“หัวโตล่ะ? เ้านั่นหนีไปไหนแล้ว...”
หลังขึ้นมาบนโพรงน้ำแข็งได้แล้ว เ่ิูจึงมองหาหัวโตไปทั่วแต่ก็ไม่พบ เขาเริ่มไม่สบายใจ
่หลังๆ เ้าโง่นี่ชอบก่อเื่ไปทั่ว มันคงไม่วิ่งไปหาโพรงน้ำแข็งัหิมะก่อนหน้านี้ แล้วลองกินัหิมะสักตัวจริงๆ หรอกใช่ไหม?
มันจะบ้าบิ่นจะหลุดโลกเกินไปแล้ว
ตอนที่เ่ิูคิดเช่นนั้นอยู่นั่นเอง เสียงโฮ่งๆ ก็ดังขึ้นมาจากสายฟ้าสีขาวที่ปรากฏจากส่วนลึกของโพรง มันวิ่งพล่านมาจนถึงตรงหน้าเด็กหนุ่ม
“กิน อร่อย มาเร็ว...เ้านาย ของอร่อย โฮ่ง เจอของอร่อยแล้ว...” หัวโตะโด้วยความดีใจ หน้าตาเหมือนจะเอาความดีความชอบ หางส่ายไปส่ายมาอย่างกับดาวตก
เพียงแค่เห็นเปลือกไข่สีขาวที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับตัวมันที่มันคาบมา ้ามีน้ำลายของมันติดอยู่ด้วย มันคาบมาวางไว้ตรงหน้าเ่ิูอย่างระมัดระวัง ดวงตาเต็มไปด้วยความประจบ มันะโโลดเต้นอยู่รอบขาเ่ิู ท่าทางดูดีใจกับเื่ดีๆ ที่ตนได้กระทำ
เปลือกไข่หรือ?
ในถ้ำัหิมะเช่นนี้ หรือมันจะคาบเอาไข่ของัมากันนะ?
นี่มัน...ไข่? ขะ...ขะ...ไข่ัหรือ?
เ่ิูผุดความคิดนี้ขึ้นมาฉับพลัน
จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าท่าจะไม่ดีเสียแล้ว
เ้านี่คงไม่ได้ขโมยไข่ัมาจากที่ไหนหรอกใช่ไหม?
เ่ิูหนังหัวแทบชา
นี่มันขุดหลุมฝังเ้านายตัวเองชัดๆ
ถ้าถูกัเจอเมื่อไร ทั้งคนทั้งสุนัขต้องหนีไม่พ้นคมเขี้ยวัหิมะที่กำลังโกรธเกรี้ยวเป็แน่
พอเห็นหัวโตทำท่าระริกระรี้ไม่รู้เป็รู้ตายอยู่ตรงหน้า เ่ิูก็คิดจะเตะมันให้กระเด็นสักทีแล้วทำท่าเหมือนไม่เคยรู้จักกัน
“อร่อย อันนี้ อร่อย เ้านาย...” หัวโตน้ำลายไหลไป ระริกระรี้และประจบไป
เ่ิูใกล้จะเป็ลมเต็มที
ไข่ัหิมะนะโว้ย
ไข่ที่จะมีลูกักะเทาะออกมาได้น่ะ
กินหรือ?
