ในขณะที่สำนักดูดวงที่เปิดใหม่กำลังไปได้ดี ด้านจวนเสนาบดีเสี่ยวเถียนนั้น ก็กำลังมีงานมงคลเกิดขึ้น
เสี่ยวชิงที่อยู่ในชุดแต่งงานสีแดง ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉม กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยไปมาตามลม ขับให้ใบหน้างดงามทรงเสน่ห์ของนางดูเย้ายวนมากยิ่งขึ้น
เสี่ยวชิงยกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี วันที่นางรอคอยมาถึงแล้ว นับจากนี้ไปนางคือชายาเอกแห่งชินอ๋อง สตรีที่ผู้หญิงหลายคนต่างอิจฉานาง ท่านอ๋องเป็ถึงเทพาผู้สง่างาม มีสตรีมากมายใฝ่ฝันและหมายปองเขา แต่สุดท้ายเขาก็เลือกนางเป็ชายาเพียงผู้เดียว
"เกี้ยวเ้าสาวมาถึงแล้วเ้าค่ะ"
เสี่ยวชิงลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกจากเรือนไปด้วยท่วงท่าสง่างาม เบื้องหน้าของนางมีท่านย่า ท่านพ่อท่านแม่ พี่ชายที่ยิ้มด้วยความตื้นตันใจ ชินอ๋องหยางเทียนฉียื่นมือมากุมมือของเสี่ยวชิงเอาไว้ด้วยความรักใคร่
นางปรายตามองเสี่ยวหงที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก ก่อนจะยกยิ้มเย้ยหยันนาง ท่านอ๋องใส่ใจนางเช่นนี้คงบาดตาบาดใจเสี่ยวหงไม่น้อย เพียงคิดถึงภาพที่เสี่ยวหงคร่ำครวญปานจะขาดใจนางก็อารมณ์ดีขึ้นมา
เสี่ยวหงเบ้ปากอย่างดูแคลน ก็แค่ท่านอ๋องที่มักมากผู้หนึ่งเท่านั้น นางไม่ได้เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะวันนี้ท่านย่ามาขอร้องนางให้ออกมาร่วมพิธีส่งตัวเสี่ยวชิง นางเองก็ไม่อยากจะมาให้เสียเวลาหาเงินของนางเป็แน่
เกี้ยวเ้าสาวเคลื่อนตัวออกจากจวนอย่างยิ่งใหญ่อลังการ สินเดิมของเ้าสาวยาวจนสุดสายตา เบื้องหน้ามีชินอ๋องผู้สง่างามนั่งอยู่บนหลังม้าดูองอาจสง่างาม สายตาของเหล่าสตรีที่มองมามีทั้งความอิจฉาริษยาในตัวเสี่ยวชิงมากมายนับไม่ถ้วน
เกี้ยวค่อยๆ ช้าลงจนหยุดนิ่งอยู่กับที่ ชินอ๋องะโลงมาจากบนหลังม้าตัวนั้นด้วยท่วงท่าสง่างาม ยื่นมือมากุมมือของเสี่ยวชิงพานางดินออกมาจากเกี้ยว ก่อนจะเปิดผ้าคลุมหน้าเ้าสาวออก ทั้งสองเดินเคียงคู่กันเข้ามาภายในตำหนักด้วยสายตารักใคร่ปรองดอง
วันนี้ไทเฮากับฮองเฮาทรงมาเป็สักขีพยานในการแต่งงานครั้งนี้ของนางกับท่านอ๋อง นางยิ้มด้วยความเขินอายไม่น้อย ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่านางจะได้เป็เครือญาติกับราชวงศ์เช่นนี้
"ขอให้เ้าทั้งสองคนรักใคร่ปรองดองกัน มีหลานให้ข้าอุ้มไวไวเล่า"
เสี่ยวชิงก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ และยกชาถวายให้ไทเฮา
"ขอให้พวกเ้าทั้งสองมีความสุข รักใคร่เป็หนึ่งเดียวกันจนฟ้าดินสลาย"
"ขอบพระทัยพี่สะใภ้พ่ะย่ะค่ะ"
เหมยฮองเฮาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปสบตากับไทเฮา ไทเฮาพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับหยางเทียนฉี
"ตำหนักของเ้าจะขาดผู้สืบทอดไม่ได้ เสด็จพี่ของเ้าได้พระราชทานชายารองให้แก่เ้าสองคน อนุภรรยาอีกสองคน ไว้ช่วยเ้าดูแลเรือนหลัง"
"ขอบพระทัยในความเมตตาพ่ะย่ะค่ะ"
