หลัวเลี่ยลืมไปแล้วว่าเขามีความรู้สึกรังเกียจคนอื่นครั้งสุดท้ายเมื่อใด
อันที่จริงชงจ้านหยวนเคยทำให้เขาเกลียดจนเข้ากระดูกดำ แต่เมื่อเทียบกับคนอย่างหลงไป๋จางที่วางตนสูงส่งแต่ทำตัวน่ารังเกียจเป็ที่สุด ชงจ้านหยวนดูเหมือนจะน่ารังเกียจน้อยกว่า เพราะสิ่งที่น่ารำคาญยิ่งกว่านั้นก็คือหลงไป๋จางคนนี้ยังคงสวมหมวกทรงสูงให้ตนเองราวกับว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็สิ่งที่ชอบธรรมแล้ว
หลัวเลี่ยรู้สึกรังเกียจจนแทบคลั่ง
การโจมตีนี้จึงเป็การโจมตีที่รุนแรงที่สุด
เขาไม่ชื่นชอบการใช้อาวุธ แต่เพราะคนคนนี้สมควรโดนแล้ว เขาจึงทำเป็ลืมมันไป
เขารวบรวมพลังปราณจากทั่วร่างกาย รวบรวมความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมด ด้วยรูปร่างอันงดงาม ใบหน้าโกรธเกรี้ยว รวมทั้งรอยเืที่เปรอะเปื้อนอยู่บนร่างกายของเขา ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาในตอนนี้ดูชั่วร้ายพอๆ กับเทพเ้าแห่งา
กระบี่ราชันปะทะกับหอกของหลงไป๋จาง
พลังที่ไม่มีใครเทียบได้ะเิออกมาในคราวเดียว ไม่ใช่แค่ลมปราณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความแข็งแกร่งทางร่างกายที่น่าสะพรึงกลัวของเขาเอง และยังมีความโกรธอย่างล้นหลามของหลัวเลี่ยที่มีต่อหลงไป๋จาง
แม้ว่าหลงไป๋จางจะเข้าใกล้จุดสูงสุดของขอบเขตหยินหยางตอนปลาย แต่เขาก็ยังคงถูกโจมตีอย่างรุนแรง จนเกือบจะโยนหอกล้ำค่าในมือของเขาทิ้งไป
กรรซ์
ท่ามกลางเสียงคำรามของัได้เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้น ทักษะัวายุและทักษะทลายคลื่นก็ถูกเปิดใช้งาน
หลัวเลี่ยเป็เหมือนัสีน้ำเงินที่บินตามสายลม สร้างคลื่นขนาดใหญ่บนผิวน้ำด้วยเท้า กระบี่ในมือที่แหลมคมเปรียบเสมือนกรงเล็บัที่คอยทำลายสิ่งกีดขวาง
มวลน้ำขนาดมหึมาพุ่งขึ้นไปเหนือท้องฟ้า แสงกระบี่ตัดผ่านลมเหนือท้องฟ้า และปล่อยให้มวลน้ำอันมหาศาลนั้นทะลักทลายลงมาในบริเวณที่หลงไป๋จางยืนอยู่
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเนื้อถูกเฉือนมากกว่าสิบครั้ง
หลงไป๋จางกรีดร้องด้วยความเ็ปและเซไปข้างหลัง เขามีาแราวเจ็ดหรือแปดแผลบนร่างกายของเขา แผลที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ไหล่ข้างซ้าย มันลากยาวั้แ่หัวไหล่จนถึงข้อศอก เผยให้เห็นกระดูกสีขาวที่โผล่ออกมาอย่างชัดเจน
ในทางกลับกัน หลัวเลี่ยเป็อิสระจากคลื่นนั้นแล้ว
การใช้ทักษะัวายุและคลื่นทลายที่เกิดจากการต่อสู้ของัในน้ำ หลัวเลี่ยดูเหมือนจะสามารถลอยตัวและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระบนพื้นผิวน้ำทะเลโดยไม่ได้รับผลกระทบ
“หลัวเลี่ยเ้ารังแกคนเกินไปแล้ว”
“ถ้าเ้ากล้าทำร้ายผู้หญิง ข้าจะฆ่าเ้า”
“ฆ่า!”
เสียงสามเสียงดังมาจากด้านหลัง ซ้ายและขวา
ไห่ปี้เถา สุ่ยอวิ๋นเหยา และหลงเติ้งอวิ๋นปิดล้อมหลัวเลี่ยไว้
พวกเขาสร้างโอกาสให้กับหลงไป๋จางเท่านั้น พวกเขาไม่กล้าโจมตีเอง หากลงมือสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะถูกฆ่าตายโดยไม่มีโอกาสร้องแม้แต่แอะเดียว
“เ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้อวดดีเหมือนตัวตลก!”
