เสียงนกหวีดไม้อยู่ไม่ไกล แต่เป็เสียงที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้จิ่วฟางเทียนฉีไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากทิศทางใด
เขาหันไปจ้องิจิ่วเอ๋อร์ก่อนจะพูดว่า “ที่แท้เ้าก็ไม่ได้อยู่คนเดียว!”
ิจิ่วเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ “ทำไม เ้ากลัวหรือ”
จิ่วฟางเทียนฉีไม่สนใจนาง มุ่งความสนใจไปยังแวดล้อมรอบกาย ไม่นานทุกทิศรอบป่าก็เกิดเสียงดังกรอบแกรบ
“งูหรือ ฮึ!” จิ่วฟางเทียนฉียิ้มเยาะ ตัวเขามีเกราะป้องกันจากปานดอกกล้วยไม้ แม้ว่างูเหล่านี้จะมีพิษรุนแรง แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบกับเขา
เขาเย้ยิจิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ข้างหลัง “ผู้ที่สมรู้ร่วมคิดกับเ้าช่างโง่เขลาสิ้นดี!”
ิจิ่วเอ๋อร์ไม่ได้โต้กลับ หน้าตายังคงจริงจังและหนักแน่น อันที่จริงทั้งตัวนางและิหนูต่างก็รู้จักจิ่วฟางเทียนฉีเป็อย่างดี จิ่วฟางเทียนฉีมีลักษณะพิเศษจากปานดอกกล้วยไม้ เป็ไปไม่ได้ที่ิหนูจะไม่รู้เื่นี้ ทว่าเ้านั่นกลับเรียกงูพิษออกมาจัดการชายหนุ่ม แบบนี้เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ
หัวใจของิจิ่วเอ๋อร์เต้นรัว ความคิดอันน่ากลัวพลันปรากฏขึ้น
“ิหนู เ้ามันสมควรตาย!”
ิจิ่วเอ๋อร์กัดฟันและะโไปทางป่า “ิหนู ข้าจะให้โอกาสเ้าเป็ครั้งสุดท้าย หากยังดึงดันก็อย่ามาโทษข้าแล้วกัน ถ้าข้ากดเ้าลงแม่น้ำิ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” เสียงหัวเราะแว่วออกมาจากป่า จากนั้นก็ได้ยินิหนูพูดว่า “ตอนนี้ท่านยังปกป้องตนเองไม่ได้เลย ยังจะมาข่มขู่ข้าอีกหรือ องค์หญิงเก้า วันนี้เป็วันตายของท่าน ท่านจงรู้ไว้ว่าหากสังหารสัตว์รักของข้าแล้วจะต้องพบเจอกับสิ่งใด!”
ิจิ่วเอ๋อร์โกรธจัด “เ้าไม่กลัวจะถูกทางเผ่าลงโทษอย่างนั้นหรือ”
“หากองค์หญิงเก้าสิ้นพระชนม์ในดินแดนเจ๋อ เพราะถูกบุตรชายของตระกูลจิ่วฟางสังหาร แล้วเกี่ยวอะไรกับข้า”
“เ้ามันสมควรตาย!”
ิหนูหัวเราะเสียงดัง “ท่านต่างหากที่สมควรตาย!”
เสียงนกหวีดไม้ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว กลุ่มงูรอบๆ เริ่มล้อมวงเข้ามาใกล้ทั้งสอง จิ่วฟางเทียนฉีทั้งจัดการกับฝูงงูและเยาะเย้ยิจิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังไปด้วย
“คาดไม่ถึงเลย คิดว่าเป็สหายกันเสียอีก แต่กลับกลายเป็คนที่แทงเ้าข้างหลัง ว่ากันว่าจิ่วโยวมีสิ่งชั่วร้ายมากมาย โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม เื่เล่านั้นคงจะเป็ความจริง!”
“เ้าจะไปรู้อะไร หุบปากซะ!” ิจิ่วเอ๋อร์ถูกแส้ดูดซับิญญาของตนเองพันอยู่จึงไม่สามารถขยับตัวได้
แม้จิ่วฟางเทียนฉีจะไม่กลัวงูพิษเหล่านี้ แต่ก็รับมือกับงูจำนวนมากเช่นนี้ไม่ไหว หากไม่ระวังให้ดีอาจพลาดถูกกัด แม้ว่าพิษงูจะไม่ส่งผลกระทบต่อเขามากนัก ทว่าคมเขี้ยวที่ฝังลงมาสามารถทำให้รู้สึกเ็ปทรมาน
จิ่วฟางเทียนฉีมุ่งความสนใจไปที่ด้านหน้า ละเลยิจิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลัง ฉับพลันสายตาก็เห็นงูพิษที่แอบเลื้อยมาข้างหลังนาง แล้วกัดลงบนลำคอหญิงสาว
“โอ๊ย!”
