เวลาได้ล่วงเลยมาเจ็ดเดือน ปลายฟ้าคลอดลูกสาวแล้วและตั้งชื่อให้เธอว่า อโณชา ที่แปลว่า รุ่งอรุณ ทารกน้อยวัยสามเดือนกำลังนอนหลับอยู่ในเปลข้าง ๆ ส่วนปลายฟ้าอยู่ในชุดที่ดูสบาย ๆ แต่ยังคงมีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก
ชีวิตของปลายฟ้ากำลังดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แม้จะเต็มไปด้วยความเหนื่อย แต่การมีอโณชาทำให้เธอมีความสุข ความลับเื่ ความเป็ไปไม่ได้ของการตั้งครรภ์ ถูกซ่อนไว้อย่างแเี และลูกน้อยก็ดูเป็เด็กปกติ
ลดา ดูมีความสุขและกระตือรือร้นเป็พิเศษในค่ำคืนนี้ เธอจัดโต๊ะอาหารอย่างสวยงาม และมีไวน์แดงราคาแพงงางอยู่ ซึ่งปลายฟ้าปฏิเสธที่จะดื่ม
ลดา ยิ้มกว้าง "ปลายฟ้า... แม่มีเื่สำคัญมากจะบอกลูก"
ปลายฟ้า มองแม่ด้วยความสงสัย "เื่อะไรคะแม่ ดูแม่มีความสุขจัง"
"แม่กับคุณ ชานนท์ พ่อของอัญมณี เราตัดสินใจกันแล้ว... เราจะ แต่งงาน กัน"
คำประกาศนั้นทำให้ช้อนในมือของปลายฟ้าเกือบจะร่วงลงพื้น โลกของเธอหยุดหมุน ทันที เธอรู้ว่าคุณชานนท์คือนักธุรกิจใหญ่ที่รู้จักแม่ของเธอมานาน แต่เธอไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะพัฒนารวดเร็วขนาดนี้
ปลายฟ้า เสียงกระซิบด้วยความใ "แต่งงาน...? เร็วขนาดนี้เลยเหรอคะแม่?"
มันไม่ใช่แค่เื่การแต่งงาน แต่เป็เื่ของ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่จะนำพาเธอและ อโณชา ออกจากชีวิตที่โดดเดี่ยวของเธอ และเข้าไปสู่โครงสร้างครอบครัวใหม่ที่ซับซ้อนและเธอไม่้าอย่างที่สุด
ปลายฟ้า พยายามรวบรวมสติหลังจากได้รับข่าวใหญ่ เธอรู้ว่าเธอต้องแสดงความยินดีกับแม่ แต่ความกังวลเข้าครอบงำเร็วกว่า
ลดาเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการแต่งงานด้วยความตื่นเต้น โดยไม่ได้สังเกตว่าลูกสาวกำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดเพียงใด ความกังวล ของปลายฟ้าพุ่งเป้าไปที่ ครอบครัว ที่เธอจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ร่วมด้วย
"คุณชานนท์ใจดีมากนะลูก เขาบอกว่าเข้าใจเื่หนูที่มีอโณชาดีทุกอย่าง เขาไม่ได้รังเกียจเลย แล้วเขาก็มีลูกสาวคนเดียวเหมือนกัน ลูกสาวเขาเป็นักธุรกิจที่เก่งมากๆ เลยนะ แต่เขาไม่ค่อยอยู่บ้านหรอก..."
ลดาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและเปิดรูปถ่ายของลูกสาวคุณชานนท์ให้ปลายฟ้าดู แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องกระทบใบหน้าของปลายฟ้าที่กำลังซีดเผือดลงอย่างรวดเร็ว
ภาพในจอนั้นคือ ผู้หญิงคนนั้น—ผู้หญิงที่อยู่ในความทรงจำที่ลบเลือนของเธอ ผู้หญิงที่ทิ้งร่องรอยฟันไว้ที่ไหล่ ผู้หญิงที่มีดวงตาสีดำเข้มราวกับรัตติกาล และเป็ผู้หญิงที่ ให้กำเนิดอโณชา!
ชื่อของเธอปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของแม่ อัญมณี (Anyamanee)
ลดา ชี้ไปที่ภาพ "นี่ไง อัญมณี ลูกสาวของคุณชานนท์ สวยสง่ามากเลยใช่ไหม? เดี๋ยวลูกก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับเธอแล้วนะ"
ปลายฟ้า แทบจะสำลักอากาศเข้าไปในปอด ความตื่นตระหนก นั้นรุนแรงจนเธอพูดอะไรไม่ออก ทุกอย่างที่เธอพยายามซ่อนไว้กำลังจะถูกเปิดโปงเมื่อทั้งสามชีวิตต้องมาอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน!
