เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของหลินฟูเหรินผู้เฒ่า กูเฟยเยี่ยนไม่เพียงแต่จะไม่เกรงกลัวแล้ว ลักษณะท่าทีก็ไม่พ่ายแพ้อีกด้วย
นางแสดงออกอย่างจริงจัง ถามอย่างตั้งใจ “หลินฟูเหรินผู้เฒ่าเ้าคะ ชีวิตของท่านแม่ทัพเฉิงแขวนอยู่เพียงปลายจมูก หม่อมฉันจะถามประโยคสุดท้าย ยาห่อนี้ท่านจะตรวจสอบหรือไม่?”
“เ้า เ้า…” หลินฟูเหรินผู้เฒ่าโกรธจนหน้าเขียว
แววตาอู๋กงกงทอแสงหน้าซื่อใจเหี้ยมกล่าวแนะนำ “ฟูเหรินขอรับ ในเมื่อห้องยาสำนักหมอหลวงมีกฎระเบียบ เช่นนั้นก็ปฏิบัติตามห้องยาสำนักหมอหลวงเถิดขอรับ ชีวิตของท่านแม่ทัพอยู่เพียงปลายจมูก พวกเราเสียเวลาไม่ได้!”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่ากระวนกระวายใจไม่สามารถทำอะไรได้นอกเสียจากฟังคำของอู๋กงกง จึงรับสั่งเรียกแพทย์ทหาร
อู๋กงกงกล่าวเตือนเสียงเย็น “นังหนู เ้าจงจำเอาไว้ให้ดี เวลาที่ล่าช้าล้วนเป็ความผิดของห้องยาสำนักหมอหลวงทั้งสิ้น!”
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้ตอบอู๋กงกงทว่าหลบหลีกสายตาที่มองมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
นางสะบัดมือขยับนิ้วทั้งสิบแล้วก็เริ่มตรวจสอบยา สิบนิ้วมือของนางล้วนขยับเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว มือซ้ายยกขึ้น มือขวายกลง คัดเลือก หยิบจับ วางลง โบกสะบัด การกระทำนั้นคล่องแคล่วปราดเปรียวลื่นไหลเป็ธรรมชาติ ชำนาญทว่าสง่างาม
ทุกคนมองมาอย่างตกตะลึงอีกครั้ง ความเร็วของมือเช่นนี้ไม่อาจเรียกว่าเร็วมากแต่เรียกได้ว่าเร็วดั่งเทพเ้า พวกเขายังไม่ทันที่จะได้ดูเพียงพอ กูเฟยเยี่ยนก็นำพืชสมุนไพรทั้งหมดแยกเป็ชนิดวางเอาไว้ ไม่ทำให้เวลาล่าช้าจริงๆ
ทุกคนยังคงคาดไม่ถึงแต่ดูเหมือนว่ากูเฟยเยี่ยนจะค้นพบอะไรบางอย่าง สายตาของนางปรากฏความซับซ้อนอย่างฉับพลันพร้อมเอื้อนเอ่ยเสียงเย็น “แพทย์ทหาร เลิกมึนงงเสียที มีพืชสมุนไพรทั้งหมดสามสิบสองชนิด ตรวจสอบโดยด่วน!”
ทุกคนเพิ่งจะได้สติกลับมา แพทย์ทหารไม่กล้าล่าช้ารีบไปตรวจสอบยา ไม่ช้าก็ให้ข้อสรุป
“ถูกต้อง ชนิดและปริมาณล้วนตรงกันกับใบสั่งยาทุกประการ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เดิมทีกูเฟยเยี่ยนควรที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าจิตใจของนางกลับเต้นแรงโครมคราม ทั้งร่างกายรู้สึกถึงความไม่สบายใจ!