ิจิ่วเอ๋อร์ไม่มีปานกล้วยไม้เหมือนจิ่วฟางเทียนฉี พิษงูแพร่กระจายในร่างกายอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็สีม่วงคล้ำ ก่อนจะหมดสติลง
เมื่อบรรลุเป้าหมาย ิหนูจึงหยุดเป่านกหวีดไม้แล้วหนีหายเข้าไปในป่าทึบ
เมื่อไร้การควบคุมจากเสียงนั้น ฝูงงูก็กระจัดกระจายหายไปในป่า เหลือเพียงสองสามตัวที่ยังแสดงท่าทีแข็งกร้าวแต่ไม่ได้โจมตี
จิ่วฟางเทียนฉีมองไปยังิจิ่วเอ๋อร์ที่นอนอยู่บนพื้น หายใจรวยริน แล้วใช้จินฉู่บาดลงบนนิ้วมือจนเืสดๆ ไหลออกมา
หยดเืร่วงลงระหว่างริมฝีปากของหญิงสาว ก่อนจะไหลไปในลำคอ ไม่นานใบหน้าที่คล้ำม่วงของิจิ่วเอ๋อร์ก็ดูผ่อนคลายลง จิ่วฟางเทียนฉีจับชีพจรของนาง ท้ายที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
รู้ทั้งรู้ว่าสตรีผู้นี้คือคนจากจิ่วโยว ศัตรูตัวฉกาจของดินแดนเจ๋อ แต่ตัวเขาดันล้างพิษให้โดยไม่ลังเลและช่วยชีวิตนางไว้ จิ่วฟางเทียนฉีทุบศีรษะตนสองสามครั้งอย่างแรง ไม่เข้าใจว่าตัวเองคิดอะไรอยู่
ทั้งที่ออกเดินทางจากเฟิ่งเทียนั้แ่เที่ยงวัน แต่ไม่ทันไรท้องฟ้าก็เริ่มจะไร้แสง มองไปยังิจิ่วเอ๋อร์ที่ยังไม่ฟื้นคืนสติ จิ่วฟางเทียนฉีก็ทนไม่ไหว ไม่อาจปล่อยให้หญิงสาวนอนกลางป่าเพียงลำพัง ดังนั้นจึงอุ้มนางขึ้นมาวางบนหลังม้าและเดินทางออกจากป่า ทั้งม้าทั้งคนเดินหายไปสุดปลายถนนท่ามกลางแสงตะวันอัสดง
ดวงดาราเปล่งประกายบนฟากฟ้า ิจิ่วเอ๋อร์ถูกปลุกเพราะเสียงดัง เมื่อลืมตาก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงไม้โดยมีผ้าห่มผืนบางคลุมกายไว้
ท้องฟ้าด้านนอกมืดมิด ิจิ่วเอ๋อร์ยกมือขึ้นแตะลำคอ าแจากงูพิษยังคงอยู่ อาการปวดก็ยังเหลืออยู่
“ข้ายังไม่ตาย จิ่วฟางเทียนฉีช่วยข้าไว้หรือ เหตุใดเขาถึงช่วย”
ิจิ่วเอ๋อร์เลียริมฝีปาก รู้สึกถึงความแห้งผาก และมีกลิ่นหวานของเืในปากตน
“ชายผู้นี้ให้ข้าดื่มอะไรกันแน่”
จู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิด จิ่วฟางเทียนฉีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเป็กังวล หลังจากเห็นว่าิจิ่วเอ๋อร์ฟื้นแล้วก็วิ่งไปหาอย่างมีความสุข
“ดีเหลือเกิน ในที่สุดเ้าก็ฟื้นแล้ว”
ิจิ่วเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวกับ 'ความกระตือรือร้น' ของเขา ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนยังเป็ศัตรูที่สู้กันยิบตา เหตุใดท่าทีอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ แม้พละกำลังทางกายของนางจะฟื้นคืนแล้ว แต่พลังิญญายังอ่อนแออยู่ หากจะจัดการจิ่วฟางเทียนฉีซึ่งๆ หน้าคงเป็ไปไม่ได้ นางจึงนอนบนเตียงเช่นเดิม
“เ้าจะทำอะไร”
ยามนี้ในหัวของจิ่วฟางเทียนฉีกำลังลุกโชนราวกับไฟ เขาไม่สนว่าิจิ่วเอ๋อร์กำลังคิดสิ่งใด
“รีบตามข้ามา”
“เหตุใดข้าต้องไปกับเ้า!” ิจิ่วเอ๋อร์ยืนกรานที่จะไม่ลุกจากเตียง
จิ่วฟางเทียนฉีก้าวเข้าไปคว้ามือนางแล้วลากลงมา “เร็วเข้า ข้าไม่กินเ้าหรอก เพียง้าให้เ้าช่วยใครสักคน!”
