บทที่ 24 ล่อลวง
ฉู่อวิ๋นรวบรวมพลังปราณแล้วถ่ายเทมันเข้าสู่กระบี่เศวตรรุ้ง ทันใดนั้น แสงสีม่วงเย็นก็ปรากฏขึ้นจากตัวกระบี่สีหยกขาว
“ข้าแค่ตัดสินจากข้อเท็จจริง ลูกสัตว์ตัวนี้ไม่ก้าวร้าว พวกเราก็แค่เก็บดอกปี้หลิงสามกลีบไป เหตุใดต้องทำร้ายมันด้วย?” ฉู่อวิ๋นพ่นเสียงเ็า
"จิ๊ด!"
ด้านหลังเขา เ้าลูกตะกร้อขนเล็กๆ ดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของฉู่อวิ๋นจึงเปล่งเสียงร้องที่ชัดเจนออกมา
“เชอะ! สัตว์ปีศาจก็คือสัตว์ปีศาจ ตอนนี้ข้าต้องฆ่ามันให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่หายแค้นที่พวกมันทำให้ใบหน้าข้าเสียโฉม! ผู้ใดหยุดข้าผู้นั้นตาย!” หลินหล่างแสดงท่าทางดุร้ายและยกฝ่ามือขึ้นเขวี้ยงมีดใส่
“ฟิ้ว——”
มีดวายุรูปพระจันทร์เสี้ยวฉีกขาดผ่านอากาศ เสียดสีกันจนเกิดเสียงและพุ่งตรงไปยังฉู่อวิ๋น
“เชอะ! เสแสร้งนัก!” ฉู่อวิ๋นแค่นเสียงอย่างเ็า เขาชักกระบี่ออกมาฟันในแนวทแยง แสงกระบี่สีม่วงตัดผ่านท้องฟ้า ฟันมีดวายุสีเขียวแตกสลายในทันที
เมื่อกระบี่เศวตรรุ้งเหวี่ยงขึ้น ลูกศรอีกลูกหนึ่งก็พุ่งออกมาจากความว่างเปล่า เป็ลูกศรที่มู่หรงเหิงยิง
ฉู่อวิ๋นเปลี่ยนก้าวและฟันกระบี่ออกไปราวกับดวงดาวที่ร่วงตกลงมา ทำลายลูกศรขนนกที่พุ่งมาให้สลายไปทันที
“พวกเ้าร้ายกาจจริงๆ ด้วย!”
เห็นได้ชัดว่าหลินหล่างและมู่หรงเฉิงใช้ข้ออ้างนี้เพราะ้าฆ่าฉู่อวิ๋นโดย อาศัยการฆ่าเ้าตัวน้อยนั่น
โชคดีที่ฉู่อวิ๋นรู้ตัวเร็ว ไม่เช่นนั้นเขาคงถูกทั้งคู่โจมตีไปแล้ว
ตอนนี้ ลูกตะกร้อขนเล็กๆ ก็สั่นไปทั้งตัวและส่งเสียงร้องว่า "จิ๊ดจิ๊ด" ด้วยเพราะหวาดกลัวการโจมตีเมื่อครู่
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี มู่หรงซินจึงรีบพูดว่า "พวกท่านสองคนทำอะไรกัน! พูดกันดีๆ ซิ จะลงไม้ลงมือกันทำไม? ถ้าพวกท่านโจมตีเขาอีกครั้ง ข้าจะลงมือแล้วนะ!"
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินหล่างก็แสดงสีหน้าไร้เดียงสาและพูดว่า "น้องหญิงซิน เ้ารู้ดีว่าพี่เป็คนเช่นไร? ฟังพี่นะ เ้าฉู่อวิ๋นนี่ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน! ตอนนี้เขากำลังปกป้องสัตว์ปีศาจอยู่ ดีไม่ดีเขาอาจจะเป็พวกเดียวกับพวกมันก็ได้!”
“ก่อนหน้านี้เขาคงจงใจดึงดูดสัตว์ปีศาจพวกนั้นเพื่อ้าจะฆ่าพี่และพี่ของเ้า แล้ววางแผนไม่ดีต่อเ้า ใช่! ต้องเป็เช่นนั้นแน่! เ้าอย่าไปเชื่อเขา!”
