หรูฮูหยินยิ้มสดใสสตรีวัยเยาว์ข้างกายนาง กลับมองตู้ซินถงอย่างพิจารณา มองอย่างระมัดระวัง ค่อยๆเดินเข้ามาข้างกายของตู้ซินถงอย่างช้าๆ
จะด้วยความแปลกใจก็ดีหรือการจู่โจมเข้ามาด้วยหัวใจของสาวน้อยก็ดี ตู้ซินถงล้วนจัดการด้วยวิธีปกติ นั่นคือเมินเฉย
เขาหาสถานที่ที่มีคนน้อยแล้วไปห่อตัวเข้าด้านในเก้าอี้ หลับตาลง แล้วนอนหลับตามปกติ
ทว่าเหมือนในวันนี้เขาจะไม่สามารถนอนได้ง่ายๆเท่าใดนัก
ข้างหูคอยมีเสียงสอบถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นไม่หยุด
“เ้าเอาแต่หมกตัวอยู่ในเรือนไม่เคยออกมาข้างนอกเลยหรือ? น่าสงสารจริงเ้าเติบโตมาได้อย่างไรกัน?หากจะเอ่ยพูด เ้าพูดกับเงาของตัวเองหรือ? ตอนเด็กๆข้าเพียงหมกตัวอยู่ในเรือนเพียงครู่เดียว ก็ทรมานใจจนอยากจะร้องไห้แล้ว…”
ตู้ซินถงขมวดคิ้วเขายังคงเ็าเหมือนเช่นเคย แต่วันนี้สตรีที่แสนร่าเริงคนนี้8]hkpจะไม่ถูกความเ็าของเขาทำให้ใเลยแม้แต่น้อย
กลับกันจนถึงตอนนี้เขายังไม่เอ่ยปากพูดออกมาสักคำ แต่สตรีนางนี้กลับยังกระตือรือร้นที่จะพูดกับเขา
“ความจริงแล้วข้าอิจฉาผิวพรรณของเ้ามากเลยนะชุ่มชื่นเพียงนี้ ทั้งยังนุ่ม มิน่าเล่าพี่ๆทั้งห้าคนของข้าถึงได้พูดถึงเ้าตลอดเลยก่อนหน้านี้พวกเขาพูดว่าเ้าหน้าตาเป็อย่างไร ข้ายังไม่ค่อยเชื่อเท่าใดตอนนี้พอมาได้เห็น ข้าย่อมเชื่อแล้ว เ้าบอกมาสิว่าเ้าบำรุงผิวของตนเองอย่างไร? อ๋อั้แ่เล็กจนโตเ้าอยู่แต่ในห้อง ดังนั้นจึงไม่ค่อยชอบพูด เฮ้อ น่าสงสารจริงๆข้าล่ะสงสัยนัก เ้าพูดได้หรือไม่…”
ตู้ซินถงพลิกตัวอีกครั้งคุณหนูผู้สดใสร่าเริงคนนี้ ดูเหมือนจะร่าเริงไปเสียหน่อย
ไม่สนใจแล้วคิดเสียว่าเป็เสียงแมลงวันแล้วกัน
ดังนั้นคุณหนูที่ขึ้นชื่อเื่ความเกียจคร้าน หลังจากพลิกตัวอีกครั้ง กลับนอนหลับไปเสียแล้ว
เหยียนอู๋พูดอยู่นานอีกฝ่ายกลับไม่คิดจะสนใจ นางเองก็ไม่ได้โกรธ รอจนกระทั่งนางพูดเสร็จแล้ว จึงพบว่าสตรีที่นอนอยู่บนเก้าอี้ตอนนี้ได้หลับสนิทไปแล้ว
เมื่อมองพิจารณาผิวของนางใกล้ๆและใบหน้ารูปไข่ทั้งหมดของนาง ล้วนทำให้คนมองรู้สึกดี
โดยเฉพาะขนตางอนของนางตามด้วยลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ดูแล้วคล้ายปีกผีเสื้อขยับ
นางที่น่ารักเช่นนี้ทำให้เหยียนอู๋เกิดความรู้สึกชอบใจอยากจะััดูสักครั้งนางจึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป หมายจะััสาวงาม
“แค่ก…”
ทว่ามือของนางยังไม่ทันจะได้ััคนที่หลับตาอยู่กลับลืมตาขึ้นมา
ดวงตาใสแวววาวราวกับดวงดารามองนางอย่างไร้อารมณ์หัวใจของเหยียนอู๋เต้นโครมครามไม่หยุด
“ข้าข้า ข้าคือ…”
นางอยากจะอธิบายแต่อีกฝ่ายเพียงแค่หันหลังใส่นาง ก่อนหลับตาลงใหม่และจมลงสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
