หลังสลัดการโรมรันกับพวกค้างคาวหมูแดนหิมะมาได้ชั่วคราว เรือเหาะอักขระก็หนีด้วยความเร็วสูงสุด ราวกับลูกธนูพุ่งออกจากสาย
ทุกคนบนเรือล้วนมีสีหน้าหนักใจ
พวกเขารู้อยู่แก่ใจดีว่าหากถูกพบโดยเผ่าปีศาจก็หมายความว่าอาจจะมีหายนะใหญ่หลวงเข้ามากร้ำกลายในไม่ช้า
กองทัพค้างคาวหมูแดนหิมะนั้นไม่น่ากลัว หากเผชิญหน้ากับพวกมันต่อหน้า ในเวลาประมาณสองชั่วโมงก็กำจัดได้หมดสิ้นแล้ว แต่เมื่อเื่เรือเหาะอักขระถึงหูพวกปีศาจ พวกมันย่อมจะตามล่าพวกเขาชนิดพลิกฟ้าหาและเข้าปิดล้อม อาจมีกองทัพปีศาจอื่นเข้ามาสังหารพวกเขาเมื่อไรก็ได้ จำนวนพวกมันมหาศาลชนิดที่พวกเขาไม่อาจฆ่าได้หมด อีกทั้งยังไม่มีที่ใดให้หลบซ่อน ต่อให้มีจอมยุทธ์อาณาทะเลระทมมากุมบังเหียนควบคุมสถานการณ์ คงไม่แคล้วต้องล้มตายเพราะเผ่าปีศาจจำนวนมหาศาลพวกนี้
ตอนนี้มีเพียงหนทางเดียว คือต้องไปจากอาณาเขตภายใต้การควบคุมของราชสำนักปีศาจแดนหิมะให้สำเร็จ ให้ไวที่สุดเท่าที่จะไวได้ ก่อนที่จะมีกองทัพปีศาจหน่วยอื่นเคลื่อนไหว
เรือเหาะอักขระแล่นเร็วเป็ยิ่งยวด
แต่ใจของหลิวจงหยวนและเ่ิูนั้นกลับไม่สงบเอาเลย
เผ่าปีศาจถือกำเนิดและเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ยากแค้น พวกเขามีทักษะการไล่ล่าและแกะรอยชนิดที่มนุษย์จินตนาการไม่ได้
ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่หวังว่าค้างคาวหมูแดนหิมะจะส่งข่าวการมีอยู่ของเรือเหาะนี้ไปไม่ได้ หวังว่าจะเป็เช่นนั้นเพราะเผ่าปีศาจในทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะนี้กำลังปั่นป่วนได้ที่
“เพิ่มกำลังเรือเต็มอัตรา เตรียมใช้อัญมณีแท้และกระบวนอักขระเหาะที่สอง”
หลิวจงหยวนจัดการสั่งการครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนนี้เองที่ความสำคัญของผู้นำอันมากประสบการณ์ได้สาธิตออกมาให้ชมเป็ขวัญตา
เรือเหาะเร่งความเร็วขึ้นทุกชั่วขณะ
มีสหายเป็เสียงหวีดแหลมของอากาศยามแล่นผ่านไป เรือเหาะอักขระทลายชั้นทะเลเมฆที่เรียงตัวกันอย่างรุนแรงราวฟ้าแลบ เหมือนท้องนภาถูกผ่าออกเป็สอง
ตอนนี้พวกเขาไม่สนว่าความเร็วจะเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ไร้การควบคุมถึงเพียงไหน และจะทำให้เผ่าปีศาจจับได้หรือไม่
ความเป็ความตายของพวกเขาขึ้นอยู่กับทุกเสี้ยววินาที
หากพวกเขาสามารถเร่งออกไปจากทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะนี้ได้และลาจากอาณาเขตปกครองของเผ่าปีศาจก่อนที่กองทัพค้างคาวหมูแดนหิมะจะแจ้งข่าวการมีอยู่ของพวกเขาให้กับเผ่าปีศาจระดับสูงกว่าสำเร็จ เช่นนั้นทุกคนบนเรือลำนี้ก็จะอยู่รอด หาไม่แล้ว เส้นด้ายชะตาชีวิตคงใกล้ขาดเต็มที
เร็ว!
เร็วเข้า!
เร็วขึ้นอีก!