แขนของหลัวเลี่ยสั่นสะท้าน
ปีก์เลี่ยหยางยืดออกทันทีท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชนบนปีก น้ำทะเลจำนวนหนึ่งระเหยไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้บริเวณนั้นเต็มไปด้วยไอหมอก มีเพียงหลัวเลี่ยเท่านั้นที่ดูทรงอำนาจภายใต้ปีกสีทองที่มีเปลวเพลิงลุกไหม้
เพียงกางออกไม่กี่ครั้ง ปีก์เลี่ยหยางซึ่งเทียบได้กับสมบัติระดับสูงสุดก็เหยียดออกไปทางซ้ายและขวา กระทบกับไห่ปี้เถาและสุ่ยอวิ๋นเหยาโดยที่ทั้งสองคนยังไม่ทันตั้งตัว
ด้วยพลังอันแข็งแกร่งและเปลวไฟที่ร้อนระอุพุ่งโจมตีเข้ามากะทันหัน พวกเขาไม่สามารถหลบได้ทัน จึงได้รับความเสียหายบริเวณใบหน้า และการโจมตีที่รุนแรงนี้ได้ทำให้พวกเขากระเด็นออกไปอีกครั้ง
จู่ๆ หลัวเลี่ยก็หันกลับมา กระบี่ราชันของเขากลับคืนสู่ฝักแล้ว
เขาชื่นชอบการใช้หมัด และการโจมตีที่เกิดจากถุงมือจักรพรรดินั้นก็ทรงพลังไม่แพ้กัน
หลงเติ้งอวิ๋นที่อยู่ข้างหลังเขาพุ่งเข้ามาพร้อมกับขวานเล่มใหญ่
ขวานเป็สมบัติธรรมดา และยังไม่ได้ถูกยกระดับเป็อาวุธศักดิ์สิทธิ์ แต่คมของมันสะท้อนแสงเปล่งประกายน่าเกรงขาม หลงเติ้งอวิ๋นยกมันขึ้นและฟันลง
หลัวเลี่ยรับการโจมตีนั้นด้วยหมัดอย่างเย่อหยิ่ง
หมัดกระทบกับคมขวานที่คมกริบและเย็นเฉียบ ซึ่งสั่นะเืในอากาศ และพลังที่มีอยู่ในนั้นก็กระจายไปเล็กน้อย
หมัดที่สองของหลัวเลี่ยเกิดขึ้นหลังจากนั้น
พลังที่หลงเติ้งอวิ๋นสลักไว้บนขวานก็ถูกทำลายและกระจัดกระจายไป
อย่างไรก็ตามหลัวเลี่ยใช้หมัดของเขาต่อยขวานติดต่อกันอย่างบ้าคลั่ง พลังที่น่าสะพรึงกลัวทำให้หลงเติ้งอวิ๋นใ เขาค่อยๆ ถอยทีละก้าว มือที่ถือขวานแตกจนมีเืไหลลงมา แรงกดดันนั้นทำให้อวัยวะภายในของเขาไม่สามารถรับได้ไหว จึงกระอักเืออกมา
หลัวเลี่ยผู้บ้าคลั่งยังคงโจมตีโดยไม่สนใจสิ่งใด
ในหมัดที่สิบสาม ทันใดนั้นคมของขวานอันล้ำค่าก็ถูกเขาโจมตีจนแตกเป็เกลียว หลงเติ้งอวิ๋นกลัวจนตัวสั่น จึงวิ่งและบินหนีไป
หลงเติ้งอวิ๋นะโขึ้นไปบนอากาศ หลัวเลี่ยก็ตามขึ้นไปต่อยเขากลางอากาศ
หลงเติ้งอวิ๋นเป็เหมือนว่าวที่สายขาด ร่างของเขาลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า และตกลงไปในทะเลห่างออกไปสามถึงห้าร้อยจั้ง
จู่ๆ หลัวเลี่ยก็หันกลับมาและคำรามเหมือนหมาป่า ไห่ปี้เถาและสุ่ยอวิ๋นเหยาพุ่งมาข้างหน้าอีกครั้ง
ปีก์เลี่ยหยางที่อยู่ข้างหลังหลัวเลี่ยสั่นะเื และพลังอันน่าสะพรึงกลัวทำให้ทั้งสองใกลัวและชะลอการเคลื่อนไหว
มีเพียงหลงไป๋จางเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพียงเพราะเขาได้รับจิติญญาับรรพชน เขาจึงให้ความสำคัญกับตัวเองมาก และมุ่งความสนใจไปที่การนำเผ่าัไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง เมื่อเขาได้รับาเ็และถูกหลัวเลี่ยท้าทายครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจึงพุ่งเข้าไปหาหลัวเลี่ยโดยไม่สนสิ่งใด
หลัวเลี่ยเพิกเฉยต่อหลงไป๋จาง ยกแขนขึ้นและทิ้งสะบัดปีกทันที
ปีก์เลี่ยหยางเหยียดยาวจนพอใจ ปล่อยเปลวไฟที่ไม่มีที่สิ้นสุด ปั่นป่วนคลื่นขึ้นไปบนท้องฟ้า และมงกุฎของจักรพรรดิัที่อยู่เหนือศีรษะของหลัวเลี่ยยิ่งส่องแสงสีม่วงทอง ับรรพชนตัวน้อยที่ลอยเข้าและออกมงกุฎจักรพรรดิัก็คำรามอย่างรุนแรงเป็ครั้งคราว มันทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้ากลายเป็ัยาวร้อยจั้งและโฉบลงมา
ตูม!
