เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอมีชีวิตรักที่ดีกว่าเดิม (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ควงเยวี่ยโหลวมองภาพตรงหน้า แล้วลอบยิ้ม ก่อนจะกลับมาทำทีเป็๲นิ่งเฉยเช่นเดิม

        มีเพียงเหอมู่หลิงที่อยู่ท่ามกลางศิษย์ระดับล่างเท่านั้น ที่สังเกตเห็นควงเยวี่ยโหลวมองควงเจียอยู่เงียบๆ พลางเม้มริมฝีปากอย่างไม่ชอบใจ 

        ...

        วันต่อๆ มา

        ควงเยวี่ยโหลวได้ใช้เวลาในแต่ละวัน มาสอนหนีเจียเอ๋อร์อ่านตัวอักษรสำหรับผู้พิการทางสายตาอย่างเข้มงวด โดยให้อ่านอักษรแต่ละตัวซ้ำไปมาแค่สามรอบ หากนางยังจำมิได้ ก็จะถูกลงโทษไม่ให้กินข้าว 

        หญิงสาวถูกสอนให้ใช้การรับรู้กลิ่น มาระบุชนิดของสมุนไพรที่วางปะปนกันหลายชนิด เพื่อให้นางสามารถคัดเลือก และแยกแยะได้ทีละอย่าง หากทำผิดก็ต้องเริ่มต้นใหม่ 

        ควงเยวี่ยโหลว ช่างเข้มงวดกว่าอาจารย์ทุกคนที่นางเคยเจอมาหลายเท่า

        แต่กระนั้น นางก็ยังคงตั้งใจเรียนต่อไปไม่มีบ่น

        เพราะดวงตาของหนีเจียเอ๋อร์มองไม่เห็น ตอนนี้ ควงเหยาจึงเป็๲คนช่วยพานางกลับมาส่งที่เรือน และมารับไปเรียนในตอนเช้า ทั้งยังช่วยฝึกฝนการแยกแยะสมุนไพรด้วยกลิ่นในทุกๆ วัน

        วันนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนีเจียเอ๋อร์ยกมือเคาะประตูห้องของควงเหยา “ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านอยู่หรือไม่? ข้าขอเข้าไปหน่อย” 

        ควงเหยารีบแต่งตัว และเดินไปประคองอีกฝ่าย “ศิษย์น้อง ระวังประตูด้วย!” 

        เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ บนร่างย่อมมีความชื้นและกลิ่นหอมจางๆ ซึ่งยามนี้กลับทวีความหอมมากเป็๞พิเศษ 

        หลังจากพยุงนางนั่งลงแล้ว ควงเหยาถึงเอ่ยถาม “เ๽้ามาหาข้า มีธุระอะไรหรือ?” 

        หนีเจียเอ๋อร์ถาม “ศิษย์พี่ใหญ่ เหตุใดศิษย์พี่รองยังไม่กลับมาอีก วันนั้นท่านบอกข้าว่าเขาจะกลับมาเร็วๆ นี้ มิใช่หรือ?”

        ฟังจากน้ำเสียงของเขาในวันนั้น การเข้าหาศิษย์พี่รองดูเหมือนจะไม่ง่ายเลย นางจึงอยากรู้เพิ่มเติมว่าศิษย์พี่รองเป็๲คนแบบไหน 

        ท่าทางของควงเหยาดูแปลกไป เขาสีปลายจมูกด้วยนิ้วชี้ข้างขวาที่งองุ้ม พลางกล่าว “แท้จริงแล้ว... ก็ไม่มีอะไรหรอก ศิษย์พี่รองเป็๞ศิษย์คนโปรดของท่านอาจารย์ ข้าก็เลย...” 

        คำพูดของเขาให้ความรู้สึกประหลาดพิกล แต่หนีเจียเอ๋อร์มิได้ไถ่ถาม แสร้งทำเป็๲ไม่ได้ยินและพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ต้องวิตก ในยามนั้น ท่านคงคิดว่าหากพูดแบบนี้แล้ว ข้าก็จะหวาดกลัวจนล่าถอยกลับไปสินะ? แต่ไม่ว่าหนทางจะยากลำบากอย่างไร ศิษย์น้องของท่านผู้นี้ ก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว ดังนั้น เลิกขู่ให้ข้ากลัวเถอะ มิฉะนั้น ท่านจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเป็๲แน่!” 

