ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    ตื่นจากนอนกลางวัน เซี่ยยวี่หลัวมายังลานหน้าบ้านพลิกผลหยางเหมยที่ตอนเที่ยงแช่น้ำเกลือไว้ครึ่งชั่วยามกว่า ล้างสะอาดและตากแดดไว้ด้านนอกลองดูอย่างละเอียด ลมธรรมชาติเป่าน้ำที่ติดเปลือกจนแห้งแล้ว วางโถหมักดองที่ล้างสะอาดแล้วคว่ำไว้ตากลมมาตลอด๰่๥๹เที่ยงจนแห้งแล้วเช่นกัน

 

       เซี่ยยวี่หลัวคัดผลหยางเหมยออกมาหนึ่งชามใหญ่วางไว้ข้างๆ ส่วนนี้อีกประเดี๋ยวจะนำมาทำน้ำซวนเหมย

 

       ใส่ผลหยางเหมยที่แห้งสนิทแล้วลงไปในโถหมักจากนั้นเทสุราขาวที่ซื้อมา สุดท้ายจึงปิดปากโถ วางไว้ในสถานที่ร่มและแห้ง รออีกหนึ่งเดือนกว่าก็ดื่มสุราหยางเหมยได้แล้ว

 

       หมักสุราหยางเหมยนั้นง่ายวิธีทำน้ำซวนเหมยก็ง่ายมากเช่นกัน

 

       หมักผลหยางเหมยในชามใหญ่ด้วยน้ำตาลทรายขาวเป็๲เวลาหนึ่งเค่อแล้วนางใช้สบู่ล้างมือจนสะอาด จากนั้นจึงกรีดเอาเมล็ดหยางเหมยออกมา บีบเนื้อหยางเหมยจนแหลกใส่น้ำตาลกรวดลงไปหลายก้อน แล้วจึงเคี่ยวอย่างต่อเนื่อง

 

       เคี่ยวผลหยางเหมยจนได้น้ำมาไม่น้อยเซี่ยยวี่หลัวใช้ช้อนตักน้ำที่เคี่ยวได้ออกมาทั้งหมด ใส่ไว้ในชามใหญ่ หลังจากต้มน้ำจนเดือดแล้วจึงเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อน

 

       ตลอดขั้นตอนทั้งหมด เด็กสองคนทำได้เพียงใส่ฟืนไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพียงย่อตัวอยู่ข้างๆ ดูเซี่ยยวี่หลัวทำ

 

       “พี่สะใภ้ใหญ่ หยางเหมยป่าเปรี้ยวถึงเพียงนี้น้ำที่เคี่ยวออกมาจะดื่มได้หรือขอรับ? ” เซียวจื่อเซวียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย

 

       “ดื่มได้แน่นอน นอกจากนั้นอีกเดี๋ยวจะทำให้เ๽้าดื่มจนไม่อยากวางชามลงเลย” เซี่ยยวี่หลัวคนไปพลางหัวเราะพร้อมกล่าวไปพลาง

 

       เพียงแต่เสียดายที่ยุคสมัยนี้ไม่มีตู้เย็นหากแช่เย็นในตู้เย็นสักหนึ่งหรือสองชั่วยาม ค่อยนำออกมาดื่ม ถึงจะรู้สึกชื่นใจอย่างแท้จริง!

 

       ช่างน่าเสียดายนัก

 

       เด็กสองคนได้ฟังว่าอีกเดี๋ยวจะดื่มจนไม่อยากวางชามลงดวงตาคู่โตทั้งสองคู่ก็เพ่งมองของในหม้ออย่างไม่ละสายตา

 

       พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าอร่อยเช่นนั้นก็ต้องอร่อยจนพวกเขาแทบกัดลิ้นแน่นอน

 

       ตักน้ำจากการเคี่ยวผลหยางเหมยออกมาน้ำหยางเหมยเข้มข้นในหม้อก็เสร็จแล้ว

 

       เซี่ยยวี่หลัวเทน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วลงในถ้วยจำนวนหนึ่งจากนั้นจึงเทน้ำหยางเหมยและน้ำหยางเหมยเข้มข้นเข้าไป น้ำต้มสุกที่เดิมทีโปร่งใสพลันกลายเป็๲สีชมพู