ปลายฟ้า ใช้ความพยายามอย่างมหาศาลในการควบคุมสีหน้าไม่ให้เผยความแตกตื่นออกมา แม้ว่าภายในใจจะเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง คำว่า "อัญมณี" กลายเป็คำสาปที่ตามหลอกหลอนเธอมาตลอด และตอนนี้เธอกำลังจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเ้าของชื่อนั้น
เธอดื่มน้ำลงไปอึกใหญ่เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายที่กำลังร้อนวูบวาบ ความกลัว ผสมกับ ความโหยหา ที่ถูกกดทับไว้ได้กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง
"ลูกเงียบไปเลยนะปลายฟ้า? ตื่นเต้นเหรอ? คุณชานนท์บอกว่า บ้านของเขาใหญ่มาก และเป็บ้านที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวใหญ่ของเรา เขาอยากให้พวกเราย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันก่อนจะถึงวันแต่งงาน เพื่อจะได้ทำความคุ้นเคย"
ปลายฟ้า พยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุด "หนู...หนูไม่แน่ใจค่ะแม่... มัน... มันเร็วไปไหมคะ? หนูมีอโณชาด้วย..."
ลดา จับมือลูกสาวอย่างปลอบโยน "นั่นแหละที่แม่จะบอก! คุณชานนท์กับอัญมณีเองก็เป็ห่วงเื่นี้ เขาเสนอให้ห้องสวีทพิเศษ ที่แยกส่วนเป็พื้นที่ส่วนตัวสำหรับเราสามคน พ่อบ้านแม่บ้านที่นั่นก็เตรียมพร้อมช่วยเหลือเื่ลูกแล้ว"
ปลายฟ้าแทบจะหัวใจหยุดเต้นเมื่อได้ยินชื่อ อัญมณี เข้ามาเกี่ยวข้องในข้อเสนอ อัญมณีรู้เื่ลูกของเธอหรือไม่? หรือการจัดแจงนี้เป็เพียงความบังเอิญ? หรือนี่คือ กับดัก ที่เธอไม่มีทางหนีพ้น?
เธอไม่มีทางปฏิเสธได้ เพราะการย้ายบ้านครั้งนี้จะทำให้แม่ของเธอมีความสุข และเป็การแสดงความจริงใจต่อชีวิตสมรสใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ มันจะทำให้เธอเข้าใกล้ อัญมณี ซึ่งอาจเป็คนเดียวที่ให้คำตอบเื่ ลูก ของเธอได้
สองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้า พร้อมด้วย ลดา และ อโณชา ทารกวัยสามเดือนในตะกร้าคาร์ซีต ก็ย้ายเข้ามายังคฤหาสน์ของ ชานนท์ บ้านหลังนี้โอ่โถงและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เก่าแก่ ลึกลับ และดูเคร่งขรึมกว่าบ้านเดิมของเธอมาก
ขณะที่คนงานกำลังขนของ ปลายฟ้า อุ้ม อโณชา แนบอกอย่างระมัดระวัง เธอรู้สึกถึงความเย็นเยียบของอากาศภายในบ้านอย่างประหลาด แม้จะเป็่บ่ายก็ตาม เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูมีอายุ และภาพวาดโบราณบนผนังจ้องมองเธอราวกับกำลังตัดสิน
ความรู้สึกเหมือนถูก เฝ้ามอง ทำให้ปลายฟ้าต้องกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องโถงใหญ่ เธอรู้ว่า อัญมณี ลูกสาวเ้าของบ้านอาจจะอยู่ไม่ไกลจากนี้ ความกลัว ผสมกับ ความตื่นเต้น ที่จะเห็นหน้าคนที่เป็ 'พ่อ' ของลูกอย่างเป็ทางการ
แล้วเธอก็เห็น—ร่างสูงสง่าของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังลงมาจากบันไดวนไม้แกะสลักอย่างช้า ๆ ผมยาวสีดำขลับ ดวงตาสีรัตติกาลคู่เดิม และผิวที่ขาวผ่องราวกับหิมะ อัญมณี หยุดยืนอยู่ที่ขั้นบันไดสุดท้าย จ้องมองตรงมาที่ปลายฟ้าและทารกในอ้อมแขน
อัญมณียิ้มบาง ๆ ที่ริมฝีปาก ซึ่งดู เ็า แต่ดวงตาของเธอ...ดวงตานั้นจับจ้องอยู่ที่ อโณชา เพียงผู้เดียว แววตาที่จ้องมองทารกไม่ได้มีความรังเกียจ แต่เต็มไปด้วย ความแน่ใจ และ ความผูกพันที่ปิดซ่อนไว้ ราวกับเธอกำลังพูดว่า: "ฉันรู้ว่านี่คือลูกของเรา..."