        ควงเหยาเลิกคิ้ว “เหตุใด ข้าต้องเสียใจไปตลอดชีวิตด้วย?” 

        หนีเจียเอ๋อร์ยกยิ้มซุกซน “เพราะหากข้ากลัวจนหนีไป ท่านก็จะไม่มีศิษย์น้องที่น่ารักๆ เช่นข้าอีกแล้วน่ะสิ!” 

        ควงเหยาส่ายศีรษะ แล้วยิ้มขำ ยื่นมือไปเคาะหัวนางเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “ใช่... ถ้าเ๯้าไป ข้าคงจะเบื่อแย่!” 

        หลังหัวเราะกันไปสักพัก ชายหนุ่มก็ยืนกรานที่จะไปส่งหนีเจียเอ๋อร์กลับเรือน พอเข้ามาด้านในแล้ว เขาจึงนึกถึงเ๱ื่๵๹ที่ผ่านมา ด้วยเกรงว่านางจะเข้าใจผิด จนอาจเกิดความคลางแคลงใจในตัวอาจารย์ ดังนั้น ควงเหยาเลยต้องอธิบายอย่างจริงจัง 

        “ศิษย์น้อง อันที่จริงแล้ว เมื่อสามปีก่อนอาจารย์ก็เคยรับลูกศิษย์เช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลบางประการ คนผู้นั้นจึงมิได้อยู่ในสำนักอิ้นเสวี่ยอีกแล้ว และเป็๞เพราะเขา จึงทำให้อาจารย์ตั้งกฎเช่นนี้ขึ้นมา อย่าได้เอ่ยถึงเขาอีก โดยเฉพาะต่อหน้าท่านอาจารย์ เข้าใจหรือไม่?” 

        หนีเจียเอ๋อร์พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าจะจำเอาไว้ เ๱ื่๵๹นี้จะเป็๲ความลับระหว่างท่านกับข้าเท่านั้น” 

        “เช่นนั้น ก็พักผ่อนเถอะ” ควงเหยาหัวเราะ ตบไหล่อีกฝ่าย แล้วหันหลังกลับ 

        “เ๽้าค่ะ ศิษย์พี่ใหญ่” หนีเจียเอ๋อร์กล่าว

        ... 

        เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

        โจวชิงหวาฟื้นขึ้นมาหลายวันแล้ว และ๻ั้๫แ๻่ตื่นลืมตา เขาก็ถามหาหนีเจียเอ๋อร์มาตลอด 

        แต่หญิงสาวอยากให้ร่างกายเขาฟื้นฟูดีกว่านี้ก่อน ค่อยเจอหน้ากัน ดังนั้นนางจึงขอให้ควงเหยาช่วยรั้งโจวชิงหวาอีกแรง 

        เมื่อสองวันก่อน โจวชิงหวาอาจจะเชื่อข้ออ้างของควงเหยา แต่พอผ่านไปเจ็ดวันแล้ว ก็ยังไม่เห็นเงาของหนีเจียเอ๋อร์ จึงนึกสังหรณ์ใจว่าน่าจะมีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้น เมื่อชายหนุ่มพอจะลุกขึ้นได้ด้วยตัวเอง ก็ลอบออกจากห้องน้ำแข็งเงียบๆ 

        มีคนบอกเขาว่า ทุกวันนี้ หนีเจียเอ๋อร์กำลังร่ำเรียนวิชากับควงเยวี่ยโหลว

        โจวชิงหวาจึงอดสงสัยมิได้ ว่าหากนางฝากตัวเป็๞ศิษย์ของคนผู้นี้ได้ ก็นับว่าเป็๞เ๹ื่๪๫ที่น่ายินดี แต่เหตุใดถึงไม่มาบอกเขาด้วยตัวเอง 

        ชายหนุ่มจึงถามถึงที่พักของหนีเจียเอ๋อร์ ด้วยไม่อาจทนต่อความรู้สึกกระสับกระส่ายเช่นนี้ได้ จึงต้องออกไปพบนางด้วยตัวเอง 

        ๻ั้๫แ๻่ตาบอด ประสาท๱ั๣๵ั๱ของหนีเจียเอ๋อร์ก็เฉียบคมและพัฒนาขึ้นมาก พอเปิดประตู นางจึงได้กลิ่นยาสมุนไพรเจือจาง และกลิ่นอำพันทะเลทันที 

        หญิงสาวพิงผนังไม้อย่างระแวดระวัง “ใคร?”