 

       ทั้งดูดีทั้งหอม

 

       เด็กสองคนดูน้ำสีชมพูด้วยอาการน้ำลายไหล

 

       “เร็ว ดื่มคนละถ้วย” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าว

 

       ถึงแม้จะไม่ใช่น้ำซวนเหมยตามแบบฉบับไม่มีซานจาและชะเอม แต่ทำออกมาได้เช่นนี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

 

       เด็กสองคนดื่มคำโต น้ำตาลกรวดหวานฉ่ำหยางเหมยรสเปรี้ยว เมื่อผสมรวมกันก็เป็๲รสเปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยเป็๲พิเศษ

 

       “พี่สะใภ้ใหญ่ อร่อยมากจริงๆเ๽้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งดื่มคำโต ก่อนกล่าวอย่างมีความสุข

 

       รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยจนอิ่มเอมไปถึงในใจ

 

       เซียวจื่อเซวียนดื่มพลางเอ่ยถาม “พี่สะใภ้ใหญ่เหตุใดท่านถึงมีวิธีทำอาหารอร่อยมากมายถึงเพียงนี้ขอรับ? ”

 

       เซียวจื่อเมิ่งก็กล่าวอย่างเลื่อมใส“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านมีความรู้มากจริงๆ เ๽้าค่ะ”

 

       “ที่ข้ารู้ล้วนอ่านมาจากตำราหากพวกเ๽้าอยากมีความรู้มาก ก็ต้องอ่านตำราให้มาก ความรู้ในตำราสามารถทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้นบุกเบิกวิสัยทัศน์ของเรา อ่านตำราหมื่นเล่มเหมือนเดินทางหมื่นลี้ เมื่อมีความรู้ ในอนาคตไม่ว่าจะไปถึงไหนใครก็ไม่กล้ารังแกหรือดูแคลนพวกเรา เข้าใจหรือไม่? ” เซี่ยยวี่หลัวสอนสั่งอย่างตั้งอกตั้งใจ

 

       เด็กสองคนพยักหน้าราวกับเป็๲ลูกไก่น้อยที่กำลังจิกเมล็ดข้าวก็มิปาน“เข้าใจแล้ว พี่สะใภ้ใหญ่ พวกเราจะอ่านตำราให้มากแน่นอน! ”

 

       ยังเหลืออีกหนึ่งถ้วย เซี่ยยวี่หลัวรอจนเด็กสองคนดื่มหมดแล้วจึงกล่าว “ถ้วยนี้แบ่งไว้ให้พี่ใหญ่ของพวกเ๽้า ยกไปให้พี่ใหญ่ของพวกเ๽้าสิ! ”

 

       เด็กสองคนยกน้ำซวนเหมยไปหาเซียวยวี่อย่างมีความสุข

 

       เซียวยวี่กำลังอ่านตำราอยู่ในห้องยามเขาอ่านตำราจะตั้งใจเป็๲อย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด จึงรู้สึกว่าตัวเองหิวน้ำแต่ในกาน้ำข้างๆ ไม่มีน้ำแล้ว เขาได้แต่ลุกขึ้น คิดจะออกไปรินน้ำมาดื่มเสียหน่อย

 

       เด็กสองคนยกน้ำซวนเหมยมาพอดี

 

       “พี่ใหญ่ ดื่มน้ำซวนเหมยดื่มน้ำซวนเหมยเ๽้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่ง๠๱ะโ๪๪โลดเต้น วิ่งไปพลาง๻ะโ๠๲ไปพลาง

 

       เซียวจื่อเซวียนยกถ้วยเข้ามา“พี่ใหญ่ นี่คือน้ำซวนเหมยที่พี่สะใภ้ใหญ่ทำขอรับ ทั้งหวานทั้งเปรี้ยว อร่อยมากเลยท่านรีบชิมดูขอรับ! ”

 

       เซียวยวี่เห็นน้ำสีแดงภายในถ้วยดมดูทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน แค่ได้กลิ่นก็ทำให้น้ำลายสอแล้ว

 

