กลิ่นอายแห่งความตายถาโถมเข้าปกคลุมร่างกายของเขาเอาไว้ในเสี้ยววินาที นี่เป็คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอเลยก็ว่าได้ และคนที่เขาพูดถึงอยู่นี้ก็คือลั่วซางนั่นเอง
“หลงเหยียน เ้ากล้าทำร้ายน้องชายข้า ข้าจะเอาชีวิตเ้า!”
หลงเหยียนยังไม่ทันได้พักหายใจด้วยซ้ำ กลิ่นอายแห่งความอันตรายที่รุนแรงจนเขาแทบหายใจไม่ออกก็พุ่งตรงเข้ามาอีกครั้ง
กลิ่นอายแห่งพลังที่แข็งแกร่งปะทุขึ้นทำให้ร่างของเขาชะงักอย่างกะทันหัน เขาไม่อาจขยับร่างกายได้ด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้เขาไม่สามารถต่อต้านการโจมตีอันทรงพลังนี้ได้เลย
“นี่น่ะหรือ ยอดฝีมือระดับชีพมนุษย์ขั้นสูง? เขาทรงพลังและแข็งแกร่งกว่าพยัคฆ์ร้ายจูเก๋อที่เป็ยอดฝีมือระดับชีพมนุษย์เป็หลายเท่าตัวเลยก็ว่าได้ กลิ่นอายแห่งพลังที่กระจายออกมาจากร่างของเขาช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกิน”
หลงเหยียนยังมีความหวังสุดท้ายอยู่ นั่นก็คือการกระทำเมื่อครู่ของตนได้รับการยอมรับจากซือถูหม่ากับคนอื่นๆ แล้ว ไม่แน่พวกเขาอาจจะออกมาช่วยตนก็ได้
ทว่า...
เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินไป ซือถูหม่าและคนอื่นๆ ยังไม่ทันได้ตั้งตัวในสิ่งที่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ หลงเหยียนก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าลั่วซางจะกล้าสังหารตนต่อหน้าพวกเขาเช่นนี้
“ตายซะ” ลั่วซางั์ตาแดงก่ำ สิงโตน้อยเองก็เตรียมพร้อมต่อสู้แล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังแค่ระดับทองคำขั้นที่เจ็ดก็ตาม
ทว่าครั้งนี้หลงเหยียนไม่มีทางปล่อยให้เขาเผชิญหน้ากับความอันตรายอีกแล้ว เพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าของยอดฝีมือที่แท้จริง สิงโตน้อยที่ยังไม่ฟื้นพลังกลับไปแข็งแกร่งดังเดิมนั้นไม่มีทางรับมือได้แน่
“พี่ใหญ่ รีบปล่อยข้าออกไปเร็ว ข้าจะสู้ตายกับเ้านี่!” ราชสีห์หิรัณย์ร้อนรนจนแทบจะเป็บ้าอยู่แล้ว
“สิงโตน้อย อยู่ในถุงผ้าเฉียนคุนต่อไปเถอะ อย่างไรแล้ว ต่อให้ต้องตาย ข้าก็ไม่มีทางนับเ้าเป็พี่น้องอีก” หลงเหยียนมัดถุงผ้าเฉียนคุนจนแ่าั้แ่ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้นแล้ว
ต่อให้ราชสีห์หิรัณย์จะโวยวายหรือะโเสียงดังแค่ไหน หลงเหยียนก็ไม่เปลี่ยนใจ
นี่เป็ครั้งแรกที่ราชสีห์หิรัณย์เป็กังวลเพราะมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งถึงเพียงนี้ ่เวลาที่อยู่ร่วมกับหลงเหยียนทำให้เขารู้แล้วว่าในโลกของมนุษย์นั้น ก็มีเด็กหนุ่มที่ผ่าเผยและเป็มิตรแท้อยู่
ท่ามกลางเสียงอุทานของคนรอบด้าน รังสีพลังอันแสนแข็งแกร่งที่เื้ัของหลงเหยียนพุ่งเข้ามากระแทกกับร่างของเขาอย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกัน ราชสีห์หิรัณย์ก็หลุดออกมาจากถุงผ้าเฉียนคุน และใช้ร่างกายตนเป็เกราะกำบังให้หลงเหยียนเช่นกัน
พลังจากฝ่ามือของลั่วซางกระแทกลงบนร่างของราชสีห์หิรัณย์เข้าอย่างจัง อีกทั้งยังทำให้หลงเหยียนลอยกระเด็นออกไปเช่นกัน