“เ้านี่นอนเก่งจริงเชียวแต่ทำอย่างไรดี ข้าชอบมากเ้ามากเลย? เฮ้อทั้งๆ ที่เ้าเป็สตรีคนหนึ่ง ข้าเองก็สตรี แต่ข้ากลับอยากที่จะห่วงใยเ้า”
เหยียนอู๋พูดเองเออเองทั้งๆ ที่ควรจะออกไป แต่กลับไม่ยอมลุกขึ้นแล้วเหม่อมองเขาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งหนิงเซียงเดินมา
เมื่อเห็นสตรีผู้จมอยู่กับความหลงใหลนางพลันขมวดคิ้วไม่พอใจเล็กน้อย รู้สึกเหมือนว่าของที่เดิมทีเป็ของตนเองได้ถูกคนจ้องอยากได้อย่างไรอย่างนั้น
“แม่นางเหยียนอู๋ท่านจ้องน้องสาวของข้าอย่างหลงใหลเสียแล้วนะเ้าคะ เหอะๆ…โชคดีนะเ้าคะ ที่ท่านไม่ใช่บุรุษไม่เช่นนั้นข้าที่เป็พี่สาวคงต้องพูดกับท่านสักหน่อยแล้ว”
เหยียนอู๋ที่ถูกหนิงเซียงพูดเช่นนี้ใบหน้าพลันหน้าแดงขึ้นมา
“ท่านพี่ข้า…ข้าชอบมองน้องอู๋ซวงมากจริงๆ เ้าค่ะ ท่านคงไม่เห็นว่ามันแปลกใช่หรือไม่?”
เมื่อเห็นใบหน้าแดงของนางหนิงเซียงกลับตลกไม่ออก ยกเท้าเตะบุรุษที่ยังนอนหลับสนิทอยู่
“อู๋ซวงอากาศหนาวแล้ว พวกเรากลับกันเถิด”
ตู้ซินถงที่กำลังงัวเงียมากทำตามคำสั่งโดยไม่พูดอะไรหลับตาลุกขึ้นยืน ปล่อยให้หนิงเซียงจูงมือเดินออกไปด้านนอก
ด้านหลังมีสายตาหลงใหลของเหยียนอู๋คอยมองตามแผ่นหลังของเขานิ่ง
“สตรีคนนี้ความงดงามก็คืองดงาม นางจะไม่มีความคิดที่้ามีชีวิตได้อย่างไรรู้สึกว่านางใช้ชีวิตไปวันๆ เฮ้อ เป็อย่างที่คิด ชีวิตคนเราไม่มีชีวิตที่สวยงามสมบูรณ์พร้อมไปเสียหมดหรอก แต่จะพูดอย่างไรข้าก็มีมารดาที่รักข้าเอ็นดูข้านี่นะ ฮ่ๆ คนเราน่ะ จะรู้ถึงคุณค่าเมื่อรู้จักพอ”
เสียงหัวเราะของเด็กสาวหนิงเซียงฟังแล้วก็ถอนหายใจออกมา
“เฮ้อข้าไม่มีทางมีเสียงหัวเราะที่สดใสสมบูรณ์แบบเช่นนี้อีกแล้วเห็นเด็กสาวที่อ่อนเยาว์เช่นนี้ ข้าพลันมีความรู้สึกว่าตนเองแก่ชราเหมือนกัน”
“เดิมทีท่านก็ไม่ได้อายุน้อยแล้ว”บุรุษที่หลับตาอยู่กลับพูดเสริมขึ้นมา
ด้วยความโกรธหนิงเซียงจึงปล่อยมือออกทันทีผู้ใดจะรู้ว่าตัวของบุรุษผู้นี้จะโค้งลง มือทั้งสองข้างโอบกอดนางเอาไว้ “ท่านพี่ ท่านจะทิ้งข้าไปไม่ได้นะ”
เขายู่ปากด้วยท่าทางแง่งอน
หนิงเซียงขมวดคิ้วมองคนบัดซบเช่นเ้าเล่นละครได้เข้าถึงบทบาทจริงๆ ทำตนเองเป็สตรีไปแล้ว
แต่เมื่อเห็นสายตาหลงใหลหลายคู่ที่มองอยู่ไกลๆนางจึงอดทนความไม่พอใจเอาไว้ และพยุงนางเดินไปด้านนอกด้วยกัน
“ฮ่าๆจะไม่สนใจเ้าได้อย่างไร ข้าเพียงสั่งสอนเท่านั้น”
ตู้ซินถงเอนตัวพิงอยู่ที่ตัวนางแขนทั้งสองข้างกอดนางแน่น
“อืมท่านพี่เป็เด็กดีจริงๆ ข้าชอบท่านที่เป็เช่นนี้ที่สุด วันนี้ข้าไม่มีแรงแล้วท่านพี่จะต้องพยุงข้าดีๆ นะ”
หนิงเซียงเหนื่อยแล้วเดิมทีร่างกายของนางก็ไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้ถูกสตรีปลอมผู้นี้มากอดอีก ทำให้แม้เพียงจะเดินก็ลำบากมากขึ้น
“ประเสริฐประเสริฐ…ประเสริฐ…”
สิ่งใดคือการรนหาที่ตาย?
