“เ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็ใคร หากเ้าฆ่าข้า จะทำให้ตระกูลเ้าต้องลงหลุมตามเ้า และคนใกล้ชิดของเ้าทุกคนก็จะต้องตายโดยไร้ที่ฝังตามเ้า”
ลั่วเฉินอวี่เสียงเข้ม เวลานี้ เขาไม่ใส่ใจการวางมาดอะไรแล้ว ไหนเลยยังมีท่าทางของผู้มีพร์อีก มาดถูกเขาโยนทิ้งออกนอกสมองไปแต่แรก ตอนนี้เขาแค่คิดจะมีชีวิตอยู่เท่านั้น
แต่เซียวเฉินกลับไม่หวั่นไหว
“ไม่ว่าเ้าจะเป็ใคร ข้อแรก เ้าเป็คนท้าสู้เป็ตายกับข้า ไม่ใช่ข้าบีบคั้นเ้า ข้อสอง ข้าไม่มีคนในครอบครัว ข้อนี้คงทำให้เ้าผิดหวัง ในเมื่อเ้าพ่ายแพ้ก็ต้องตาย เื่นี้ต่อให้ฮ่องเต้ของแคว้นชางหวงมาเองก็ไม่ได้ช่วยอะไร ดังนั้น วันนี้เ้าต้องตาย!”
น้ำเสียงของเซียวเฉินราบเรียบ แต่กลับเหิมเกริมและวางอำนาจอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้ฮ่องเต้อยู่ที่นี่ เขาก็ต้องสังหารลั่วเฉินอวี่
“เ้า...อ๊า...” ลั่วเฉินอวี่ชี้หน้าเซียวเฉิน แต่เซียวเฉินกลับหมดความอดทนแล้วออกแรงฉีกแขนข้างหนึ่งของลั่วเฉินอวี่ทันที โลหิตสดสาดกระจาย ลั่วเฉินอวี่ร้องโหยหวน ใบหน้าบิดเบี้ยว
ทุกคนมองอย่างอกสั่นขวัญแขวน
เซียวเฉินทำให้พวกเขาใมากเกินไปแล้ว
ลั่วเฉินอวี่มีพร์เพียงใด โดดเด่นเพียงใด แต่ถึงกับร้องขอความเมตตาตรงเท้าของเซียวเฉิน ภาพนี้พลิกโลกทัศน์ของทุกคน
น่าใมาก
เกรงว่ายามนี้เซียวเฉินสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับซูเฉินเทียนได้จริงๆ…
น่ากลัวเกินไปแล้ว
“ผู้แพ้ก็ต้องมีท่าทางของผู้แพ้”
เซียวเฉินมองสีหน้าของลั่วเฉินอวี่แล้วเอ่ยอย่างไร้ความรู้สึก ดวงตาฉายแววดูแคลน
“เ้าทำขายหน้าอันดับสองบนผังชางหวงหมดแล้ว ไม่มีความกล้าเลยสักนิด ถึงกับคิดจะขอความเมตตาจากคู่ต่อสู้ ถึงเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย คนอย่างเ้าก็ไม่คู่ควรจะมีชีวิตอยู่”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็ใช้กระบี่ฟัน โลหิตสดสาดกระจาย
ลั่วเฉินอวี่เบิกสองตากว้าง
ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและไม่ยินยอม
เซียวเฉินถึงกับกล้าสังหารตนเอง
“ข้าเป็ถึง...”
ลั่วเฉินอวี่ยังเอ่ยไม่จบก็จบชีวิตใต้คมกระบี่ของเซียวเฉิน
“ฆ่าเ้า ก็เปื้อนกระบี่ข้า”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็เช็ดเบิกฟ้าจนสะอาดแล้วะโลงจากเวทีประลอง
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์และจี๋เสวี่ยยังหวาดกลัวไม่หาย
“เซียวเฉิน เ้า...”
“ข้าไม่เป็ไร”
“าแของเ้า”
“หายแล้ว”
“แล้ว...”
