ใบหน้าของเจียงอี้เฉินเปลี่ยนเป็สีเขียวด้วยความโกรธ
ใบหน้าของฉินเซ่อบิดเบี้ยวเล็กน้อย
“เจียงอี้เฉิน?” เขาเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อและพูดพึมพำไปมา “หมดกัน หมดกัน...”
เขาเคยเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ และในฐานะคนสำนักงานเดียวกันกับฮั่วเฉิงโจวจึงจำได้ในแวบแรก
หรือเจียงอี้เฉินจะมาที่นี่เพื่อหาเบาะแส?
“เฉิงโจว นายต้องระวังตัวตอนไปพบเขานะ ฉันได้ยินมาว่านายน้อยตระกูลเจียงคนนั้นตอนเรียนที่นี่อารมณ์เขาไม่ค่อยดีสักเท่าไร การยุ่งกับภรรยาของคนอื่นนายผิดแล้ว ผิดแล้วล่ะ”
“ศาสตราจารย์ฉิน” ฮั่วเฉิงโจวขัดจังหวะเขา “ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่านายเป็ยายยายแม่แม่[1]แบบนี้?”
“สุนัขกัดหลี่ว์ต้งปิน[2]!” ฉินเซ่อตอบ
...
ฮั่วเฉิงโจวมาพบเจียงอี้เฉินที่ห้องรับแขก
สีหน้าของผู้มาเยือนดูหม่นหมอง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สบายใจและไม่ได้มาเพื่อจับผิด
ฮั่วเฉิงโจวนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามและทักทายเจียงอี้เฉินด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “คุณชายเจียง”
ความจริงเขาไม่ได้สนใจคนอย่างเจียงอี้เฉินเลยแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับการพบเขาแบบสบายๆ เช่นนี้ แต่ที่เขายอมมาเจอก็เป็เพราะเสิ่นอันอัน
เขาอยากรู้ว่าทำไมเจียงอี้เฉินถึงมาที่นี่? และเกี่ยวข้องกับผีเสื้อตัวน้อยหรือไม่?
“คุณชายฮั่ว” เจียงอี้เฉินตอบกลับอย่างสุภาพ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาต้องสุภาพไว้ก่อน “วันนี้ผมมาที่นี่เพื่อขอให้คุณช่วยอะไรหน่อย”
“โอ้?” ฮั่วเฉิงโจวเริ่มสนใจ “ลองเล่ามาก่อนสิครับว่าคุณชายเจียงอยากให้ผมช่วยอะไร?”
เจียงอี้เฉินยื่นกองหนังสือพิมพ์มาตรงหน้าเขา “ตัวเอกของเื่อื้อฉาวพวกนี้คือผม ดังนั้นป๋อถงมีเดียไม่มีทางทำข่าวแบบนี้ออกมาแน่ ส่วนสื่ออื่นก็ไม่น่ามีความกล้ามากพอ เหลือแค่จิ้งซ่างมีเดียที่อยู่ภายใต้ฮั่วกรุ๊ปเท่านั้นที่จะกล้าทำข่าวนี้”
ฮั่วเฉิงโจวหยิบขึ้นมาดู
“ใช่ครับ มันมาจากจิ้งซ่าง” เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาแล้วเปลี่ยนเื่ “แต่ผมยังไม่ได้ดูแลกิจการของครอบครัว ถ้าคุณชายเจียง้าความช่วยเหลือก็คาดว่าคงมาหาผิดคนแล้วครับ”
เมื่อถูกปฏิเสธ เจียงอี้เฉินก็แสดงกิริยาที่น่าเกลียดทันที
เขาเอาแต่ใจมาั้แ่เด็ก ทุกคนต้องเอาใจเขา ตามใจเขา และไม่มีใครกล้าปฏิเสธเขา
แต่ชายที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้คือว่าที่ผู้นำตระกูลฮั่ว สถานะของอีกฝ่ายสำคัญมากจนเขาไม่กล้ายั่วโมโห
“คุณชายฮั่ว แม้คุณจะยังไม่ได้รับตำแหน่ง แต่ก็มีสิทธิ์ในการออกเสียงอยู่นะครับ”
เขาระมัดระวังและสรรคำเป็อย่างดี เพราะกลัวจะพูดอะไรผิดไป
ฮั่วเฉิงโจวดันแว่นตาขึ้น ซ่อนอารมณ์ทั้งหมดไว้อย่างแ่า
“คุณมาที่นี่เพราะ้าให้ผมช่วยพูดกับจิ้งซ่าง ให้พวกเขาถอนข่าวเชิงลบทั้งหมดและห้ามเขียนเื่นี้อีกใช่ไหมครับ?”