หลินหล่างเริ่มกระตือรือร้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขาพูดมู่หรงเหิงก็ดึงมู่หรงซินออกไปและพูดว่า "ถูกต้อง! น้องหญิง คุณชายหลินเป็บุคคลตัวอย่าง เ้าต้องเชื่อเขานะ เ้าดาวหายนะฉู่อวิ๋นนี่จู่ๆ ก็โผล่มา การโจมตีจากสัตว์ปีศาจเมื่อครู่ก็อาจจะมาจากมันก็ได้”
“พอแล้ว หยุดพูดได้แล้ว!”
ใบหน้าของมู่หรงซินเปลี่ยนเป็เ็า พลังปราณของนางเพิ่มขึ้นเปล่งรัศมีไปทั่วร่าง ทำให้ทั้งมู่หรงเหิงและหลินหล่างหน้าเปลี่ยนและถอยหลังไปครึ่งก้าว
“น้องหญิงที่แสนดีของข้า! ทำไมเ้าถึงต้องคอยปกป้องมันตลอดด้วย? หรือคำพูดของพี่ชายเช่นข้าสู้คนแปลกหน้าที่รู้จักมาไม่ถึงครึ่งวันไม่ได้?” มู่หรงเหิงสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับทัศนคติที่น้องสาวมีต่อฉู่อวิ๋น ั้แ่กลับมานางก็เหมือนจะแปลกไป
ดวงตาของมู่หรงซินหยุดนิ่ง ลมหายใจชะงักงัน
ใช่? ทำไมถึงต้องปกป้องฉู่อวิ๋นมากนัก?
ทั้งๆ ที่เขาก็เป็แค่อันธพาลตัวเหม็นที่เอาเปรียบนาง แถมตอนนี้ยังทำตัวลอยนวล
ทั้งๆ ที่ตนพูดไว้ชัดเจนว่าจะสั่งสอนเขา แต่ทำไมถึงกลับกลายมาปกป้องเขาได้เล่า?
ทว่ามู่หรงซินกลับจำฉากที่ฉู่อวิ๋นร่อนลงมาจากท้องฟ้าและดึงนางกลับมาจากประตูนรกได้ในทันที นั่นทำให้หัวใจของนางสั่นสะท้าน
“หยุด...หยุดพูด! ข้าจะไม่ฆ่าเ้าตัวนี้ มันน่ารักเสียขนาดนั้น ข้าตัดใจทำไม่ลง เราไปเอาดอกปี้หลิงแล้วออกไปกันเถอะ” มู่หรงซินหันกลับมาราวกับว่านางไม่อยากให้คนอื่นเห็นดวงตาของนางในเวลานี้
แต่หลินหล่างยังคงสังเกตเห็นความอ่อนโยนเล็กน้อยในดวงตาของมู่หรงซิน
“ฉู่อวิ๋นคนนี้เก็บไว้ไม่ได้!”
หลินหล่างค่อยๆ รับรู้ว่าฉู่อวิ๋นจะเป็อุปสรรคสำคัญสำหรับเขาในการเข้าใกล้มู่หรงซิน
หรือกระทั่งเป็ศัตรูความรัก
ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็เ็า เขาควบรวมมีดวายุหกใบที่หมุนอยู่ในมือทันที ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวอย่างรุนแรง ก่อนจะขยับฝ่ามือเหวี่ยงมีดวายุทั้งหกใบออกไป
“คมมีดหกวังวน!”
"วี้ดวี้ด-"
มีดวายุทั้งหกใบก่อให้เกินฝุ่นควันขมุกขมัวเต็มท้องฟ้า ก่อนจะแยกออกเป็หกทิศ และพุ่งตรงไปที่ฉู่อวิ๋นด้วยความเร็วสูง
เมื่อััได้ถึงใบมีดอันน่าสะพรึงกลัว มู่หรงซินก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง นางหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็วและพยายามต้านไว้ แต่ก็สายเกินไปแล้ว!
ฉู่อวิ๋นจ้องมองมีดวายุที่เร็วและคมทั้งหกใบโดยไม่กล้าประมาทเลย การเคลื่อนไหวนี้เป็ท่าสังหารของหลินหล่างแน่ๆ!
