เฟิ่งเฉี่ยนจิตใจว้าวุ่น นางทนสายตาร้อนแรงของเขาไม่ได้ ได้แต่อ่านเสียงเบา “แม้กายจะอยู่ห่างกัน แต่หัวใจสื่อถึงกัน”
เมื่อสิ้นเสียง “สื่อถือกัน” นางพลันถูกแย่งชิงลมหายใจด้วยริมฝีปากเอาแต่ใจของเขาทาบลงมา!
อ่อนโยนละมุนละไม...
โลกหมุนตีกลับ...
เฟิ่งเฉี่ยนไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน ร่างอ่อนนุ่มของนางได้แต่รับทุกอย่างเอาไว้ ในใจกลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเป็สุข สุขเสียจนแทบจะล้นออกมา แต่เมื่อคิดได้ว่าความสุขเช่นนี้กำลังจะมลายหายไป หัวใจของนางพลันบีบรัดอย่างเ็ป
ราวกับ้าคว้าความสุขใน่เวลาสุดท้ายนี้เอาไว้ แขนทั้งของข้างของนางโอบรอบลำคอของเขาแน่นพร้อมกับตอบสนองกลับไปอย่างเร่าร้อน
การตอบสนองอย่างกระตือรือร้นของนาง ทำให้ลมหายใจของเซวียนหยวนเช่อถี่รัว เขากอดนางแน่นขึ้นอีก ชิงชังเหลือเกินที่มิอาจไม่แยกจากกันตลอดกาล
“เฉียนเฉี่ยน เจิ้นต้องไปแล้วจริงๆ หาไม่แล้วเจิ้นเกรงว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้...”
เซวียนหยวนเช่อแนบหน้าผากของเขากับหน้าผากของนาง สูดดมลมหายใจของกันและกัน วินาทีนั้นเขาเกือบจะสูญเสียการควบคุมตัว
“พรุ่งนี้เจิ้นค่อยมาหาเ้าอีกครั้ง!” ลูบด้านหลังศีรษะของนางแล้วเซวียนหยวนเช่อแยกจากนาง เซวียนหยวนเช่อจากไปพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
เฟิ่งเฉี่ยนมองแผ่นหลังของเขาด้วยหัวใจที่เต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง!
หรือต้องจากกันเช่นนี้หรือ?
เมื่อคิดได้ว่าต่อไปจะไม่ได้ััใบหน้าของเขา ไม่อาจประสานนิ้วมือทั้งสิบกับเขาได้อีก และไม่อาจกอดเขาได้อีก หัวใจของนางเ็ปเหลือเกิน เจ็บจนแทบขาดใจ!
ร่างของนางและเืในกายสั่นสะท้าน
“อาเช่อ!”
นางยังคงเรียกชื่อของเขาออกมาด้วยทนไม่ได้
เซวียนหยวนเช่อชะงักฝีเท้าหันกลับมามองนาง ทว่ากลับเห็นนางวิ่งเข้ามาหาเขา...
“อาเช่อ อย่าไป!”
น้ำเสียงอ้อนวอนนั้นขึ้นจมูกเล็กน้อย วินาทีถัดมาเฟิ่งเฉี่ยนก็โถมกายเข้ามาในอ้อมกอดของเขา มือทั้งคู่โอบรัดรอบลำคอของเขาอย่างแ่า!
“ท่านมิใช่เคยพูดไว้ว่า รอให้ข้าพร้อมแล้วให้บอกกับท่านมิใช่หรือ?” นางเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ ั์ตาเปล่งประกายเจิดจ้านั้นจับจ้องมองเขา แก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง “ตอนนี้ ข้าพร้อมแล้ว!...ท่าน้าข้าหรือไม่?”
ท่าน้าข้าหรือไม่?
คำพูดของนางเป็เช่นเวทย์มนต์ที่กระแทกเข้าในสมองของเซวียนหยวนเช่อ เขาตกตะลึงยิ่งยวด และยิ่งไปกว่านั้นคือไม่อยากจะเชื่อ!
ที่ตกตะลึงคือ นางถึงกับเป็ฝ่ายเริ่มก่อนเช่นนี้
ที่ไม่อยากจะเชื่อคือ ความสุขถึงกับมาถึงรวดเร็วเช่นนี้
“เฉียนเฉี่ยน เ้ากำลังทดสอบเจิ้นใช่หรือไม่? ยังมีขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊รอเจิ้นอยู่ในตำหนักหงเหวิน!”
“ตอนนี้ในสายตาของท่านมีข้าได้แค่คนเดียวเท่านั้น!” เฟิ่งเฉี่ยนประคองใบหน้าของเขาไว้ในฝ่ามือเพื่อให้เขามองนางตรงๆ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเผด็จการ “ข้า้าให้ท่านตอบข้าเดี๋ยวนี้ ท่าน้าข้าหรือไม่?”
