เพียงพริบตาราคาของเกราะทองคำกิเลนก็ถูกเสนอสูงถึง 3,000 หินหยวนระดับกลาง ซึ่งผู้ที่เสนอราคานี้คือผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งจากกองกำลังทรงอิทธิพลแห่งเมืองลอยฟ้า
เมื่อผู้คนได้ยินราคานี้ต่างก็เงียบงันและเริ่มมองหน้ากัน บางทีราคานี้อาจจะเกินขีดจำกัดของใครหลาย ๆ คน จึงไม่มีผู้ใดเสนอราคาต่อ
“3,200 หินหยวนระดับกลาง!”
แต่จู่ ๆ มีเสียงดังมาจากทางฝั่งที่นั่งของแขกผู้มีเกียรติ ทำผู้คนหันไปมองทันที ซึ่งผู้พูดคือองค์ชายเหลียงปู้ผั่วแห่งอาณาจักรเหลียง
หากผู้คนเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็การเสนอราคาครั้งแรกในบรรดาแขกผู้มีเกียรติ ดูเหมือนว่าการประมูลที่แท้จริงกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว
“3,400 หินหยวนระดับกลาง!” สิ้นเสียงเหลียงปู้ผั่ว จ้าวหยางก็โพล่งออกมาทันที
“3,600 หินหยวนระดับกลาง!” เว่ยเจิ้นเทียนเสนอราคาต่อ โดยเสนอราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม
“3,800 หินหยวนระดับกลาง!” เหลียงปู้ผั่วเสนอราคาต่อ เขาไม่คิดจะปล่อยเกราะทองคำกิเลนไปง่าย ๆ
“4,000 หินหยวนระดับกลาง!” จ้าวหยางก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
ผู้คนเห็นองค์ชายทั้งสามแย่งชิงเกราะทองคำกิเลนต่างก็เผยสีหน้าตื่นเต้น ราคา 4,000 หินหยวนระดับกลางเกินกำลังทรัพย์ของใครหลาย ๆ คน แต่สามคนนี้กลับเสนอราคาอย่างไม่ลังเล สมแล้วที่มีฐานะสูงส่ง
“4,500 หินหยวนระดับกลาง!”
เว่ยเจิ้นเทียนเหลือบมองไปที่เหลียงปู้ผั่วและจ้าวหยางด้วยสายตาหยิ่งผยอง ก่อนจะเสนอราคาโดยเพิ่มหินหยวนระดับกลางถึง 500 ก้อน นี่ทำให้ผู้คนตาเบิกกว้างด้วยความใ
“พี่เว่ยมุ่งมั่นยิ่งนัก แต่ข้าก็้าเกราะทองคำกิเลนชิ้นนี้เช่นกัน คงต้องแข่งกับพี่เว่ยเสียแล้ว!” เหลียงปู้ผั่วกล่าวพลางยิ้ม เขารู้ว่าตนมิอาจคว้าเกราะทองคำกิเลนนี้มาได้ง่าย ๆ จึงพูดต่อไปว่า “5,500 หินหยวนระดับกลาง!”
เมื่อผู้คนได้ยินเช่นนั้นต่างก็ใจเต้นโครมคราม เหลียงปู้ผั่วเพิ่มราคาในคราเดียวถึง 1,000 หินหยวนระดับกลาง เกรงว่ามีเพียงคนระดับเหลียงปู้ผั่วถึงจะทำเช่นนี้ได้
“7,000 หินหยวนระดับกลาง!”
ผู้คนยังไม่ทันหายจากอาการใ จู่ ๆ เสียงของจ้าวหยางก็ดังขึ้นมา ซึ่งเขาเสนอราคาสูงถึง 7,000 หินหยวนระดับกลาง
หวงเหยียนิมองดูทั้งสองคนแย่งชิงเกราะทองคำกิเลน โดยไม่คิดจะเข้าร่วมประมูลด้วย
7,000 หินหยวนระดับกลางนั้นเทียบเท่ากับ 700,000 หินหยวนระดับล่าง จำนวนนี้ต่อให้เป็สำนักใหญ่ ๆ ก็ถือว่าเป็จำนวนมหาศาล การที่จ้าวหยางเสนอราคานี้ออกมาอย่างไม่ลังเล เห็นชัดว่าจ้าวหยางมั่งคั่งมากเพียงใด
“10,000 หินหยวนระดับกลาง!”
