เซียวเหยียนเดินไปที่อุทยานหลวง
ชิงซีเดินตามหลังเขาไปเงียบๆ
หลังจากได้ยินคำพูดของชิงซี เซียวเหยียนก็กล่าวว่า “ท่านประมุขกำลังเข้าใจข้าผิด ข้าจะเล่นลูกไม้กับท่านได้อย่างไร? อาจารย์สอนเสมอว่าเป็ผู้น้อยต้องเคารพผู้าุโ แต่ข้าไม่ได้มาที่อุทยานหลวงสามเดือนแล้ว วันนี้ข้าจึงถือโอกาสจัดงานเลี้ยงขึ้น ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่นจริงๆ”
ชิงซียิ้ม “ถ้าเช่นนั้นข้าขอพูดอะไรกับเ้าหน่อย”
เซียวเหยียนพยักหน้า
ทั้งสองนั่งลงในสวน
ชิงซีมองหน้าเขา
ทันใดนั้นเซียวเหยียนก็โบกมือ นางกำนัลและขันทีที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้นหายไปในทันที
เซียวเหยียนถามว่า “ท่านประมุขมีเื่ใด?”
ชิงซีกล่าวว่า “เซียวเหยียน สิ่งที่ข้ากำลังจะบอกเ้าอาจฟังดูซับซ้อน ดังนั้นเ้าต้องฟังอย่างระมัดระวัง”
เซียวเหยียนพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”
ชิงซีหรี่ตาลงและกล่าวว่า “เซียวเหยียน ข้าอยากให้เ้าเข้าร่วมกับเราและวางแผนทำการใหญ่ด้วยกัน”
เซียวเหยียนเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัยและถามว่า “การใหญ่ที่ท่านพูดถึงคือสิ่งใด?”
เมื่อชิงซีได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้ม
ประโยคสั้นๆ ถูกกล่าวออกจากปากของชิงซี
ไม่มีใครคาดคิดว่าประโยคดังกล่าวจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง
ใบหน้าของเซียวเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาถามว่า “ข้าขอบังอาจถามว่ามีใครรู้เื่นี้อีกบ้าง?”
สายตาของชิงซีเต็มไปด้วยความแน่วแน่ นางกล่าวว่า “ในตอนนี้มีเพียงข้ากับเ้าเท่านั้น”
เซียวเหยียนถามอีกครั้ง “แล้วใครคือพันธมิตรของเรา?”
ชิงซีตอบว่า “ตอนนี้พันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดคือเหวินฮวาและซูเจิน”
เซียวเหยียนพยักหน้า “เหวินฮวาน่ะหรือ? ท่านแน่ใจหรือว่านางรู้เื่นี้? ท่านประมุขอย่าเสียเวลาเกลี้ยกล่อมข้าเลย นอกจากนี้ข้ายังแน่ใจด้วยว่าซูเจินย่อมให้ความร่วมมือได้ดีกว่าข้าแน่นอน”
ชิงซีขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เ้ากังวลสิ่งใด?”
เขากังวลสิ่งใดกันแน่?
เขามักมองว่าเหวินฮวาเป็ผู้หญิงที่อ่อนแอ เขาไม่้าให้ร่างกายเล็กๆ ของนางแบกรับสิ่งต่างๆ มากเกินไป ท้ายที่สุดนางก็คือบุตรีคนเดียวของท่านลุงอวิ๋นเซียว หญิงสาวคนนั้นควรเติบโตมาพร้อมกับบริวารนับพัน ไม่ใช่เติบโตมาอย่างเดียวดาย
ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เปลี่ยนเป็มืดมน “ท่านประมุข ถ้าฝ่ายเราพ่ายแพ้ ข้าจะให้เหวินฮวาเป็ฮองเฮาของข้า”
เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม
ชิงซีไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งนางก็ถามว่า “เ้าแน่ใจหรือว่าเหวินฮวาจะเต็มใจทำเช่นนี้?”
‘เด็กน้อย เ้าถามนางหรือยังว่านางชอบเ้าหรือไม่?’
‘เ้าคิดที่จะองค์หญิงผู้เลอค่างั้นหรือ?’
‘ฝันไปเถอะ!’