เจียงอี้เฉินพยักหน้าเบาๆ “ใช่ครับ”
“ผมทำไม่ได้”
ฮั่วเฉิงโจวตอบกลับเพียงสี่คำอย่างมีความสุข เพราะเห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายแทบจะเปลี่ยนเป็สีเขียว
“บริษัทสื่อก็หากินกับเื่แบบนี้นี่แหละครับ ข่าวอื้อฉาวที่เขียนไปไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ แง่บวกหรือแง่ลบ ผมก็ต้องเคารพผลงานของพวกเขา” เขาพูดอย่างชอบธรรมและมั่นใจ
เจียงอี้เฉินยังไม่ยอมแพ้ “คุณชายฮั่ว...”
“อีกอย่าง เมื่อก่อนคุณชายเจียงก็ทำเื่แบบนี้ มากลัวอะไรเอาตอนนี้เหรอครับ?”
เจียงอี้เฉินโกรธจนเหงื่อแตก “เพราะเื่อื้อฉาวพวกนี้กระทบความสัมพันธ์ของผมกับภรรยา ผมไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดอีก”
.....................................................................................................................................................
ขโมยภรรยาอย่างเปิดเผย
ดูเป็การ “ไม่อยากให้เธอเข้าใจผิด” ที่ดีนะ?
เมื่อได้ยินดังนั้น ฮั่วเฉิงโจวก็แทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
เขาหมดความอดทนกับผู้ชายไร้เดียงสาคนนี้แล้ว ร่างสูงจึงดีดตัวลุกขึ้นยืน “ถ้าคุณชายเจียงมาหาผมเพราะเื่นี้ ผมคงช่วยคุณไม่ได้จริงๆ คุณควรไปหาหัวหน้าบรรณาธิการของจิ้งซ่างแทนนะครับ”
เขาพูดพลางยกข้อมือขึ้นดูเวลา “ผมยังมีคาบต้องสอนอยู่ ขอตัวก่อนนะครับ”
“คุณชายฮั่ว” เมื่อเห็นเขาลุกขึ้นและกำลังจะจากไป เจียงอี้เฉินก็เริ่มกระวนกระวาย “ถ้าคุณช่วยผมไม่ได้ ก็คิดว่านี่เป็ข้อแลกเปลี่ยนก็ได้ครับ”
“ข้อแลกเปลี่ยน?”
“ใช่ครับ ข้อแลกเปลี่ยน” เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ “ถ้าครั้งนี้คุณช่วยผม ครั้งหน้าผมจะช่วยคุณเื่หนึ่งเหมือนกัน ไม่สิ สองเื่ สามเื่ก็ได้”
ฮั่วเฉิงโจวเริ่มยกมุมปากขึ้นสูง
แม้เขาจะเลือกเส้นทางอาจารย์ แต่เขาก็มีความเป็นักธุรกิจฝังอยู่ในกระดูก
อย่าซื้อขายสิ่งใดที่ขาดทุน
เขากับเจียงอี้เฉินไม่ใช่ญาติ เพื่อน หรือสหาย ดังนั้นการเลือกจะไม่ช่วยก็ใช่จะไร้เหตุผล แต่ถ้าอีกฝ่ายมีข้อต่อรองที่ดี การเจรจาก็เป็สิ่งที่น่าสนใจ
“เื่จะช่วยผมน่ะไม่ต้องหรอกครับ” เขาหันกลับมา แต่ไม่ได้นั่งลง “แต่ผมอยากขออะไรสักอย่างจากคุณชายเจียงหน่อย”
“อะไรเหรอครับ?”
เจียงอี้เฉินคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเขาจะมีอะไรที่ว่าที่ผู้นำตระกูลฮั่วอยากได้
ฮั่วเฉิงโจวส่ายศีรษะและตอบอย่างสุภาพ “ผมยังไม่ได้คิดเลยครับ แต่คุณวางใจได้เลย ผมไม่ได้ขาดเงินและไม่ได้้าป๋อถงของคุณ ผมจะขอในสิ่งที่คุณคิดว่าไม่สำคัญครับ”
ไม่ใช่เงินกับป๋อถง? งั้นก็คุยง่ายแล้ว!
