เซียวหยุนเหว่ยไม่สามารถควบคุมความโมโหในใจได้ เขาโวยวายเสียงดังโดยไม่สนตำแหน่งผู้นำตระกูลเลยด้วยซ้ำ
ผู้าุโแห่งตระกูลหลงมองเว่ยเวยที่เป็ตัวแทนจากตระกูลอู่ตี้อย่างจนปัญญา เว่ยเวยพยักหน้าให้เป็การบอกว่าไม่เป็ไร!
เซียวหยุนเหว่ยโมโหดั่งสายฟ้าพิโรธ เขาไม่รู้ว่าเหตุใดแม้แต่ตัวแทนจากตระกูลอู่ตี้ยังต้องไว้หน้าไอ้เด็กหลงเหยียนนั่นด้วย หรือว่าพวกเขามีความเกี่ยวข้องกัน?
จนกระทั่งตอนนี้ เซียวหยุนเหว่ยถึงจะมองตรวจสอบสตรีที่น่ากลัวตรงหน้า บนตัวนางมีกลิ่นอายบางอย่างที่เป็เอกลักษณ์ อีกอย่าง ครั้งก่อนเซียวกงเป้าออกมาขวางนางไว้ เมื่อภาพนั้นผุดเข้ามา คล้ายเขานึกบางอย่างได้แล้ว
“เว่ยเวย!” เซียวหยุนเหว่ยอดคำรามไม่ได้
“ที่แท้ก็เป็เ้าเองหรือ?” เซียวหยุนเหว่ยทนถูกกดดันไม่ได้ ปะทุไฟโทสะออกมาทันที
“เว่ยเวย ที่แท้ก็เป็เ้า มิน่าเล่าข้ารู้สึกได้ถึงรังสีบางอย่างบนตัวเ้า ที่แท้ก็เป็เ้าใช่หรือไม่?” เขารู้ดีว่าหลงเหยียนกับเว่ยเวยมีความสัมพันธ์แบบใดกัน นางอาจไม่เปิดเผยโดยตรง ทว่าก็ไม่มีใครรู้ว่านางแอบช่วยหลงเหยียนไปมากเท่าไร
“ข้าก็ยังว่า เพราะอะไรอยู่ๆ พละกำลังของไอ้เด็กนั่นถึงแกร่งขึ้นเพียงนี้ ที่แท้ก็เพราะเ้าคอยช่วยนี่เอง ข้าไม่ยอมรับผลการแข่งขันในครั้งนี้ หลงเหยียนฆ่าคนในตระกูลเซียวตาย ข้าจะเอาชีวิตมัน…”
เซียวหยุนเหว่ยโมโหมาก ทว่าทันใดนั้น พลังระลอกหนึ่งของเว่ยเวยพลันกระแทกเขาร่วงลงจากเวที หลงอี หลงจ้าน และคนที่เหลือจึงรีบพุ่งเข้าไปกดเซียวหยุนเหว่ยเอาไว้
อยู่ๆ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง คงไม่มีผู้ใดนึกว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เว่ยเวยยืนอยู่บนเวที มองลงมาด้วยสายตาเย็นเยือก
“เ้าบังอาจเกินไปแล้ว ข้าไม่ใช่เว่ยเวยอะไรนั่น หากเ้ายังไม่หยุดเพ้อเจ้อ ข้าจะคร่าชีวิตเ้าทันที”
ทุกคำพูดดั่งเข็มที่แหลมคมแทงเข้าไปกลางหัวใจเซียวหยุนเหว่ย เขาไม่กล้าพูดต่อ ในตระกูลเซียวนั้นเหลือเซียวมั่วเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่ใหญ่ตายจากไปแล้ว พี่รองกลับไปเอาตำรา และตอนนี้ผู้นำตระกูลยังถูกคนตระกูลหลงควบคุม
เมื่อนึกเช่นนั้น เขาก็เ็ปเหมือนตายทั้งเป็ เมื่อก่อนตระกูลเซียวยิ่งใหญ่เท่าใด แล้ววันนี้กลับต้องถูกบีบให้จนตรอก ไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี มหาอำนาจอื่นๆ ที่อยู่รอบข้างกลับไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้พวกเขา
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทุกคนรอการกลับมาของหลงเหยียนอย่างเงียบเชียบ ชายหนุ่มที่มาพร้อมความประหลาด เขาไปที่ใดกันแน่? ทุกคนเริ่มร้อนใจ กลับต้องอยู่กับเวลาที่แสนยาวนาน รอให้เขากลับมา
ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่รอบๆ เริ่มออกความคิดเห็น “นายน้อยหลงเหยียนไม่เห็นตัวแทนจากตระกูลอู่ตี้อยู่ในสายตาเลยกระมัง”
“เ้าจะพูดไปเรื่อยไม่ได้ ไม่แน่ พวกเขาอาจเกี่ยวข้องกันจริงก็ได้ พูดเบาๆ หน่อย...”