‘แต่บางทีเด็กคนนี้อาจแค่้าตอบแทนบุญคุณของอวิ๋นเซียว’
ก่อนที่เซียวเหยียนจะทันได้ตอบ ชิงซีก็ชิงกล่าวขึ้นเสียก่อนว่า “เซียวเหยียน อันที่จริงมีหลายวิธีที่จะตอบแทนผู้มีพระคุณของเ้า เ้าไม่จำเป็ต้องใช้วิธีนี้ ข้าบอกก่อนว่าเหวินฮวามีคนที่นางชอบแล้ว”
เซียวเหยียนรู้สึกโล่งอก เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้านางพบเจอความสุขก็ถือเป็เื่ดี ใครคือชายผู้โชคดีคนนั้น?”
ชิงซียิ้ม “ในอนาคตเ้าก็จะรู้เอง”
เซียวเหยียนกล่าวว่า “ท่านประมุขมาที่นี่ในวันนี้เพียงเพื่อบอกเื่นี้กับข้าหรือ?”
ชิงซีพยักหน้า “ข้าแค่้าคำตอบจากเ้า ไม่ว่าเ้าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่เป็ไร”
เซียวเหยียนกล่าวว่า “อันที่จริงการทำให้ข้าพยักหน้าถือเป็เื่ง่ายมาก ข้าแค่้าให้ท่านประมุขตอบคำถามที่ข้าถามท่านเมื่อครั้งก่อน”
ชิงซีหัวเราะออกมาดังๆ
ชายหนุ่มคนนี้คิดว่าตนเองมีคุณสมบัติในการต่อรองกับนางจริงๆ น่ะหรือ?
เขาเป็เพียงลูกวัวที่ไม่รู้จักเกรงกลัวพยัคฆ์
ในที่สุดเสียงหัวเราะของนางก็เงียบลง “อันที่จริงข้าเป็แค่ประมุขตระกูลมู่เท่านั้น เพียงแต่ประมุขทุกรุ่นหน้าตาเหมือนกันหมด เ้าคิดมากไปเอง”
เซียวเหยียนกล่าวเบาๆ “ท่านกำลังโกหกข้า”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาที่สดใสดูเหมือนจะมองทะลุไปถึงจิติญญาของชิงซี
เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว จู่ๆ ชิงซีก็รู้สึกว่าความอดทนของนางกำลังจะหมดลง สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็เคร่งขรึม น้ำเสียงของนางยังคงฟังดูเป็มิตรแต่ก็แฝงความเย็นเยียบไว้อย่างชัดเจน
“แล้วเ้าจะทำอย่างไรหากข้าโกหกเ้า? ถ้าเ้าอยากรู้คำตอบจริงๆ เช่นนั้นก่อนเ้าตายข้าจะบอกเ้าอย่างแน่นอน”
เซียวเหยียนถามอย่างสิ้นหวัง “ถ้าท่านตายก่อนข้าล่ะ?”
ชิงซียิ้ม “ก่อนที่เราคนใดคนหนึ่งจะตายเ้าจะได้รู้คำตอบอย่างแน่นอน”
จู่ๆ ความคิดอันน่าสะพรึงกลัวก็ผุดขึ้นในหัวของเซียวเหยียน
คนที่สามารถเผชิญกับชีวิตและความตายอย่างสงบนิ่งและไม่แยแสต้องเป็คนแบบใดกัน?
ในฐานะประมุขตระกูลมู่ นางคงได้พบเจอกับเหตุการณ์หลายอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน
บางทีอาจเป็เขาเองที่กำลังล้ำเส้น!