แววตาของเซวียนหยวนเช่อลุ่มลึก ทว่ากลับไม่พูดจาสักคำ จิตใจของเฟิ่งเฉี่ยนค่อยๆ สลดหดหู่และปล่อยมือทั้งคู่ลงแนบกาย
“ช่างเถิด ท่านไปซะ!”
วินาทีถัดมา นางถูกเขาอุ้มขึ้นทั้งตัว จากนั้นเขาก้าวอาดๆ เข้าไปในห้องบรรทมอย่างรวดเร็ว
ร่างของนางเพิ่งจะถูกวางลงบนเตียง ร่างสูงใหญ่ของเซวียนหยวนเช่อก็ทาบทับลงมา เขาจุมพิตริมฝีปากของนางอย่างถนัดถนี่ จุมพิตนางอย่างลึกซึ้ง จุมพิตของเขาเร่าร้อนรุนแรงกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
เฟิ่งเฉี่ยนถูกเขาจุมพิตจนหายใจไม่ทัน นางลอบหายใจเข้าปอดเฮือกหนึ่งอย่างไม่ง่ายดาย!
“เฉียนเฉี่ยน นี่คือคำตอบของเจิ้น”
หัวใจของเฟิ่งเฉี่ยนเต้นผิดจังหวะมิอาจควบคุม ร่างกายของนางเกร็งเครียดราวกับนิ้วเท้าก็ยังสั่นสะท้าน
เขาฝังใบลงบนหน้าอกของนาง จุมพิตลงบนผิวของนางทุกๆ ตารางนิ้ว
เมื่อแรกลิ้มรสรัก ทุกๆ ััของเขา ทุกๆ จุมพิตของเขา สำหรับเฟิ่งเฉี่ยนแล้วล้วนประทับลงในหัวใจและจิติญญา
นางสั่นสะท้านน้อยๆ ััความสุขที่ครอบงำร่างกายของนางทุกๆ อณู เส้นผมสีดำราวกับม่านน้ำตก ผิวเนียนละเอียดราวกับหยกเนื้อดี ในดวงตางดงามนั้นมีละอองน้ำฉาบอยู่บางๆ ชั้นหนึ่ง เปล่งประกายเจิดจ้า
“อืม...” ริมฝีปากสีผลอิงส่งเสียงครางออกมาเบาๆ อย่างทนไม่ไหว
เซวียนหยวนเช่อพลันหยุดชะงักและเงยหน้าขึ้นจากหน้าอกของนาง มือทั้งคู่ประคองศีรษะของนาง แววตาลุ่มลึกของเขาพิจารณากรอบหน้างดงามของนางทว่าไม่เคลื่อนไหว
ท่ามกลางแสงเทียน แก้มทั้งสองข้างของนางแดงเปล่งปลั่ง สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือเสน่ห์เย้ายวน
เขามองแล้วรู้สึกเมามายอยู่บ้าง!
เฟิ่งเฉี่ยนมองเขาอย่างไม่เป็สุข แววตากระวนกระวาย หัวใจเต้นสะดุด
อย่างช้าๆ นางทนสายตาจับจ้องเช่นนั้นไม่ได้จึงอดไม่ได้ที่จะเบี่ยงศีรษะไปด้านข้าง ทว่าริมฝีปากอบอุ่นอ่อนโยนนั้นกลับประทับลงมาบนกลีบปากของนางกะทันหัน
จุมพิตอ่อนโยนทว่าเร่าร้อนทำให้นางตกอยู่ในความมึนเมา หัวใจของนางเต้นระรัว ร่างกายของนางอ่อนปวกเปียก
ในโพรงจมูกล้วนเป็ลมหายใจของเขา
“เฉียนเฉี่ยน เจิ้นเคยจินตนาการถึงวินาทีนี้มาเป็พันเป็หมื่นครั้ง...” น้ำเสียงลุ่มหลงราวกับดื่มสุราดีกรีแรงนั้นดังขึ้นจากริมฝีปากบางของเขา
คำพูดหนักแน่นของเขาราวกับกระแสไฟฟ้าที่โจมตีมายังร่างกายของเฟิ่งเฉี่ยน สติสัมปชัญญะทั้งหมดของนาง ปราการป้องกันทั้งหมดของนาง ล้วนถูกโจมตีไม่เหลือชิ้นดี!
ความคิดของเฟิ่งเฉี่ยนหยุดชะงักในตอนนี้ ปล่อยให้เขาจุมพิตนาง ห่อหุ้มนางเข้าไปอยู่ในกระแสน้ำวนที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของบุรุษ ความสุขที่ไม่อาจบรรยายเป็คำพูดได้ถูกถ่ายทอดจากริมฝีปากของเขาสู่ริมฝีปากของนาง เฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกราวกับร่างของนางกำลังลอยขึ้นมา!
ความรู้สึกในส่วนลึกที่ไม่เคยััมาก่อนราวกับดอกไม้รอวันเบ่งบาน ได้บานสะพรั่งอย่างงดงามในตอนนี้...