เมื่อสักครู่ที่นางแยกยา นางพบว่ามีกลิ่นสมุนไพรตัวหนึ่งมีปัญหาใหญ่ ใบสั่งยาของซูไท่อีเป็นางที่นำมาส่ง ทว่านางกลับไม่แม้แต่จะมีเวลาตรวจสอบ สักครู่นี้นางพิจารณาใคร่ครวญว่ากลิ่นของตัวยาที่ไม่เข้าพวกตัวนี้คงต้องมีผู้ตั้งใจผสมเข้ามาด้วยกัน เพียงแต่คาดไม่ถึงว่ายาตัวนี้จะดันเขียนอยู่บนใบสั่งยาด้วย
ยาสมุนไพรชนิดนี้มีชื่อว่าเซี่ยซูจื่อซึ่งเป็สมุนไพรที่ล้ำค่าและมีชื่อเสียงเลื่องลือ ยาชนิดนี้นับว่าให้ผลดีต่อโรคกระเพาะจริงๆ ทว่ายานี้เมื่อนำไปใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น ไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพของยาจะลดลง แต่ยังสามารถทำลายบริเวณปอดได้อย่างร้ายแรงอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็ประสิทธิภาพของยาลดลง หรือจะเป็การทำลายปอดอย่างรุนแรงก็มิใช่สิ่งที่ร่างกายของท่านแม่ทัพเฉิงจะรองรับไหว
ในตอนนี้ยุ่งยากเสียแล้ว
แพทย์ทราบอาการป่วย แพทย์ยาถึงทราบสมุนไพร
ถ้าแพทย์เชี่ยวชาญทางด้านพยาธิวิทยา แพทย์ยาก็เชี่ยวชาญทางด้านเภสัชวิทยา
แพทย์พบปะผู้ป่วยโดยตรง มีการวินิจฉัยอาการและออกใบสั่งยา แพทย์ยามีหน้าที่ตรวจสอบใบสั่งยาเช่น ตรวจสอบชนิดของยาในใบสั่งยา ว่าเหมาะสมกับผู้ป่วยหรือไม่ ยาแต่ละตัวมีฤทธิ์ขัดแย้งกันหรือไม่ ทำร้ายกันหรือมีสถานการณ์ที่อันตรายหรือไม่ ฯลฯ
ดังนั้นห้องยาสำนักหมอหลวงแห่งอาณาจักรเทียนเหยียนไม่เพียงแต่ต้องรับผิดชอบคัดเลือกยา จัดหา ปรุงต้มเท่านั้น ภาระหน้าที่หลักคือการรับผิดชอบตรวจสอบใบสั่งยา ดูแลแนะนำการใช้ยา
ซูไท่อีและแพทย์ทหารไม่เชี่ยวชาญเภสัชวิทยา ตามหลักเหตุผลแล้วสามารถให้อภัยได้ ทว่าห้องยาสำนักหมอหลวงล่ะ? ใบสั่งยานี้ผ่านมืออาจารย์แพทย์สำนักหมอหลวงถึงสองคน ไม่ถึงขนาดมองไม่ออก! พวกเขาตั้งใจ!
คิดได้ดังนั้นกูเฟยเยี่ยนก็เข้าใจขึ้นมาทันที!
นี่เป็การใส่ร้าย!
ใบสั่งยาและห่อยาของจริงนั้นมีอยู่ และผ่านการตรวจสอบจากห้องยาสำนักหมอหลวง แต่เมื่อมาถึงมือของร่างเดิมนั้น ทั้งหมดล้วนกลายเป็ของปลอม ผู้ร้ายตัวจริง้าใส่ร้ายนาง โดยปลอมแปลงใบสั่งยา แล้วขโมยปรับเปลี่ยนพืชสมุนไพร!
จู่ๆ กูเฟยเยี่ยนก็นึกถึงนักฆ่าที่นางพบระหว่างทางขึ้นมาอย่างฉับพลัน ชายผู้นั้นมาปล้นสะดมยา ดูท่าว่าคงไม่รู้ว่ายาชุดนี้มีปัญหา หากเป็เช่นนี้แสดงว่าผู้ที่้าวางแผนประทุษร้ายท่านแม่ทัพเฉิงอย่างน้อยต้องมีสองกลุ่ม!
กูเฟยเยี่ยนมีความลังเลจึงไม่ได้พูดความจริงออกไป นางคิดว่าจากท่าทีของหลินฟูเหรินผู้เฒ่าท่านไม่มีทางเชื่อนางอย่างแน่นอน สำหรับขันทีผู้เฒ่าอู๋กงกงผู้นี้มีความเป็ไปได้สูงที่จะเป็ผู้สมรู้ร่วมคิดกับศัตรู!
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เฉิงอี้เฟยจักต้องมีชีวิตรอดต่อไป! ในเวลานี้ทำได้เพียงแค่ต้องทำให้ศัตรูหย่อนคลายความระมัดระวังจากนั้นคิดหาวิธีแอบๆ กำจัดเซี่ยซูจื่อ แล้วนำพืชสมุนไพรตัวเดิมใส่เข้ามา
ที่เหลือ ปล่อยให้ไปตายเสีย…