ลูกศรแทงทะลุปากและจัดการงูเหลือมั์พิษได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อเห็นว่างูเหลือมั์พิษหันหลังกลับ ไม่เคลื่อนไหว และไม่พ่นพิษสีขาวออกมาอีกต่อไป หลงเฟยเยี่ยจึงเก็บคันธนูด้วยความพึงพอใจ
ในขณะเดียวกัน สตรีขี้ขลาดผู้หนึ่งยังคงอยู่ในอ้อมแขนของเขา และไม่รับรู้อะไรเลย
มีรอยโค้งเล็กน้อยบนริมฝีปากของเขา ใช้สองมือโอบนาง เหาะลงมาอย่างนุ่มนวลและหยุดลงข้างๆ งูเหลือมั์พิษ
“เ้าปล่อยมือได้แล้ว”
เมื่อเสียงอันเยือกเย็นดังมาจาก้า หานอวิ๋นซีก็มีสติกลับมาจากอาการใ และพบว่าเท้าของนางอยู่บนพื้นแล้ว นางที่เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัวก็พบกับสายตาที่ไม่แยแสของใครบางคน จึงรีบปล่อยมือทันทีราวกับไฟฟ้าช็อต
หลงเฟยเยี่ยไม่ได้สนใจนาง ดึงกริชออกมาและไปรับจินตานงู
หานอวิ๋นซีกระแอมสองสามครั้ง ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางที่คอยดูอยู่ข้างๆ เห็นเพียงการเคลื่อนไหวของเขาที่เฉียบคมและรวดเร็ว หยิบจินตานงูขนาดเท่าะุปืนออกมา
ด้วยจินตานงูนี้ ก็เท่ากับพวกเขาได้ยาเซิงเสวี่ยตานมาครึ่งหนึ่งแล้ว
หานอวิ๋นซีรวบรวมสติ หยิบเข็มทองออกมาเพื่อเก็บเืของงูเหลือมั์พิษ แน่นอนว่านางต้องนำพิษที่หายากนี้กลับบ้านและศึกษามันอย่างละเอียด
“เ้ากำลังทำอะไร?” หลงเฟยเยี่ยถามอย่างเ็า
“ไม่มีอะไรหรอก” ใบหน้าของหานอวิ๋นซีเต็มไปด้วยความบูดบึ้ง น้ำเสียงก็เ็า นางไม่อยากที่จะคุยกับเขาในตอนนี้
“คนขี้ขลาด” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า
หานอวิ๋นซีกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ทว่าก็แสร้งทำเป็ไม่ได้ยิน
หลังจากเก็บเืเสร็จ นางก็พูดว่า “ได้จินตานไปแล้ว แล้วข้าก็คงไม่มีประโยชน์กับท่านแล้ว ข้าอยากกลับ”
หลงเฟยเยี่ยผงะไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่รีรอและพูดอย่างเ็าว่า “ไปสิ ข้าจะพาเ้าออกจากหุบเขา”
เช่นนี้ ทั้งสองจึงเดินไปอย่างเงียบงันตลอดทาง
เมื่อนางมาถึงนอกหุบเขา ก็พบว่ารถม้าและคนขับถูกวางยาพิษจนเสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีใครสามารถปกป้องนางและพากลับไปได้
หานอวิ๋นซีแอบดีใจ และพูดในใจว่า “ดูสิ ว่าตอนนี้ท่านจะทำอย่างไรกับตัวปัญหาอย่างข้า! ท่านหาเื่เองนะ!”
แต่ใครจะรู้ว่าหลงเฟยเยี่ยจะให้ทางเลือกกับนางสองทาง “จะกลับไปคนเดียวหรือไปกับข้า”
หลังจากที่เขาพูดจบ โดยไม่ทันให้หานอวิ๋นซีได้คิด เขาก็หันหลังกลับและกลับเข้าไปในหุบเขา
หานอวิ๋นซีรักชีวิตอย่างมาก บนท้องถนนมีโจรมากมายและอันตรายตลอดทาง นางจะกล้ากลับเองได้อย่างไร ประเด็นสำคัญคือนางไม่รู้ทาง!
นางที่ยังคงลังเล ทว่าด้านหลังของชายผู้นั้นก็ห่างออกไปมากแล้ว
ไปแล้วจริงๆ หรือ?