สตรีหน้าตาสะสวยงดงามทั้งสี่คน เดินเข้ามาทำความเคารพไทเฮากับฮองเฮา ก่อนจะหันมาทำความเคารพหยางเทียนฉีกับเสี่ยวชิงด้วยท่าทีเรียบร้อยสง่างาม หยางเทียนฉีพยักหน้าอย่างพึงพอใจ หนึ่งในชายารองที่เสด็จพี่ประทานให้ คือสตรีที่เขาพอใจ เขาเคยพบนางมาก่อนครั้งหนึ่ง นางเป็บุตรสาวของท่านเ้ากรมพิธีการนามว่า เฉียวฟางเฟย
รอยยิ้มของเสี่ยวชิงแข็งค้างบนใบหน้างดงามของนาง นางมองหน้าหยางเทียนฉีที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าอย่างพึงพอใจในสตรีเ่าั้ โดยไม่สนใจนางเลยแม้แต่น้อย
ไม่ใช่สิ!!! ไหนเขาบอกว่าจะรักแต่นางเพียงผู้เดียว
เสี่ยวชิงที่ทำสิ่งใดไม่ถูกทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนความอัปยศนี้กลืนลงคอไป
เหมยฮองเฮายกยิ้มมุมปากอย่างเ็า หลานสาวของเสี่ยวกุ้ยเฟยอภิเษกมาร่วมเป็เครือญาติทั้งที นางจะมอบของขวัญชิ้นเล็กๆ ได้อย่างไรเล่า!
ถูกแล้ว! สตรีเหล่านี้นางเป็คนพูดจาหว่านล้อมให้ฮ่องเต้กับไทเฮาทรงเห็นด้วย ส่วนหยางเทียนฉีหนุ่มเ้าสำราญผู้นี้ มีหรือที่เขาจะปฏิเสธ?
ในเมื่อเสี่ยวกุ้ยเฟยชอบออดอ้อนฝ่าา เอาอกเอาใจจนฝ่าาหลงใหล ทำให้นางกล้ำกลืนความอัปยศนี้มานาน ในเมื่อทำสิ่งใดเสี่ยวกุ้ยเฟยไม่ได้
เช่นนั้น? ก็เล่นงานคนรอบกายนางให้กลืนความอัปยศนี้แทนเสียหน่อยเป็ไร?
นางอยากจะลุกขึ้นและหัวเราะออกมาดังๆ เสียจริง ยิ่งได้เห็นใบหน้าซีดเผือดของเสี่ยวชิง นางยิ่งพึงพอใจยิ่งนัก!
เสี่ยวชิงที่เก็บกลืนความเจ็บช้ำเอาไว้ในใจ นางทำได้เพียงบีบมือตนเองจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือของนาง ฝ่ามือเรียวงามมีคราบเืเล็กน้อยไหลออกมา
"พระชายาเพคะ อย่าโมโหเลยนะเพคะ"
หลิงหลิงรีบเข้ามากุมมือของเสี่ยวชิงเอาไว้ ยามนี้นางเข้ามาในเรือนนอน ส่วนชินอ๋องนั้นกำลังดื่มสุรากับเหล่าแเื่ที่มาร่วมงาน
"ท่านอ๋องบอกว่าจะแต่งกับข้าเพียงผู้เดียว เหตุใดจึงมีสตรีอื่นโผล่หัวออกมามากมายเช่นนี้!!!"
"พระชายาใจเย็นๆ นะเพคะ ท่านอ๋องเป็เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง การแต่งชายารองหรืออนุถือเป็เื่ธรรมดาทั่วไปนัก อย่างไรเสียพวกนางก็ต้องก้มหัวให้พระชายาอยู่ดี หากพวกนางทำสิ่งใดให้พระชายาทรงไม่พอพระทัย จะลงโทษนางเพื่อระบายแค้นก็ได้นี่เพคะ"
เมื่อได้ฟังคำปลอบใจของหลิงหลิง เสี่ยวชิงก็มีแววตาเป็ประกาย ไฟร้อนภายในใจทุเลาลงไปหลายส่วน
หลังจากแเื่กลับไปหมดแล้ว หยางเทียนฉีที่ดื่มเหล้าจนเริ่มรู้สึกถึงความเมาเล็กน้อย ก็เดินเข้ามาในเรือนนอน เขาโบกมือไล่ข้ารับใช้ออกไปจนหมด ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาเสี่ยวชิง
เขาดึงร่างของนางเข้ามากอดเอาไว้ ก่อนจะยื่นมือไปจับปลายคางของนางขึ้นมา ใบหน้างดงามฉายแววตัดพ้อน้อยใจเขาอย่างเห็นได้ชัด
"อย่าได้น้อยใจไปเลย อย่างไรเสียชายาเอกของข้าก็ต้องเป็เ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น"
เสี่ยวชิงใบหน้าแดงระเรื่อ สร้างความเย้ายวนใจให้หยางเทียนฉีไม่น้อย
"ท่านอ๋อง ไปอาบน้ำก่อนเถิดเพคะ"
เสี่ยวชิงยื่นฝ่ามือน้อยๆ ไปดันแผงอกของหยางเทียนฉีเอาไว้ด้วยความเขินอาย
หยางเทียนฉีจับมือของนางออก ก่อนจะดึงตัวนางเข้าหาเขา พลางโน้มใบหน้าลงไปกลืนกินริมฝีปากชมพูระเรื่อนั้นอย่างเอาแต่ใจ
"อื้อ ท่านอ๋อง!!!"