ทว่ายังไม่ทันสิ้นเสียงของจ้าวหยางดี จู่ ๆ เสียงเว่ยเจิ้นเทียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“อะไรนะ?” ผู้คนได้ยินเช่นนั้นต่างก็ตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง และรู้สึกว่าหัวใจกำลังกระหน่ำเต้นระรัว
อาณาจักรเว่ยคืออาณาจักรศูนย์กลางของแดนชิงอวิ๋น เจริญรุ่งเรืองและทรงอิทธิพลอย่างมาก ซึ่งสามารถเห็นได้จากการกระทำของเว่ยเจิ้นเทียน
เหลียงปู้ผั่วและจ้าวหยางขมวดคิ้วและเผยสีหน้าดูไม่ได้ สำหรับพวกเขาแล้วหินหยวนระดับกลาง 10,000 ก้อนไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย ดังนั้นพวกเขาจำต้องเลือกอย่างระมัดระวัง
เมื่อนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เหลียงปู้ผั่วกัดฟันกรอด ก่อนจะะโเสนอราคาที่ 11,000 หินหยวนระดับกลาง ทำผู้คนในที่แห่งนั้นตาเบิกกว้าง ต่อจากนั้นจ้าวหยางเสนอราคาที่ 12,000 หินหยวนระดับกลาง ซึ่งพวกเขาทั้งสองทำการเพิ่มราคาขึ้นทีละ 1,000 หินหยวนระดับกลาง
“15,000 หินหยวนระดับกลาง!” ทว่าจ้าวหยางเพิ่งเสนอราคา เสียงของเว่ยเจิ้นเทียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง นี่ทำให้เหลียงปู้ผั่วและจ้าวหยางตกตะลึง จ้าวหยางถึงกับส่ายหัวและเตรียมถอนตัว ส่วนเหลียงปู้ผั่วเผยสีหน้าแน่วแน่ ก่อนจะเสนอราคา 17,000 หินหยวนระดับกลาง นี่คือการเสนอราคาครั้งสุดท้ายของเขา หากเว่ยเจิ้นเทียนเสนอราคาสูงกว่าเขา เขาก็จะถอนตัวเช่นกัน
“20,000 หินหยวนระดับกลาง!” เป็ไปตามคาด เหลียงปู้ผั่วเพิ่งเสนอราคา เว่ยเจิ้นเทียนก็เสนอราคาต่อในทันที
“เว่ยเจิ้นเทียนคือองค์ชายแห่งอาณาจักรเว่ย กำลังทรัพย์ย่อมมีมหาศาล สองหมื่นหินหยวนระดับกลาง เกรงว่าในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของแดนชิงอวิ๋นจะมีเพียงบุคคลระดับเว่ยเจิ้นเทียนที่สามารถนำหินหยวนจำนวนมากออกมาขนาดนี้ได้!” ผู้คนคิดในใจขณะมองเว่ยเจิ้นเทียนด้วยสายตาอิจฉา
“พี่เว่ยได้เกราะทองคำกิเลนไปตามคาด แต่ไม่นึกว่าจะซื้อมันมาในราคาสองหมื่นหินหยวนระดับกลาง ผู้แซ่เหลียงขอแสดงความยินดีด้วย”
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลียงปู้ผั่วกระตุกวูบ ก่อนจะกล่าวเช่นนั้นกับเว่ยเจิ้นเทียนพร้อมรอยยิ้ม
“ผู้แซ่เว่ยอยากได้สิ่งใดก็ย่อมต้องได้สิ่งนั้นมา!” เว่ยเจิ้นเทียนกล่าวด้วยท่าทีมั่นใจ แต่ฟังไปแล้วก็ดูหยิ่งผยอง เขาเป็ถึงองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรเว่ย ย่อมไม่มีผู้ใดกังขากับสิ่งที่เขาพูด ดังนั้นเกราะทองคำกิเลนจึงตกเป็ของเว่ยเจิ้นเทียน