ับรรพชนตัวน้อยพุ่งลงไปในทะเล ปลุกปั่นพลังที่สั่นะเืโลก และพุ่งตรงไปทุกทิศทาง
ไห่ปี้เถาและสุ่ยอวิ๋นเหยาที่หวาดกลัวอยู่แล้วก็ถูกพัดไปทันที
หลงไป๋จางยิ่งน่าสังเวชกว่าเดิม
เขาเป็ั
แม้ว่าับรรพชนตัวน้อยในมงกุฎของจักรพรรดิัจะไม่ใช่ัที่แท้จริง แต่ก็มีความคิดของับรรพชน มันมีความยับยั้งชั่งใจที่แข็งแกร่งกว่าในเผ่าั เมื่อปรากฏมันจะระงับไอสังหารอันรุนแรงของหลงไป๋จาง และไม่สามารถทำได้เต็มที่ หลังจากนั้นจึงใช้พลังของมันโจมตีเขา หอกในมือของเขาถูกพัดออกไป ร่างของเขากระเด็นออกไปพร้อมกับเืที่พุ่งออกมาจากทวารทั้งเจ็ด
คลื่นั์ลดขนาดลงแล้ว
ับรรพชนตัวน้อยกลับคืนสู่มงกุฎของจักรพรรดิั
หลัวเลี่ยเดินไปหาหลงไป๋จางโดยมีคลื่นซัดมาที่เท้าของเขา
พลังเช่นนี้ทำให้อัจฉริยะรุ่นเยาว์หลายพันคนในสี่ทะเลหวาดกลัว
มีเพียงคนเดียวที่ยังคงยึดมั่นในการแย่งชิงสมบัติ นั่นก็คือสุ่ยอวิ๋นเหยา หญิงสาวผู้แข็งแกร่งคนนี้ยังคงไม่ยอมแพ้ นางชักกระบี่ออกมาและเผชิญหน้ากับหลัวเลี่ย
หลัวเลี่ยเลิกคิ้วแล้วชักกระบี่ของเขาออกมาอีกครั้ง
กระบี่ราชันถูกดึงออกมา สะท้อนกับแสงสีขาวส่องประกายงดงาม
สุ่ยอวิ๋นเหยารู้สึกเย็นบนหน้าผาก และมีผมสองสามเส้นร่วงหล่นลงมา นางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความหวาดกลัว และความปรารถนาที่จะแย่งชิงสมบัติของนางก็สงบลงในทันที
“หากเ้ากล้าโจมตีข้าอีกครั้ง เ้าจะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี” หลัวเลี่ยกล่าวอย่างเ็า
ณ จุดนี้ไม่มีใครกล้าขยับตัว
เขามายืนอยู่ด้านหน้าหลงไป๋จางที่ตกลงไปในทะเลและตะเกียกตะกายขึ้นมาอีกครั้ง
ในขณะนี้หลงไป๋จางดูสิ้นหวังมาก ผมของเขาเปียกและลู่ติดใบหน้า คราบเืบนทวารทั้งเจ็ดของเขาถูกชะล้างออกไปด้วยน้ำทะเล ทว่ายังมีร่องรอยอยู่เล็กน้อย เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น และาแของเขามองเห็นได้ชัดเจน
“เพื่อการฟื้นฟูอันยิ่งใหญ่ของเผ่าั ข้าจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้!”
หลงไป๋จางคำราม และทันใดนั้นก็กลายเป็ัสีขาว
นี่คือแก่นแท้ของเขา
ัขาว!
มันเป็ัระดับสูงในบรรดาสายเืั เป็รองเพียงัทองห้ากรงเล็บเท่านั้น และแทบจะไม่สามารถถือได้ว่าเป็ัที่แท้จริง
“ดื้อรั้นจริงๆ”
ในขณะที่ัขาวบินขึ้นไป หลัวเลี่ยก็ดึงกระบี่ราชันออกจากฝัก
คมกระบี่ฟาดเข้าที่หัวัอย่างรุนแรง
ัขาวที่ยาวกว่าสิบจั้งถูกกระบี่ฟาดและตกลงไปในทะเลอีกครั้ง
ตูม!