“พวกคุณรอเดี๋ยวก่อน” ในขณะที่หวังเซิงกับกัวไฮว่เพิ่งจะเดินเข้าไปในสมาคมก็ถูกชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปีะโห้ามเอาไว้ “ไม่ทราบว่าพวกคุณนัดหมอคนไหนเอาไว้เหรอครับ”
“ประลองความรู้!” กัวไฮว่มองชายหนุ่มแวบหนึ่งเขาไม่ใช่คนธรรมดาๆ เติบโตมาในวงการยามาั้แ่ยังเล็กเส้นเืของเขาจึงกว้างกว่าคนปกติเยอะนัก
“นี่คุณ เื่บางเื่จะมาพูดมั่วซั่วไม่ได้นะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น เขามองกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้น
“เอาของนี่ไปให้ผู้บริหารพวกแกซะ ถ้าพวกแกรับคำท้า ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะของนี่ก็จะเป็ของสมาคมแพทย์แผนโบราณไป” กัวไฮว่ยื่นกล่องไม้จันทน์จากตัวไปให้ชายหนุ่มผู้นั้นอย่างไวราวกับร่ายมนตร์
“พูดอย่างกับเก่ง อยากเข้าประตูก็ข้ามศพฉันไปก่อนเถอะ” ชายหนุ่มไม่ได้สนใจกล่องไม้จันทน์ที่กัวไฮว่ส่งมาให้พร้อมกับทำท่าตั้งรับตั้งสู้
“จะเข้าสมาคมแพทย์แผนโบราณนี่ต้องทะเลาะกันด้วยเหรอ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ กับชายหนุ่มอายุแก่กว่าตนไม่กี่ปีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้
“พ่อหนุ่มไม่ต้องถือโทษไปหรอกนะ เื่นี้พวกเราผิดเองแต่ถ้าพ่อหนุ่มอยากเข้าสมาคมแพทย์แผนโบราณก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนโบราณสักหน่อย ถ้าพ่อหนุ่มท่องหนังสือแพทย์จีนออกมาได้ฉันจะให้เธอเข้า” กัวไฮว่เพิ่งพูดเสร็จชายชราผู้หนึ่งก็ค่อยๆ เดินมาข้างๆ กัวไฮว่พร้อมกับพูดยิ้มๆ
“ถ้าจะท่องตำราแพทย์จีนหมดเกรงว่าจะเสียเวลางั้นผมท่องอาการป่วยของผู้ชายคนนี้สักท่อนดีกว่า” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ยาบำรุงหัวใจประกอบไปด้วย เหรินเซิน ฝูหลิง เซวียนเซิน ตันเซิน เจี๋ยเกิงหย่วนจื้อ ตังกุย อู่เว่ย ม่ายเหมินตง เทียนเหมินตง ป๋อเจ่าเหริน เซวียนเจ่าเหรินเซิงตี้หวง ยาเสริมม้ามประกอบไปด้วย เหรินเซิน ไป๋จู๋ อย่างละสอง เฉินผีม่ายหยาอย่างละสอง ซานจา ครึ่งหนึ่งและจื๋อสือ สามในสองส่วนกลอนยาบำรุงใจเสริมม้ามกลอนตำรับยานี่สมาคมแพทย์จีนของคุณเล่าเรียนกันได้มาไม่แย่เลยนะแต่ใช้จริงแล้วไม่ค่อยได้ผล” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พ่อหนุ่ม เชิญ” ตอนที่กัวไฮว่ท่องตำรับยาบำรุงหัวใจเสร็จชายชราก็ถึงกับใอึ้งไป เขารู้อาการของเ้าเทียนผู้ที่เฝ้าประตูอยู่ด้วยกันนี่เป็อย่างดีเืลมพร่อง ม้ามกระเพาะไม่แข็งแรงไม่คิดเลยว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้มองแค่แวบเดียวก็ดูอาการของเ้าเทียนออก