“พวกเราไปกันเถอะ”
“อ้อ”
เมื่อเซียวเฉินเอ่ยจบ สตรีสองนางก็เดินตามหลังเซียวเฉินไปจากที่นี่ แต่ทุกคนยังไม่หายจากอาการตกตะลึง พวกเขาไม่มีทางลืมฉากนี้ได้เลย
ระดับของเซียวเฉินต่ำกว่าลั่วเฉินอวี่ แต่กลับสังหารลั่วเฉินอวี่ได้อย่างทรงพลัง
ฆ่าอย่างเฉียบขาด ไม่โลเล
ผู้มีพร์ของสำนักในทุกคนยอมสยบ
เซียวเฉินกลับถึงที่พักก็ถอดเสื้อผ้าออกโดยไม่หลบเลี่ยงสตรีสองนาง เขาสวมกางเกงขาสั้น อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงเดินออกมา
ทว่าเมื่อเห็นร่างของเซียวเฉิน แม้มีเื แต่กลับไม่มีาแ กระทั่งรอยแผลก็ไม่มี สตรีสองนางใสุดขีด
เห็นเซียวเฉินออกมา มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็ชี้เซียวเฉิน
“เซียวเฉิน ทำไมบนร่างของเ้าไม่มีาแ?”
“ข้าบอกว่าหายดีแล้วนี่?”
“แต่ก็เป็ไปไม่ได้ที่จะไม่มีรอยแผลเลยสักนิดนะ?” จี๋เสวี่ยส่งเสียงถาม นี่ไม่ถูกหลักวิทยาศาสตร์ น่าใเกินไปแล้ว ในตัวของเซียวเฉินมีความลับมากมายเพียงใดกันแน่!
เพิ่งเข้าสู่สถานศึกษาก็เอาชัยโจวเจ๋อผู้มีพร์ของสำนักนอก จากนั้นใช้ความสามารถขั้นแรกกำเนิดสังหารสัตว์ปิศาจระดับหกที่มีความสามารถเทียบได้กับขั้นตานฟ้า ใช้สภาวะแข็งแกร่งสังหารสองพี่น้องเฟิงอวิ๋นเสียงและเฟิงอวิ๋นเซียว เข้าสำนักในได้ไม่ถึงหนึ่งปีก็ขึ้นไปอยู่สิบอันดับแรกบนผังชางหวง ในระดับเดียวกันไร้คู่ต่อกร สังหารซือถูอู่ ต่อมาเอาชัยซูเฉินเทียนอันดับหนึ่งบนผังชางหวง แล้วก็อาศัยการต่อสู้สังหารลั่วเฉินอวี่อันดับสองบนผังชางหวง
แต่ละเื่ล้วนสั่นะเืสถานศึกษาได้
หากจะใช้สองคำมาบรรยายเซียวเฉิน เช่นนั้นก็มีเพียง ‘มารร้าย’ เท่านั้นที่สามารถใช้ได้
“นี่เป็ความลับ”
คัมภีร์หงสาานิรวาณเป็ความลับสุดยอดของเซียวเฉิน เขาบอกพวกนางไม่ได้ ได้แต่พูดให้ผ่านๆ ไป
“ชิ คนขี้งก” จี๋เสวี่ยเบ้ปาก
เซียวเฉินเพียงยิ้ม ไม่เอ่ยวาจา
เื่ราวที่เกี่ยวพันกับเคล็ดวิชาขั้นศักดิ์สิทธิ์นั้น ถึงแม้ว่าสตรีสองนางและเซียวเฉินใกล้ชิดกัน แต่เซียวเฉินก็ไม่มั่นใจและไม่เชื่อใจโดยสมบูรณ์ นี่คือการคงอยู่ของเคล็ดวิชาในตำนาน อย่าว่าแต่พวกนางเลย ถึงเป็ชายชราไม้ใกล้ฝั่งเ่าั้ก็อาจจะหวั่นไหวใจ ไม่มีใจคิดร้ายคน แต่มิอาจไม่มีใจระวังป้องกัน
นี่คือขีดจำกัดของเซียวเฉิน
เซียวเฉินไม่พูด สตรีสองนางย่อมไม่ซักไซ้ แต่ในเวลานี้เอง พลันมีศิษย์สำนักในคนหนึ่งเดินเข้ามา เขามองเซียวเฉินและเอ่ย “ศิษย์พี่เซียวเฉิน อาจารย์ใหญ่และผู้าุโให้ท่านไปที่ห้องโถงผู้าุโ”
พวกเซียวเฉินอึ้งงัน
ไม่มีเื่อะไรแล้วให้ไปห้องโถงผู้าุโทำไม?