วิธีการคิดของเ้าสัตว์สุดโต่งนี่มันช่างพิลึกสิ้นดี
เ่ิูตาเป็ประกาย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงหยิบเอาไข่ัฟองนั้นขึ้นมาจนได้
รูปร่างไข่เป็ทรงรีสีขาวดูล้ำค่า น้ำหนักย่อมต้องมากกว่าที่ตาเห็นอยู่แล้ว ความเย็นเยือกแทรกเข้ามาในิั เป็มันวาวเล็กน้อย ราวกับกำลังหยิบเอาน้ำแข็งมากมายไว้ในมือ ความเย็นบาดลึกถึงกระดูกราวกับจะลุกลามไปตามแนวแขน ลำพังแค่พลังของเ่ิูในตอนนี้ยังต้องกระตุ้นกำลังภายในเพื่อยับยั้งการรุกรานของความเย็นอันน่ากลัวนี้ไว้ให้ได้
ทว่าวินาทีที่กระตุ้นกำลังภายในนี้เอง เ่ิูพลันเปลี่ยนสีหน้า
พลังภายในราวกับน้ำท่วมจากฝ่ามือ รั่วไหลเข้าเปลือกไข่ัหิมะนี้ไปอย่างไม่อาจควบคุมได้
ความรู้สึกเช่นนี้ เหมือนกับเปลือกไข่กำลังสูบเอาอาหารไปเองอย่างไรอย่างนั้น
ขณะเดียวกัน เ่ิูก็ััได้ถึงพลังชีวิตอ่อนๆ จากข้างในเปลือกไข่ั
พลังชีวิตชนิดนี้มีความสนิทสนมและพึ่งพาแซมมาจางๆ ด้วย
เ่ิูใ เขาหยุดกระตุ้นกำลังภายใน รีบเคลื่อนมือออกจากเปลือกไข่ัหิมะ
ทุกอย่างกลับสู่ปกติ
“เปลือกไข่นี่ประหลาดชะมัด มีพลังชีวิตแท้ๆ แต่ทำไมลูกัในนี้ถึงยังไม่กะเทาะเปลือกออกมาอีกนะ?”
สีหน้าและแววตาเ่ิูเต็มไปด้วยความพิศวง
หากในเปลือกไข่นี่จะมีลูกักะเทาะออกมาจริง เช่นนั้นก็คงเป็ลิขิต์ที่หาได้ยากแล้วกระมัง
ไม่ว่ากับจอมยุทธ์คนใดก็ตาม การได้ัหิมะมาเป็สัตว์า ย่อมจะเป็เื่อันล้ำค่าและหาได้ยากอย่างยิ่งยวด
พลังการต่อสู้ของัหิมะแข็งแกร่งแค่ไหนไม่ต้องพูดถึง สัตว์าใดๆ ก็ตามที่ใกล้เคียงกับสายพันธุ์ั ในสังคมมนุษย์ล้วนแสดงออกถึงความแกร่งกล้า ลึกลับ ศักดิ์สิทธิ์และสูงค่า
เขาผินหน้ามองเ้าหมาบื้อหัวโตที่ยืนระริกระรี้อยู่อีกทาง
หรือเ้านี่จะเป็ดาวนำโชคของข้า?
ช่วยข้าเอาไข่สัตว์าไร้ขีดจำกัดนี้มากระนั้นหรือ...
ฮ่าๆ ต้องเป็เพราะเ้านี่เห็นว่าตัวเองกากเดนไร้น้ำยาเป็แน่ ถึงได้ละอายแก่ใจนัก เมื่อพบความจริงแล้วถึงหาสัตว์าพลังแกร่งกล้ามาชดเชยตัวเองแทน?
เ่ิูแอบสุขใจ
แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเ้าหัวโตจะอ้าปากพูดมาอีกประโยค “กิน อร่อย...”