ยิ่งเร็วเท่าไร โอกาสรอดก็มีมากเท่านั้น
บนห้องเรือเหาะนั้น อาจารย์เ้าอักขระเหงื่อแตกพลั่ก เขาทุ่มเทกำลังทั้งหมดลงควบคุมแก่นกลางกระบวนอักขระเหาะจนหมดสิ้นแล้ว
บนแผงเกราะ ใบหน้าของเหล่าทหารล้วนเคร่งขรึม พวกเขายืนนิ่งอยู่ในกระบวนอักขระ ถือดาบและหอกพร้อมพรัก เตรียมตัวปะทะกับศัตรูได้ทุกเมื่อ
เซียนภาพและซิ่งเอ๋อร์เด็กหนังสือยืนอยู่หน้าประตูเรือเหาะ สีหน้าของพวกเขาก็มืดมนไม่แพ้กัน
เ้าหัวโตนอนบนไหล่เ่ิู จมูดสูดดมหมวกเกราะอาชาขาว ดูเหมือนมันจะสนใจหมวกมาก และคงไม่วายแลบลิ้นชมพูๆ เลียทิ้งน้ำลายไว้เป็คราบ เ่ิูทำได้เพียงยึดคอเ้าตะกละไว้แล้วยัดมันกลับลงไปในอก
เ่ิูสังเกตปฏิกิริยาของเ้าหมาบื้อตัวนี้
จากประสบการณ์ก่อนหน้าของเขา เ้าตะกละนี่น่าจะมีความสามารถด้านประสาทััสูงมาก ความสามารถน่าจะมากกว่าพลังของกระบวนอักขระของเรือเหาะและสัญชาตญาณของยอดฝีมือเช่นหลิวจงหยวน มันพบกองทัพปีศาจและแนวทางการโจมตีของพวกมันได้
สิบห้านาทีผ่านไป ไวเหมือนโกหก
ทุกอย่างดูผิวเผินช่างสงบเรียบร้อย
“อีกสิบห้านาทีเราก็ใกล้ถึงรังัหิมะแล้ว” หลิวจงหยวนสีหน้าผ่อนคลายขึ้นเห็นได้ชัด “มันอยู่เหนือการแบ่งกองทัพของเผ่าปีศาจอื่นๆ ัหิมะโดยธรรมชาติแล้วเป็เ้าอาณาเขตที่แข็งแกร่งที่สุด มันไม่ยอมให้เผ่าปีศาจใดก็ตามแต่เข้าไปราวีในถิ่น...โดยเฉพาะในรัง และัหิมะบินไม่ได้ มันจึงไม่มีทางทำอันตรายอะไรพวกเราได้ นี่เป็โอกาสดีของเรา ตราบใดที่เราผ่านรังัหิมะและเพิ่มความเร็วเรือเหาะอักขระได้ ใช้พลังเดินทางเต็มอัตรา เราย่อมหนีได้ สิบห้านาทีต่อจากนี้ เราจะเข้าสู่เขตที่สองกองทัพกำลังห้ำหั่น เราจะเจอกำลังสนับสนุนที่นั่น!”