หานอวิ๋นซีรีบวิ่งไล่ตามอย่างรวดเร็วพร้อมกับะโไปด้วย
“นี่! หลงเฟยเยี่ย ท่านจะทำเกินไปแล้วนะ!”
“หยุดนะ หลงเฟยเยี่ย!”
“ถ้าท่านยังไม่หยุด ข้าจะไปเดี๋ยวนี้นะ!”
… เมื่อหลงเฟยเยี่ยได้ยินเสียงะโของนาง แทนที่เขาจะหยุดก็กลับเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ ส่วนโค้งของริมฝีปากก็มากขึ้นเรื่อยๆ หานอวิ๋นซีจึงทำได้แค่วิ่ง
ด้วยเช่นนี้ ทั้งสองคนที่เดินอยู่ข้างหน้าคนหนึ่งและวิ่งตามอยู่ข้างหลังอีกคนหนึ่ง ไม่นานก็ผ่านหุบเขาไป
บนต้นไม้สูงในหุบเขา ตวนมู่เหยานอนอยู่บนต้นไม้อย่างไร้เรี่ยวแรง โดยมีเืที่ริมฝีปาก เมื่อครู่เท้าของหลงเฟยเยี่ยเตะเข้ามาที่นางแรงเหลือเกิน มันเลยทำให้นางได้รับาเ็สาหัสจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป ทว่าก็ไม่ได้ถึงขั้นทำร้ายชีวิตนาง
เห็นได้ชัดว่านางดูเหมือนเทพธิดา แต่ในขณะนี้ดวงตาเฉี่ยวของนางมืดมนราวกับแม่มด และมองไปที่ด้านหลังของคนทั้งสองที่เดินออกไปอย่างเ็า
“หานอวิ๋นซี เ้ามันไร้ยางอายจริงๆ กล้าดีอย่างไรถึงมากอดศิษย์พี่ของข้า!”
ฉากเมื่อครู่ทำให้นางกำนัลของตวนมู่เหยาไม่อยากจะเชื่อ ฉินอ๋องผู้หมกมุ่นกับเื่ความสะอาดมาโดยตลอด ยอมให้สตรีเข้าใกล้และกอดเขาแน่นขนาดนั้นน่ะหรือ?
พวกนางคงไม่ได้มองผิดไปใช่หรือไม่?
“นังสารเลว ข้าจะฆ่าเ้าให้ได้” ยิ่งตวนมู่เหยาคิดถึงเื่นี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น ต้องรู้ว่าการที่นางออกมาจากวังครั้งนี้ก็เพื่อมาหาหานอวิ๋นซีโดยเฉพาะ
นางกำนัลพูดเกลี้ยกล่อมเบาๆ “องค์หญิง การพักฟื้นเป็สิ่งสำคัญนะเพคะ”
“ข้าไม่ยอม! หากข้าตายไป ดูสิว่าเขาจะทำอย่างไร จะไปอธิบายกับท่านอาจารย์อย่างไร!” ตวนมู่เหยาพูดด้วยความโกรธ และเมื่อนางโกรธ ภายในก็จะะเืจนกระอักเืออกมาเต็มปาก
“องค์หญิง ท่านเองก็ทราบว่าฉินอ๋องเกลียดการข่มขู่ของคนอื่นที่สุด ทำไมท่านถึง…”
ก่อนที่นางกำนัลจะพูดจบ ตวนมู่เหยาก็พูดแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว “หรือว่าต่อหน้าเขาข้าก็เป็คนอื่นงั้นหรือ? เขาเต็มใจที่จะทำร้ายข้า แล้วก็ช่วยชีวิตสตรีผู้นั้นงั้นหรือ? หานอวิ๋นซีนั่นสำคัญกับเขามากกว่าข้างั้นหรือ?”
“องค์หญิง หานอวิ๋นซีเป็ฉินหวังเฟยที่ได้รับการแต่งตั้งจากไท่เฮาเทียนหนิง ดังนั้นฉินอ๋องจึงไม่มีทางเลือกอื่นเพคะ” นางกำนัลพูดปลอบอีกครั้ง
ตวนมู่เหยายิ้มอย่างเย้ยหยัน “ตราบใดที่เขาไม่เต็มใจ ก็ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะบีบบังคับเขาได้”
การที่หานอวิ๋นซีอภิเษกเข้าจวนฉินอ๋อง เป็คำสั่งของฮ่องเต้เทียนหนิง แต่ทำไมเขาถึงเก็บสตรีผู้นั้นไว้ในจวนฉินอ๋องล่ะ
หลังจากอภิเษกมาเป็เวลานาน นางเฝ้ารอให้เขาจัดการกับหานอวิ๋นซีมาโดยตลอด ทว่าเขาก็ไม่เคลื่อนไหวใดๆ เลย แถมยังพามาอยู่ข้างกายด้วย?