“เว่ยเจิ้นเทียนผู้นี้มั่งคั่งเสียจริง ๆ แค่ชุดเกราะป้องกันหนึ่งชิ้น แต่กลับซื้อไปในราคาสองหมื่นหินหยวนระดับกลาง เห็นทีถ้าหญ้าหนวดัปรากฏออกมา ราคาที่จะประมูลคงสูงไม่ใช่น้อย ตาบ้า เ้ามั่นใจใช่ไหม?” กงซุนหลิงเอ๋อร์กล่าว นางตกตะลึงกับราคาของเกราะทองคำกิเลน จึงไม่เชื่อว่าเย่เฟิงจะมีกำลังทรัพย์มาประมูลหญ้าหนวดัได้
“วางใจเถอะ ข้ามีวิธีของข้า” เย่เฟิงส่งเสียงผ่านจิตไปหากงซุนหลิงเอ๋อร์ พร้อมรอยยิ้ม
จากนั้นมีของประมูลต่ออีกหลายชิ้น แม้เทียบกับเกราะทองคำกิเลนไม่ได้ แต่ในด้านคุณภาพกลับเหนือกว่าการประมูลในตอนเริ่มต้นมาก ส่งผลให้ราคาประมูลสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อของหลายชิ้นถูกประมูลไปเป็ที่เรียบร้อย จู่ ๆ ชายชราผู้ดำเนินการเดินขึ้นเวทีอีกครั้ง แต่ตอนที่ผู้คนเห็นของที่จะประมูล ดวงตาก็ลุกวาวขึ้นมาทันที
“จูกั่วหมื่นปี! ของล้ำค่าชิ้นที่สองปรากฏแล้ว ไม่รู้ว่าใครจะประมูลของชิ้นไปได้” ผู้คนต่างเผยสีหน้าตื่นเต้น
เมื่อจ้าวหยางเห็นจูกั่วหมื่นปีก็ตาทอเป็ประกาย ตอนนี้จ้าวหยางอยู่จุดสูงสุดของขั้นยุทธ์แท้ที่ 8 ทั้งยังเจอสภาวะคอขวด ดังนั้นจ้าวหยางจึงอยากได้จูกั่วหมื่นปีผลนี้มาช่วยทะลวงสภาวะคอขวดของตนเอง
ราคาเริ่มต้นของจูกั่วหมื่นปีอยู่ที่ 1,000 หินหยวนระดับกลาง ไม่นานการประมูลจูกั่วหมื่นปีก็เริ่มขึ้น ซึ่งจ้าวหยางเสนอราคาเป็คนแรก โดยเสนอราคาที่ 10,000 หินหยวนระดับกลาง ซึ่งเพิ่มราคาถึงสิบเท่าจากราคาเริ่มต้น ทำผู้คนยกมือขึ้นป้องปากด้วยความใ
“ฮ่า ๆ ๆ เห็นทีพี่จ้าวคงอยากได้จูกั่วหมื่นปีมาโดยเร็ว แต่ผู้แซ่เหลียงขอสู้กับท่านสักตั้ง!” เหลียงปู้ผั่วกล่าวพลางยิ้ม ก่อนจะพูดต่อไปว่า “12,000 หินหยวนระดับกลาง!”
เว่ยเจิ้นเทียนอยู่ขั้นยุทธ์แท้สูงสุด แม้ได้จูกั่วหมื่นปีผลนี้มา แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้เขาทะลวงขั้นยุทธ์เทวะได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าร่วมการประมูลจูกั่วหมื่นปีนี้
ส่วนหวงเหยียนิยังคงยิ้มแย้ม ราวกับเขาเป็เพียงผู้ชมการประมูลก็ไม่ปาน แต่ความเป็จริงหอการค้าเทียนจี๋ได้รับการสนับสนุนจากจวนเ้าเมืองลอยฟ้า อยู่ในการควบคุมของจวนเ้าเมือง เปรียบได้กับธุรกิจหนึ่งของจวนเ้าเมือง
ดังนั้นหวงเหยียนิก็คือนายน้อยแห่งหอการค้าเทียนจี๋ งานประมูลนี้ยังถูกสนับสนุนโดยจวนเ้าเมือง หวงเหยียนิอยากได้สิ่งใด ทางหอการค้าเทียนจี๋ก็จะทำทุกอย่างเพื่อหามาให้เขา ในบรรดาสี่อัจฉริยะบุรุษ หวงเหยียนิคือผู้มีกำลังทรัพย์ไม่ขาดมือ จึงย่อมไม่เข้าร่วมการประมูล และเขามาที่นี่ก็เพื่อดูแลงานประมูลเท่านั้น