เขาเอ่ยเสียงดังฟังชัด
คำปราศรัยของเขาเข้าหูของคนทุกคน
พลทหารที่เดิมทีกระวนกระวายนักทอดถอนใจ สีหน้าสิ้นหวังแปรเปลี่ยนเป็มีหวัง ั์ตามีดวงไฟแรงกล้า
ตราบใดที่ยังมีความหวัง เผ่ามนุษย์สามารถะเิพลังที่น่าตกตะลึงออกมาได้ตลอดเวลา เพื่อรับมือกับสถานการณ์เลวร้าย
เซียนภาพท่านชายหลิวคลี่ยิ้มบาง เขาเห็นด้วยแล้วเสริม “สำหรับเื่ฉุกเฉิน ข้าได้ส่งคำขอความช่วยเหลือไปแล้ว เราต้องยืนหยัดต่อไปให้ได้อีกชั่วโมงเดียว แล้วจะได้รับการสนับสนุนจากกองทัพโยวเยี่ยน เมื่อนั้น ต่อให้ทหารชั้นสูงของกองพลสู่ทักษิณมาด้วยตัวเอง พวกเราก็จะรอดปลอดภัย”
เมื่อข่าวนี้ได้ยินถึงหู ความฮึกเหิมของเหล่าทหารก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก
ความกังวลและไม่สบายใจแต่เดิมนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง
ใช่แล้ว ภารกิจตอนนี้สำคัญที่สุด ท่านชายหลิววาดแผนที่ของทุ่งน้ำแข็งทลายหิมะและดินแดนของเผ่าปีศาจไว้สิบแผ่น นี่อาจนับได้ว่าเป็ความรุ่งโรจน์ของทั้งกองทัพ แม้กระทั่งทั้งอาณาจักร เชื่อได้เลยว่าหากเรือเหาะอักขระตกอยู่ในอันตราย ด่านโยวเยี่ยนจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกเขา เมื่อพวกเขาได้ข่าวนี้ ย่อมจะต้องส่งยอดฝีมือระดับสุดยอดเข้ามาเป็กำลังสนับสนุนแน่
เ่ิูชำเลืองมองหลิวจงหยวนและท่านชายหลิว
ไม่รู้เพราะเหตุใด แม้ว่าคำพูดของสองคนนี้เหมือนจะเสริมให้ฮึกเหิม เ่ิูกลับรู้สึกได้เบาบางว่าเป็แค่คำปลอบโยนเพื่อปลุกความฮึดสู้ในตัวพวกเขาเท่านั้น
สิบอึดใจผันผ่าน
“แง่งๆ”
เ้าหัวโตยืนขึ้น มันไต่ขึ้นไหล่เ่ิู เปล่งเสียงขู่ต่ำๆ ในลำคอแล้วจ้องไปด้านหน้าอย่างมาดร้าย
เ่ิูใจเต้นตุบๆ
พวกมันมาอีกแล้ว
“เตรียมสู้ศึก!”
คราวนี้ ไม่จำเป็ต้องให้เ่ิูเตือน หลิวจงหยวนตั้งรับทันที
พูดไม่ทันขาดคำ
กลุ่มเมฆกระจัดกระจายในสิ้นเชิง
‘กระแสหวนกลับ’ สีดำตรงหน้า ราวกับคลื่นแห่งความตายครอบงำทั่วฟ้าดิน
สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน คือเสียงร้องระงมดังสนั่นของเหล่าอีกา
เสียงร้องของอีการาวกับมัจจุราชมาเยือน อลหม่านและเฉียบคม เสียงนับไม่ถ้วนปะปนกันอยู่ที่เดียว ชวนให้ผู้คนรู้สึกเหมือนถูกอาวุธสารพัดชนิดจู่โจมพร้อมๆ กัน ถี่เร็วจนโกลาหลและถึงชีวิต เหล่าทหารบนแผงเกราะถูกดาบเล็กกระบี่น้อยทิ่มหู จิตใจพลันเต้นแรงจนอยากจะฆ่าคนที่อยู่ข้างๆ ให้สิ้น
“อีกาอับโชค ทุกคนโคจรกำลังภายใน ผนึกการได้ยินเสีย”
หลิวจงหยวนะโสั่ง
เ่ิูกระตุ้นเกราะศึกอาชาขาวในทันที
แสงสีขาวปกคลุมร่างกาย กระบวนอักขระหลอมทองที่แอบซ่อนอยู่ใต้หมวกเกราะอาชาขาวถูกกระตุ้น ของเหลวสีเงินราวกับน้ำเงินแท้แปรเปลี่ยนเป็เกราะหุ้มหน้าสีเงิน มันปิดแน่นบนใบหน้าของเขาเพื่อปกป้อง
เกราะหน้าของเหลวชนิดนี้ทำลายเสียงชุลมุนของเหล่าอีกาดำที่มาปั่นป่วนอย่างไร้สัญญาณบอกกล่าวได้หมดจด ขณะเดียวกันก็ยกระดับขอบเขตและระดับการรับรู้ของเ่ิูอีกด้วย
ทุกอย่างรอบตัวล้วนอยู่ในสายตาของเขา มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างในรัศมีหลายร้อยเมตรละเอียดยิบอย่างเห็นได้ชัด
ทะเลสำนึกของเ่ิูผุดคำอธิบายเื่อีกาอับโชคจากหนังสือที่เขาเคยอ่านผ่านตา
มันเป็หน่วยหนึ่งของกองทัพทางอากาศอันยิ่งใหญ่ของเผ่าปีศาจ
พวกมันเป็เผ่าปีศาจมีปีกเพียงชนิดเดียวที่มีตัวเป็สีดำ มีสติปัญญาและพลังสมดุลกัน อีกาดำส่วนมากมีพลังไม่พอเป็แม่ทัพปีศาจ ทว่าเมื่อวัดระดับสติปัญญาเทียบกับพวกระดับเดียวกันแล้วต่ำกว่ามาก มันรวมตัวกันเป็กลุ่ม ใช้จำนวนอันไม่มีวันหมดข่มขวัญศัตรู มันมีไหวพริบต่อความตายและไม่กลัวความตาย หลายครั้งที่ต่อสู้ หน่วยรบอากาศอีกาดำแม้จะเหลือตัวสุดท้ายก็จะบุกตะลุยไม่ถอย มีบางคนกล่าวว่าเป็ความกล้า บางคนก็บอกว่าเป็ความเขลา...