“ปู่ซาง จะให้พวกเขาเข้าไปจริงๆ เหรอครับ” เ้าเทียนถามขึ้นเบาๆ
“กินยานี่ไปหน่อยสิ อาการเืลมพร่องของนายก็คงจะดีขึ้นส่วนถ้าอยากรักษาอาการป่วยอื่นๆ รอให้คลินิกไม่ของฉันเปิดแล้วค่อยมาหาฉันเถอะแต่ว่าถึงตอนนั้นนายจะได้คิวไหมนั้นก็ต้องดูโชคของนายแล้วแหละ” กัวไฮว่พูดพลางดีดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งไปจากนิ้วกระทบเข้าที่แขนของเ้าเทียน
“ฉันขอขอบคุณพ่อหนุ่มแทนเสี่ยวเทียนด้วยนะ เชิญด้านในเถอะ” ในขณะที่ยาลอยไป ยาลูกกลอนนั้นก็ส่งกลิ่นหอมของยาออกมาส่งผลให้เ้าซางมีความคิดมากมายอยู่ในใจเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะต้องเป็คนของตระกูลลับตระกูลใดตระกูลหนึ่งแน่
“ปู่ซาง งั้นผมกินดีไหมครับ” เ้าเทียนมองปู่สามของตระกูลตนพร้อมกับถามขึ้นเบาๆ
“แกนี่มันจริงๆ เลย ปู่อุตส่าห์ช่วยแกขอบคุณพ่อหนุ่มแล้ว ไม่กินก็โง่สิ” เ้าซางตะคอกเสียงดัง
“พ่อหนุ่ม รอหน่อยนะ ฉันจะไปเรียกหัวหน้ามา” เ้าซางพากัวไฮว่กับหวังเซิงไปรอยังห้องรับแขกก่อนจะรีบเดินออกไป
“เ้าสี่ แกแน่ใจนะว่าแกรู้เื่การแพทย์แผนโบราณน่ะไม่งั้นถ้าเข้าสมาคมแพทย์แผนโบราณไปแล้วถึงตอนนั้นถ้านายท่านบ้านฉันรู้ขึ้นมาจะหักขาฉันเอานะ” หวังเซิงพูดเบาๆ
“พี่สาม งั้นพี่ตามผมเข้ามาทำไมล่ะ” ขณะที่กัวไฮว่พูดอยู่นั้นเขาก็เห็นว่าบนโต๊ะมีพู่กันหมึกและกระดาษ จึงถือเอาเวลานี้มาวาดแปลนคลินิกออกมา
“เหอะๆ ขอฉันดูหน่อยว่าน้องสี่คนดีของฉันมีอะไรปิดบังพวกเราอีก” หวังเซิงพูดยิ้มๆ “ถ้าเ้าสี่ทำให้คนในสมาคมแพทย์แผนโบราณยอมรับในด้านการแพทย์จีนได้ละก็งั้นหลังจากนี้พวกพี่สามคนก็ไม่ต้องตามไปเช็ดก้นแกอีกแล้วแกอย่าไปหยิบของคนอื่นมั่วซั่วสิ เดี๋ยวจะยุ่งเอา” เมื่อหวังเซิงเห็นว่ากัวไฮว่ทำท่าเหมือนจะวาดอะไรบางอย่างก็พูดเตือนขึ้น
“แค่ใช้กระดาษพวกเขาสองสามแผ่นเองสมาคมแพทย์แผนโบราณคงไม่ได้งกขนาดนั้นมั้ง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“แน่นอนว่าไม่ ได้ยินน้องซางบอกว่ามีแขกผู้มีเกียรติมาเยี่ยม ฉันก็เลยมาดู” ชายชราผมขาวทั้งศีรษะเดินเข้ามาในห้อง ทว่ากัวไฮว่กลับงุดหน้าเขียนอะไรบางอย่างอยู่จึงไม่ได้แยแสถึงการมาของชายชรา
“หัวหน้าหลิน คุณน่าจะรู้จักผมนะครับ ปีก่อนผมเคยมากับคุณปู่คุณเคยดูอาการขาให้ปู่ผมด้วย” กัวไฮว่ไม่พูดจาก็ย่อมได้ทว่าหวังเซิงกลับไม่กล้า หลินฉางเทียน หัวหน้าสมาคมแพทย์จีน เมื่อปู่ของตนมาหาหมอเขาเป็ต้องมาต้อนรับทุกที
“เธอคงจะเป็หลานของนายพลหวังหงจวินสินะหลายวันก่อนนายพลท่านยังโทรมาหาฉันอยู่เลย บอกว่าจะมา่นี้ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาท้าประลองถึงที่นี่” หลินฉางเทียนพูดยิ้มๆ