ิจิ่วเอ๋อร์สะบัดมืออีกฝ่ายออก “เ้าล้อเล่นอะไร ั้แ่ข้าเกิดมาหัวใจข้าก็เป็สีดำ ขอให้ช่วยคนอย่างนั้นหรือ...เหอะ! ไม่มีทาง!!!”
จิ่วฟางเทียนฉีคว้าแขนนางอีกครั้ง แล้วลากมาข้างนอก “หากทำไม่ได้ข้าจะสอนเอง!”
ิจิ่วเอ๋อร์ต้านแรงเขาไม่ไหว จำต้องะโออกมาว่า “เหตุใดต้องฟังเ้าด้วย ข้าบอกว่าไม่สามารถช่วยเหลือคนได้ แต่ถ้าให้ฆ่าคน ข้าเต็มใจทำเป็ร้อยครั้งเลย!”
จิ่วฟางเทียนฉีดึงนางไปที่กระท่อมมุงจากอีกหลัง ิจิ่วเอ๋อร์จึงรู้ว่านางและเขาอาศัยอยู่ในบ้านของชาวนา ด้านหลังพลันมีเสียงกรีดร้องแ่เบาด้วยความเ็ปดังออกมา
“เข้าไป!” จิ่วฟางเทียนฉีจ้องนางด้วยสีหน้าเ็า
ิจิ่วเอ๋อร์หยิบแส้ดูดซับิญญาออกจากเอว แส้นั้นพันรอบแขนของจิ่วฟางเทียนฉี ทำให้ผิวเนื้อเปิดขึ้นทันที เืค่อยๆ ไหลออกมาตามแผล
“เ้า... เหตุใดเ้าถึงไม่หลบ” ิจิ่วเอ๋อร์มองเืที่ไหลออกมาจากแขนเขาด้วยความใ
ร่างกายของจิ่วฟางเทียนฉีพลันสั่นไหว พลังิญญาสีทองเอ่อล้น เืที่ไหลออกมาถูกดูดซับกลับเข้าไป
“เ้าหมายถึงสิ่งใด” ิจิ่วเอ๋อร์รีบดึงแส้กลับมา จิ่วฟางเทียนฉีไม่กลัวพิษ แต่การกัดกร่อนของแส้เส้นนี้ก็ทำให้เขาเ็ปอยู่บ้าง
ชายหนุ่มพิงกำแพงและเอ่ยด้วยท่าทีหนักใจ “หาก้าดูดซับพลังิญญา ข้าก็จะให้ อยากได้เท่าไรก็ตามใจเ้า แต่ก่อนอื่นเ้าต้องเข้าไปทำคลอดหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ด้านใน ต้องดูแลทั้งแม่และลูกให้ปลอดภัย!”
ิจิ่วเอ๋อร์เริ่มกังวล “ข้าบอกเ้าแล้วว่าข้าช่วยชีวิตผู้คนไม่ได้ แล้วจะทำคลอดได้อย่างไร”
“เข้าไป!”
จิ่วฟางเทียนฉีะโออกมาอย่างเดือดดาล ิจิ่วเอ๋อร์ตกตะลึง จากนั้นจึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
“ข้า ข้าจะพยายาม!”
ประตูถูกปิดอีกครั้ง จิ่วฟางเทียนฉีทรุดลงบนพื้นและหายใจแรง เขานั่งขัดสมาธิ เริ่มกำจัดฤทธิ์กัดกร่อนจากแส้ดูดซับิญญาออกจากร่างกาย หลังจากพลังิญญาแล่นไปทั่วร่าง ก็ได้ยินเสียงประตูกระแทกเปิดออกมา ิจิ่วเอ๋อร์ที่เหงื่อท่วมหน้าะโบอกเขาว่า “เร็วเข้า เร็ว ไปต้มน้ำร้อนมา!”
จิ่วฟางเทียนฉีมองไปยังมือของนางซึ่งเต็มไปด้วยเื ใบหน้าพลันมืดลง
“เ้าคงจะไม่ได้...”
“คงไม่ได้อะไร ข้าบอกให้ไปต้มน้ำ มัวชักช้าอะไรอยู่...”
ก่อนที่จิ่วฟางเทียนฉีจะได้พูด ประตูก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
เมื่อสถานการณ์เป็เช่นนี้เขาก็ไม่กล้ารีรอ รีบวิ่งไปต้มน้ำทันที สองเค่อหลังจากนั้นก็กลับมาเคาะประตู นอกจากเสียงร้องด้วยความเ็ปของหญิงตั้งครรภ์ ยังมีเสียงของิจิ่วเอ๋อร์ะโดังว่า “เดี๋ยวก่อน!”