นางในวันนี้ได้ลิ้มรสความขมขื่นแล้ว
เดิมทีนางอยากจะทำร้ายบุรุษผู้นี้แรงๆเหตุใดถึงได้เปลี่ยนมานางที่ถูกเขาจัดการเสียได้ล่ะ?
พอขึ้นรถม้ามายิ่งคิด หนิงเซียงยิ่งไม่พอใจ
นางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของบุรุษที่หลับตาอยู่อยากจะดูให้เข้าใจชัดแจ้งว่าเหตุใดบุรุษผู้นี้ นอนหลับลงไปได้อย่างไร?
ทั้งยังนอนหลับได้ทั้งวี่ทั้งวันเขาง่วงนอนเช่นนั้นเชียวหรือ?
“บนใบหน้าของข้ามีตัวหนังสือเขียนอยู่หรือเ้ามองข้าเช่นนี้ ข้าจะคิดว่าเ้าตกหลุมรักข้าแล้วนะ หรือ…ชอบข้าแล้ว หรือเ้าอยากจะกินข้าวางใจเถิด ตอนนี้ข้าสามารถนอนให้เ้าทำตามใจชอบได้เลย เ้าอยากจะทำอย่างไรก็ได้”
“ข้าจะกินเ้า? เ้าน่ะหรือทั้งเ้ายังนอนปล่อยให้ข้าทำอีก นี่ เ้าคิดจะขายตัวเองแล้วหรือไร? แม้จะขายเ้าจะต้องเข้าใจถึงการใช้แรงบ้างถูกหรือไม่?”
“ไม่เข้าใจข้ารู้เพียงการเสพสุขอย่างเดียวเท่านั้น เหตุใดจะต้องใช้แรงด้วย?” บุรุษที่เดิมทีหลับตาแน่นอยู่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
ดวงตางามราวดอกเหมยกุยจ้องไปยังหนิงเซียงสีสวยสดใสนั้นทำให้จิตใจของนางสั่นไหว
อดยอมรับไม่ได้เลยว่าความงามทำให้คนหลงผิด
แม้นางจะมองบุรุษผู้นี้ทุกวันแต่งหน้าให้เขาทุกวัน ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาคือบุรุษ แต่เมื่อเห็นความงดงามนี้ ตอนที่ริมฝีปากสวยขยับนางกลับมีความรู้สึกอยากกินมันเข้าไป
ในวินาทีนี้นางมีความรู้สึกราวกับบุรุษที่ปรารถนาสตรีคนหนึ่ง…
เมื่อรู้สึกได้ว่าตนเองแปลกไปตอนที่หนิงเซียงกำลังจะดึงสายตากลับไป
ผู้ใดจะคิดว่าบุรุษที่เพิ่งปิดตาอยู่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเขาจ้องใบหน้ารูปไข่ของหนิงเซียงที่เหมือนจะแดงระเรื่อขึ้นมา
“แม้แต่เ้ายังมีความคิดที่อยากจะกินข้าแล้วหรือ? ข้าคิดมาตลอดว่าเ้าไม่เหมือนผู้ใด…”
เขาแย้มยิ้มเ้าชู้ออกมาก่อนจะยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ เชยคางนางขึ้นก่อนที่ปลายนิ้วจะลูบไปมาเบาๆ
“สตรีเช่นพวกเ้า…เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมต่างเปลี่ยนร่างมาเป็หมาป่าหากเปลี่ยนร่างไปแล้วจะกินบุรุษจนหมดเกลี้ยง จากนั้นจะโยนพวกเขาไปด้านข้าง หืม…”
เขาเข้ามาใกล้ใบหน้าของนางปลายนิ้วลูบไปช้าๆ น้ำเสียงยังแฝงความคลุมเครือเอาไว้…
กลิ่นอายอุ่นร้อนเป่ารดอยู่บนใบหน้าตรงจุดที่เขาหายใจรดต่างร้อนขึ้นมา…