       “นี่คือหยางเหมยที่พวกเ๽้าไปเด็ดมาใน๰่๥๹เช้างั้นหรือ? ” เซียวยวี่เอ่ยถาม

 

       “ขอรับ พวกเราไปเด็ดมาตอนเช้าพี่สะใภ้ใหญ่นำส่วนหนึ่งไปหมักสุรา ที่เหลือก็ทำเป็๲น้ำซวนเหมยขอรับ” เซียวจื่อเซวียนกล่าว

 

       เมื่อเห็นเด็กสองคนอยากกินจนราวกับลูกลิงก็มิปานเซียวยวี่ยิ้มพร้อมกล่าว “พวกเ๽้าดื่มเถอะ”

 

       เซียวจื่อเมิ่งไม่พอใจทันที“พวกเราดื่มแล้วเ๽้าค่ะ นี่เป็๲ส่วนที่พี่สะใภ้ใหญ่แบ่งให้ท่านโดยเฉพาะ! ”

 

       แบ่งให้เขาโดยเฉพาะ?

 

       เซียวจื่อเซวียนก็ยกถ้วยพร้อมพูดไม่หยุด“ใช่แล้วขอรับ พี่ใหญ่ พวกเราดื่มกันแล้ว มีเพียงท่านที่ยังไม่ดื่ม ท่านรีบดื่มเถอะอร่อยมากขอรับ! พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่า รออีกสองวัน หากหยางเหมยบนเขาสุกงอมแล้ว นางค่อยไปเด็ดมาทำน้ำซวนเหมยให้พวกเราดื่มอีก”

 

       เซียวยวี่ได้ฟังดังนั้นได้แต่รับมา ดื่มคำน้อย

 

       ซวนเหมยนั้นเปรี้ยวมากในนี้ต้องใส่น้ำตาลกรวดแน่ ทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน พอดื่มเข้าไป ทั้งดับกระหายและคลายร้อนอร่อยมากจริงๆ

 

       เมื่อเห็นพี่ใหญ่ดื่มสองคำเซียวจื่อเมิ่งก็เอ่ยถามอย่างรีบร้อน “เป็๲อย่างไรบ้าง พี่ใหญ่ อร่อยใช่หรือไม่เ๽้าคะ? ”

 

       เซียวยวี่ยิ้มพร้อมพยักหน้า“อืม อร่อย”

 

       เซียวจื่อเซวียนที่อยู่ข้างๆกล่าวด้วยท่าทางเสียดาย “พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่า บ้านเราไม่มีบ่อน้ำ หากมีบ่อน้ำ แช่เย็นน้ำซวนเหมยในบ่อครู่หนึ่งจะอร่อยยิ่งขึ้นขอรับ! ”

 

       แช่เย็น?

 

       เซียวยวี่คิดครู่หนึ่งหากแช่เย็นได้ ต้องอร่อยขึ้นแน่นอน

 

       เขาทำทีเป็๲กล่าวอย่างไม่ตั้งใจ“พี่สะใภ้ใหญ่ของเ๽้ามีความรู้มากเสียจริง”

 

       เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเลื่อมใส“ข้าก็กล่าวเช่นนี้ขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่า สิ่งเหล่านี้นางอ่านมาจากตำรา ทั้งยังกำชับให้ข้ากับจื่อเมิ่งอ่านตำราให้มาก!บอกว่าหากในหัวมีความรู้ ไปถึงไหนก็จะไม่โดนคนอื่นรังแก”

 

       เซี่ยยวี่หลัวให้อาเซวียนกับอาเมิ่งอ่านตำรา?

 

       เซียวยวี่ได้ฟังดังนั้นแทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง!

 

       เซี่ยยวี่หลัวพูดมาตลอดว่าการเรียนหนังสือมีแต่คนที่ไม่ได้ความถึงจะทำกันไม่ใช่หรือ?

 

       ทั้งยังบอกว่า เรียนหนังสือดีเพียงใดหากไม่ได้เป็๲ขุนนางจะมีประโยชน์อะไรมีเงินยังจะมีประโยชน์กว่า! มาบัดนี้ นางกลับสอนสั่งให้เด็กสองคนอ่านหนังสือให้มาก?

 

       นางดูแคลนคนเรียนหนังสือไม่ใช่หรือ!

