เจิ้งหยวนเพื่อรอชมงิ้ว เลยให้เจิ้งเจวียนไปส่งอาหารเช้าแทน เจิ้งเจวียนไม่รู้ว่าพี่สาวเธอเพิ่มบทแสดงให้เจิ้งเทียนหู่นิดหน่อยตอนท้าย และไม่รู้ว่าจะมีงิ้วน่าตื่นตาตื่นใจในตอนเช้า จึงจากไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์สักนิดเดียว
ประมาณเก้าโมงกว่า อยู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจข้างนอก เธอคิดกับตัวเอง ละครงิ้วเื่นี้คงเริ่มแล้วสินะ ก่อนเช็ดน้ำบนมือแล้วสับเท้าวิ่งออกไปดูบ้าง
มีคนะโว่าคนตายอะไรสักอย่าง ใจเธอพลันกระตุกวาบและฉุกคิด คงไม่ได้ใจนตายจริงๆ หรอกนะ? เธอจำได้ว่าตอนออกมาเมื่อคืนเจิ้งเทียนหู่ยังมีลมหายใจอยู่เลย เขาตายแบบนั้นในคืนเดียวจริงหรือ? แต่ว่าหากตายขึ้นมาเล่า…
แม้เจิ้งหยวนเกลียดจนแทบจะฆ่าแกงเจิ้งเทียนหู่ แต่หากคนผู้นี้ตายในเงื้อมมือเธอจริงๆ เธอที่ไม่ทันตั้งตัวก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง นั่นมันชีวิตคนคนหนึ่งเลยนะ
เธอเดินตามคนอื่นๆ ด้วยท่าทีกระสับกระส่ายจนมาถึงท้ายหมู่บ้านในเวลาไม่นาน
ตรงนั้นมีคนที่มามุงดูขวางอยู่เต็มไปหมด เจิ้งหยวนพยายามเบียดเสียดเข้ามาด้วยความลำบากยากเย็น จากนั้นก็ได้ยินเสียงหลายๆ คนพูดกระซิบกระซาบกัน “ไม่ตาย ไม่ใช่คนตาย ยังมีชีวิตอยู่”
“ว่ากันว่าผีสาวหาเ้าบ่าวให้ตัวเอง แล้วแต่งงานกันที่นี่เมื่อคืนแหละ”
“พวกเธอยังจำลูกสาวของคนตาบอดหวังนั่นได้ไหม เมื่อก่อนเธอไปเป็อนุให้ใครบางคน ไม่เคยได้เป็เ้าสาวชั่วชีวิต คราวนี้เลยกลับมาหาเ้าบ่าวให้ตัวเองละ”
“เฮ้ พวกเธอรู้ไหมว่าเอาใครไปน่ะ?”
“ใครกันล่ะ?“
“เป็เจิ้งเทียนหู่!”
“อะไรนะ? เจิ้งเทียนหู่?”
“เป็ความจริง เป็เจิ้งเทียนหู่จริงๆ เมื่อกี้ฉันเพิ่งเข้าไปดูมา” คนพูดคือชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง แม้เ้าตัวจะไม่ได้ี้เีสันหลังยาวเหมือนเจิ้งเทียนหู่ แต่ก็ขึ้นชื่อเื่ความกะล่อนปลิ้นปล้อน จึงไม่ค่อยเป็ที่ชื่นชอบเท่าไรนัก เขาเล่าฉากที่ตนเองพบอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “ผีสาวเปลื้องผ้าเขาจนเปลือยเปล่า น่าจะส่งตัวเข้าหอกันเมื่อคืนแหละ พวกเธอไม่รู้อะไร เนื้อตัวเจิ้งเทียนหู่มีแต่รอยข่วนกับรอยฟกช้ำดำเขียว เมื่อคืนเร่าร้อนกันขนาดไหนก็ไม่รู้ ผีสาวนั่นจะสูบพลังหยาง [1] เขาไปหมดหรือเปล่านะ?”
เขาหรี่ั์ตาลงพลางหัวเราะคิกคัก ผู้หญิงที่มามุงดูหลายคนทนฟังไม่ไหวจนพากันถุยน้ำลาย แล้วแยกย้ายกันออกไปให้ห่างจากผู้ชายน่ารังเกียจคนนั้น
เจิ้งหยวนได้ยินว่าไม่ตาย ใจเธอพลันผ่อนคลายลง ไม่ตายก็ดี ไม่ตายก็ดีแล้ว รอดเธอจะได้ไม่โดนข้อหาฆาตกรรม เธอไม่รีบร้อนเบียดเข้าไปอีก แค่รอชมอยู่ข้างนอก
ขณะนั้นเองเสียงร้องไห้ะเืเลื่อนลั่นพลันลอยมาจากในกระท่อม “ลูกชายของฉัน ลูกชายของฉัน! ลูกเป็ยังไงบ้าง?พ่อ พ่อรีบมาดูหู่จื่อเร็ว เขาเป็อะไรหรือเปล่า?”