เสี่ยวชิงที่ถูกหยางเทียนฉีจูบอย่างดุเดือดรุนแรงเริ่มรู้สึกถึงความเ็ปที่ริมฝีปาก และอากาศหายใจที่น้อยลง
นางผลักหยางเทียนฉีออกก่อนจะมองเขาด้วยแววตาที่ใไม่น้อย
"หม่อมฉันเจ็บนะเพคะ"
"เดี๋ยวเ้าก็จะชินไปเอง"
หยางเทียนฉีจ้องมองเสี่ยวชิงด้วยแววตาที่กระหาย เหมือนหมาป่าที่จ้องจะตะครุบเหยื่อ เสี่ยวชิงรู้สึกเสียวสันหลังเย็นวาบ
"หม่อมฉันอยากอาบน้ำเพคะ โอ๊ย!!! ท่านอ๋อง!!!"
เสี่ยวชิงที่กำลังหันหลังเดินไปที่อ่างน้ำ พลันก็รู้สึกเจ็บที่ด้านหลังศีรษะ ตัวของนางเซไปด้านหลังอย่างรุนแรง
หยางเทียนฉีกระชากผมของนางให้หันกลับมาก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้างดงามของนางอย่างสุดแรง
เสี่ยวชิงที่ล้มลงไปบนเตียงดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้ามีความใอย่างสุดขีด
"ท่านอ๋อง!!! พระองค์ทำไม?"
ยังไม่ทันที่นางจะได้พูดสิ่งใดต่อ หยางเทียนฉีก็พุ่งเข้ามาดึงทึ้งเสื้อผ้าของนางจนขาดเป็ชิ้นๆ เขากดแขนของนางทั้งสองข้างเอาไว้ ก่อนจะโน้มใบหน้าที่หล่อเหลาลงมาจูบเสี่ยวชิงอย่างดุเดือด
"เจ็บเพคะ!!! อ๊าาาาา!!!"
หยางเทียนฉีที่ยึดครองร่างบางระหงของเสี่ยวชิงอย่างเอาแต่ใจนั้น บัดนี้ใบหน้าของเขาเลื่อนต่ำลงมาที่ยอดอกงามของเสี่ยวชิง ก่อนจะกลืนกินเม็ดดอกบัวงดงามที่ชูช่อนั้น และกัดมันอย่างรุนแรง
"อ๊าาาาา!!!"
ยามนี้ในดวงตาของเสี่ยวชิงนั้นมองหยางเทียนฉีเหมือนกับปีศาจตนหนึ่งยิ่งนัก!
เหล่าสาวใช้และพ่อบ้านต่างรู้สึกขนลุกขนชันไม่น้อยเมื่อได้ยินเสียงร้องครวญครางด้วยความเ็ปของเสี่ยวชิง
ภายนอกท่านอ๋องดูเป็บุรุษที่สมบูรณ์พร้อม เป็ท่านอ๋องเ้าสำราญที่มีเมตตา แต่ด้านมืดในจิตใจของท่านอ๋องผู้นี้ กลับน่ากลัวจนเกินคาดเดา
พวกเขารู้ดีว่าแท้จริงท่านอ๋องเป็พวกนิยมชอบความรุนแรง สตรีหอโคมเขียวที่เคยผ่านเข้ามาในตำหนักอ๋องแห่งนี้ หากไม่ถูกหามออกมา ก็แทบจะสิ้นลมหายใจ
เื่นี้ฮ่องเต้ทรงทราบดี แต่เพราะรักน้องชายร่วมสายเืพระองค์นี้อย่างสุดซึ้ง และชินอ๋องก็มีความดีความชอบไม่น้อย ฮ่องเต้จึงเมินเฉยต่อเื่นี้ไปเสีย