        นางสูดหายใจ เมื่อได้กลิ่นชัดเจนทางด้านซ้าย จึงหันไปหา “ใครอยู่ที่นั่น? ออกมานะ!”

        หนีเจียเอ๋อร์รู้สึกได้ว่ามีคนซ่อนตัวอยู่ในเรือนของตน ในเมื่ออีกฝ่ายยังคงนิ่งเงียบ นางก็ไม่คิดจะผลีผลามลงมือ แต่ตั้งท่าอย่างระแวดระวัง ไม่ต่างจากเม่นพองหนามเวลาเจอศัตรู 

        ซึ่งในมุมมองของโจวชิงหวา สตรีที่อยู่เบื้องหน้า ก็ไม่ต่างจากสัตว์ตัวน้อยที่พยายามกางเขี้ยวเล็บเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักล่าตัวใหญ่ ร่างบางสั่นเทา ดูอ่อนแอ ไม่อาจปกป้องตนเองได้

        โจวชิงหวาค่อยๆ เดินออกมา พลางมองไปยังผ้าพันแผลที่พันรอบตานาง ด้วยดวงตาแดงก่ำ “เสี่ยวเอ๋อร์ ดวงตาเ๽้าเป็๲อะไรไป?” 

        หากตั้งใจฟัง คงจะได้ยินความหวาดหวั่นที่แทรกอยู่ในน้ำเสียงของเขา 

        ทันทีที่ได้ยินเสียงของชายหนุ่ม หนีเจียเอ๋อร์พลันตื่นตะลึง รีบหันซ้ายหันขวาเดินสะเปะสะปะออกมา จนชนเข้ากับบานประตูโดยมิได้ตั้งใจ 

        เสียงอุทานอู้อี้นั้น ทำให้โจวชิงหวาทนไม่ไหว รีบมาจับตัวนางเอาไว้ ก่อนหันร่างเล็กมาทางตน

        หนีเจียเอ๋อร์รับรู้ได้ถึงสายตาของอีกฝ่าย แต่ดวงตานางมองไม่เห็นอีกแล้ว จึงค่อยๆ ยื่นมือออกไปลูบไล้ใบหน้าชายหนุ่มเบาๆ 

        นางจำรูปหน้าของโจวชิงหวาได้ จึงโน้มตัวลงพิงเขาอย่างปลอบโยน “ชิงหวาไม่ต้องห่วง ข้าสบายดี” 

        “อย่าขยับ” โจวชิงหวายกมือเรียวยาวของตัวเองขึ้นมา กดศีรษะของนางแนบอก แล้วค่อยๆ คล้ายปมผ้าที่ผูกไว้ด้านหลังศีรษะของนาง 

        เขาลูบใบหน้าของหญิงสาว ก่อนเลื่อนไปแตะรอยแผลที่ปาดเป็๞ทางยาวผ่านเปลือกตาของนาง พลางมองมันด้วยหัวใจที่ปวดร้าว

        หยาดน้ำตาร่วงหล่น จากหนึ่งหยด สองหยด จนกลายเป็๲สาย รินรดใบหน้านาง แล้วไหลผ่านรอยแผลบนดวงตา 

        ดวงหน้าของหนีเจียเอ๋อร์ถูกเขาประคองเอาไว้... น้ำตาอุ่นร้อนมากมายหยดลงบนใบหน้าของนาง 

        นี่คืออีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้นางไม่อยากเจอโจวชิงหวา ด้วยเกรงว่าหากเขารู้ความจริง คงจะรู้สึกผิดมาก 

        หนีเจียเอ๋อร์เอื้อมมือไปจับมือหนา ที่ยังคงเกาะกุมใบหน้าของตน และพยายามเอ่ยปากปลอบโยน “ชิงหวา ไม่ต้องร้อง เ๯้าคิดดูสิ อย่างน้อยตอนนี้พวกเราโชคดีนัก ที่ก็ยังมีชีวิตอยู่! แถมข้ายังได้ฝากตัวเป็๞ศิษย์ของควงเยวี่ยโหลวอีกด้วย ทั้งเขาและศิษย์พี่ใหญ่ช่วยกันสอนข้า เ๯้ารู้หรือไม่ ศิษย์พี่ใหญ่คือผู้ที่ช่วยเราออกมาจากกองหิมะ เขาชื่อควงเหยา ศิษย์พี่ใหญ่ปฏิบัติต่อข้าดั่งน้องสาว และคอยดูแลข้าเป็๞อย่างดี...”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้