“พวกอาจารย์ใหญ่บอกหรือไม่ว่าเื่อะไร?” เซียวเฉิน มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ และจี๋เสวี่ยถามพร้อมกัน
ศิษย์คนนั้นส่ายศีรษะ
“ไม่ได้บอก แค่ให้ข้ามาเรียกศิษย์พี่เซียวเฉินไป”
เซียวเฉินแววตาเปล่งประกาย เอ่ยว่า “รู้แล้ว เ้ากลับไปเถอะ ข้าจะตามไปทีหลัง”
ก่อนศิษย์คนนั้นจากไปได้บอกว่า “อาจารย์ใหญ่บอกว่าให้ศิษย์พี่เซียวเฉินไปคนเดียว ศิษย์พี่มู่หรงกับศิษย์พี่จี๋เสวี่ยไม่ต้องตามไปด้วย”
“อืม”
เซียวเฉินรับคำ ศิษย์คนนั้นจึงหันกายจากไป
“พวกเ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไปดูหน่อย” เซียวเฉินกำลังจะไป มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ส่งเสียง “ถ้าอย่างไรให้ข้าไปเป็เพื่อนเ้าเถอะ”
เซียวเฉินยิ้มกล่าว “ในเมื่ออาจารย์ใหญ่ไม่ให้พวกเ้าไปกับข้า ก็ต้องมีเหตุผลของเขา เ้าอยู่ที่นี่เถอะ ข้าไปคนเดียวได้”
ว่าแล้วเซียวเฉินก็หันกายจากไป
ณ ห้องโถงผู้าุโ คราวนี้อาจารย์ใหญ่และผู้าุโหกท่านเข้าร่วมโดยพร้อมเพรียงกัน อีกทั้งทุกคนยังมองเซียวเฉินด้วยสีหน้าหนักใจ
“เซียวเฉิน เ้าสังหารลั่วเฉินอวี่หรือ?”
อาจารย์ใหญ่จั๋นอวี่เอ่ยถาม เซียวเฉินพยักหน้า
“อืม เขาท้าสู้ข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังจะจัดการข้าให้ถึงตาย เขาลงนามสัญญาต่อสู้เป็ตายกับข้าและพ่ายแพ้ เขาจึงถูกข้าสังหาร”
คำพูดของเซียวเฉิน ทำเอาทุกคนในที่นั้นเงียบกริบ
เนิ่นนาน จั๋นอวี่จึงส่งเสียง
“เซียวเฉิน เ้ารู้หรือไม่ว่าลั่วเฉินอวี่เป็ใคร?”
เซียวเฉินกล่าว “ไม่รู้ แต่เขาจะฆ่าข้า ข้าจะไม่ทิ้งเขาไว้เป็เภทภัย”
ผู้าุโใหญ่ที่อยู่ด้านข้างจั๋นอวี่ถอนหายใจยาว
“เซียวเฉิน ลั่วเฉินอวี่เป็โอรสของฮ่องเต้แห่งแคว้นชางหวง”
ประโยคเดียวทำเอาเซียวเฉินอึ้งงัน
ลั่วเฉินอวี่เป็องค์ชายแห่งแคว้นชางหวง?
ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าตนฆ่าเขาไม่ได้ ไม่กลัวว่าจะเกี่ยวพันถึงคนในครอบครัวและสหาย ที่แท้เขาเป็โอรสของฮ่องเต้แห่งแคว้นชางหวง มิน่าเล่าจึงมั่นใจปานนี้
“อาจารย์ใหญ่อยากพูดอะไรก็พูดมาตรงๆ ไม่จำเป็ต้องอ้อมค้อม ในเมื่อเซียวเฉินกล้าทำก็กล้ารับ ถึงเวลาฮ่องเต้กล่าวโทษลงมา ข้าจะรับผิดชอบคนเดียว ไม่ให้เกี่ยวพันมาถึงสถานศึกษาชางหวง” เซียวเฉินเอ่ยเรียบๆ สีหน้าสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง
เขารู้ว่า หากฮ่องเต้กล่าวโทษลงมา ถึงเป็สถานศึกษาชางหวงก็รับไม่ไหว เซียวเฉินย่อมรู้ข้อนี้ดี ดังนั้น นับจากรู้ว่าลั่วเฉินอวี่เป็องค์ชาย เซียวเฉินก็ตัดสินใจแล้ว
“เซียวเฉินยินดีไปจากสถานศึกษาชางหวง”
เซียวเฉินเอ่ยช้าๆ