ศิษย์พี่ศิษย์น้องอยู่ด้วยกันมาหลายปีั้แ่เด็กจนโต เขายังไม่เคยพานางออกไปไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
สตรีที่ทั้งไร้ประโยชน์ทั้งขี้ขลาดแบบนั้น มีอะไรดึงดูดสายตาของเขาไปได้?
ยิ่งตวนมู่เหยาคิดถึงเื่นี้มากเท่าไร นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น และพูดอย่างเ็าว่า “ชิวเอ๋อร์ ไปเมืองหลวงเทียนหนิงกันเถอะ ข้าจะไปรักษาตัวที่...จวนฉินอ๋อง!”
“องค์หญิง ท่านอ๋องยังคงหายาที่ฮองเฮา้าในหุบเขาผียา ท่านเองก็ควรไปที่นั่นดีหรือไม่เพคะ” นางกำนัลรีบพูดเตือน
เมื่อตวนมู่เหยาคิดถึงเื่นี้ นางทำได้เพียงพยักหน้า พลางคิดในใจว่าคงไม่สายเกินไปที่นางจะเข้าเมืองหลวงหลังจากได้ยาแล้ว
ในเวลานี้ หานอวิ๋นซีอยู่ในอ้อมแขนของหลงเฟยเยี่ย เหาะขึ้นไปในอากาศและพุ่งผ่านพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว
แม้ว่านางจะแสดงใบหน้าที่เ็าให้กับหลงเฟยเยี่ย ทว่าในใจก็เกิดสงสัยเกี่ยวกับสตรีในชุดขาวอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถเดาเหตุผลที่นางมาได้
แน่นอน ความอยากรู้อยากเห็นอาจนำไปสู่ความอันตราย หลังจากวุ่นวายอยู่เป็เวลานาน ในที่สุดหานอวิ๋นซีก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “นี่ สตรีในชุดขาวเมื่อครู่คือใครหรือ?”
แต่ใครจะรู้ว่าหลงเฟยเยี่ยแสร้งทำเป็ไม่ได้ยินสิ่งที่นางถาม สายตามองตรงไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หานอวิ๋นซีกลอกตา หมดความอยากรู้อยากเห็นไปโดยสิ้นเชิง
หลังจากเดินทางมาทั้งวัน พวกเขาก็มาถึงหุบเขายาผีในเช้าตรู่ของวันถัดไป
ทันทีที่เข้าไปในหุบเขา หานอวิ๋นซีได้กลิ่นหอมของสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ พระเ้ารู้ดีว่ามีสมุนไพรมากมายที่ปลูกในหุบเขานี้ เป็สถานที่ที่มีมนต์ขลังจริงๆ
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงทางเข้าที่แท้จริง มีหมอตี๋สองคนคอยเฝ้าประตูที่สร้างจากเถาวัลย์ และมีคนสองกลุ่มที่หน้าประตู กลุ่มหนึ่งกำลังเข้าแถว และอีกกลุ่มกำลังคุกเข่า
ดูเหมือนคนที่เข้าแถวจะมาซื้อยา ส่วนคนที่คุกเข่าคือมาขอยา
หานอวิ๋นซีเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง ก็เห็นว่าหลังจากคนที่เข้าแถวคุยกับพ่อบ้านอยู่ครู่หนึ่ง แต่ละคนก็เต็มไปด้วยความหดหู่ใจ และเดินไปเข้าแถวคุกเข่า ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถซื้อยาได้
ทันใดนั้น คนที่นั่งคุกเข่าก็รีบเข้ามาและะโว่า “ใต้เท้าเหยากุ่ย ข้ายินดีจ่ายสิบล้านตำลึงทองเพื่อซื้อหญ้าเคราั ได้โปรดท่านตอบรับข้าด้วยเถิด! ข้ากำลังรอยาที่จะช่วยชีวิตข้าอยู่!”
พ่อบ้านรีบเดินเข้ามาดุทันทีว่า “จะะโอะไรนักหนา! ที่นี่เป็สถานที่ที่เ้าจะอวดรวยหรือไร? ทหาร มาจับเขาออกไป!”