เ่ิูพลันมีแรงขับเคลื่อนให้อยากยกมือทั้งสองขึ้นมา
เอาเถอะ เ้าตะกละก็คือเ้าตะกละ ในสายตาเขา ประโยชน์เดียวของมันคือเื่กินเท่านั้น คงคิดเอาประโยชน์อะไรจากมันอีกไม่ได้แล้ว เห็นทีเขาไม่ควรคาดหวังอะไรกับมันให้มากนัก
เ่ิูอุ้มไข่ัไว้ในมือ เขาสำรวจอย่างละเอียด
ไข่ฟองนี้ใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย ผิวเนื้อโปร่งใสเป็ประกายราวกับอัญมณี ราวกับทรงรีที่สลักเสลาจากหยกงามชั้นเอก ส่งไอหมอกสีเงินกระจายออกมาน้อยๆ ประดุจว่าสามารถเห็นจุดที่ลึกที่สุดได้ในแวบเดียว แล้วก็เหมือนว่าสายตาจะมองผ่านเข้าไปได้ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือว่าตาฝาด เ่ิูถึงคิดว่ามีบางอย่างกำลังบินและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วอยู่ในเปลือกไข่ด้วย
“โฮ่งๆ ใช่แล้ว ข้านึกออกแล้ว เ้านาย เสียวจิ่วช่วยท่านไว้เมื่อวานด้วยล่ะ” หัวโตะโโลดเต้นพลางรายงานเ้านาย
“อ้อ...” เ่ิูตอบรับไปตามเื่ เขายังมองเปลือกไข่อยู่ แต่ก็นึกได้แล้วรีบหันหน้ามาจ้องเ้าตะกละนั้นทันที เขาถามอย่างประหลาดใจไม่น้อย “ช่วยข้า? เสียวจิ่ว? ใครกัน?”
“เสียวจิ่วคือตัวข้าไงล่ะ...” หมาบื้อตอบกระมิดกระเมี้ยน
“ตัวข้า? เ้าหมายถึงเ้า?” เ่ิูตะลึง
หมาบื้อพยักหน้าอย่างตื่นเต้น ผงกหัวถี่อย่างกับโขลกกระเทียม
เ่ิูชักสนใจขึ้นมา เขาเอ่ย “เ้าไม่ได้ชื่อหัวโตหรอกหรือ? ข้าตั้งชื่อให้เ้านานแล้วนะ ทำไมเปลี่ยนเป็เสียวจิ่วเสียเล่า? ไม่เพราะเลย หัวโตเพราะกว่าเยอะ เปลี่ยนกลับดีกว่า”
หัวโตนิ่งไป มันคิ้วตกแล้วทำตาลูกหมาใส่ ส่งเสียงฮึอย่างแสนงอน “โฮ่งๆ ไม่เอา หัวโตไม่เพราะเลย ข้าชื่อเสียวจิ่ว...เ้านาย จากวันนี้ไป โฮ่ง ชื่อเสียวจิ่ว!”
เ่ิูฟังแล้วก็พยักหน้า “เอาเถอะๆ ตามใจเ้า เสียวจิ่ว”
เสียวจิ่วระริกระรี้ขึ้นมาอีกหน “ขอบคุณเ้านาย โฮ่งๆ เมื่อวานข้าช่วย...”
“ใช่แล้ว เ้าเอาไข่นี่มาจากไหนหรือ?” เ่ิูตัดบทเสียวจิ่ว เขาชี้ไปยังเปลือกไข่ัหิมะ ก่อนถามอย่างจริงจัง “มีอีกหรือเปล่า?”
“ได้มาจากในถ้ำน้ำแข็งที่หนาวมาก...คือว่า โฮ่ง เ้านาย เมื่อวานข้าช่วย...” เสียวจิ่วเอ่ยอย่างตื่นเต้น
“อือ ข้ารู้แล้ว พาข้าไปที” เ่ิูตาเป็ประกาย ในสมองมีแต่เื่ของไข่ัหิมะ
“ขอรับ เ้านาย ข้าจะพาท่านไป” เสียวจิ่วส่ายหางด้วยอารมณ์ จากนั้นจึงหันหน้านำทางไปยังช่องทางสู่ด้านนอก มันเอ่ยไปพลางโลดเต้นไปพลาง “ข้าบังเอิญได้ไข่นกฟองนี้มาล่ะ...คือว่า เ้านาย ข้าจะบอกท่านว่า เมื่อวานข้าช่วย...”