จั่นอวี่มองเซียวเฉิน กล่าวว่า “เ้ารู้หรือไม่ หากเ้าไปจากสถานศึกษาชางหวง เ้าต้องตายแน่นอน”
“หากข้าไม่ไปจากสถานศึกษาชางหวง หรือสถานศึกษาชางหวงจะเลือกต่อต้านฮ่องเต้เพราะข้าเพียงคนเดียว?” เซียวเฉินยิ้ม สิ่งใดสำคัญกว่า ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดู บุคคลระดับสูงของสถานศึกษาชางหวงล้วนรู้กระจ่าง ส่วนเขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้จักสถานการณ์
คำพูดของเซียวเฉินทำให้ทุกคนอยู่ในสภาวะเงียบงัน
เซียวเฉินก็ไม่พูดอะไร รอคำตอบจากพวกจั๋นอวี่
หลังจากจั๋นอวี่และหลายคนสบตากัน ก็มองเซียวเฉินโดยไม่พูดไม่จา
ผ่านไปเนิ่นนาน เขาจึงค่อยๆ เอ่ยปาก
“มอบเหตุผลที่ทำให้ข้าปกป้องเ้า”
เซียวเฉินถามกลับ “ไม่ทราบว่าอาจารย์ใหญ่้าเหตุผลใด”
“อีกหนึ่งปีให้หลัง ข้า้าให้เ้ามีความสามารถขั้นเสวียนฟ้าห้าชั้นฟ้า เป็ตัวแทนสถานศึกษาเข้าร่วมการประลองห้าสถานศึกษาที่ห้าปีมีหนึ่งครั้ง ่ชิงชื่อเสียงอันดับหนึ่งให้สถานศึกษาชางหวง”
เซียวเฉินเงียบงัน
ตอนนี้เขาอยู่ขั้นตานฟ้าเก้าชั้นฟ้าระดับต้น หนึ่งปีต่อมาย่างเข้าสู่ขั้นเสวียนฟ้านั่นเป็เื่ที่แน่นอน แต่เื่ย่างเข้าห้าชั้นฟ้าเขาไม่แน่ใจ
ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เขาย่างเข้าห้าชั้นฟ้าก็ไม่กล้าบอกว่าสามารถชิงตำแหน่งชนะเลิศในการประลองห้าสถานศึกษามาทำให้สถานศึกษาชางหวงครองอันดับหนึ่งได้
“ว่าอย่างไร?” จั๋นอวี่เอ่ย
แม้ผู้าุโคนอื่นๆ จะไม่ได้เอ่ยวาจามาโดยตลอด ทว่าพวกเขากลับมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะปกป้องหรือไม่ปกป้อง หากเซียวเฉินไร้ประโยชน์ต่อสถานศึกษาชางหวง แล้วเหตุใดสถานศึกษาชางหวงต้องเสี่ยงอันตรายคุ้มครองเซียวเฉินด้วย?
นี่คือการเดิมพัน
หากเซียวเฉินทำให้สถานศึกษาชางหวงได้อันดับหนึ่งจริงๆ ถ้าฮ่องเต้กล่าวโทษลงมา แม้สถานศึกษาชางหวงจะคุ้มครองเซียวเฉิน แต่จะสำเร็จหรือไม่ยังไม่อาจทราบได้ ถ้าไม่สำเร็จ สถานศึกษาส่งมอบเซียวเฉินออกมาก็ไม่เสียหายอะไร
ดังนั้น ถึงแม้เวลานี้ดูแล้ว สถานศึกษาชางหวงเสี่ยงอันตรายคุ้มครองเซียวเฉิน แต่ทางสถานศึกษายังเป็ฝ่ายครองเงื่อนไขที่ได้ประโยชน์มากกว่า ส่วนเซียวเฉินกลับเป็ฝ่ายถูกกระทำโดยสมบูรณ์ ไม่มีทางเลือก
เซียวเฉินยิ้ม
“ข้ายังมีทางเลือกอื่นหรือ?”
“สถานศึกษาจะพยายามช่วยเหลือเ้าอย่างสุดความสามารถ สถานศึกษาจะสนับสนุนเคล็ดวิชาและทรัพยากรในการฝึกวิชาให้เ้ามากที่สุด หวังว่าเ้าจะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง”
เซียวเฉินสูดลมหายใจลึกๆ แล้วจึงเอ่ยช้าๆ
“ข้าจะพยายามทำให้เต็มที่”