การโจมตีเต็มรูปแบบจากนักรบระดับห้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ ไม่ใช่เื่เล็กๆ เลย!
“สลายไปซะ!”
มองเห็นกระบี่เศวตรรุ้งฟาดฟันออกไป รังสีกระบี่แสงดาวสามสิบหกมรรคาเปล่งประกายผ่านอากาศ แสงสีม่วงส่องสว่างทอประกาย ปรากฏเงาสีรุ้งพาดท้องฟ้าให้ตกตะลึง!
ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว ฉู่อวิ๋นก็ใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาสกัดกั้นมัน!
“วิ่ววิ่ว——”
คมมีดหกวังวนปะทะกับปราณกระบี่กระแสดารา เกิดลมกระโชกแรงพัดพาสมุนไพรทุกชนิดในทะเลแห่งโอสถให้พริ้วไหว แม้แต่พี่น้องมู่หรงยังต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง
ด้านหลังของฉู่อวิ๋นมีเ้าก้อนขนตัวน้อยกะพริบตาดวงโตอยู่ เมื่อมันเห็นพลังกระบี่ที่อยู่ตรงหน้า เสียงคำรามของกระบี่อันแหลมคม และลมที่พัดกรรโชกแรง มันก็ตัวสั่นทันทีด้วยความกลัว ไม่นานก็หลั่งน้ำตาออกมา
"จิ๊ด!"
ทันใดนั้น เ้าก้อนขนตัวน้อยก็ส่งเสียงร้อง ขนสีเหลืองอ่อนบนตัวกลายเป็สีทองและเปล่งประกายแวววาวสุกสกาว!
"ตึง!"
ชั่วขณะนั้น แสงสว่างหนึ่งสายก็พุ่งไปที่ลูกตะกร้อขนเล็กๆ และกระจายอย่างรวดเร็วไปในทุกทิศทาง ในที่สุดก็ก่อตัวเป็เกราะอากาศทรงกลมสีทองที่ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางของทะเลแห่งโอสถไว้ทั้งหมด
กระแสดาราและคมมีดหกวังวนของทั้งคู่เมื่อัักับแสงที่ส่งลงมาก็สลายหายไปทันที
“อ๊ะ! เกิดอะไรขึ้น?” ฉู่อวิ๋นดูใ เขามองไปรอบๆ และเห็นว่าตนเองอยู่ในเกราะอากาศสีทองกับลูกสัตว์ปีศาจ ในขณะที่มู่หรงซินและคนอื่นๆ ถูกกันแยกออกไปด้านนอก
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนสับสนและตกตะลึง จู่ๆ ลูกตะกร้อขน เล็กๆ นั่นก็โจมตีและกวาดล้างพลังกระบี่และใบมีดอันแหลมคมที่น่ากลัวเ่าั้ออกไป
เ้าสิ่งเล็กๆ ที่ดูน่ารักนี้ ไม่ธรรมดาเลย!
มู่หรงซินเป็คนแรกที่มีปฏิกิริยา จากนั้นดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็เ็า นางก้าวไปสองสามก้าวแล้วตบหน้าหลินหล่างอย่างแรง!
"เพียะ!"
ทันใดนั้น นอกจากรอยขีดข่วนบนใบหน้าของหลินหล่างแล้ว ยังมีรอยฝ่ามือสีแดงสดเพิ่มมาอีกด้วย
“น้องหญิงซิน! เ้า...เ้าตบพี่ทำไม?” หลินหล่างััใบหน้าที่ร้อนผ่าวแล้วมองมู่หรงซินอย่างไม่เชื่อ
มู่หรงซินเข้าใกล้เกราะอากาศ หันหลังให้หลินหล่าง และพูดอย่างเ็า "ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าแตะต้องเขา! แต่ท่านกลับไม่ฟัง! ซ้ำยังโจมตีเขาด้วยคมมีดหกวังวน? ออกไป ออกไปให้พ้นหน้าข้า!
“เ้าตบพี่เพราะไอ้หายนะนั่นหรือ? พี่ทุ่มเทให้เ้าทั้งกายใจ แล้วเ้าเล่า...เ้ากลับมาตบพี่งั้นหรือ!”