ทว่าในนั้นก็ยังมีคนดีออกความคิดเห็น ต่อให้คนตระกูลเซียวถูกรังแกอย่างเห็นได้ชัด ทว่านั่นก็ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์รู้สึกสะใจนัก
เมื่อก่อน คนตระกูลเซียวยิ่งใหญ่ในเมืองัจนเคยตัว โดยเฉพาะเซียวกงเป้าและบุตรชายของเขา ไม่รู้ว่ามีสตรีมากเท่าไรในเมืองที่ถูกพวกเขาข่มเหง ชิงตัวขึ้นรถม้า ครอบครัวเล็กๆ หรือพวกที่มีพละกำลังน้อยล้วนเกลียดพวกเขาเข้ากระดูกดำ เพียงแต่ไม่กล้าพูดก็เท่านั้น
…
หลงเหยียนที่ตามออกมาเห็นเซียวเหลิงเอ้าออกมาจากตระกูลเซียว ในมือถือตำรายุทธ์ระดับมายาสองเล่ม กำลังมุ่งหน้ากลับตระกูลหลง เมื่อเซียวเหลิงเอ้าเงยหน้าขึ้น พลังระลอกหนึ่งก็ม้วนตลบมาจากด้านหลังด้วยความเร็วที่เห็นแล้วต้องใ
เมื่อเห็นคนที่ปรากฏตัวแล้ว หลงเหยียนก็เริ่มโจมตีทันที กดทับเขาที่มีพลังระดับชีพัขั้นที่แปดลงบนพื้น ในมือปรากฏมีดเงาโลหิตพร้อมเอามีดจ่อไปที่คอเขา
เซียวเหลิงเอ้าเหงื่อตก เขานึกไม่ถึงว่าหลงเหยียนจะปรากฏตัวด้านหลังเช่นนี้
เขามองหลงเหยียนด้วยสายตาหวาดกลัวแล้วพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ไอ้หนุ่ม นี่ นี่เ้าอยากทำอะไร ตระกูลเซียวข้ารับปากจำมอบตำราให้แล้ว แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ?”
หลงเหยียนไม่อยากเสียเวลาจึงพูดออกมาตรงๆ “เื่ที่พวกเ้าร่วมมือกับคนสำนักมาร ยังอยากปิดบังไปถึงเมื่อไร คนที่คุยกับเ้าเมื่อครู่ใช่คนของสำนักมารหรือไม่ พวกเ้ารู้อะไรมา?”
เซียวเหลิงเอ้าถูกหลงเหยียนเหยียบที่หน้าอก หากมีใครมาเห็นภาพนี้เข้า เกรงว่าต้องไม่มีใครเชื่อแน่ คนที่มีพลังชั้นที่เจ็ดสามารถต่อกรกับคนที่มีพลังขั้นที่แปดได้
เซียวเหลิงเอ้าใกลัวกับวิธีการกำจัดศัตรูของหลงเหยียน เขาพูดด้วยความโมโห “บัดซบ นี่เ้าขู่ข้าหรือ?”
หลงเหยียนแสดงความโหดร้าย แทงมีดในมือลงตรงลำคอเขาทันที โลหิตสีแดงสดไหลออกมา เซียวเหลิงเอ้าตะเกียกตะกาย ทว่าหลงเหยียนใช้มือข้างหนึ่งจับเขาไว้
ใช้สายตาเืเย็นที่น่าขนลุกมองเขา
“ในตระกูลเซียว คนที่ข้าไม่เคยทำผิดด้วยเลยก็คือเ้า ลูกชายทั้งสองของเ้า ข้าไม่ได้ทำร้ายพวกเขาเลยแม้แต่ปลายเล็บ เ้านึกว่าข้ากำลังใช้ชีวิตร้อยคนในตระกูลหลงมาล้อเล่นงั้นหรือ ข้าอยู่รอเ้าก็เพื่อข่มขู่งั้นหรือ ความจริง ต่อให้เ้าไม่บอกข้าก็รู้อยู่แล้ว”
“อีกสองวัน ในเทือกเขาหยุนหลัวจะโตเต็มที่!”