เดิมที หลงเหยียนคิดว่าตนจะตายเสียแล้ว ทว่าราชสีห์หิรัณย์กลับดิ้นรนจนหลุดออกมาจากถุงผ้าเฉียนคุนและรับการโจมตีที่ทรงพลังจนสามารถคร่าชีวิตได้ในเสี้ยววินาทีนี้เอาไว้ก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ลั่วซางรู้สึกประหลาดใจไม่ต่างกัน
ทันใดนั้น หลงเหยียนรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าสถิตอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งตอนที่ร่างกายกระแทกลงกับพื้น เขาก็รู้สึกเหมือนกระดูกทุกชิ้นในร่างเคลื่อนย้ายสลับตำแหน่งกันหมด
“สิงโตน้อย!” หลงเหยียนมองไปยังราชสีห์หิรัณย์ อย่างไรเสียเขาก็เป็ถึงสัตว์เทพ แม้พลังที่แท้จริงยังไม่ฟื้นคืนมา จึงทำให้มีพลังอยู่เพียงระดับทองคำขั้นที่เจ็ด ถึงอย่างไร พลังป้องกันที่แข็งแกร่งจนน่าตกตะลึงของเขาก็ยังอยู่เหนือกว่าทุกคน ณ ที่แห่งนี้อยู่ดี
เมื่อครู่ ตอนที่พุ่งออกมาจากถุงผ้าเฉียนคุน ราชสีห์หิรัณย์ก็ขยายร่างกายของตนให้มีขนาดใหญ่มากถึงห้าเมตรแล้ว
แค่นั้นยังไม่เท่าไร เพราะสิ่งที่น่าใมากกว่านั่นก็คือแรงปะทะจากฝ่ามือเมื่อครู่ ทำให้ราชสีห์หิรัณย์จมเข้าสู่ความบ้าคลั่งอย่างสิ้นเชิง
รอบๆ ร่างกายที่มีขนาดใหญ่ถึงห้าเมตรของมันนั้น มีภาพมายาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ซึ่งภาพมายาที่ว่าก็กินพื้นที่ในลานฝึกไปเกือบครึ่งแล้ว
ภาพมายาแสนยิ่งใหญ่ะเิพลังที่แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนขึ้นในเสี้ยววินาที พลังนั้นแข็งแกร่งพอๆ กับพลังของยอดฝีมือระดับเทพเ้าเลยก็ว่าได้
กลางนภาที่แสนกว้างไกล เงาของสิงโตขนาดใหญ่อ้าปากกว้าง เผยให้เห็นฟันแหลมคมที่ซ่อนอยู่ภายใน ซึ่งภาพนั้นก็ทำให้ลั่วซางใจนขาอ่อนไปหมด
“นี่มันเื่อะไรกัน?”
แม้กระทั่งซือถูหม่าก็ยังมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง ภาพของสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นทำให้เขาสงสัยไม่ต่างกัน เขาเองก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?
“พวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจทั้งหลาย พวกเ้าช่างสมควรตายจริงๆ!”
“โฮก!” เงาของสิงโตหายไปแล้ว เบื้องหน้าหลงเหยียนเหลือเพียงสิงโตขนาดห้าเมตรเท่านั้น เขามองมาที่หลงเหยียนก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆ ลมหายใจก็เริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ เช่นกัน
“สิงโตน้อย! ใครใช้ให้เ้าออกมา เ้าบ้า!” หลงเหยียนพุ่งไปที่ร่างของสิงโตราวกับคนบ้า น้ำตาพลันไหลทะลักออกมาอย่างไม่อาจควบคุม เมื่อคิดถึง่เวลาที่ได้อยู่กับสิงโตน้อย หลงเหยียนก็รู้สึกเ็ปและไม่อยากให้เขาจากไปเลย
“ไม่... ไม่นะ... อย่าตายนะ นี่เป็ครั้งที่สองแล้วที่เ้าช่วยบังการโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิตเช่นนี้ให้ข้า เ้าห้ามตายเด็ดขาด”
หลงเหยียนมองไปยังลั่วซางด้วยสายตาแค้นเคือง เ้าบัดซบ!
เพราะเมื่อครู่เพิ่งใช้พลังปราณไปมาก หลงเหยียนในตอนนี้จึงร่างกายอ่อนแอเหลือเกิน ทว่าสิงโตน้อยกลับดูอ่อนแอยิ่งกว่า หลงเหยียนรู้ดีว่าการบังการโจมตีที่รุนแรงเช่นนั้นให้ตน รวมไปถึงการอัญเชิญภาพมายา ซึ่งเป็รากฐานแห่งพลังออกมาเช่นนี้ ต้องใช้พลังปราณที่มากมายมหาศาลเพียงใด
ดังนั้นตอนนี้สิงโตน้อยจึงอ่อนแอกว่าหลงเหยียนเป็สิบๆ เท่าเลยก็ว่าได้!