ดวงตาของหลินหล่างเต็มไปด้วยความสับสน ความโกรธ และความคับข้องใจ เขาไล่ตามจีบมู่หรงซินมานาน แต่เขาก็ยังไม่ดีเท่าฉู่อวิ๋นที่ทุกคนะโขับไล่
ในเวลานี้ มู่หรงเหิงก็ส่ายหน้า ดึงหลินหล่างออกไปนอกทะเลแห่งโอสถ และถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขาเองก็ใที่น้องสาวเขากล้าตบหลินหล่างจริงๆ เพื่อฉู่อวิ๋น
ในเวลานี้ มู่หรงซินเข้าไปใกล้เกราะอากาศ เมื่อยกมือขึ้นััก็พบว่ามันแข็งแกร่งมาก นางลองต่อยไปสองสามหมัดแต่ถูกแรงเด้งสวนกลับ ทำให้ต้องถอยกลับไปหลายก้าวเพื่อทรงตัว
“เ้าสารเลว! เป็อะไรหรือเปล่า? ได้ยินข้าหรือไม่?” มู่หรงซินกังวลเล็กน้อยและะโหาฉู่อวิ๋นที่อยู่ในเกราะอากาศ
“ข้าไม่เป็ไร!” ฉู่อวิ๋นเดินเข้ามาหามู่หรงซินและเคาะเกราะอากาศ ทำให้คลื่นพลังกระเพื่อมเล็กน้อย “เกราะอากาศนี้ดูเหมือนจะทำลายยาก เ้าตัวน้อยนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ธรรมดา
“เ้าถูกขังไว้ข้างในแล้ว! เอ่อ...ถ้า...ถ้าเ้าออกมาไม่ได้ ดอกปี้หลิงก็เก็บกลับมาไม่ได้สิ” มู่หรงซินกลอกตา น้ำเสียงของนางแปลกไปเล็กน้อย
“ข้าจะไปดูเ้าตัวเล็กหน่อย ไม่ต้องห่วง ไม่เป็ไรหรอก”
"ระวังตัวด้วย!"
ฉู่อวิ๋นพยักหน้า จากนั้นก็หันกลับไปทางลูกตะกร้อขนเล็กๆ นั่น
เมื่อเ้าก้อนขนตัวน้อยเห็นฉู่อวิ๋นเข้ามาใกล้ก็ะโถอยหลังไปหนึ่งก้าว ดวงตากลมโตของมันยังมีน้ำตาคลออยู่เล็กน้อย แต่เห็นได้ชัดว่าไม่หวาดกลัวเท่าเมื่อครู่
“หนูน้อย ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำร้ายเ้าหรอก” ฉู่อวิ๋นค่อยๆ เดินเข้าไปหาลูกตะกร้อขนเล็กๆ แล้วย่อตัวลง เหยียดฝ่ามือออกเพื่อแสดงความเป็มิตรกับมัน
“จิ๊ด?”
เ้าก้อนขนตัวน้อยตัวสั่นและจ้องไปที่ดวงตาของฉู่อวิ๋นอยู่นาน มันะโไปมาสองสามครั้ง แต่ก็ยังมีความระแวดระวังอยู่บ้าง
เห็นได้ชัดว่าเ้าสิ่งนี้ใการปะทะกันของฉู่อวิ๋นกับหลินหล่างเมื่อครู่
สักพักหนึ่ง ฉู่อวิ๋นก็ใจเสียเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเ้าก้อนขนตัวน้อยยังคงมีสีหน้าหวาดกลัว
“เ้าตัวน้อยนี้ค่อนข้างจะกลัวคน แล้วเราจะลดความหวาดกลัวของมันลงได้อย่างไร?”