“พ่อบ้านิ ข้าไม่ได้อวดรวยแต่อย่างใด ข้าใช้ทรัพย์สินของครอบครัวทั้งหมดเพื่อยา! พ่อบ้านิ ได้โปรดช่วยข้าเถิด!” ชายคนนั้นรีบคุกเข่าลงและขอร้อง
อย่างไรก็ตาม พ่อบ้านิกลับไม่ได้มีความปรานีแต่อย่างใด ส่งสัญญาณให้คนมาพาตัวเขาออกไป
หานอวิ๋นซีขมวดคิ้ว
นางรู้ดีว่าหญ้าเคราันั้นล้ำค่าขนาดไหน เพียงแต่ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่คุ้มกับเงินสิบล้านตำลึงอยู่ดี! นอกจากนี้ ยังทำให้ครอบครัวล้มละลายอีก
เมื่อเห็นใบหน้าของชายผู้นี้เต็มไปด้วยน้ำตาและความสิ้นหวัง หานอวิ๋นซีก็รู้สึกอึดอัดอย่างมาก อยากที่จะให้หญ้าเคราัแก่เขาจริงๆ นางก็มีมันอยู่สองสามต้นในระบบล้างพิษของนาง
แต่น่าเสียดายที่เมื่อมองคนกลุ่มเล็กๆ หลายร้อยคนตรงหน้า นางก็ต้องยอมแพ้ หากคนเดียวยังพอช่วยได้ แต่ให้ช่วยทั้งหมดคงเป็ไปไม่ได้
ถ้านางช่วยคนเดียวต่อหน้าคนที่้าความช่วยเหลือทั้งหมด นางไม่ได้ถูกมองว่าเป็คนดี แต่จะถูกมองว่าเป็คนชั่วที่เห็นคนตายแล้วไม่ช่วยเหมือนกับหุบเขายาผีแห่งนี้
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามาที่นี่เพื่อขอยา ไม่ใช่เพื่อทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง
ขณะเดียวกัน พ่อบ้านิที่เห็นพวกเขาและโบกมือ “นี่ๆ พวกเ้าสองคน พูดถึงพวกเ้าสองคนนั่นแหละ ยืนอยู่ตรงนั้นทำไมกัน? ไม่รู้กฎหรือไร? ทำไมไม่ไปเข้าแถว?”
หลงเฟยเยี่ยมองและสั่งอย่างเ็าว่า “เ้า มานี่สิ”
พ่อบ้านิผงะไปครู่หนึ่ง ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “เ้าพูดว่าอะไรนะ?”
“ข้าสั่งให้เ้ามานี่ ฟังภาษาคนไม่รู้เื่หรือไร?” หลงเฟยเยี่ยถามกลับ
พ่อบ้านิโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที รีบเดินพุ่งเข้ามา มองแค่เพียงแวบเดียวก็สามารถบอกได้ทันทีว่าหลงเฟยเยี่ยและหานอวิ๋นซีมีรัศมีเปล่งประกายที่ไม่ธรรมดา ดูเป็คนร่ำรวยน่านับถือ อย่างไรก็ตาม มีบุคคลสำคัญมากมายที่มาที่หุบเขายาผีเพื่อขอยา ทว่าคนชั้นสูงทุกคนที่เขาเคยเห็นมา ไม่เคยเห็นใครอวดดีเช่นนี้มาก่อน!
เขามองไปที่หลงเฟยเยี่ยอย่างดูถูกเหยียดหยาม “เ้าเป็ใครกัน กล้าดีเยี่ยงไรถึงพูดกับข้าแบบนั้น พวกเ้าคิดจะมาขอยาหรือ เหอๆ ไม่มีทาง!”