“สิงโตน้อย ขอบคุณสำหรับทุกเื่ที่ทำเพื่อข้า” พูดจบ หลงเหยียนก็กอดสัตว์อสูรระดับทองคำขั้นที่เจ็ดแล้วร้องไห้โฮออกมาภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงของผู้คน
เมื่อคิดย้อนไปถึงภาพมายาของอสูรขนาดใหญ่เมื่อครู่ คิดถึงตอนที่ภาพมายาพูดภาษาคนออกมา ทั้งหมดที่เกิดขึ้นช่างน่าพิศวงและน่าหวาดผวาเหลือเกิน มีแค่หลงเหยียนเท่านั้นที่รู้ว่านั่นเป็ภาพมายาที่สัตว์เทพสร้างขึ้นด้วยพลังจิตอันกล้าแกร่งที่มีนั่นเอง คาดว่าในตอนนั้น สิงโตน้อยคงโมโหแทนหลงเหยียนมากจริงๆ
หลงเหยียนนำสมุนไพรวิเศษออกมาจากถุงผ้าเฉียนคุนอย่างรีบร้อน มีทั้งเมล็ดผักกาดน้ำ โต่วต๋ง อึ่งแปะ เน็กซังโย้ง ไป๋จี๋ รวมไปถึงยาจินเหนี่ยว ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาาแทั้งสิ้น เมื่อได้ยามาแล้วก็นำมันเข้าปากของราชสีห์หิรัณย์อย่างเสียสติ
หลงเหยียนนั่งขัดสมาธิ ยื่นมือเข้าไปแตะที่ร่างขนาดใหญ่ของราชสีห์หิรัณย์
พลังปราณถูกส่งเข้าร่างของราชสีห์หิรัณย์อย่างเชื่องช้า หลอมให้ยาจินเหนี่ยวรวมไปถึงสมุนไพรวิเศษอื่นๆ ในร่างของราชสีห์หิรัณย์ละลายลง
หลงเหยียนรีบขุดคุ้ยความทรงจำเกี่ยวกับเนื้อหาในตำราแพทย์ที่นักหลอมยาเคยมอบให้เขาในอดีต ตอนนั้น เพราะมีเวลาไม่มาก ก่อนออกมาจากหุบเขาผีเสื้อ เขาจึงนำยาสมุนไพรติดไม้ติดมือออกมาด้วยจำนวนไม่น้อยเลย
หลงเหยียนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนทำจะมีผลต่อสัตว์เทพหรือไม่ ทว่าหากยังมีความหวังแม้เพียงน้อยนิด หลงเหยียนย่อมไม่มีทางยอมแพ้แน่
เมื่อครู่เขาใช้พลังปราณมากเกินไป ทำให้พลังหยางได้รับความเสียหายไปด้วย หากอยากจะรักษาราชสีห์หิรัณย์ หลงเหยียนต้องส่งพลังปราณเข้าไปในร่างกายของเขาเสียก่อน จากนั้นค่อยใช้ยาสมุนไพรทั้งหลายรักษาและฟื้นฟูผลึกพลังแก่เขาอีกครั้ง
และนี่ก็คือการรักษาโรคจากต้นเหตุนั่นเอง...
“สิงโตน้อย รีบลืมตาขึ้นมาสิ ตัวข้าสั่งให้ลืมตาอย่างไรเล่า เ้าห้ามตายเด็ดขาด...”
การกระทำของหลงเหยียนทำให้ผู้คนรอบด้านมองมาที่เขาด้วยสายตาตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำเพื่อสัตว์อสูรระดับทองคำขั้นที่เจ็ดได้ขนาดนี้ ถึงขั้นส่งพลังปราณของตนให้มันเลยทีเดียว เกรงว่าคงจะมีแค่เขาเท่านั้นที่ทำเื่โง่เง่าเช่นนี้ได้
“เ้าหนุ่มคนนี้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม น่ายกย่องจริงๆ กับสัตว์อสูรเขายังทำถึงเพียงนี้เลย นับประสาอะไรกันคนด้วยกัน!” แม้กระทั่งซือถูหม่าที่อยู่้าก็ยังอดซาบซึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
เพราะในเมืองหยุนจง โดยปกติแล้ว นักรบบางกลุ่มมักจะรับสัตว์อสูรที่มีพร์มาเลี้ยงเอาไว้เพื่อให้พวกมันป้องกันภัยแก่เ้านาย จึงไม่ใช่เื่แปลกที่สัตว์อสูรจะยอมสละตนเพื่อปกป้องเ้านายของตน อย่างไรก็ตาม การที่เ้านายยอมถ่ายพลังปราณเพื่อช่วยชีวิตสัตว์อสูร ดูเหมือนเื่เช่นนี้จะไม่คุ้มค่าสักเท่าใด
ทว่าเด็กหนุ่มคนนี้กลับแตกต่างออกไป แค่ดูจากการกระทำก็รู้แล้วว่าชายคนนี้มีคุณธรรมมากเพียงใด เขาเป็คนมีน้ำใจ ทั้งยังรักความถูกต้องและเที่ยงธรรมเป็ที่สุด เขายอมมอบพลังปราณทั้งหมดของตนเพื่อช่วยชีวิตสัตว์อสูรตัวหนึ่ง ซึ่งที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อความถูกต้องและเที่ยงธรรมนั่นเอง
วินาทีนั้น การกระทำของหลงเหยียนก็ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์รู้สึกซาบซึ้งใจเป็อย่างมาก ภาพลักษณ์ของเขาในสายตาของคนทั้งหลายก็ถูกยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว
--------------------