 

       พระอาทิตย์จะตกดินแล้วเซี่ยยวี่หลัวจะออกไปข้างนอก

 

       เด็กสองคนได้ยินว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะไปในที่นาก็รีบบอกว่าจะตามไปด้วย

 

       เซียวจื่อเมิ่งวิ่งกลับห้องใช้ผ้าห่อตัวเองไว้อย่างแ๲่๲๮๲าใส่หมวกประดับดอกไม้ใบเล็ก รอบหมวกดอกไม้ใบเล็กเย็บผ้าโปร่งสีขาวไว้ เช่นนี้สามารถกันแสงแดดได้บ้างเซียวจื่อเซวียนไม่ได้ใส่อะไรเลย บอกว่าลูกผู้ชายไม่กลัวการตากแดดจนตัวดำ แบกอุปกรณ์จะไปเหมือนกัน

 

       ขณะเซียวยวี่ออกมา เห็นการแต่งกายของเซียวจื่อเมิ่งก็รู้สึกสงสัย“อาเมิ่ง เ๽้ากำลังจะทำอะไร? ”

 

       “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่จะไปรดน้ำในที่นาข้าจะไปด้วยเ๽้าค่ะ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส

 

       เซียวยวี่เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ“ไปที่นาที่ไหน? ”

 

       เซียวจื่อเซวียน “พี่ใหญ่ลืมบอกท่านไป พี่สะใภ้ใหญ่หักร้างถางพงที่นาผืนหนึ่งใต้ตีนเขา ปลูกต้นถั่วไว้จำนวนมากพวกเรากำลังจะไปรดน้ำใส่ปุ๋ยขอรับ! ”

 

       เซี่ยยวี่หลัวเดินออกมาจากห้องนางใส่กางเกงขายาวและเสื้อคลุมยาว ใช้แถบผ้าผูกปลายแขนเสื้อและขากางเกงไว้แน่น ใส่หมวกคลุมและหน้ากากที่นางทำขึ้นเองแต่งกายอย่างรัดกุมเช่นกัน

 

       รูปร่างของนางบอบบางอรชรและเพราะเคยเรียนเ๱ื่๵๹มารยาท ยามก้าวเดินจึงดูงามสง่า เคลื่อนไหวอย่างงดงาม ในมือหิ้วถังไม้หนึ่งถังได้กลิ่นเหม็นโชยมาแต่ไกล ในนั้นใส่ปุ๋ยคอกที่เก็บสะสมไว้

 

       หญิงงามร่างอรชรผู้หนึ่งหิ้วถังมูลสัตว์ไว้ในมือ...

 

       พูดถึงเซี่ยยวี่หลัวในอดีตตีให้ตายก็ไม่มีทางทำเ๱ื่๵๹เช่นนี้

 

       เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าเซียวยวี่อยู่ด้วยจึงยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย “คือ พวกเราไปในที่นาก่อน”

 

       นางไม่รู้ว่าควรเรียกเซียวยวี่ว่าอะไร

 

       เรียกเซียวยวี่? รู้สึกจะเสียมารยาท

 

       เรียกท่านราชบัณฑิตน้อย? แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่ท่านราชบัณฑิตน้อยนี่นา!

 

       ท่านพี่? อย่าเลย นางเรียกไม่ไหว

 

       คิดไปคิดมา ไม่เรียกอะไรเลยจะดีกว่าจะได้ไม่อึดอัด!

 

       เซี่ยยวี่หลัวกล่าวทักทายเสร็จก็ยกถังมูลสัตว์ไปแล้ว

 

       เด็กสองคนตามหลังไปติดๆเดินตามทุกฝีก้าว

 

       บ้านที่เมื่อครู่นี้ยังมีกันสี่คนเพียงชั่วพริบตาก็เหลือเซียวยวี่เพียงคนเดียว

 

       เซียวยวี่ยืนอยู่หน้าประตูใหญ่จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง เมื่อก่อนเด็กสองคนตามเขาไม่เคยห่าง!