เป็เผ่าปีศาจแดนหิมะที่แพร่พันธุ์ออกไปได้น่ากลัว
พวกมันเหมือนไม่มีวันสูญสิ้นเผ่าพันธุ์
เป็ที่ชัดเจนว่าอีกาอับโชคหน่วยนี้ปรากฏตัวขึ้นมิใช่เพราะ้าฆ่าคนบนเรืออักขระ
แต่เมื่อประวิงเวลาของเรือเหาะไว้เท่านั้น
เป็สัญญาณของความซวยอันใหญ่หลวง
เพราะมันแสดงถึงว่าค้างคาวหมูแดนหิมะก่อนหน้านี้คงแจ้งข่าวเื่เรือเหาะอักขระสำเร็จแล้ว หลังจากนั้นก็มีผู้วางแผนระดับสูงของเผ่าปีศาจใกล้เคียงวางแผนการอย่างว่องไว สั่งทัพที่เชี่ยวชาญการปิดล้อม ถ่วงเวลา และทัดทานที่สุดเช่นหน่วยรบอีกาดำ ให้พวกมันมาถ่วงเวลาเรือเหาะอักขระเอาไว้ เพื่อขั้นตอนต่อมาของเผ่าปีศาจ ่ชิงเวลามาให้ได้มากที่สุด
เหตุการณ์เคราะห์ร้ายที่สุดอุบัติขึ้นแล้ว
“บุกเข้าไป!”
หลิวจงหยวนเกือบจะกัดฟันคำรามต่ำอยู่รอมร่อ
ปืนใหญ่ปราณทองคำอักขระยี่สิบกระบอกถูกจุดติดในคราเดียว
ธนูเจาะเกราะราวกับห่าฝนยิงเข้าใส่กลุ่มอีกาดำที่คล้ายแผ่นั์ดำทมิฬมองไม่เห็นหัว
ศึกปะทุขึ้นวินาทีนี้เอง
เ่ิูกระตุ้นเกราะศึกอาชาขาวกลายเป็เส้นแสงรุกเข้าไปในห่าคลื่นสีดำอันยุ่งเหยิง
ปีกของเกราะศึกราวกับมีดแห่งมัจจุราช มันผ่านอากาศธาตุไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าฆ่าอีกาขนาดั์ไปแล้วกี่ตัว ไอกระบี่ของกระบี่ฉ่าวชางราวกับเคียวเกี่ยวพืชผล เกี่ยวเอาชีวิตของพวกอีกาดำจากไป ปีกคู่ที่กางออกมาแล้วกว้างประมาณสองเมตรนี้ ทำให้เหล่าอีกาปีศาจที่มีจะงอยดั่งกริช กรงเล็บราวกับมีดพวกนี้ยากจะนำความคุกคามใดๆ มาให้แก่เขา
เ้าหมาหัวโตใช้ความสมดุลที่น่าใยืนอยู่บนไหล่เ่ิูอย่างแแ่
ไม่ว่าเ่ิูจะเปลี่ยนกิริยาท่าทางหรือบินเร็วขึ้นแค่ไหนในอากาศ มันก็เหมือนไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
บัดนี้เองที่เ่ิูไร้ซึ่งความกลัวแม้เพียงเศษเสี้ยว
เขาที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเกราะศึกอาชาขาว เป็ราวกับหัวเจาะที่คมจัดผงาดอยู่หน้าเรือเหาะอักขระเสมอ ไม่มีหมกเม็ด ใช้กำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองทำลายห่าคลื่นอีกาดำหวนกลับ เพื่อเปิดช่องว่างให้ผ่านไปได้!