“ไข่นก? คงไม่ใช่ว่าเ้ากินไปหลายฟองแล้วหรอกนะ?” เ่ิูตัดบทเสียวจิ่วอีกหน
เขาเกิดคิดขึ้นมาว่า ตัวเขาเอาเ้าตะกละนี่มาที่รังัหิมะแห่งนี้คือเื่ผิดพลาด แม้ว่าจะมีรังเก็บไข่ัหิมะอยู่จริง น่ากลัวว่าเ้าตะกละคงก่อหวอดไปไม่น้อยแล้ว จะเป็การวัวหายล้อมคอกเกินไป จะเหลือวัวให้ล้อมอยู่หรือเปล่า?
วินาทีที่เดินออกจากโพรงน้ำแข็งนั้น เ่ิูก้มหน้า หันหลังไปมองาาัหิมะร่างั์ตนเดิมที่นอนหลับฝันหวานอยู่
ถูกต้อง เขาควรรีบออกไปจากที่นี่
ไม่รู้ว่าัหิมะตนนี้จะตื่นขึ้นมาเมื่อใด กลับกันได้สูบเอาไอัหิมะจนพลังเพิ่มพูนเป็น้ำพุิญญายี่สิบตาแล้ว บัดนี้คงยกระดับไม่ได้ชั่วคราว อย่าเสี่ยงอันตรายเลยจะดีกว่า
“ไม่นะ ข้าไม่ได้กินนะท่าน” เสียวจิ่วนำทางพลาง กระดิกหางอย่างน่ารัก มันหันหลังมาตอบ “คือว่า เ้านาย เมื่อวานเสียวจิ่วช่วย...”
พูดไม่ทันขาดคำ
มันลื่นไถลหล่นลงไปตามแนวพื้นลาดเอียง
เ่ิูตามไปดู เห็นว่าเป็แนวลาดชันลึกหลายร้อยเมตร ทอดตัวยาวไปยังเบื้องล่าง พื้นน้ำแข็งเป็มันขลับ ราวกับถูกขัดมาอย่างดี ไม่มีแม้แต่กองฝุ่นสักกอง น่าจะกว้างราวๆ ร้อยเมตร มองผ่านตาเหมือนทางเดินทางหนึ่ง ผนังน้ำแข็งสองฟากมันวาวไม่แพ้กัน เสียวจิ่วนั่งอยู่บนเนินน้ำแข็ง มันเรียกเ้านายอย่างตื่นเต้น “อยู่ข้างล่าง มันอยู่ข้างล่าง”
เ่ิูกระตุ้นเกราะศึกอาชาขาวแล้วตามลงไป
กลิ่นอายเย็นเยือกน่าพิศวงเอ่อท้นจากเบื้องล่างของเนินสู่เบื้องบนทีละเล็กละน้อย
เ่ิูรู้สึกถึงความแปลกบางอย่าง
“ด้านล่างเป็ที่เก็บไข่ัหิมะหรือ? กลิ่นอายัหิมะบริสุทธิ์นัก”
เขาคิดได้ว่ากลิ่นอายที่ท่วมท้นขึ้นมานั้นบริสุทธิ์และสะอาดเสียยิ่งกว่าที่ออกมาจากลมหายใจของาาัหิมะซึ่งกำลังหลับใหลอยู่เสียอีก
เขาตามลงไป หลังผ่านเนินน้ำแข็ง ก็เป็พื้นที่ราบตอนหนึ่ง
เสียวจิ่ววิ่งเตลิดอยู่ด้านหน้า
เ่ิูตามไปด้านหลัง
อากาศมีกลิ่นอายบริสุทธิ์แรงขึ้นทุกที ยิ่งบริสุทธิ์เท่าไร ยิ่งแสดงว่าใกล้ถึงแหล่งกำเนิดกลิ่นอายหิมะน้ำแข็งนั่นแล้ว
นั่นทำให้เ่ิูแปลกใจขึ้นไปอีก
หลังร้อยเมตรผ่านไป เนินน้ำแข็งลาดชันขึ้นอีกระดับ คล้ายกับการตั้งฉากกับพื้นโลก ราวกับบ่อน้ำแข็งขนาดั์สักบ่อหนึ่ง
“เอ๋ นั่นมันอะไร?”