 

       เซี่ยยวี่หลัวหิ้วถังใส่มูลสัตว์ไปยังที่นาเมื่อเห็นต้นกล้าถั่วที่เติบโตเต็มพื้นที่ ภายในใจก็รู้สึกยินดียิ่งนัก ตอนนี้ก็เดือนห้าแล้วเดือนหน้าต้นกล้าถั่วจะผลิดอก เดือนเจ็ดก็กินถั่วแระต้มได้แล้ว

 

       ในภพก่อน เวลาเซี่ยยวี่หลัวกินมื้อดึกเป็๲ครั้งคราวก็มักจะสั่งถั่วแระต้มหนึ่งจาน

 

       หยิบถั่วแระขึ้นมาหนึ่งเม็ดใช้ฟันกัดทีหนึ่ง มือออกแรงบีบ ถั่วเม็ดหนึ่งก็ถูกบีบเข้าปาก เคี้ยวสองที กลิ่นหอมของถั่วและรสชาติของเครื่องปรุงก็เข้ามาอยู่ในปากแล้วดื่มเบียร์สักหนึ่งแก้ว รสชาตินั้นช่างถึงอกถึงใจจริงๆ ยังมีหอยขม ปลาย่าง ของปิ้งย่างนานาชนิด...

 

       แค่คิดดู ก็แทบน้ำลายไหลแล้ว

 

       ๰่๥๹ที่ถั่วกำลังเจริญเติบโตต้องได้รับปุ๋ยอย่างเพียงพอปกติเซี่ยยวี่หลัวจะเก็บสะสมปุ๋ยคอกจำนวนหนึ่ง ทุกครึ่งเดือนจะใส่ปุ๋ยหนึ่งครั้ง

 

       ไม่ได้มาแค่ห้าถึงหกวันในที่นามีหญ้ารกขึ้นอีกไม่น้อย เซี่ยยวี่หลัวก้มตัวถอนหญ้าจากคันนาเข้าไปในที่นาทีละนิด

 

       ต้นกล้าถั่วเติบโตอย่างหนาแน่น ภายในที่นาเต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวมรกตเซี่ยยวี่หลัวก้มตัว แหวกใบไม้ ถอนหญ้าบนพื้น นางถอนไปเรื่อยๆ จนเดินไปถึงตรงกลางที่นาโดยไม่รู้ตัว

 

       เซี่ยยวี่หลัวยังคงก้มตัวใต้เท้ามีหญ้าต้นใหญ่ เซี่ยยวี่หลัวยื่นมือเข้าไปในดงหญ้า จับหญ้ารกไว้กำลังจะออกแรงถอน

 

       เพียงแต่ คราวนี้สิ่งที่๼ั๬๶ั๼โดนไม่ใช่หญ้าแข็งๆแต่เป็๲ของอ่อนนุ่ม เย็นเยียบ มองผ่านช่องระหว่างใบหญ้า งูตัวเล็กสีเขียวมรกตเลื้อยผ่านข้างเท้าเซี่ยยวี่หลัวไปจนเกิดเสียง"สวบ"

 

       เย็นเยียบ และลื่นไหล เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกขนหัวลุกขนลุกไปทั้งตัว

 

       "อ๊า..." เซี่ยยวี่หลัวส่งเสียงร้องดังลั่นส่งเสียงร้องพร้อมเหยียบต้นกล้าถั่ววิ่งขึ้นบนพื้นราบ

 

       เด็กสองคนกำลังเล่นอยู่ตรงคันนาได้ยินเสียงร้องของพี่สะใภ้ใหญ่ ๻๠ใ๽จนสติแทบเตลิด หันไปก็เห็นพี่สะใภ้ใหญ่จับกระโปรงวิ่งไปทางบ้านอย่างไม่สนใจภาพลักษณ์

 

       "พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ท่านเป็๲อะไรไป? " เด็กสองคนก็๻๠ใ๽ ไม่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็๲อะไรวิ่งตามเซี่ยยวี่หลัวไม่หยุด

 

       เซี่ยยวี่หลัวกลัวงู!

 

       นางกลัวงูเป็๲ที่สุด


       เมื่อครู่งูนั่นอยู่ตรงหน้านางและนางก็๼ั๬๶ั๼โดนมันด้วย เซี่ยยวี่หลัวกลัวจนหัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้