อีกาดำร่วงหล่น ตายเป็ใบไม้ร่วง
เืปีศาจขุ่นคาวฟุ้งตลบในเวหา
ปีกสีเงินคู่นี้ไม่รู้ว่าเปรอะโลหิตปีศาจมามากแค่ไหน
กระทั่งเ่ิูยังไม่รู้สึกเลยว่า กระบวนอักขระหลอมทองขนาดจิ๋วที่ซ่อนไว้ในปีกนั้น ราวกับดูดกินเื สูบเอาโลหิตปีศาจที่ไม่มีวันหมดเข้าภายในปีกสีเงินของเกราะศึกอาชาขาว เวลาไหลเวียนไปเท่าใด ก็ยิ่งสูบเืปีศาจได้มากเท่านั้น ปีกกลายเป็สีขาวราวกับหิมะมากขึ้นเรื่อยๆ ตำแหน่งที่ถูกทำลายหายไปเองก็ค่อยๆ ฟื้นสภาพขึ้นใหม่
ในที่สุด
แซ่ด!
ั์ตาพร่ามัว
เ่ิูบุกทะลุฝูงอีกามาจนได้
เขารีบตามหลังเรือเหาะไปอย่างเร็วรี่
กลุ่มอีกาอลหม่านถูกเหวี่ยงออกไปไกลโพ้น
แต่ทุกคนยังหายไม่ทันหายใจทั่วท้องดี ข้างหน้าก็มีหน่วยรบเผ่าปีศาจโผล่ขึ้นมาอีก
ทัพนี้มิใช่ทัพปีศาจที่บินได้แต่กำเนิดอีกต่อไป
เป็เรือเหาะปีศาจแดนหิมะขนาดั์สองลำต่างหาก
เพราะเขตเมืองของเผ่าปีศาจแดนหิมะนั้น มีทรัพยากรจำกัด และขาดแคลนวัตถุดิบเป็อย่างมาก เผ่าปีศาจไม่อาจต่อเรือจากทรัพยากรได้โดยตรงเหมือนมนุษย์ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ทะเลห้วงความคิดของมหาปีศาจหลังจากพวกเขาตายมาใช้ประโยชน์ เรือเหาะเผ่าปีศาจนั้นสร้างขึ้นจากโครงกระดูกและศพของมหาปีศาจเป็แกนหลัก ผ่านขั้นตอนการเสริมกระบวนอักขระปีศาจ ตระเตรียมประสิทธิภาพในการสู้รบทางอากาศ และเรือเหาะปีศาจสองลำตรงหน้านี้ก็ใช้ศพของอินทรีั์ที่ตายแล้วเป็กระดูกแกน ขนปีกสีเงินบนปีกอันกว้างใหญ่ ยาวประมาณร้อยเมตร กว้างสามสิบกว่าเมตร มองไกลๆ พลิ้วไหวราวกับมีชีวิตอยู่จริง เหมือนกับอินทรีั์แดนหิมะที่ยังมีชีวิตอยู่สองตัว ที่ทำให้คนเกิดความรู้สึกะเืใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
หากมิใช่ว่าเห็นเสากระโดง เสาป้องกันรวมทั้งจำพวกใบเรือ เชือกสมอรวมทั้งทหารปีศาจที่อัดกันแน่นขนัดนั้นแล้วไซร้ ไม่แน่ว่าเ่ิูอาจนึกว่าตนได้พบกับอินทรีั์แดนหิมะที่น่ากลัวสองตัวเข้าเสียแล้ว
เห็นได้ชัดนักว่าอินทรีั์แดนหิมะสองตัวนี้ ตอนยังมีชีวิตอยู่น่าจะเป็ระดับผู้บัญชาการหรือแม่ทัพปีศาจ หลังสิ้นใจไป ศพไม่เน่าเปื่อย อีกทั้งกระดูกยังแข็งเหมือนเหล็กบริสุทธิ์ เป็วัตถุดิบที่นำมาสร้างเป็ป้อมปราการได้สมบูรณ์แบบที่สุด ขณะเดียวกันเพื่อเพิ่มประโยชน์ให้มากขึ้นอีก ก็สามารถนำมาทำเป็เรือรบได้ด้วยเช่นกัน