เจียงอี้เฉินตอบตกลงแทบไม่ต้องคิด “ถ้าอย่างนั้น คำไหนคำนั้น”
“คำไหนคำนั้น”
...
ผ่านไปสองวัน ข่าวลือเชิงลบเกี่ยวกับเจียงอี้เฉินถูกลบออกไปจนหมด แม้แต่การค้นหาในไป่ตู้[3]ก็ไม่มี อีกทั้งจิ้งซ่างยังแสดงท่าทีช่วยเขาทำความสะอาดเื่นี้ด้วย
ในเมื่อสื่อใหญ่ทั้งสองสำนักไม่ลงข่าว แน่นอนว่าสื่อเล็กๆ ก็ย่อมไม่กล้า
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทนายเหอได้ส่งร่างข้อตกลงการหย่าไปที่บริษัทของเสิ่นอันอันแล้ว
เธอทำสำเนาขึ้นมาหนึ่งฉบับและส่งไปให้เจียงอี้เฉิน
วินาทีที่เขาได้รับหนังสือหย่าก็รู้สึกสับสน เขาคิดไม่ถึงว่าเสิ่นอันอันจะแน่วแน่ขนาดนี้ เธอไม่ให้โอกาสเขาเลย
ในขณะที่กำลังอารมณ์เสียอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
หน้าของเขาตึงเครียด อยากจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาวางสาย แต่เมื่อเห็นว่าเป็สายจากฮั่วเฉิงโจว เขาจึงกดปุ่มรับสายและพยายามรักษาน้ำเสียงให้สงบ “คุณชายฮั่ว”
น้ำเสียงเกียจคร้านของชายคนนั้นดังมาจากโทรศัพท์ “ผมทำตามที่สัญญากับคุณชายเจียงแล้ว ถึงตาคุณชายเจียงทำตามสัญญาบ้างแล้วครับ”
เจียงอี้เฉินกำลังโกรธเื่ข้อตกลงการหย่านั่นอยู่ จึงไม่มีเวลามาสนใจเื่อื่น แต่ในขณะที่กำลังจะบอกปัด ฮั่วเฉิงโจวก็พูดขึ้นมาอย่างช้าๆ “คุณชายเจียงน่าจะเข้าใจดีนะครับ ถ้าผมสามารถทำให้เื่เงียบได้ หมายความว่าผมก็สามารถทำให้เื่ใหญ่กว่าเดิมได้เหมือนกัน”
น้ำเสียงขู่ชัดเจนเหลือเกิน...
เจียงอี้เฉินเปลี่ยนคำพูดทันที “คุณ้าอะไรพูดมาได้เลยครับ”
“ผม้าเสิ่นอันอัน”
เขาตรงไปตรงมาเสียจนเจียงอี้เฉินไม่ตอบสนองอะไรเป็เวลานาน
เจียงอี้เฉินกำโทรศัพท์แน่นโดยไม่รู้ตัว คิดว่าตัวเองคงได้ยินผิด “อะ...อะไรนะครับ?”
“คุณชายเจียงน่าจะได้ยินชัดเจนแล้วนะครับ ผมคงไม่ต้องพูดซ้ำอีก”
[1] อืดอาด ชักช้า หรืออาจหมายถึงใจเสาะก็ได้
[2] เป็สำนวนที่ใช้เพื่อต่อว่าคนที่ไม่รู้จักแบ่งแยกดีชั่ว ซึ่งหลี่ว์ต้งปินคือหนึ่งในแปดเซียนในตำนาน เมื่อสุนัขเห็นหลี่ว์ต้งปินทำความดีก็มากัด ปรากฏอยู่ในบทที่ 25 ของเื่ “ความฝันของคฤหาสน์สีแดง” โดยเฉาเสวี่ยฉินแห่งราชวงศ์ชิง ความว่า “ผู้ไม่มีมโนธรรม สุนัขกัดหลี่ว์ต้งปิน ไม่รู้จักใจคนดี”
[3] ไป่ตู้ (百度) คือ เซิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของประเทศจีน เป็เว็บไซต์ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดอันดับ 4 ของโลก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้