เ่ิูกระตุ้นปีกของชุดเกราะ บินลงสู่เบื้องล่างอย่างช้าๆ เขาเห็นในทันทีว่าบนผนังของบ่อน้ำแข็งนั้นมีร่องรอยเสียดสีประหลาดอยู่ เมื่อมองโดยละเอียด มันคือเกล็ดัหิมะที่ฝังอยู่บนผนังน้ำแข็งนั่นเอง แต่ละเกล็ดล้วนมีโล่ใหญ่น้อย มันวับวาวเปล่งประกาย ราวกับทำขึ้นมาจากฝีมืออันเลิศล้ำชนิดที่มนุษย์ไม่อาจทำได้ หลอมจากแร่ศักดิ์สิทธิ์ ประดับความกดดันของัหิมะอ่อนๆ ความกดดันชนิดนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าที่าาัหิมะมีเลย...
“เกล็ดัพวกนี้ ต้องหลุดออกมาจากร่างัหิมะสักเผ่าที่แข็งแกร่งมากเป็แน่”
เ่ิูคิดเช่นนั้น
ไม่รู้ว่ามุ่งสู่ด้านล่างไปกี่พันเมตร พลันก็ได้ยินเสียงเห่าโฮ่งๆ ของเ้าเสียวจิ่วดังมา
จากนั้นเ่ิูก็รู้สึกเหมือนตาพร่า
โลกใบน้อยใต้บาดาล แดนแห่งหิมะและน้ำแข็งอันกว้างใหญ่แห่งใหม่ ปรากฏขึ้นแก่ั์ตาเ่ิู
รอจนเขามองเห็นทุกสิ่งในโลกใบน้อยนี้ชัดแล้ว เ่ิูจึงนิ่งค้าง
“์เถอะ เป็ไปไม่ได้ นี่ข้าเห็นอะไร นี่มัน...ัหิมะที่ตายไปแล้วหรือ? ซากัั์?”
เ่ิูยืนแข็งเป็หินไปแล้ว
มองทางไหนก็มีแต่ซากั!
ซากัของจริง
เมื่อทอดตามองไปในโลกใบเล็กที่มีหิมะและน้ำแข็งกว้างใหญ่แห่งนี้ ซากัตัวแล้วตัวเล่ากองรวมกันเป็ูเาเลากา ทุกตัวล้วนมีขนาดใหญ่กว่าหมื่นเมตรขึ้นไป มหึมากว่าาาัหิมะก่อนหน้านี้หลายสิบเท่า ซากัเหล่านี้ก่ายเกยอยู่บนพื้นน้ำแข็ง ราวกับภูผากำลังตัดขวางคดเคี้ยว ตั้งตระหง่านอยู่ลูกแล้วลูกเล่า ร่างของัขนาดมโหฬารส่องแสงสุกสกาวออกมาอ่อนๆ อาบเคลือบทุกตารางนิ้วของที่แห่งนี้ สว่างหาใดเปรียบมิได้ หากไม่ใช่ว่าในที่แห่งนี้ไม่มีคลื่นพลังชีวิตอยู่เลย เ่ิูต้องคิดว่านี่คือแหล่งหลับใหลของัั์นับไม่ถ้วนแน่ๆ
ัั์ที่ตายไปแล้วเหล่านี้ ต่างมีอากัปกิริยาสงบเยือกเย็นทั้งสิ้น
กลิ่นอายใสสะอาดของหิมะและน้ำแข็ง ไม่อาจทำให้โลกใบเล็กแห่งนี้หมองมัวลงไปได้เลย กลับกันมันมีกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์อยู่โชติ่ ราวกับแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน
“หรือว่าที่นี่คือสุสานัในตำนาน?”
เ่ิูนึกขึ้นมาได้