เซียวเหยียนกล่าวว่า “ขอให้การร่วมมือของเราเป็ไปด้วยดี”
ชิงซียิ้ม “เ้าเริ่มวางแผนได้แล้ว เ้าน่าจะรู้ว่าตอนนี้คือ่เวลาที่ดีที่สุด”
เซียวเหยียนพยักหน้า
ตอนนี้รากฐานของราชวงศ์ใหม่แห่งอวิ๋นเมิ่งยังไม่มั่นคง นี่คือสิ่งที่ทุกคนรู้ดี และสาเหตุหลักที่เย่เซียงได้ครองตำแหน่งฮ่องเต้ก็เพราะเขาคือเสนาบดีฝ่ายขวา
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้โจวเซียงหายตัวไป อีกทั้งเหล่าขุนนางก็ไม่ใคร่สามัคคีกันนัก แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่คลื่นใต้น้ำสามารถก่อตัวขึ้นได้ตลอดเวลา
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งปี ตำแหน่งรัชทายาทยังไม่ได้รับการเปิดเผย ข้อพิพาทระหว่างขุนนางฝ่ายบุ๋นและขุนนางฝ่ายบู๊ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
แม้ว่าเย่เซียงจะรายล้อมไปด้วยข้าราชบริพารที่เคยใกล้ชิดกับเขาในอดีต แต่สถานการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นอกจากนี้เดิมทีเย่เซียงก็เป็เพียงบัณฑิตเท่านั้น การที่เขาจะได้รับการยอมรับจากเหล่าขุนนางฝ่ายบู๊ซึ่งเป็กลุ่มคนที่มีอำนาจในแคว้นอย่างแท้จริงจึงถือเป็เื่ยากมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวหมากที่ตระกูลอวิ๋นซุกซ่อนไว้หลายปีก็กำลังดาหน้าออกมาเพื่อแอบเติมเชื้อไฟให้ลุกโชนมากขึ้น พวกเขาล้วนเป็คนที่บุคคลในตำนานผู้นั้นฝึกฝนขึ้นด้วยตัวเอง ข่าวลือล่าสุดคือลูกหลานของตระกูลอวิ๋นยังมีชีวิตอยู่ และนี่คือสิ่งที่ตระกูลเย่หวาดกลัวมากที่สุด
สมาชิกของตระกูลอวิ๋น เบี้ยของตระกูลอวิ๋น ไพ่ลับของตระกูลอวิ๋น และทุกสิ่งในตระกูลอวิ๋นล้วนอยู่ในมือของคนคนนั้น
อย่างไรก็ตาม อวิ๋นเมิ่งในวันนี้เป็เพียงกองทรายที่ยึดเกาะกันอย่างหลวมๆ เท่านั้น หลังจากได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับราชสำนักเป็เวลาหลายปี เซียวเหยียนก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของอวิ๋นเมิ่งอย่างถ่องแท้
เซียวเหยียนกำลังขบคิดเกี่ยวกับคำพูดของชิงซี จากนั้นก็ถามว่า “ท่านประมุขหมายความว่าให้ข้าก่อาหรือ?”
ชิงซีกล่าวเบาๆ “เหตุใดเ้าถึงคิดเช่นนั้น? แม้ว่าข้าจะเป็คหบดี แต่ข้าก็ไม่อยากหาเงินจากภัยา”
เซียวเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ท่านพูดจริงหรือ? ในปีสุดท้ายของรัชศกเทียนโหย่ว ตระกูลมู่ทำเงินได้เท่าไหร่ในซินหลัว? ท่านประมุขย่อมรู้ดีกว่าข้า”
ชิงซีไม่ได้จริงจังกับคำพูดดังกล่าว นางกล่าวว่า “ตอนนี้ไม่ใช่รัชศกเทียนโหย่วแล้ว และการหาเงินในรัชศกเฉิงเต๋อก็ไม่ง่ายเลย”
เซียวเหยียนกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย “ท่านประมุขหมายความว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการทำา?”
ชิงซีพยักหน้า “อย่างน้อยตอนนี้แม่ทัพเจิ้นหนานก็ยังมีชีวิตอยู่ หากเ้า้าให้ซินหลัวชนะจริงๆ เ้าต้องใช้วิธีพิเศษ”
เซียวเหยียนเข้าใจความคิดของชิงซีแล้ว
แน่นอนว่าคหบดีนั้นน่ากลัวที่สุด
แค่ชั่วพริบตานางก็คิดหาวิธีได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น วิธีนี้ยังได้ผลดีกว่าการทำาเกือบสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว
นางมีทักษะในการเป็ผู้นำอย่างแท้จริง
เมื่อวางแผน จงเืเย็นและโเี้มากพอที่จะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็อันดับแรก
เมื่อวางแผน จงฉลาด ใจเย็น และมั่นใจว่าตนเองจะชนะ
แต่เหตุใดท่านลุงอวิ๋นเซียวถึงไม่คิดเช่นนั้นล่ะ?
เขามักทำให้ผู้คนััได้ถึงความอบอุ่น
ถ้าเป็ท่านลุงอวิ๋นเซียว เขาจะทำอย่างไรหากต้องวางแผนกลศึก?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้