โดยไม่คาดคิด หลงเฟยเยี่ยจับคอของเขายกขึ้นและพูดอย่างเ็าว่า “ไปบอกกู่ชีชาว่าหลงเฟยเยี่ยนำจินตานงูเหลือมั์พิษมาให้ ถามเขาว่าจะแลกกันหรือไม่”
พ่อบ้านิแทบขาดอากาศหายใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันทีที่ได้ยินคำว่า “หลงเฟยเยี่ย” จากนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างแรงเมื่อได้ยินคำว่า “จินตานงูเหลือมั์พิษ”
หลงเฟยเยี่ยปล่อยเขาไป พ่อบ้านที่ยังไม่ได้ไปรายงานก็แสดงความเคารพทันที “ข้าไม่รู้ว่าท่านคือฉินอ๋อง ข้าทำให้ท่านขุ่นเคืองแล้ว โปรดยกโทษให้ข้าด้วย โปรดฉินอ๋องรอสักครู่ ข้าจะรีบไปรายงานทันที”
หานอวิ๋นซีที่อยู่ข้างๆ ก็ใ และพบว่าคำว่า “หลงเฟยเยี่ย” ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในบริเวณของเมืองหลวงเทียนหนิงเท่านั้น แต่ยังดูเหมือนจะเป็ประโยชน์ภายนอกด้วย
ต้องมีเหตุผลที่ฮ่องเต้เทียนหนิงกลัวหลงเฟยเยี่ยอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง พ่อบ้านก็แทบจะคลานออกมาราวกับสุนัข “ฉินอ๋อง ใต้เท้าเหยากุยเชิญท่านเข้าไป โปรดท่านไปกับข้าด้วย!”
หลงเฟยเยี่ยและหานอวิ๋นซีขึ้นรถม้า ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในประตูเถาวัลย์ขนาดใหญ่และขับไปจนสุดทาง หานอวิ๋นซีก็ค้นพบว่าพืชพรรณทั้งหมดที่อยู่ภายในประตูเถาวัลย์นั้น ล้วนแล้วแต่แล้วเป็สมุนไพรยาทั้งสิ้น ยิ่งเข้าไปข้างในมากเท่าไรก็ยิ่งเป็สิ่งที่มีค่ามากขึ้นเท่านั้น
แม้ว่ากู่ชีชาจะไม่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์ แต่เขาก็เป็คนมีพร์ที่หาได้ยาก!
ในไม่ช้า รถม้าก็หยุดที่หน้าลานอันสง่างามริมลำธาร พ่อบ้านิไม่ได้ตามพวกเขาเข้าไป เพียงแค่รายงานว่า “ฉินอ๋อง เสด็จมาถึงแล้ว”
“เฮ้อ...” กู่ชีชาถอนหายใจเสียงต่ำ “ช่างบังเอิญจริงๆ มีคนนำถังเช่าเจ็ดดวงดารามาให้ แล้วก็้าแลกกับยาเซิงเสวี่ยตานเหมือนกัน แล้วทั้งสองอย่างก็เป็สิ่งที่ข้าใฝ่ฝันมานาน พวกเ้าจะให้ข้าเลือกอย่างไรดีล่ะ?”
ไม่นานก็มีเสียงที่แปลกๆ และเนิบๆ ออกมา ประหลาดจนดูไม่เหมือนมนุษย์ว่า “ฉินอ๋อง มาครั้งแรกก็นำจินตางูเหลือมั์พิษมาให้เลย ข้าจะแลกเปลี่ยนกับสิ่งใดกับเ้าดีล่ะ?”
“ยาเซิงเสวี่ยตาน” หลงเฟยเยี่ยตอบอย่างเ็า
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทั้งห้องก็เงียบลง
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงแปลกๆ ที่เหมือนทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็พูดขึ้นอีกครั้ง “พวกเ้า...เข้ามาสิ”
หานอวิ๋นซีขนลุกซู่ด้วยเสียงแปลกๆ นั้น และเดินตามหลังหลงเฟยเยี่ยเข้าไป
เมื่อเห็นคนในห้อง หานอวิ๋นซีก็ขนลุกอีกครั้ง เห็นชายร่างสูงในชุดดำนั่งอยู่บนที่นั่ง มีเสื้อคลุมสีดำคลุมทั้งตัว แม้แต่ศีรษะก็ยังคลุมด้วยหมวกสีดำขนาดใหญ่ หากมองจากระยะไกล ดูเหมือนเป็คนไร้หน้า
นี่คือกู่ชีชาที่น่ากลัวสินะ
เดิมทีหานอวิ๋นซีคิดว่าเขาน่าจะเป็ชายชรา แต่ตอนนี้ ยากที่จะคาดเดาอายุของเขาได้ แม้แต่เพศเองก็ยังคลุมเครือ
หานอวิ๋นซีที่อยากรู้อยากเห็น แต่หลงเฟยเยี่ยไม่ได้อยากรู้อยากเห็นมากนัก จึงพูดอย่างเ็าว่า “กู่ชีชา เ้าจะแลกหรือไม่แลก?”