“หัวหน้าหลินตลกแล้วครับ น้องชายผมอยากเปิดคลินิกเลยอยากมาที่นี่ให้ท่านช่วยหน่อยน่ะครับ” หวังเซิงพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เื่นี้ปู่เธอไม่รู้เื่สินะ แพทย์เนี่ย ถ้าไม่ได้ร่ำเรียนมาจริงๆก็จะได้เงินแต่พรากชีวิตนะ ถ้าฉันใช้เส้นสายให้เขา เช่นนั้นก็ถือเป็การช่วยโจรพ่อหนุ่มหวัง เธอเคยคิดเื่นี้บ้างหรือเปล่า” หลินฉางเทียนพูดยิ้มๆ
“ไม่งั้นคุณปู่หลินก็ใช้เส้นสาย ให้น้องผมได้เปิดโลกที่นี่หน่อยสิครับถ้าเข้าตาปู่แล้ว นั่นก็ยิ่งดีใหญ่เลย” หวังเซิงเปลี่ยนคำเรียกเป็คุณปู่หลินเขาจะมาผิดใจกับชายชราที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ได้
“พี่สาม ผมวาดแปลนเสร็จแล้ว พี่เอาแปลนนี่ไปให้พี่สองนะพี่ไม่ต้องมายุ่งเื่สมาคมแพทย์แผนโบราณแล้วล่ะในเมื่อหัวหน้าสมาคมมาแล้วงั้นก็มาเข้าเื่กันเลยดีกว่า” กัวไฮว่แขวนพู่กันไว้ จากนั้นก็เงยหน้ามองหลินฉางเทียนก่อนจะพูดยิ้มๆ
“น้องสี่ แกอย่ามาตลกได้ไหม แกใช้พู่กันวาดแปลน แกล้อเล่นกันอยู่หรือเปล่า” หวังเซิงไม่ได้ยื่นมือไปรับกระดาษแปลนแต่เป็หลินฉางเทียนที่เอากระดาษมาไว้ในมือ
“วาดสวย เขียนสวย” หลินฉางเทียนพูดเสียงดัง “พ่อหนุ่มจากความสามารถในการเขียนฉันว่าเธอเป็สมาชิกสมาคมแพทย์แผนโบราณได้แล้วล่ะ เราหาเวลามาคุยกันหน่อยเถอะแต่ไม่ใช่คุยเื่ที่เป็จริงเป็จังนะ”
“ก็แค่แปลนบ้านน่ะครับ ให้พี่เซิงผมไปเถอะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “ผมอยากเปิดคลินิก พี่เซิงบอกไว้ว่าถ้าสมาคมแพทย์แผนโบราณยอมรับผมก็จะวุ่นวายน้อยลง คุณปู่ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่าทำยังไงดี อย่ามัวเสียเวลาพวกเราอยู่เลย”
“เธอเป็หมอจริงๆ เหรอ รู้เื่การแพทย์จริงๆ เหรอ” หลินฉางเทียนพินิจดูเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้เด็กนี่น่าจะเป็อย่างที่เ้าซางบอกไว้จริงเสียด้วยว่าเขาเป็ศิษย์ของตระกูลลับ
“ไม่งั้นเอาอย่างนี้ไหม ในเมื่อเป็การทดสอบยาจีนงั้นเราก็มาทดสอบหลักการยากันหน่อย คุณทำพิษส่วนผมแก้พิษ ง่ายจะตายคุณคิดว่าแบบนี้ดีไหมครับ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ถ้าพ่อหนุ่มอยากประลองจริงๆ งั้นเธอรออยู่นี่ก่อนฉันจะไปเรียกคนมาประลองกับเธอ ขอแค่เธอชนะแค่ตาเดียวก็ไม่ต้องจัดการอะไร เดี๋ยวสมาคมแพทย์จีนจะช่วยเธอจัดการทุกอย่างเอง”
“น้องซาง ไปเรียกกรรมการสี่ท่านมา บอกพวกเขาไปนะว่ามีคนมาท้าสมาคมให้พวกเขารีบมาด่วนเลย” หลินฉางเทียนพูดขึ้นเสียงดังกับคนทางด้านนอก
“ให้ตาย เอาจริงซะด้วย”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้