จิ่วฟางเทียนฉีรออยู่ด้านนอก ยามนี้ท้องฟ้าสว่างไสวทั้งหมดแล้ว แสงอาทิตย์ไม่ได้ทำให้แสบตาหรือร้อนจนแผดเผา แต่ส่องสว่างไปทั่วหล้าอย่างอบอุ่น พอได้ยินเสียงทารกร่ำไห้ จิ่วฟางเทียนฉีพลันโล่งใจ
บานประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง ิจิ่วเอ๋อร์เดินออกมาพร้อมกับคราบเืทั่วร่าง ดูเหนื่อยล้า แล้วเอ่ยกับจิ่วฟางเทียนฉี “เหตุใดยังยืนอยู่ตรงนั้น รีบนำน้ำเข้ามาสิ”
จิ่วฟางเทียนฉีเทน้ำร้อนลงอ่างไม้ แล้วผสมกับน้ำเย็นเพื่อทำให้น้ำอุ่นขึ้น ิจิ่วเอ๋อร์เดินออกมาจากม่านหลังเตียง มีเ้าตัวน้อยจ้ำม่ำอยู่ในอ้อมกอด นางค่อยๆ วางทารกน้อยลงในอ่างไม้ จากนั้นก็ล้างตัวให้
ชายหนุ่มใช้มือแตะหว่างขาของเด็กน้อยแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “เป็เด็กผู้ชายนี่เอง!”
ิจิ่วเอ๋อร์ตีมือเขา จ้องมองด้วยความไม่พอใจ “อย่าจับมั่วซั่ว!”
จิ่วฟางเทียนฉีมองนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่าทีของเ้าในยามนี้เหมือนหญิงตั้งครรภ์ที่เพิ่งคลอดลูกเลย”
อาจเป็เพราะกลัวจะทำให้เด็กใ ิจิ่วเอ๋อร์จึงไม่คิดสนใจอีกฝ่าย นางกลอกตามองเขาแล้วอาบน้ำให้ทารกต่อไป หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยก็อุ้มเด็กน้อยไปหาแม่ของเขาซึ่งอยู่บนเตียง
หญิงชาวนาผู้นี้ก็คือเ้าของบ้านนั่นเอง สามีนางเพิ่งออกไปล่าสัตว์เมื่อวาน จะกลับมาในวันนี้ ใครจะคิดว่านางจะเจ็บท้องคลอดกะทันหัน โชคดีที่จิ่วฟางเทียนฉีอยู่ที่นี่ จึงช่วยชีวิตแม่และลูกชายคู่นี้โดยไม่ตั้งใจ
หลังทั้งสองออกจากเรือน ิจิ่วเอ๋อร์ก็ทิ้งตัวนอนบนม้านั่งหินในลานบ้าน นางหลับตารับไออุ่นจากดวงอาทิตย์ ในจิ่วโยวไม่มีแสงอาทิตย์เช่นนี้ มีเพียงความมืดและความชื้น นางชอบความรู้สึกของการอยู่ใต้แสงแดด จึงซึมซับความอบอุ่นนี้ด้วยความโลภ ร่างกายผ่อนคลายและกำลังจะหลับใหล
จิ่วฟางเทียนฉีมองไปยังิจิ่วเอ๋อร์ราวกับถูกมนต์สะกด ผมยาวสลวยทิ้งตัวลงกับพื้นจนเปื้อนฝุ่น แต่นั่นกลับทำให้นางมีเสน่ห์ ดวงตากลมโตคู่นั้นหลับลง ขนตายาวกระพือไหว เขาอยากจะลองััมันเสียจริง
“ไม่คิดว่าเ้าจะทำคลอดได้จริงๆ”
ิจิ่วเอ๋อร์ลืมตาขึ้น หันไปมองคนด้านข้าง “ข้าทำไม่เป็ หญิงตั้งครรภ์ผู้นั้นสอนข้า!”
จิ่วฟางเทียนฉีแย้มยิ้ม “แต่อย่างไรเ้าก็ช่วยชีวิตนางไว้ ที่บอกว่าจะไม่ช่วยเหลือผู้คน ตอนนี้เ้าทำเป็แล้วใช่ไหม”
ิจิ่วเอ๋อร์หันหน้าหนีและหลับตาลง ไม่สนใจเขาอีก แวบหนึ่งนางเห็นจิ่วฟางเทียนฉียิ้ม เป็รอยยิ้มที่ไม่มีความหมายใดแอบแฝง ไม่เคยมีใครยิ้มให้นางแบบนี้มาก่อน...งดงามเหลือเกิน
—-------------------------