“เฉียนเฉี่ยน เจิ้นทนไม่ไหวแล้ว!”
ต่อมาคือเสียงคำรามต่ำของเขาที่ดังขึ้น ร่างไร้เรี่ยวแรงของเฟิ่งเฉี่ยนซบลงกับซอกไหล่ของเขา ไร้ซึ่งกำลังจะขัดขืนต่อต้านแม้สักกระผีก นางเป็เช่นเรือใบไม้ลำหนึ่งที่ลอยอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร โยกคลอนไปมาท่ามกลางลมพายุและสายฝน ทุกอย่างล้วนให้เขาเป็ผู้นำทาง ความรู้สึกนึกคิดของนางๆ ค่อยเลือนหายไป...
รอเมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว ร่างแข็งแกร่งราวกับเหล็กของเซวียนหยวนเช่อเอนกายลงข้างกายนางพร้อมกับเสียงหายใจหอบ
“เฉียนเฉี่ยน รั้งอยู่ข้างกายเจิ้น อย่าไปจากเจิ้นตลอดไป!” น้ำเสียงแหบพร่าของเขาดังขึ้นราวกับเมาสุรา ไพเราะจับใจทั้งยังเซ็กซี่อย่างร้าย
หัวใจของเฟิ่งเฉี่ยนสะท้านขึ้นมาทันที ลำคอตีบตันจนไม่อาจเปล่งเสียงอะไรออกมาได้
นางยกมือขึ้นสอดเข้าไปในเส้นผมของเขาด้วยแววตาเ็ปและสับสน
หากเขารู้ว่าคืนนี้เป็ความสุขครั้งสุดท้ายของพวกเขา นางกำลังจะไปจากเขา เขาจะรู้สึกและมีปฏิกิริยาอย่างไรนะ?
อาเช่อ ขอโทษด้วย ข้าไม่อาจรับปากท่าน!
เห็นนางไม่ตอบ เซวียนหยวนเช่อยันกายลุกขึ้นเงยหน้ามองนางด้วยดวงตาแน่วนิ่งราวกับบ่อน้ำที่มองไม่เห็ฯก้น ในแววตานั้นกลับอ่อนโอนเมื่อเขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำพร่าอีกครั้ง “เฉียนเฉี่ยน รับปากเจิ้น รั้งอยู่ข้างกายเจิ้นตลอดไปได้หรือไม่?”
ลำคอของเฟิ่งเฉี่ยนราวกับมีอะไรบางอย่างอุดเอาไว้ นางพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว นางไม่ปรารถนาจะพูดปด แต่นางรับปากเขาไม่ได้เช่นกัน ความกดดันในจิตใจแทบจะทำให้นางขาดใจตาย!
“เฉียนเฉี่ยน...” เซวียนหยวนเช่อเอ่ยปากอีกครั้ง มือทั้งสองข้างของเฟิ่งเฉี่ยนยันแผงอกของเขาเอาไว้และออกแรงผลักเขาพร้อมกับพลิกตัวหนึ่งตลบ เปลี่ยนจากแขกมาเป็เ้าเรือนขึ้นคร่อมร่างของเขาเอาไว้ด้านล่าง
เซวียนหยวนเช่อไม่ทันป้องกันเขามองนางด้วยสายตาตื่นตะลึง นางตะลึงงันอยู่อึดใจหนึ่งจากนั้นโน้มกายลงมา มือทั้งคู่ประคองใบหน้าของเขาและเลียนแบบท่าทางเมื่อสักครู่ของเขา จุมพิตลงบนริมฝีปากบางของเขา
เริ่มแรกเฟิ่งเฉี่ยนเพียงคิดจะเอาตัวรอด แต่เมื่อนางได้นั่งลงบนร่างของเซวียนหยวนเช่ออย่างถนัดถนี่แล้วนางถึงกับถูกความกล้าหาญชาญชัยของตนเองทำให้ใจนสะดุ้งโหยง
แต่ในเมื่อขึ้นมานั่งแล้วนี่ ครานี้จะให้ลงไปกลับกลายเป็ว่านางร้อนตัวอย่างเห็นได้ชัด
เซวียนหยวนเช่อที่นอนอยู่ด้านล่างมีสีหน้าราวกับเป็ผู้ถูกกระทำ ดวงตาของเขาฉาบด้วยหมอกบางๆ ชั้นหนึ่ง ในนั้นมีูเามีลำธาร ยังมีมหาสมุทรอันอบอุ่นอ่อนโยน ริมฝีปากบางของเขาอวบอิ่มสะท้อนให้เห็นเงาของความชุ่มชื้น เขาที่เป็เช่นนี้ ช่างยั่วยวนและน่ากินจริงๆ!
ในเมื่อขึ้นมาขี่หลังเสือแล้ว เช่นนั้นหากไม่ทำก็ไม่ทำ ทำแล้วก็ไปให้สุด เลยตามเลยก็แล้วกัน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้