลอดเืของมันถูกกวาดหายไปจนเกลี้ยง ร่างของมันถูกลมพายุพัดกระเด็นออกไปไกล ปีกทั้งหกตกลงอย่างหมดแรง ร่างนั้นนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้น
“ติ๊ง! ท่านสังหารราชสีห์อเมทิสต์หกปีก (วัยเด็ก) มอนสเตอร์ระดับเซียนเลเวล 15 สำเร็จแล้วค่ะ ชื่อเสียง+150”
“ติ๊ง! ระดับของท่านเลื่อขึ้นเป็เลเวล 16 พลังชีวิต +20, พลังเวทย์ +20, พละกำลัง +3, ความแข็งแกร่ง +3, ความคล่องตัว +3, จิติญญา +3, ได้รับคะแนนคุณสมบัติอิสระ 5 คะแนน”
“ติ๊ง! ‘จิ้งจองทมิฬ’สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 10, พลังชีวิต +20, พลังเวทย์ +80, พลังโจมตีทางกายภาพ +4, พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ +8, การสร้างความเสียหาย +1, การหลบหลีก +1”
“ติ๊ง! ‘จิ้งจองทมิฬ’สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 11, พลังชีวิต +20, พลังเวทย์ +80, พลังโจมตีทางกายภาพ +4, พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ +8, การสร้างความเสียหาย +1, การหลบหลีก +1”
“ติ๊ง! ‘จิ้งจองทมิฬ’สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 12, พลังชีวิต +20, พลังเวทย์ +80, พลังโจมตีทางกายภาพ +4, พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ +8, การสร้างความเสียหาย +1, การหลบหลีก +1”
------------------------------------------------------------------------------------------
แปลไปแปลมาก็รู้สึกว่าพี่เย่ของเราเก่งกับเด็กเหลือเกิน (ตัวที่สองแล้ว) ฮ่าๆๆๆๆๆ
สัตว์ขี่ที่ลุ้นกันไว้คงต้องรอลุ้นต่อไปในอนาคตแล้วล่ะค่ะ เพราะตัวนี้พี่เย่ตีตายแล้ว T^T