“ถ้ายังให้มันปล่อยเกราะอากาศนี้ออกมาไม่หยุด ข้าก็จะออกไปข้างนอกไม่ได้ ถ้าตอนกลางคืนมีสัตว์ปีศาจระดับสูงเข้ามาอีก ข้าคงได้ตายจริงๆ แน่”
ฉู่อวิ๋นถอนหายใจ วันนี้เขาพบกับปัญหามากมายเหลือเกิน
หลังจากไตร่ตรองดีๆ แล้ว ฉู่อวิ๋นก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา
“เ้าตัวน้อยนี้ ถ้าอยู่ในทะเลแห่งโอสถ อาจชอบวัตถุดิบยาก็ได้”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็เผยรอยยิ้ม หยิบสมุนไพรและดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเก็บมาก่อนหน้านี้ออกมา และยื่นไปตรงหน้าลูกตะกร้อขนเล็กๆ "มา! เ้าตัวน้อย พี่ชายจะป้อนเ้าเอง"
"จิ๊ด..."
แต่เมื่อลูกขนตัวน้อยเห็นวัตถุดิบยาเ่าั้ มันก็ทำท่าดูถูก แสดงสีหน้ากระสับกระส่าย และหาวใส่
“ข้าจะเป็ลม! นี่เ้าดูถูกสมุนไพรของข้าหรือ?” ฉู่อวิ๋นยกยิ้มขมขื่น เ้าตัวน้อยนี่ เื่มาก! เห็นได้ชัดว่ามันอยู่ในทะเลแห่งโอสถมานานและหมดความสนใจต่อวัตถุดิบยาธรรมดาไปแล้ว
สุดท้าย ฉู่อวิ๋นก็หยิบผลไม้ออกมาอย่างลังเล นี่คือนิลุบลเจ็ดวิญญาที่หายาก มูลค่านับหมื่นเหรียญทอง
“หนึ่งหมื่นเหรียญทองเชียวนะ! ถ้าเ้าไม่ชอบมัน เช่นนั้นข้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว” ฉู่อวิ๋นกัดฟัน แล้วยื่นนิลุบลเจ็ดวิญญาให้กับเ้าลูกตะกร้อขนเล็กๆ
คราวนี้ เมื่อเ้าก้อนขนตัวน้อยเห็นผลนิลุบลเจ็ดวิญญา ในที่สุดมันก็เบิกตาโตและเลียลิ้นแผล่บๆ
“จิ๊ด? จิ๊ด?”
ด้วยตาดวงโตของมัน มันมองไปที่ผลไม้แล้วมองไปที่ฉู่อวิ๋น ราวกับถามฉู่อวิ๋นว่ามันกินผลไม้นี้ได้หรือไม่
"ใช่ใช่! ผลไม้นี้ให้เ้ากินเลย" เมื่อเห็นท่าทางน่ารักของเ้าก้อนขนตัวน้อย ฉู่อวิ๋นก็โกรธไม่ลง
"จี๊ด~"
เ้าก้อนขนตัวน้อยเหมือนจะเข้าใจคำพูดของฉู่อวิ๋น มันมีความสุขขึ้นเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดมันก็ะโขึ้นไปบนฝ่ามือของฉู่อวิ๋นและกินผลนิลุบลเจ็ดวิญญาหมดภายในคำเดียว
หลังจากกินเสร็จแล้ว เ้าก้อนขนตัวน้อยก็เรอออกมา
ฉู่อวิ๋นลูบขนสีเหลืองอ่อนของมันและพูดอย่างโมโห "เ้าโลภเอ้ย เ้ากินหมื่นเหรียญทองของข้าไปเชียวนะ! เอาล่ะ...รีบปลดเกราะอากาศออก ข้าจะไม่ทำร้ายเ้า "
เดิมที ลูกตะกร้อขนเล็กๆ นี่ยังคงหรี่ตา เพลิดเพลินไปกับััของฉู่อวิ๋น แต่หลังจากได้ยินคำพูดของเขา มันก็ปล่อยเสียง "จิ๊ด" ออกมาทันที จากนั้นจึงลงจากฝ่ามือแล้วะโไปยืนข้างๆ ดอกปี้หลิง
“นี่ เ้าตัวน้อย! อย่าหนีนะ!”
ฉู่อวิ๋นรีบติดตามไปก็เห็นลูกตะกร้อขนเล็กๆ กำลังะโไปรอบๆ ลานโล่งและส่งเสียงแหลมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เ้า...อยากให้ข้าขุดตรงนี้หรือ?” ฉู่อวิ๋นถาม
“จิ๊ด~” เ้าก้อนขนตัวน้อยกะพริบตา คล้ายว่ายืนยัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้