อัญมณี ก้าวลงจากบันไดอย่างสง่างามราวกับไม่ได้ััพื้น เธอเดินตรงมาหา ปลายฟ้า อย่างช้า ๆ โดยที่ดวงตาไม่ละไปจาก อโณชา ที่กำลังหลับอยู่
ปลายฟ้าแทบหยุดหายใจ เธอพยายามแสดงสีหน้าที่เป็กลางที่สุด แต่เหงื่อเย็น ๆ เริ่มซึมออกมาที่ฝ่ามือ การเผชิญหน้าในครั้งนี้รุนแรงกว่าการเจอกันในฝันหลายเท่า เพราะตอนนี้เธอมี หลักฐาน ที่ปฏิเสธไม่ได้อยู่ในอ้อมแขน
อัญมณี หยุดยืนอยู่ตรงหน้าปลายฟ้าในระยะประชิด กลิ่นดอกราตรีป่าและหนังแท้หอมกรุ่นเข้าปะทะ "ยินดีต้อนรับสู่บ้านใหม่ของเราค่ะ คุณ... ปลายฟ้า ฉัน อัญมณี ลูกสาวของคุณชานนท์"
ปลายฟ้า พยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็ปกติ "ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณ... อัญมณี" เธอพยายามหลบสายตาที่ร้อนแรงนั้น
อัญมณีไม่ได้สนใจคำพูดทักทายตามมารยาท แต่ดวงตาของเธอลดต่ำลงไปยังทารกน้อย อโณชา ที่อยู่ในผ้าห่อตัว มือเรียวยาวซีดขาวของอัญมณีเอื้อมมาััผ้าห่อตัวอย่างแ่เบา โดยจงใจไม่ััตัวเด็กโดยตรง
อัญมณี น้ำเสียงนุ่มทุ้ม แต่รู้ดีว่าเด็กคือของเธอ "เด็กน่ารักมากค่ะ ดวงตา สวย... เหมือนใครคนหนึ่ง ที่ฉันเคยรู้จัก..."
ปลายฟ้า รู้ทันทีว่าประโยคนี้ไม่ได้หมายถึงการชมเชยทั่วไป แต่มันคือ การส่งสัญญาณ ว่าอัญมณีรู้ความจริงทั้งหมดแล้วว่า อโณชา คือลูกของใคร มันเป็การทักทายที่เต็มไปด้วยนัยยะที่ทำให้ปลายฟ้าหนาวสั่นไปถึงกระดูก
อัญมณี ถอนมือออกจากผ้าห่อตัวของทารก แต่ดวงตาของเธอยังคงตรึงอยู่ที่ปลายฟ้าและลูกน้อย แม้เพียงเสี้ยววินาทีของการััเมื่อครู่ก็ทำให้ปลายฟ้าััได้ถึง แรงดึงดูด อันรุนแรงที่ยังคงอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสาม
ปลายฟ้าควบคุมลมหายใจอย่างหนักหน่วง พยายามตีความหมายของประโยคที่ว่า "ดวงตา สวย... เหมือนใครคนหนึ่งที่ฉันเคยรู้จัก..." ซึ่งเป็คำพูดที่แฝงความประชดประชันและรู้ความจริงอย่างลึกซึ้ง
ปลายฟ้า ฝืนยิ้มตอบอย่างประหม่า "ขอบคุณค่ะ... แต่คงเป็เื่บังเอิญนะคะ"
อัญมณีไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดอีก แต่รอยยิ้มบาง ๆ ของเธอดูเหมือนจะขยายกว้างขึ้นเล็กน้อย ราวกับกำลังเพลิดเพลินกับการมองปลายฟ้าที่พยายามปกป้องความลับที่เปราะบาง
ลดาเดินเข้ามาพอดี พร้อมกับคุณชานนท์ ซึ่งทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดคลายลงชั่วขณะ อัญมณี ผายมือไปยังบันได ราวกับเปลี่ยนบทบาทเป็เ้าบ้านผู้มีมารยาทอีกครั้ง
"ห้องพักของคุณปลายฟ้าและอโณชาอยู่บนชั้นสองค่ะ เป็ห้องที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้เป็การส่วนตัวที่สุด เพื่อความสะดวกสบายในการดูแลเด็กเล็ก หากมีอะไรขาดเหลือ... โปรดแจ้งฉันได้โดยตรง นะคะ"
ปลายฟ้า รับรู้ว่าประโยคสุดท้ายนั้นไม่ใช่แค่คำกล่าวอำนวยความสะดวก แต่เป็การ เรียกร้องสิทธิ เหนือเธอและลูก ความลับ ที่ถูกฝังลึกได้สั่นคลอนอย่างรุนแรง การย้ายเข้ามาอยู่ใต้หลังคาเดียวกันนี้ คือการยอมรับว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับ คำสาป ที่เธอพยายามหนีมาตลอดสิบกว่าเดือน