ทุกคำพูดของเขาถ่ายทอดเข้าไปในแก้วหูของเซียวเหลิงเอ้า ทำให้เขาเหงื่อตกทันที
“อะไรนะ? หลงเหยียน เ้ารู้หรือว่าหลังจากนี้อีกสองวัน ต้นเซียนหอมหมื่นลี้จะโตเต็มที่?”
หลงเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ดูเหมือนเ้าจะรู้เื่ต้นเซียนหอมหมื่นลี้ดีกว่าข้าเสียแล้ว บอกมา เหตุใดคนของสำนักมารถึงรู้เื่เซียนหอมหมื่นลี้? หากไม่บอก ข้าจะทุบไข่เ้าซะ”
เซียวเหลิงเอ้าเป็คนจองหองอยู่แล้ว ทว่าตอนนี้อยู่เพียงลำพังทำให้ความกล้าลดน้อยลง โดยเฉพาะหลังได้ยินหลงเหยียนบอกว่าจะทุบไข่ ขาทั้งสองก็อ่อนแรงทันที
“ได้ๆๆ ข้าจะบอกเ้าเอง เื่นี้ต้องเริ่มเล่าจากเซียวปิงมั่ว ลูกชายของพี่ใหญ่กงเป้า ตอนนั้น หลานข้ารู้จักกับศิษย์สำนักบงกชมาร พวกเขาสองคนติดต่อกัน มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แอบพลอดรักกันใต้ต้นไม้ มีครั้งหนึ่งข้าจับได้…”
หลงเหยียนะเิโมโห พลังปราณรวบรวมที่ฝ่ามือก่อนชกลงบนหน้าเขาแรงๆ แล้วพูดด้วยความโมโห “เล่าเื่สำคัญ”
เซียวเหลิงเอ้าเจ็บเหลือเกิน ยกมือขึ้นปิดปาก คายฟันที่ท่วมเืออกมาสามซี่พร้อมรีบพูดทันที
“เซียวปิงมั่วติดต่อกับสำนักบงกชมาร จากนั้นก็ให้เซียวกงเป้าเชื่อมความสัมพันธ์กับประมุขสำนักบงกชมารอู่หยา ทว่าต่อมา เพื่อให้ได้รับลูกแก้วปีศาจบนเทือกเขาหยุนหลัวที่มากยิ่งขึ้น เซียวกงเป้าจึงพาคนเข้าไปในป่าก่อน วางกับดัก ฆ่าปีศาจอสูร ชิงลูกแก้วปีศาจ กลับพบต้นเซียนหอมหมื่นลี้ หญ้าวิเศษระดับมายา ประมุขสำนักมารรู้เื่นี้ผ่านศิษย์หญิงที่ติดต่อกับเซียวปิงมั่ว เมื่อรู้เื่นี้ อู่หยาจึงขอความช่วยเหลือจากศิษย์สำนักมารในเมืองหยุนจง ตอนแรกก็เพื่อรับมือกับตระกูลเซียวของเรา ทว่าต่อมาเมื่อผ่านข้อแลกเปลี่ยน สำนักมารยอมช่วยเราต่อกรกับตระกูลหลงของพวกเ้า”
หลงเหยียนฟังแล้วก็พอเข้าใจเื่แบบคร่าวๆ พร้อมตามด้วยอีกสองหมัด “แล้วเงื่อนไขที่คนตระกูลเซียวใช้แลกเปลี่ยนกับสำนักมารคืออะไร?”
เซียวเหลิงเอ้าพูดด้วยความกลัว “เซียนหอมหมื่นลี้มีทั้งหมดสามต้น ตระกูลเซียวเราได้หนึ่งต้น ส่วนอีกสองต้นมอบให้สำนักมาร”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลงเหยียนขมวดคิ้วมุ่น “แผนการที่พวกเ้าวางไว้ไม่เลวเลยนี่ รีบไสหัวไปซะ!”
เมื่อพูดจบ หลงเหยียนก็หายไปต่อหน้าต่อตาเซียวเหลิงเอ้า…
--------------------