ไม่นานศึกชิงจูกั่วหมื่นปีก็เหลือเพียงจ้าวหยางและเหลียงปู้ผั่ว แม้ราคาสูงกว่าเกราะทองคำกิเลน แต่เหลียงปู้ผั่วก็สนใจจูกั่วหมื่นปีอย่างมาก เขาและจ้าวหยางล้วนติดอยู่ที่คอขวดของขั้นยุทธ์แท้ที่ 8 โดยมิอาจทะลวงยังขั้นต่อไปได้ หากได้จูกั่วหมื่นปีมาช่วยก็จะทะลวงได้อย่างราบรื่น
“22,000 หินหยวนระดับกลาง!” เหลียงปู้ผั่วกัดฟันแน่น เพื่อให้ได้มาซึ่งจูกั่วหมื่นปี เขาเสนอราคาสูง ๆ อย่างไม่ลังเล
“25,000 หินหยวนระดับกลาง!” จ้าวหยางก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แต่หินหยวนจำนวนมากเพียงนี้ ต่อให้เขาเป็ถึงองค์ชายแห่งอาณาจักรจ้าวก็ไม่ใช่เื่ง่ายที่จะพูดออกมา
“ไอ้หนู ข้าว่าจูกั่วหมื่นปีผลนั้นดูใช้ได้เลย หากเ้าได้มันมาครอง อย่างน้อยมันจะช่วยเพิ่มพูนตบะของเ้าได้หนึ่งขั้น”
ขณะที่จ้าวหยางและเหลียงปู้ผั่วกำลังแย่งชิงจูกั่วหมื่นปี จู่ ๆ เสียงของราชันมารชื่อเทียนก็ดังขึ้นในหัวของเย่เฟิง
“ตาเฒ่า ท่านจะให้ข้าประมูลจูกั่วหมื่นปีนี่มาหรือ?” เย่เฟิงเอ่ยถาม เขาไม่คิดว่าราชันมารชื่อเทียนจะสังเกตการประมูลนี้มาตลอด
“หากมีโอกาสก็พยายามคว้ามาให้ได้ แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของเ้ายังคงเป็หญ้าหนวดั” ราชันมารชื่อเทียนกล่าว แต่ขณะเดียวกันเหลียงปู้ผั่วก็เสนอราคาสูงถึง 27,000 หินหยวนระดับกลาง
“30,000 หินหยวนระดับกลาง!” ดวงตาของจ้าวหยางฉายแววมุ่งมั่นที่จะได้จูกั่วหมื่นปีมา จึงเสนอราคาไปเช่นนั้น
เหลียงปู้ผั่วชะงักนิ่งไป ราคา 30,000 หินหยวนระดับกลางคือราคาสูงสุดที่เขาจะรับไหวได้
“30,000 หินหยวนระดับกลาง มีใครจะเสนอราคาอีกหรือไม่? หากไม่มี จูกั่วหมื่นปีผลนี้จะตกเป็ขององค์ชายจ้าวหยางทันที”
เมื่อชายชราผู้ดำเนินการเห็นว่าไม่มีผู้ใดเสนอราคาจึงกล่าวเช่นนั้น ราคา 30,000 หินหยวนระดับกลางเกินความคาดหมายของเขาไปมาก งานนี้หอการค้าเทียนจี๋ของพวกเขาร่ำรวยแล้ว
จ้าวหยางเผยสีหน้าได้ใจ ครั้งนี้แม้จะเสนอราคาไป 30,000 หินหยวนระดับกลาง แต่สุดท้ายแล้วจูกั่วหมื่นปีก็ตกเป็ของเขา ถือว่าตนเองสมปรารถนา
“35,000 หินหยวนระดับกลาง!”
แต่ในขณะที่ผู้คนคิดว่าจูกั่วหมื่นปีตกเป็ของจ้าวหยาง จู่ ๆ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากอัฒจันทร์ ทำให้ผู้คนตาเบิกกว้างด้วยความใ จากนั้นหันไปมองทางต้นเสียงอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งยกป้ายเสนอราคาในมือขึ้นช้า ๆ ซึ่งราคาที่เสนอคือ 35,000 หินหยวนระดับกลาง
“เป็เขา!”
หลาย ๆ คนจำผู้ประมูลได้ทันทีว่าเป็เย่เฟิง ซึ่งชายผู้นี้มีเื่ทะเลาะวิวาทกับผู้ฝึกยุทธ์อาณาจักรเว่ยก่อนที่งานประมูลจะเริ่ม แม้ชายผู้นี้จะดูธรรมดา แต่บัดนี้เขากลับเสนอราคาที่สูงกว่าจ้าวหยาง ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