“ท่านบุรุษเ้าคิดว่าตนเองเป็คนที่ผู้ใดเห็นต่างก็รักจริงๆ หรือ? อาฮ้าเ้านี่…เข้าข้างตนเองเก่งจริงๆ ข้าจะบอกเ้าให้นะบนโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงเ้าที่หน้าตางดงามเช่นนี้ แต่มากไปกว่านั้นเ้าหน้าตาสวยไม่เลวทว่าน่าเสียดาย เ้าไม่ใช่บุรุษที่เติบใหญ่ จะบุรุษหรือสตรีย่อมแยกยากบุรุษของเฉินเนี้ยนหราน ใบหน้าของเขาคล้ายกับเ้า แต่ยามมองไปที่เขากลับไม่มีความรู้สึกราวกับแยกเพศไม่ออกมีเพียงผู้แข็งแกร่งน่าเคารพนับถือคนหนึ่ง ท่านบุรุษ ข้าเสียใจแทนเ้า”
มุมปากของหนิงเซียงยกยิ้มได้ใจหลังจากได้ยินคำพูดนั้น สุดท้ายตู้ซินถงจึงแข็งค้างไป
มือที่บีบคางของนางปล่อยออกด้วยความเศร้าสลด
ตู้ซินถงพิงไปด้านหลังแล้วหลับตาลงอีกครั้ง
แม้เขาจะไม่พูดไม่จาอีกแต่กลิ่นอายเศร้าซึมกลับค่อยๆ ขยายเต็มคันรถ…
ในตอนนั้นหนิงเซียงพลันรู้สึกว่าตนเองโจมตีบุรุษคนนี้รุนแรงเกินไปสักหน่อย
เมื่อคิดเช่นนี้ทั้งสองคนต่างลงจากรถม้าด้วยใบหน้าทะมึน
ทำให้เฉินเนี้ยนหรานซึ่งรออยู่ที่เรือนตลอดครั้นเห็นใบหน้าทะมึนของทั้งสองคน จึงทำได้แต่เข้าใจผิดไปว่า…ชุดหนังสัตว์ของตนเองคงจะไม่สวยงาม
เมื่อเห็นเป็เช่นนี้แม้จะอยากถาม แต่นางกลับไม่กล้าเข้าไปถาม
จึงทำได้แค่ทำอาหารอร่อยๆเงียบๆ รอทานข้าวเสร็จ ขณะที่หนิงเซียงได้พูดถึงหรูฮูหยินว่านางมีความคิดจะให้ลูกสาวของนางคนนี้เป็คนเผยแพร่เชิญชวนให้นางถึงได้ใขึ้นมาทันที
“อาจะบอกว่าที่พวกเ้าออกไปกันครั้งนี้ ดูตลาดของเสื้อหนังนี้ดีแล้ว?”
“แน่นอนสิข้าพูดว่าเสื้อหนังของเ้ามันไม่ดีเมื่อใดกัน? ยามนี้พวกเขาสนใจร้านแหล่งรวมความงามของเ้ากันมากแล้วเฮ้อ จริงสิ ทางด้านโจวอ้าวเสวียนเป็อย่างไรบ้างแล้ว? ยังไม่มีข่าวคราวอีกหรือ?”
หนิงเซียงที่นอนพาดบนโต๊ะด้วยความเกียจคร้านจะมองอย่างไรก็ดูไม่ร่าเริง
พอถามเื่โจวอ้าวเสวียนขึ้นมาจึงเปลี่ยนน้ำเสียงเป็งานเป็การขึ้นมา
“เขายังสบายดี ได้ยินเสี่ยวอู่บอกว่า เขาในตอนนี้ได้กลายเป็นกน้อยในกรงทองอยู่ข้างในนั้นคาดว่าคงใกล้จะทำภารกิจเสร็จแล้วล่ะ ข้าไม่สนใจแล้ว ข้าในตอนนี้คิดเพียงแต่จะทำร้านชุดสำเร็จรูปและร้านแหล่งรวมความงามสตรีก็พอแล้ว”
“เ้าไม่คิดถึงเขาจริงๆหรือ?”พูดถึงความคิดถึงพวกนี้ จู่ๆ หนิงเซียงพลันชะงักไป
นางลุกขึ้นเพิ่งจะเข้าใจ ั้แ่ไหนแต่ไรร่างที่คอยปรากฏอยู่ไม่ยอมเลือนหายไปใน่นี้กลับค่อยๆ จืดจางลงเรื่อยๆ แล้ว…