เป็เสียงของป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งนั่นเอง
ลุงใหญ่เจิ้งก็มาด้วย เขาทั้งโกรธทั้งรำคาญใจ เพราะต้องเผชิญกับสายตาคนมุงดูจำนวนมาก แน่นอนว่าเขารู้สึกอับอายอย่างยิ่ง จึงตวาดด้วยความหงุดหงิด “ฉันจะรู้อาการเขาได้ยังไง ฉันไม่ใช่หมอสักหน่อย!”
ลุงใหญ่เจิ้งกับป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งนอนกันั้แ่หัวค่ำ ตื่นเช้ามาป้าสะใภ้ใหญ่ไม่เห็นลูกชายก็ร้อนใจ พอได้ยินคนะโว่ามีคนตายข้างนอก ใจป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งยิ่งไม่สงบร้อนรน เปลือกตากระตุกยิบ เลยลากลุงใหญ่เจิ้งมาที่นี่ คาดไม่ถึงว่าจะเห็นฉากที่ทำเธอหัวใจแทบสลาย
อึกทึกครึกโครมขนาดนั้น เจิ้งเทียนหู่ต้องตื่นแล้วแน่นอน เพียงแต่ดวงตาเขาเลื่อนลอย ราวกับไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งพูดกับเขา เขาก็ไม่ตอบสนองเหมือนเสียสติไปแล้ว
ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งกลัวจับจิตจนใจแทบแหลกสลาย กลัวลูกชายจะบ้าใบ้ไปทั้งอย่างนี้จริงๆ เธอกอดลูกชายตัวเองพลางสะอื้นไห้ “นี่มันเวรกรรมอะไรกัน ลูกชายของฉัน ลูกชายผู้น่าสงสารของฉัน”
ขณะเดียวกันเจิ้งเฉวียนกังในฐานะหัวหน้ากองก็เดินเข้ามา เมื่อเขาเห็นฉากนี้ หน้าผากพลันปวดตุบอย่างรุนแรง เขารีบตวาดไล่บรรดาชาวบ้านแถวนั้นออกไปทันที “มามุงกันอยู่ทำไม?ไป รีบออกไปเร็ว อย่ามาล้อมที่นี่” แล้วหันไปบอกหลี่ชุนเซิง “นายไปบ้านคุณอาชางหย่งแล้วเรียกเขามาตรวจ”
ความจริงเจิ้งเฉวียนกังไม่อยากเรียกคนไปตามเฝิงชางหย่งสักนิด แต่เขาจะทำอย่างไรได้ ทั้งกองมีหมอเท้าเปล่าอย่างเฝิงชางหย่งเพียงคนเดียว คราวนี้คงต้องให้ชิ่งเจียหัวเราะเยาะอีกรอบแล้ว
พอคิดตกแล้วก็หันมาเร่งรัดป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งต่อ “เธอยังไม่รีบใส่เสื้อผ้าให้เทียนหู่อีก! ดูสภาพสิ!”
ด้านป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งเพิ่งรู้สึกตัว เธอรีบขานรับทันที เพราะมัวแต่ร้องห่มร้องไห้ ลืมไปเสียสนิทว่าลูกชายเปลือยกายอยู่ มีแค่เสื้อยืดคลุมอยู่บนร่างเขา ซึ่งคนที่มามุงดูก่อนหน้านี้ใจดีคลุมไว้ให้
เสื้อยืดเป็ของเจิ้งเทียนหู่เอง ตามเนื้อผ้าเปื้อนหมึกแดงอยู่ไม่น้อย สีแดงนั้นบาดตาเกินไป ต่อให้มันถอดมาจากตัวเจิ้งเทียนหู่ หรือเป็เสื้อผ้าใหม่ที่ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งเพิ่งทำให้ลูกชายไม่นาน เธอก็ไม่อยากให้ลูกใส่แล้ว
“พ่อ พ่อ คุณรีบกลับบ้านไปหยิบเสื้อผ้าให้ลูกชายสักตัวสิ”
ลุงใหญ่เจิ้งอยากออกไปจากสถานที่บ้าๆ นี้เต็มที พอป้าสะใภ้ใหญ่พูด เขาก็แค่นเสียงแล้วสะบัดแขนจากไปทันที
ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งกอดลูกชายร้องห่มร้องไห้ต่อ ร้องเสร็จก็ด่าทอผีสาวที่ต้องตาต้องใจลูกชายเธอว่าไร้ยางอาย ตายแล้วยังคิดถึงผู้ชาย แถมสาปแช่งให้ไปเกิดใหม่เป็สัตว์เดรัจฉาน คำด่าต่อจากนั้นยิ่งหยาบคายขึ้นเรื่อยๆ
เจิ้งหยวนแอบยืนฟังอยู่ข้างนอก เสียงด่าของป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งดังสนั่นหวั่นไหว ยิ่งกว่านั้นหน้าต่างบ้านยังชำรุด เจิ้งหยวนที่ได้ยินจึงยิ่งมีความสุข ป้าสะใภ้ใหญ่เจิ้งไม่เอะใจสักนิดว่าเจิ้งเทียนหู่โดนคนทำร้าย เอาแต่กล่าวโทษผีสาวอย่างเดียวไม่หยุดหย่อน เธอนึกว่านอกจากเจิ้งเทียนหู่ที่ ‘เห็นกับตา’แล้วคนอื่นๆ จะสงสัยเสียอีก ในเมื่อชุมชนเรียกร้องให้เลิกเชื่องมงายมาตั้งนานขนาดนั้น
เจิ้งเฉวียนกังไม่ชอบฟังคำด่าแบบนี้ที่สุด ทนได้ไม่ถึงสองนาทีก็เดินออกมาจากตัวกระท่อม เห็นหลายคนยังล้อมอยู่ข้างนอก ใบหน้าบึ้งตึงฉับพลันยิ่งกว่าเก่า “ยังมุงกันอยู่ทำไม? ไม่ไปทำงานเหรอ?ออกไปๆ !”
พอหัวหน้ากองออกมาไล่ด้วยตัวเองแล้ว ใครยังจะกล้ากินแตงอีก โหวกเหวกโวยวายอยู่ครู่หนึ่งก็แยกย้ายกันออกไป กระนั้น เจิ้งหยวนก็รู้ดี ถึงตัวพวกเขาจะไปแล้ว แต่ใจยังอยู่ที่นี่แน่นอน เธอเชื่อว่าคนทั้งกองจะรู้เื่เจิ้งเทียนหู่กลายเป็ ‘เ้าบ่าวของผี’ ภายในครึ่งวัน
เมื่อคนอื่นๆ ผละออกไป เจิ้งหยวนที่ซ่อนอยู่ข้างหลังจึงโผล่ออกมา
สายตาของเจิ้งเฉวียนกังจับจ้องเจิ้งหยวน เขามองบุตรสาวด้วยสีหน้าตึงเครียด ก่อนเอ่ยถาม “เื่นี้เกี่ยวกับแกใช่ไหม?”
เจิ้งเฉวียนกังไม่เชื่อคำพูด “ผีสาวหาเ้าบ่าว’ อะไรพวกนั้นหรอก เขาคิดว่าเจิ้งเทียนหู่ต้องโดนคนทำร้ายแน่! แต่ใครจะทำเขาเล่า เขาสร้างศัตรูกับใครไว้? ทำไมต้องถูกใครก็ไม่รู้เล่นงานด้วย? เจิ้งเฉวียนกังคิดไม่ตกสักนิด กระทั่งได้เห็นลูกสาวตัวเอง ก็สังหรณ์ใจทันทีว่าเจิ้งหยวนอาจรู้เห็น
เขารู้จักลูกสาวตัวเองดี เื่นี้เจิ้งหยวนมีโอกาสทำจริงๆ แต่เจิ้งหยวนจะยอมรับได้อย่างไร เธองัดทักษะการแสดงระดับรางวัลออสการ์ออกมา แสร้งเบิกตากว้างใ “พ่อ พูดอะไรน่ะ? ฉันมีฝีมือขนาดนี้ที่ไหนกัน? อีกอย่างทำไมฉันต้องทำร้ายเจิ้งเทียนหู่ล่ะ? เขาเป็ลูกพี่ลูกน้องฉันนะ แล้วฉันก็ไม่ได้มีความแค้นกับเขาด้วย!” พูดจบ เธอก็ก้มหน้าเล็กน้อย หางตาตกด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ“พ่อคิดแบบนี้กับฉันได้ยังไง สำหรับพ่อ ฉันเป็คนพรรค์นั้นเหรอ?ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย!”
เชิงอรรถ
[1] พลังหยาง หมายถึง พลังแห่งบุรุษเพศ การเคลื่อนไหว ความกระตือรือร้น การเคลื่อนขึ้นไป้า การเจริญเติบโต เจริญรุ่งเรือง และความร้อนแรง พลังหยางมักมีมากในบุรุษ หากหายไปจะทำให้ไตพร่อง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้